Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กโรคหัวใจ - Coggle Diagram
การพยาบาลเด็กโรคหัวใจ
โรคหัวใจเด็กที่เกิดภายหลัง
โรคคาวาซากิ (kawasaki disease)
อาการเเละอาการเเสดง
ฝ่ามือฝ่าเท้าเเดง
ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต
มีอาการอักเสบที่เยื่อบุตา
มีตุ่มที่ลิ้นคลายสตอเบอร์รี่
ไข้: 39-40 Cขึ้นๆลงๆ นานถึง 3 week
การพยาบาล
ประเมินการไหลเวียนเลือดของแขนขา
วัดชีพจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะให้gamma globulin ควรสังเกตดูปฏิกิริยาของการแพ้ถ้าแพ้ให้หยุดทันที
4.ดูปฏิกิริยาข้างเคียงของยา เช่นแอสไพรินจะมีเลือดออก
และกัดกระเพาะอาหาร
ตวงและบันทึกน้ำดื่ม ปัสสาวะ ในรอบ 24 ชม .ดูอาการของหัวใจวาย ปัสสาวะลดลง
ประเมินการทำงานของหัวใจและปอดและหลอดเลือดเกี่ยวกับการมีอาการของหัวใจอักเสบ สังเกตจังหวะการเต้นของหัวใจ การเจ็บหน้าอกEKG เปลี่ยนแปลงไป (ST segment ต่ำาลง) หายใจขัด หายใจลำบาก
6.อาหารไม่เพียงพอทั้งทางปากและหลอดเลือดดำ ป้องกันการขาดน้ำ ระยะเฉียบพลัน ดูแลความอยากอาหาร จัดอาหารให้น่ารับประทาน และ
มีความสะดวกสบายในการรับประทานอาหาร ถ้ามีหัวใจวาย มีบวม อาจให้อาหารลดเค็ม
7.ทำความสะอาดปาก ฟัน ปากเเตกเเห้ง ถ้าในปากมีเยื่อบุอักเสบอาหารต้องเป็นประเภทอ่อน
8.ระวังการติดเชื้อของผิวหนัง ผิวหนังจะเป็นผื่นหรือบวม ควรรักษาความสะอาดไม่อับชื้น ไม่มีสิ่งรบกวนจากเสื้อผ้าทั้งหลาย
9.จัดสภาพเเวดล้อมให้เงียบสงบ ให้พักผ่อนได้เพียงพอ
โรคหัวใจรูมาติค RHD
treatment
ให้ยา penicillin เพื่อป้องกันเป้นไข้รูมาติกซ้ำ
ให้ยาขับปัสสาวะ
การพยาบาล
ดูแลช่องปาก
ดูแลให้ATB
ดูแลให้ได้รับ Penicillin กินให้หมด ป้องกันเป็นซ้ำ
พยาธิ
ติดเชื้อ group A B-hemolytic streptococcus
symptoms
major manifestation: หัวใจอักเสบ ข้ออักเสบ สั่น เลือดออกใต้ผิวหนัง ตุ่มนูนใต้ผิวหนัง
minor manifestations: มีไข้ เจ็บปวดตามข้อต่างๆ
อ่อนเพลีย เสียงหัวใจมีเสียงฟู่
การติดเชื้อที่เยื่อบุหัวใจ IE
พยาธิ
ติดเชื้อ s. aueus staptococusnviridans
symptoms
อาการไม่เฉพาะเจาะจง อาจมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
การพยาบาล
ดูแลให้ได้รับ ABT
ดูแลช่องปาก
นอนหลับพักผ่อน เพื่อลดการทำงานของ
ติดตามผลแลบ: erythocyte sedimentation rate (ESR)
ภาวะหัวใจวาย
อาการเเละอาการเเสดง
1.อาการของหัวใจซีกซ้ายวาย หายใจเร็ว ปีกจมูกบาน หายใจ ลำบาก หน้าอกบุ๋ม และมีการหดตัวของกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจ ฟองหรือมีเลือดปน และฟังได้เสียง crepitation เนื่องจากมี pulmonary congestion
อาการของหัวใจซีกขวาวาย หลอดเลือดดำที่คอโป่งพอง หน้า
บวม ตาบวม ตับโต บางรายอาจมีม้ามโต คลื่นไส้ อาเจียน เบื่อ
อาหาร ปวดท้อง แน่นอึดอัดท้อง แขนขาเย็น บวม
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
ผู้ป่วยมีโอกาสเกิดพัฒนาการล่าช้า
ผู้ป่วยมีโอกาสเกิดภาวะเป็นพิษจากดิจิตาลิส
ผู้ป่วยมีโอกาสเสี่ยงต่อการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เนื่องจากมีอัตราการเผาผลาญพลังงานสูงกว่าปกติ เป็นผลจากการทำหน้าที่ของหัวใจลดลง และการเพิ่มขึ้นของอัตราการเต้นของหัวใจและอัตราการหายใจ
ผู้ป่วยมีโอกาสเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ เนื่องจากมีการคั่งของเลือดในปอด เนื้อที่ของปอดในการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนลดลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานของปอดลดลง และผ่านต่อการติดเชื้อ และการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
ผู้ป่วยมีภาวะน้ำเกิน เนื่องจากมีการคั่งหรือการสะสมของน้ำในร่างกายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้หัวใจต้องทำงานหนักเกินไป
ปริมาณเลือดไปเลี้ยงร่างกายต่อนาทีลดลง เป็นผลจากความผิดปกติ ของหัวใจหรือหลอดเลือด เช่น VSD,ASD,PDA
ชนิดของโรคหัวใจแต่กําเนิด
ไม่มีอาการเขียว
โรคหัวใจที่มีการอุดกั้นของทางออกของเลือด
หลอดเลือด aorta ตีบ (Coarctation of Aorta: CoA)
aortic valve ตีบ
โรคหัวใจชนิดที่พบได้บ่อย
การมีรูรั่วของผนังกั้นระหว่างห้องหัวใจห้องบน (Atrial septal defect หรือ ASD)
รูเปิดใน interatrial septum ทำให้เกิด left-to right shunt และ volume overload แก่ right atrium และ right ventricle
การเปลี่ยนแปลงต่อระบบไหลเวียนโลหิตขึ้นอยู่กับขนาดของ ASD
Moderate-to-large ASD
เกิด shunt ปริมาณมากจนเกิด volume overload
Symptoms and Signs
ส่วน large defect อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการ exercise intolerance, dyspnea during exertion, fatigue, palpitation, atrial arrhythmias
ส่วนใหญ่ small ASD มักไม่ก่ออาการ
Small ostium secundum defect
ส่วน ASD ชนิด sinus venosus และ ostium primum defect มักไม่สามารถปิดเองได้
ขนาด 3-8 mm มีโอกาสปิดเองได้ก่อนอายุ 18 เดือน
ขนาดเล็กกว่า 3 mm. ปิดเองได้
โรคนี้สัมพันธ์กับ Down syndrome
AVSD มีพยาธิสรีรวิทยาเหมือน VSD
การวินิจฉัยแยกโรค
Pulmonary stenosis
Rheumatic mitral insufficiency ในรายที่เป็น Ostium primum defect
Functional murmur
การมีความผิดปกติของเส้นเลือดใหญ่ระหว่างหัวใจและปอด (Patent ductus arteriosus หรือ PDA)
หลักการวินิจฉัย
ไม่เขียว
ฟังได้ Continuous machinery murmur with systolic accentuation บริเวณ pulmonary valve
Bounding pulses
ภาพรังสีทรวงอก มีหัวใจโต เวนตริเคิลซ้ายโต เอออร์ตาและ main pulmonary artery ใหญ่ และมี pulmonary vasculature เพิ่มขึ้น
การวินิจฉัยแยกโรค
ในเด็กเล็กที่มีภาวะหัวใจวาย ต้องแยกจาก
Ventricular septal defect
Endocardial cushion defect
Aortico-pulmonary window
ในเด็กโตที่มีcontinuous murmur ต้องแยกจาก
Rupture of sinus valsalva พวกนี้จะมีอาการมาก และได้ยิน diastolic accentuation
Ventricular septal defect with aortic insufficiency ลักษณะ murmur เป็น to and fro
Coronary arterio-venous fistula จะมีdiastolic accentuation และ ได้ยินที่บริเวณ mid-precordium
อาการและอาการแสดง
Large PDA
ร่วมกับ pulmonary hypertension and high pulmonary blood flow ผู้ป่วยจะมีอาการมากตั้งแต่วัยทารกหรือวัยแรกเกิด
ร่วมกับ pulmonary hypertension และมี high pulmonary vascular resistance จะมี bidirectional shunt ผู้ป่วยจะไม่มีอาการของภาวะหัวใจวายแต่อาจมีเขียวเล็กน้อย
Small PDA ผู้ป่วยมักจะไม่มีอาการ แต่ตรวจพบโดยบังเอิญ ตรวจร่างกายพบหัวใจไม่โตหรือโตเล็กน้อย
Moderate PDA ผู้ป่วยอาจมีอาการเหนื่อยง่ายเล็กน้อย มีการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจ บ่อย ๆ ตรวจพบมีbounding pulse หัวใจซีกซ้ายโต
การรักษา
ในรายที่ไม่มีอาการ ควรทํา elective surgery
PDA ในทารกเกิดก่อนกําหนดที่มีอาการ
ในรายที่มีอาการของภาวะหัวใจวาย ควรเริ่มด้วยการรักษาทางยาไปก่อน ถ้าอาการดีขึ้นก็อาจชะลอการผ่าตัดไปได้จนอายุพอควร
การมีรูรั่วของผนังกั้นระหว่างห้องหัวใจห้องล่าง (Ventricular septal defect หรือ VSD)
อาการและอาการแสดง
Moderate VSD
ติดเชื้อของทางเดินหายใจบ่อย
หัวใจอาจโตเล็กน้อย
ผู้ป่วยอาจมีอาการเหนื่อยง่าย ตัวเล็ก
หัวใจอาจโตเล็กน้อย systolic thrill บริเวณขอบซ้ายของกระดูกอก เสียงที่1 ปกติ S2 อาจดังขึ้นเล็กน้อยได้ยิน
มักจะได้ยิน diastolic murmur ที่บริเวณ apex ของหัวใจ
Large ventricular septal defect
เลี้ยงไม่โต
มีเขียวเล็กน้อยเวลาร้องหรือออกแรงมาก ๆ
เมื่อเด็กอายุได้ประมาณ 1-2 เดือน มักจะมีการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจบ่อย
หัวใจโตและมีอาการแสดงของภาวะหัวใจวาย
เหนื่อยมาก
Small VSD
ตรวจได้systolic thrill ตามขอบซ้ายของกระดูกอก
บางรายอาจได้ยิน short diastolic rumbling ที่บริเวณ Apex ของหัวใจ
หัวใจไม่โต
การวินิจฉัยแยกโรค
ในเด็กโต ต้องแยกจาก
Innocent heart murmur
Mitral insufficiency
Isolate pulmonary stenosis
ในเด็กเล็กต่ำกว่า 1 ปีต้องแยกจาก
Large patent ductus arteriosus
A-V canal defect
Common ventricle without pulmonary stenosis
เกิดภาวะหัวใจซีกซ้ายวายและมีความดันเลือดใน pulmonary artery สูงขึ้น
การรักษา
การรักษาทางศัลยกรรม ในรายที่ผู้ป่วยไม่ดีขึ้นจากการรักษาทางยา
บรรเทาอาการ (Palliative) โดยทําการ pulmonary artery banding ในเด็กเล็ก
แก้ไขความผิดปกติ (Corrective) มักจะทําในรายที่เป็นเด็กโต เช่น น้ําหนักตัวเกิน 10
กิโลกรัม แต่ในบางแห่งอาจทําได้ถึงแม้เด็กจะน้ําหนักตัวน้อย
การรักษาทางยา ในรายที่มีภาวะหัวใจวาย ให้ยารักษาเป็นพวก digitalis และยาขับปัสสาวะถ้าผู้ป่วย
อาการดีขึ้น เช่น หอบน้อยลงและน้ําหนักตัวขึ้น ต้องให้ยาต่อ โดยเฉพาะในขวบปีแรก
การมีรูรั่วของผนังกั้นระหว่างห้องหัวใจห้องบนและล่าง (Atrioventricular septal defect หรือ AVSD)
หลักการวินิจฉัย
ไม่มีอาการใน mild ถึง moderate stenosis
อาการเขียวใน severe stenosis
หัวใจซีกขวาโต ฟังได้systolic ejection murmur ที่บริเวณลิ้นพลุโมนารีย์
เสียงที่สองค่อย อาจได้ยิน wide split และ S2 ค่อย อาจได้ยิน ejection click
การวินิจฉัยแยกโรค
Tetralogy of Fallot
Small ventricular septal defect
Functional murmur
Atrial septal defect
อาการและอาการแสดง
Mild pulmonary stenosis ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแต่จะตรวจพบ ejection systolic murmur ที่บริเวณลิ้นพลุโมนารีย์
Moderate pulmonary stenosis อาจไม่มีอาการหรือเหนื่อยง่ายเล็กน้อยเวลาออกแรงตรวจพบ systolic murmur
Severe pulmonary stenosis ในเด็กเล็กอาจมีอาการของภาวะหัวใจวายทางซีกขวา หรืออาการเขียวเล็กน้อย ในเด็กโตมักมีอาการเหนื่อยง่าย อาจมีเขียว แต่บางรายก็ไม่มีอาการ
กระบวนการพยาบาลเด็กป่วยด้วยโรคหัวใจ
ความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเด็กเอง
ความต้องการเฉพาะบุคคลของเด็ก
โดยพยาบาลแผนกเด็กต้องคํานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
จําแนก
Valvular pulmonary stenosis มีการอุดกั้นบริเวณ pulmonary valve
Infundibular pulmonary stenosis มีการอุดกั้นที่บริเวณ subvalvular area หรือบริเวณ infundibulum พบน้อย
Supra-valvular pulmonary stenosis มีการอุดกั้นบริเวณเหนือกว่า valve พบได้น้อยเช่นเดียวกัน
ชนิดที่มีเลือดไหลลัดจากซีกซ้ายไปขวา (left to right shunt)
ความดันเลือดในหัวใจห้องซ้ายสูงกว่าห้องขวา
ความดันเลือดใน aorta สูงกว่าใน pulmonary artery
กลุ่มที่มีการอุดกั้นการไหลของเลือด
Aortic stenosis (AS)
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดไม่เขียวที่มีการตีบของลิ้นเอออติกหรือมีการอุดกั้นของทางออกของเวนติเคิลซ้าย ทำให้บีบตัวส่งเลือดแดงผ่านลิ้นเอออติกที่ตีบไปเลี้ยงร่างกายไม่สะดวก
อาการและอาการแสดง
ในพวกที่ลิ้นตีบมากอาจมีอาการอ่อนเพลียง่ายเช่น เวลาเจ็บหน้าอก
Pulmonary stenosis (PS)
โรคหัวใจแต่กำเนดไม่เขียวที่มีการตีบของลิ้นพัลโมนารี่หรือมีการอุดกั้นของทางออกเวนติเคิลวาว ทำให้เวนติเคิลขวาบีบตัวส่งเลือดดำผ่านลิ้น พัลโมนารี่ที่ตีบไปปอดไม่สะดวกหรือน้อยลง
อาการและอาการแสดง
มีอาการเขียวเล็กน้อย เหนื่อยง่ายและเจ็บหน้าอก เป็นมากเวลาออกกำลังกายบางรายอาจหมดสติ
Coarctation of aorta (CoA)
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดไม่เขียวมีการคอดหรือตีบแคบที่หลอดเลือดเอออต้าบริเวณหลอดเลือด ductus arteriosus ทำให้เลือดไหลจากหลอดเลือดเอออต้าไปเลี้ยงร่างกายส่วนบนและลงสู่ส่วนที่ไปเลี้ยงร่างกายส่วนล่างไม่สะดวกจึงพบว่าความดันของแขนสูงกว่าขา
อาการและอาการแสดง
หายใจแรงและเร็ว เหนื่อยหอบ เหงื่อออกมาก ดูดนมช้า เลี้ยงไม่โต พบว่าชีพจรที่ขาทั้งสองข้างเบา
การพยาบาล
ประเมินภาวะสุขภาพ
1.ซักประวัติ ดูดนมแล้วเหนื่อยต้องอยู่เป็นช่วงๆมีหายใจแรง เหงื่อออกมาก กระสับกระส่าย มีอาการเขียวตามมือตามเท้า ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ มีประวัติเป็นลม
การตรวจร่างกาย
อาการเขียว หรือสีผิวคล้ำ หายใจเร็ว หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกมากผิดปกติ มีอาการบวม เจ็บหน้าอก เป็นลมหมดสติ
การประเมินภาวะจิตสังคม
บิดามารดาหรือผู้ป่วยโรคหัวใจที่เป็นเด็กโตมักจะวิตกกังวลเรื่องความเจ็บป่วย
มีอาการเขียว
1.กลุ่มที่มีอาการเขียวที่มีเลือดไปปอดน้อยอาจมีภาวะสมองขาดออกซิเจนเฉียบพลัน
TOF
Tetralogy of Fallot มีความผิดปกติ4อย่าง
การตีบของลิ้นพัลโมนารี่
ผนังระหว่างเวนติเคิลมีรูรั่วขนาดใหญ่
ตำแหน่งของลิ้นเอออติกเคลื่อนไปทางด้านขวา
มีการหนาตัวของเวนติเคิลขวา
อาการและอาการแสดง
อาการเขียวทั้งร่างกายมีประวัตินั่งยองๆอาการเหนื่อย อาการเขียวมากขึ้นร่วมกับอาการหอบลึก
ภาวะหัวใจวายมีปริมาณเลือดไหลลัดจากหัวใจซ้ายไปซีกขวาจึงมีเลือดในปอดมากขึ้น
PA
TA
2.กลุ่มที่มีอาการเขียวที่มีเลือดไปปอดมาก อาการเขียว และมีภาวะหัวใจวาย
Transposition of great arteries (TGA)
เป็นโรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดเขียวที่มีเลือดไปปอดมาก ซึ่งพบได้บ่อยที่สุดมีความผิดปกติคือมีการสลับกันของหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ออกจากหัวใจ
อาการและอาการแสดง
มีอาการเขียวตั้งแต่แรกเกิดภายในสองสามวันแรก มีอาการหอบเหนื่อยมีอาการของหัวใจวาย
การพยาบาล
การประเมินภาวะสุขภาพ
1.ซักประวัติ มีอาการเขียวเป็นพักๆ และหายใจหอบลึก หายใจหอบเหนื่อย จะเป็นลม ชอบนั่งยองๆและมีอาการปวดศีรษะ
การตรวจร่างกาย มีอาการเขียวคล้ำทั่วร่างกาย นิ้วมือนิ้วเท้าปุ้ม ตาขาวแดง ท่านั่งยองๆและมีฝีในสมอง
ประเมินความกังวลของผู้ป่วยและบิดามารดาเกี่ยวกับการเกิดภาวะสมองขาดออกซิเจนร่วมกับอาการเขียวของตัวเด็ก