Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคจอประสาทตาลอก (retinal detachment) - Coggle Diagram
โรคจอประสาทตาลอก (retinal detachment)
เกิดจากการหลุดลอกของชั้นจอตาด้านในซึ่งเป็นส่วนของเซลล์รับภาพกับเนื้อเยื่อการรับรู้การมองเห็นชั้นนอกของลูกตา เมื่อน้ำจากภายในลูกตาแทรกเข้าไปมาก ๆ จะทำให้เกิดการแยกหลุดของจอรับภาพ ทำให้การมองเห็นลดลงจนกระทั่งทำให้ตาบอด
พยาธิสภาพ
เกิดจากการหลุดลอกของชั้นจอตาด้านในซึ่งเป็นส่วนของเซลล์รับภาพกับเนื้อเยื่อการรับรู้การมองเห็นชั้นนอกของลูกตา จะพบว่ามีของเหลวที่เป็นโปรตีนขังอยู่ระหว่างชั้น เรียกว่า subretinal fluid เมื่อน้ำจากภายในลูกตาแทรกเข้าไปมาก ๆ จะทำให้เกิดการแยกหลุดของจอรับภาพ ทำให้การมองเห็นลดลงจนกระทั่งทำให้ตาบอด
จอประสาทตาลอก
แบ่งได้เป็น 3 ชนิด ดังนี้
1.จอประสาทตาที่เกิดจากรูหรือรอยฉีกขาด (rhegmatogenous retinal detachment, RRD) จอตาลอกชนิดนี้พบบ่อยที่สุดมีสาเหตุจากมีการเสื่อมของน้ำวุ้นตา (vitreous degeneration) ตามมาด้วยการเกิดการดึงรั้งของน้ำวุ้นตาที่จอตา เกิดเป็นรอยฉีกขาด (retinal break) ทำให้เกิดรอยแยกชั้นระหว่างเซลล์รับภาพกับRPE
2.จอประสาทตาลอกที่เกิดจากการดึงรั้ง(Tractional retinal detachment,TRD) จอตาลอกชนิดนี้พบบ่อยเป็นอันดับสอง
3.จอประสาทตาที่ไม่มีรูขาดที่จอประสาทตา (exudative retinal detachment, ERD) จอตาลอกหลุดลอกที่เกิดจากความผิดปกติของจอตาและคลอรอยด์ ทำให้เกิดการรั่วของสะสมของของเหลวจากเส้นเลือดเข้าไปในช่องว่างของจอประสาทตา (subretinal space)
กรณีศึกษา
ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 47 ปีมาโรงพยาบาลด้วยอาการตาข้างขวามัว แพทย์วินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นโรคจอประสาทตาลอก ชนิดมีรอยฉีกขาดร่วมด้วย ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดโดยวิธีการผ่าตัดหนุนตาขาว
Rhegmatogenous retinal detachment
โรคจอประสาทตาลอก ชนิดมีรอยฉีกขาดร่วมด้วย
เกิดจากการเสื่อมสภาพของจอตาทำให้จอตานั้นๆบางลงและเกิดรูฉีกขาด ทำให้น้ำจากวุ้นตาผ่านรูฉีกขาดเข้าไปใต้ชั้น sensory retina
ประวัติการเจ็บป่วยในปัจจุบัน
1 สัปดาห์ก่อนมาโรงพยาบาล มีอาการเห็นจุดดำคล้ายหยากไย่ลอยไปมา เห็นแสงฟ้าแลบที่ตาข้างขวา นอนพักแล้วอาการดีขึ้น
3 วันก่อนมาโรงพยาบาล มีอาการเห็นภาพสีเทาบังทั่ว ๆ ตาคล้ายมีม่านปิด นอนพักแล้วอาการดีขึ้น
1 วันก่อนมาโรงพยาบาล มีอาการตาข้างขวามัว เพื่อนร่วมงานจึงนำส่งโรงพยาบาล
สาเหตุ
มีการเสื่อมของจอประสาทตาหรือน้ำวุ้นตา
การผ่าตัดเอาเลนส์ออก
การได้รับอุบัติเหตุถูกกระทบกระเทือนของตา
โรคเบาหวาน
Retinopathy of prematurity
อาการและอาการแสดง
เห็นฝุ่นเป็นเส้นลอยไปมาข้างหน้า (Floater) ในขณะที่มอง
เห็นแสงไฟคล้ายฟ้าแลบบริเวณส่วนริมของภาพ (Flashing)
มีเงาดำลักษณะคล้ายม่านมาบดบังการมองเห็นบางส่วนหรือทั้งหมดของภาพ
การรักษา โดยการผ่าตัด
การฉีดยาเข้าวุ้นตา (Intravitreal Injection)
เช่นฉีดยา antibiotic, anti-VEGF
ยาanti-VEGF (anti-vascular endothelial growth factor) มีฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดงอกใหม่หายไป ลดการอักเสบและลดการบวมของจอประสาทตาและจุดรับภาพ
การฉีดก๊าซเข้าวุ้นตา (Pneumatic Retinopexy) เป็นการผ่าตัดที่มีการฉีดก๊าซเข้าวุ้นตาเพื่อรักษาภาวะจอประสาทตาหลุดลอกชนิดมีรู (Rhegmatogenous Retinal Detachment)
เป็นก๊าซที่ขยายตัวได้เข้าไปในน้้าวุ้นตาและจัดตำแหน่งของตาให้ฟองแก๊สลอยขึ้นไปอุดรูขาดเพื่อให้เกิดการซึมกลับของ subretinal fluid และทำให้มีการติดกลับเข้าที่ของจอประสาทตา
การผ่าตัด Vitrectomy with Silicone oil fluid เป็นการผ่าตัดโดยตัดวุ้นตาและฉีด Silicone oil ไปกดทับจอประสาทตาที่หลุดลอกให้ติดกับเข้าที่
การผ่าตัดจอตาโดยใช้วัสดุหนุนตาขาว (Scleral Buckling) เป็นการผ่าตัดซึ่งมีวัตถุประสงค์ท้าให้เกิดการหดตัวของตาเพื่อให้ตามีขนาดเล็กลง คอรอยด์ก็จะถูกดึงเข้าหาจอประสาทตาที่หลุดลอกออกมาและติดกันดังเดิม โดยการผ่าตัดด้วยการวาง buckle (explant) บนตาขาว (sclera) ตรงต้าแหน่งที่มีรูขาด
ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดจอประสาทตา
ความดันลูกตาเพิ่มสูงขึ้น
(Ocular hypertension,Secondary Glaucoma)
การติดเชื้อในลูกตา (Endophthalmitis)
เลือดออกในวุ้นตา (Vitreous hemorrhage)
การวินิจฉัย
การตรวจจอประสาทตา โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือ Ophthalmoscope
การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการถ่ายภาพรังสีปอด
การอัลตราซาวด์ มักจะใช้เมื่อผู้ปุวยมีเลือดไหลในดวงตาเพราะแพทย์มองเห็นจอประสาทตาได้ยาก
ตรวจลักษณะดวงตาภายนอก