Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาระะบบหัวใจและหลอดเลือด - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาระะบบหัวใจและหลอดเลือด
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดไม่เขียว
1.กลุ่มที่มีการไหลลัดของเลือดจากหัวใจซีกซ้ายไปซีกขวา(left to right shunt)
VSD
ASD
PDA
2.กลุ่มที่มีการอุดกั้นการไหลของเลือด
AS
PS
CoA
Ventricular septal Defect(VSD)
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดไม่เขียวที่มีรูรั่วที่บริเวณผนังกั้นระหว่างเวนตริเคิล
อาการและอาการแสดง
มีอาการเหนื่อยง่ายโดยเฉพาะดูดนม มีเหงื่อออกมาก ตัวเล็ฏเลี้ยงไม่โต พัฒนาการล่าช้าติดเชื้อในระบบหายใจบ่อยๆ
Atrial Septal Defect(ASD)
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดไม่เขียวที่มีรูรั่วที่บริเวณผนังกั้นระหว่างเอเตรียม
อาการและอาการแสดง
เด็กที่มีASD ทั้งในเด็ฏเล็กและเด็กโตมักจะไม่มีอาการแสดงหรืออาการที่ผิดปกติ
Patent Ductus Arteriosus(PDA)
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดไม่เขียวที่มีเลือดไปปอดมากซึ่งมีความผิดปกติคือหลอดเลือด ductus arteriosus ยังเปิดอยู่ภายหลังเด็กเกิด
สาเหตุ
1.การเกิดก่อนกำหนด
2.ภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ
3.การติดเชื้อ
อาการและอาการแสดง
PDAขนาดเล็กมักจะไม่มีอาการผิดปกติ PDAขนาดใหญ่มักจะมาด้วยอาการของหัวใจซีกซ้ายวาย
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดไม่เขียวที่มีการอุดกั้นการไหลของเลือด
1.Aortic stenosis(AS)
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดไม่เขียวที่่มีการตีบของลิ้นเอออร์ติก
อาการและอาการแสดง
ในพวกที่มีลิ้นตีบมากอาจจะมีอาการอ่อนเพลียง่ายเวลาเล่น เจ็บหน้าอก
2.Pulmonary Stenosis(PS)
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดไม่เขียวที่มีการตีบของลิ้นพัลโมนารีหรือมีการอุดกั้นของทางออกของเวนตริเคิลขวา
อาการและอาการแสดง
Moderate PS และ severe PSภาวะหัวใจวาย หรือ อาการเขียวเล็กน้อย มีอาการเหนื่อยง่าย หรือเจ็บหน้าอก และเป็นมากขึ้นเวลาออกกำลังกาย บางรายอาจมีอาการเป็นลมหมดสติ
3.Coarctation of the Aorta (CoA)
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดไม่เขียวที่มีการคอดหรือการตีบแคบที่หลอดเลือดเอออร์ตาบริเวณหลอดเลือด Ductus arteriosus มาเชื่อมกับหลอดเลือดเอออร์ต้าไปเลี้ยงร่างกายส่วนบนและลงสู่ส่วนที่ไปเลี้ยงร่างกายส่วนล่างได้ไม่สะดวก จึงพบว่า ความดันโลหิตของแขนสูงกว่าขา
อาการและอาการแสดง
หายใจเร็วและเร็ว
เหนื่อยหอบ
เหงื่อออกมาก
ดูดนมช้า
เลี้ยงไม่โต
ตรวจชีพจรที่ขาทั้ง 2 ข้างเบากว่า
การพยาบาล
การประเมินภาวะสุขภาพ
1.การซักประวัติ
ดูดนมแล้วเหนื่อย ต้องหยุดเป็นช่วงๆ มีหายใจแรง เหงื่อออกมาก กระสับกระส่าย มีอาการเขียวตามปลายมือ ปลายเป้า บางรายมีตัวซีด
ติดเชื้อในระบบหายใจบ่อย
มีประวัติเป็นลม
2.การตรวจร่างกาย
อาการเขียวหรือสีผิวเขียวคล้ำ
หายใจเร็ว
หายใจลำบาก
หัวใจเต้นเร็ว
เหนื่อยง่ายเวลามีกิจกรรม
เหงื่อออกมากผิดปกติ
อาการบวม
อาการเจ็บหน้าอก
ผู้ป่วยมีอาการเป็นลมหมดสติ
3.การประเมินภาวะจิตสังคม
บิดาหรือมารดาเป็นโรคหัวใจที่เป็นเด็กโตมักจะวิตกกังวลเกี่ยวกับความเจ็บป่วย
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
1.เนื้อเยื่อของร่างกายมีโอกาสได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอเนื่องจากมีประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจลดลง
2.ผู้ป่วยมีอาการเป็นลมหมดสติเนื่องจากสมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอจากการที่่มีเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ จากการที่มีเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
3.ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ปอดเนื่องจากมีเลือดไปปอดมาก
4.ผู้ป่วยมีโอกาสติดเชื้อที่เยื่อบุหัวใจเนื่องจากมีความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือดที่ทำให้มีการไหลของเลือด
โรคหัวใจแต่กำนิดชนิดเขียว
1.กลุ่มที่มีอาการเขียวที่มีเลือดไปปอดน้อย อาจมีภาวะสมองขาดออกซิเจนอย่างเฉียบพลัน
TQF
Pulmonic atresia(PA)ลิ้นพัลโมนารี
Tricuspid atresia(TA)ลิ้นไตรคัสปิดตัน
Tetralogy of Fallot(TQF หรือTF)
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดเขียวที่มีเลือดไปปิดน้อยมีความผิดปกติ 4 อย่าง
1.การตีบของลิ้นพัลโมนารี
2.ผนังระหว่างเวนตริเคิลมีรูรั่ว
3.ตำแหน่งของลิ้นเอออร์ต้าติดเลื่อนไปทางด้านขวา
4.มีการหนาตัวของเวนตริเคิลขวา
อาการและอาการแสดง
1.อาการเขียวทั่วร่างกาย
2.ภาวะหัวใจวาย
2.กลุ่มที่มีอาการเขียวที่มีเลือดไปปอดมาก อาการเขียว และมีภาวะหัวใจวาย
Transposition of great arteries
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดเขียวที่มีเลือดไปเลี้ยงปอดมากซึ่งพบได้บ่อยที่สุด
อาการและอาการแสดง
อาการเขียวมาตั้งแต่แรกเกิดภายใน 2-3 วันแรกหลังเกิด
การพยาบาล
1.ซักประวัติ
2.ตรวจร่างกาย
3.การประเมิภาวะจิตสังคม
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง
เกิดขึ้นภายหลังการเกิดขะไม่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของยีน
IE
การติดเชื้อที่เยื่อบุหัวใจเกิดขึ้นจากการติดเชื้อของเยื่อบุหัวใจชั้นในสุด
สาเหตุ
เชื้อที่เป็นสาเหตุได้แก่เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ริคเกทเซียหรือไวรัส
ระบาดวิทยา
1.กลุ่มโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิดทั้งชนิดเขียวและไม่เขียว
2.กลุ่มโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง
3.กลุ่มเด็กหัวใจที่ได้รับการผ่าตัด
4.กลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยง
อาการและอาการแสดง
มีไข้ต่ำๆ
อ่อนเพลีย
เสี่ยงฟู่ของหัวใจ
การตายของสมอง
ม้ามโตกดไม่เจ็บ
ภาวะซีด
การรักษา
ให้ยาปฏิชีวนะขนาดสูงทางหลอดเลือดดำ
ติดตามเจาะเลือดส่งเพาะเชื้อในเลือดเป็นระยะๆ
การป้องกัน
เป็นการให้ยาปฎิชีวนะก่อนและหรือหลังการทำหัตถการที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือดเพิ่มขึ้น
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
มีการติดเชื้อที่เยื่อบุหัวใจเช่นที่ลิ้นหัวใจต่างๆ
อาจเกิดการติดเชื้อที่เยื่อบุหัวใจ
โรคไข้รูมาติก
โรคหัวใจรูมาติกเกิดตามหลังไข้รูมาติคซึ่งมีการติดเชื้อที่ทำให้เกิดการเปลี่นแปลงทางพยาธิสภาพของอวัยวะต่างๆได้
ไข้รูมาติก
หมายถึงโรคที่มีการอักเสบของเนื่อเยื่อเกี่ยวพัน
อาการและอาการแสดง
1.major criteria
2.minor criteria
มีไข้ต่ำๆ
เลือดกำเดาไหล
ปวดท้อง รู้สึกไม่สบาย
การตรวจทางห้องปฏิบีติการ
1.กระเพาะเชื้อจากบริเวณคอ
2.antistreptolysin
การวินิจฉัยโรค
๋Jone'criteria
major criteria
การรักษา
1.การให้ยาปฏิชีวนะ
2.ให้ยาสำหรับต้านการอักเสบของหัวใจและข้อ
3.ให้นอนพัก
4.รักษาด้วยยา digitalis
การพยาบาล
1.การซักประวัติ
2.การตรวจร่างกาย มีไข้
3.การประเมินภาวะจิตสังคม
4.ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะหัวใจวาย
สาเหตุ
1.มีความผิดปกติของหัวใจที่ทำให้หัวใจทำงานมากขึ้น
2.ความผิดปกติของหัวใจทีทำให้หัวใจทำงานากขึ้น
3.คามผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจ
4.จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ
อาการและอาการแสดง
1.อาการของหัวใจซีกซ้ายวาย ปีกจมูกบาน
2.อาการของหัวใจซีกขวา หลอดเลือดดำที่คอโป่งพอง หน้าบวม ตาบวม
การรักษา
1เพิ่มแรงในการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ
2.เพิ่มการขับปัสสาวะออกจากร่างกายมากขึ้น
การพยาบาล
1.การซักประวัติ
การติดเชื้อบ่อย
ออกแรงแล้วเหนื่อย
เหงื่อออกมาก
กระสับกระส่าย
ปัสสาวะน้อย
กลุ่มอาการคาวาซากิ
สาเหตุ
จากเชื้อแบคทีเรีย
ไวรัส
ริกเก็จเซีย
พยาธิสรีรวิทยา
มีการอักเสบของผนังหลอดเลือดแดงโคโรนารี่และหลอดเลือดอดงขนาดกลางอื่นๆ
อาการและอาการแสดง
ไข้ ตาแดง ปากแดง การเปลี่ยนแปลงที่ข้อมือผื่นและต่อมน้ำเหลืองที่โต