Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะสุขภาพของมารดาทารกใน ระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด…
ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะสุขภาพของมารดาทารกใน
ระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอดปกติ
ปัจจัยส่วนบุคคลของมารดา
อายุ
ภาวะสุขภาพในวัยผู้ใหญ่ดีกว่าสตรีตั้งครรภ์ที่เป็นวัยรุ่นเนื่องจากมีวุฒิภาวะมากกว่า ซึ่งวุฒิภาวะเป็นสิ่งที่ช่วยให้บุคคลสามารถปรับตัว และทนต่อการ
เปลี่ยนแปลงในขณะตั้งครรภ์
น้ำหนักตัว และส่วนสูง
น้ำหนักตัวน้อย อาจส่งผลให้ทารกในครรภ์มีน้ำหนักน้อย และเกิดภาวะเจริญเติบโตช้าในครรภ์
น้ำหนักมากเกินไป (มากกว่า 80 กิโลกรัม) มีโอกาสเสี่ยงต่อการคลอดยาก หรือการคลอดติดขัด จากการที่ทารกมีน้ำหนักมากกว่าปกติได้
ส่วนสูงต่ำกว่า 145 เซนติเมตร มีโอกาสเสี่ยงต่อการคลอดติดขัด เนื่องจากขนาดของทารกไม่สัมพันธ์กับเชิงกรานมารดา
ระดับการศึกษา
การศึกษาสูงจะตระหนักถึงปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับปัญหา มีความเข้าใจใน
สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ดี รู้จักใช้ความรู้และทักษะในการแก้ไขปัญหา
รายได้ หรือฐานะทางเศรษฐกิจ
รายได้สูงจะเอื้ออำนวยให้มีพฤติกรรมการปฏิบัติตน เพื่อคงไว้ซึ่งภาวะสุขภาพที่
ดีได้ โดยได้รับอาหารที่เพียงพอ ตลอดจนเข้าถึงบริการได้อย่างเหมาะสม
สถานภาพสมรส
ภาวะสุขภาพสตรีตั้งครรภ์ที่เป็นโสดหม้าย หย่า หรือแยกกันอยู่กับสาม มักขาดคนดูแลและให้กำลังใจ และสตรีตั้งครรภ์ที่มีสามีจะได้รับการช่วยเหลือจากสาม
อาชีพ
ไม่มีข้อห้ามสำหรับสตรีตั้งครรภ์ในเรื่องการทำงาน
งานที่ทำต้องไม่เป็นงานที่ก่อให้เกิดความเหนื่อยล้ามากเกินไป
งานที่ต้องทำต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน หรืองานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีหรือสารพิษ
ลำดับที่ของการตั้งครรภ์
สตรีตั้งครรภ์ที่เคยผ่านประสบการณ์การตั้งครรภ์มาแล้ว
จะสามารถควบคุมอารมณ์และสถานการณ์ได้ดีสามารถดุแลตนเองในระยะตั้งครรภ์ได้ดีขึ้น
ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอด
อาจมีความสนใจค้นคว้าหาความรู้เรื่องการ
ปฏิบัติตนขณะตั้งครรภ์จากหนังสือเอกสาร รายการทีวี และจากผู้ที่มีประสบการณ์การตั้งครรภ์และการ
คลอดมาแล้ว
ภาวะสุขภาพสตรีตั้งครรภ์
สตรีตั้งครรภ์ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ทำให้ทารกแรกเกิดมีความพิการแต่กำเนิด เช่น ภาวะปัญญาอ่อน การเจ็บป่วย และการตาย
จำนวนครั้งของการคลอด
คลอดครั้งแรกจะมีอัตราเสี่ยงอันตราย ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับภาวะรกเกาะต่ำ ตกเลือดหลังคลอด และติดเชื้อหลังคลอดตามมาได้มาก
ระยะห่างของการตั้งครรภ์
ระยะห่างระหว่างการตั้งครรภ์น้อยกว่า 2 ปี จะมีอัตราเสี่ยงสูงเป็น 3 เท่า ของการตั้งครรภ์ห่างกัน 3 ปี เนื่องจากการตั้งครรภ์และคลอดที่ถี่เกินไป
ความเชื่อ ค่านิยม และพฤติกรรมของมารดา
ปัจจัยด้านความเชื่อ ค่านิยม
ความเชื่อในระยะตั้งครรภ์
ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อน จะทำให้ทารกมีผิวพรรณดี
ห้ามนอนหงาย เพราะรกจะติดหลังทำให้คลอดไม่ได้
ห้ามไปงานศพ ส่วนใหญ่เชื่อว่าจะทำให้วิญญาณร้ายติดตามมา
ห้ามรับประทานกล้วยน้ำว้า มีความเชื่อว่าจะทำให้คลอดยาก
ห้ามรับประทานเนื้อวัว เพราะเชื่อว่าจะทำให้ทารกมีไขมันติดตามตัวมาก
ห้ามนั่งขวางบันได เพราะจะทำให้คลอดยาก
ความเชื่อในระยะคลอด
การตัดสายสะดือ
ความเชื่อในระยะหลังคลอด
การอยู่ไฟหลังคลอด
อาหารหลังคลอด
พฤติกรรมของสตรีตั้งครรภ์
การดื่มสุรา
น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ
ปากแหว่ง เพดานโหว่ ดวงตาและกรามมีขนาดเล็กกว่าปกติ
สมองเล็กกว่าปกติ
หัวใจผิดปกติโดยกำเนิด
สติปัญญาทารกต่ำกว่าปกติ
การสูบบุหรี่
การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ช้า
อัตราการแท้งบุตร การคลอดก่อนกำหนด และทารกตายระหว่างคลอดสูงขึ้น
ทารกที่คลอดออกมามีน้ำหนักน้อยกว่าปกติ
ทารกที่คลอดออกมามีภาวการณ์หายใจผิดปกติสูงกว่าธรรมดา เนื่องจากปอดของเด็กแรกคลอดไม่ค่อยขยายออกมาตามปกติ
การใช้ยา
ระยะปฏิสนธิผลต่อทารกในครรภ์ที่พบบ่อย ได้แก่ แท้ง
ระยะฝังตัว (1-2 สัปดาห์แรก) ผลต่อทารกในครรภ์ที่พบบ่อย ได้แก่เซลล์ลดลงทำให้แท้ง
ระยะสร้างอวัยวะต่างๆ ผลต่อทารกในครรภ์ที่พบบ่อย ได้แก่พิการแต่กำเนิด พบโรคมะเร็ง ในภายหลังทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า
เดือนที่ 3 ถึงเดือนที่ 9 ผลต่อทารกในครรภ์ที่พบบ่อย ทารกน้ำหนักตัวน้อย ระบบประสาทผิดปกติ
ยาที่อาจทำให้ทารกในครรภ์พิการ
ฮอร์โมนเพศหญิง เอสโตรเจน (Estrogen)
สารปรอท (Organic mercury)
ยารักษาโรคลมชัก
ยาที่อาจมีพิษหรือผลข้างเคียงต่อทารกในครรภ์
แอสไพริน (Aspirin)
ยาต้านอักเสบ
ยาประเภทซัลฟา (Sulfa)
เมโทรบาเมต (Metrobamate)
ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม
มลพิษ
สารเคมี สารปรอท จะมีฤทธิ์ทำลายพัฒนาการทางสมองของทารกในครรภ์โดยจะผ่านไปยังรก
สภาพครอบครัว
ครอบครัวที่แตกแยก หรือการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ จะส่งผลให้สตรีตั้งครรภ์เกิดความเครียดและส่งผลต่อการพัฒนาด้านอารมณ์ของทารก
ระบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข
สถานบริการสาธารณสุขที่อยู่ใกล้เคียงมีเครื่องมือทันสมัย จะมีผลต่อการดูแลสุขภาพด้านอนามัยแม่และเด็ก
การเมืองการปกครอง
เป้าหมายการลดอัตราการตายของมารดา ทารก เป็นการส่งเสริมการดูแลมารตาและทารกให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์
Teratogen ทำให้เกิดความพิการหรือรูปวิปริตในทารก
วิกฤตการที่ทำให้เกิดความพิการต่อระยะต่าง ๆ
2สัปดาห์แรกหลังจากปฏิสนธิซึ่งอาจพบการแท้งได้อย่างรวดเร็ว
6สัปดาห์ต่อมา ความรุนแรงที่พบจะเกี่ยวกับ
ความผิดปกติในรูปร่างหน้าที่ของอวัยวะนั้น ๆ
8สัปดาห์ต่อมาความรุนแรงจะลดลงกว่า8สัปดาห์แรกมาก เพราะอวัยวะต่าง ๆถูกสร้างสมบูรณ์แล้ว
รังสี
การใช้ยา
สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
สภาพครอบครัวและสังคม
โควิด 19 กับหญิงตั้งครรภ์
ปัจจุบันไม่พบหลักฐานที่มีรายงานทางการแพทย์ว่า สตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 จะมีอาการและอาการแสดงแตกต่างจากคนทั่วไป
ระยะฝากครรภ์
ควรมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมโดยพิจารณาจากช่วงอายุครรภ์ ภาวะเสี่ยงของการตั้งครรภ์ ร่วมกับการสังเกตอาการของคุณแม่
เมื่อมีความจำเป็นต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลควรนัดเวลาล่วงหน้าเพื่อลดการอยู่โรงพยาบาลให้สั้นที่สุด
สตรีตั้งครรภ์ควรป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อได้โดย
หลีกเลี่ยงที่ชุมชน อยู่ห่างกัน 1.5 เมตร
ล้างมือบ่อยๆด้วยแอลกฮอล์เจลหรือสบู่
สวมหน้ากากอนามัย
ถ้าไอ หรือ จามควรใช้ผ้าหรือทิชชูปิดปากและจมูก
ระยะหลังคลอด
หากคุณแม่ไมีมีความผิดปกติใดๆ มักจะนัดตรวจเมือ 6 สัปดาห์หลังคลอด กรณีที่มีโรคแทรกซ้อน แพทย์จะพิจารณานัดตรวจตามความเหมาะสม