Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่1 ผู้ป่วยชาย อายุ 45 ปี - Coggle Diagram
กรณีศึกษาที่1
ผู้ป่วยชาย อายุ 45 ปี
การวินิจฉัยโรค
I
schemic heart disease
โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
พยาธิสภาพของโรค
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด คือ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดชนิดเฉียบพลันเรื้อรัง โดยมีสาเหตุ มาจากหลอดเลือดแดงแข็ง ซึ่งเป็นพยาธิสภาพที่เกิดขึ้นกับผนังชั้น ในสุดของหลอดเลือดแดงขนาดใหญ่ และขนาดกลางเป็นผลใหจ้า กดัการไหลเวียนเลือดไปยังกล้ามเนื้อหัวใจเกิดการอุดตัน หรือการไหลเวียนลดลง อย่างรุนแรงในหลอดเลือดแดงโคโรนารี(coronary artery)จนเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจส่วนนั้นได้รับความเสียหาย จากการขาดออกซิเจนถึงขนาดไม่สามารถกลับคืนสู่สภาวะเดิมได้และอาจนา ไปสู่ภาวะแทรกซอ้นต่าง ๆ หรือการเสียชีวิตของผู้ป่วย
วิธีวินิจฉัยโรค
การตรวจเลือด
เป็นวิธีการตรวจวินิจฉัยที่ช่วยระบุโรคหัวใจขาดเลือดได้เพราะเมื่อเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดก็จะทาให้มีโปรตีนสิ่งแปลกปลอมจากเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจที่ตายรั่วไหลลงไปในกระแสเลือดมากกว่าปกติมีโปรตีนเจือปนในเลือดมากเท่าใดก็บอกว่าเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
การตรวจหาคาร์ดิแอคโทรโปนิน
Cardiac Troponin) เป็นการตรวจหาโปรตีนในเซลล์ที่ช่วยระบุภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเนื่องจากหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
(Electrocardiogram: ECG) เป็นการตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันที่สาคัญที่สุดในการตรวจจะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีโดยแพทย์จะติดแผ่นประจุไฟฟ้าไว้ที่แขนขาและหน้าอกจากนั้นจะวัดคลื่นไฟฟ้าอัตราและจังหวะการเต้นของหัวใจว่ามีความผิดปกติหรือไม่ซึ่งวิธีการตรวจนี้จะช่วยยืนยันการวินิจฉัยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันและระบุประเภทของโรคนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อแพทย์จะได้ทำการรักษาต่อไป
การตรวจหาครีเอดินไคเนส-เอ็มบี
(CK-MB) การตรวจหาเอ็นไซม์ในเลือดซึ่งจะรั่วลงมาในเลือดเมื่อเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย
การใส่สายสวนหลอดเลือดหัวใจ
(Coronary Angiography)
เป็นการตรวจดูความผิดปกตของหัวใจขาดเลือดด้วยการฉีดสารทึบสีเข้าไปในหลอดเลือดหัวใจจากนั้นแพทย์จะทาการเอกซเรย์เพื่อดูว่ามีส่วนใดของหลอดเลือดอุดตันหรือตีบหรือไม่หากพบความผิดปกติแพทย์จะรักษาด้วยสอดสายสวนเพื่อเปิดทางให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกมากขึ้น
การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง
(Echocardiogram) การตรวจหาความิดปกติของหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนโดยแพทย์จะใช้อุปกรณ์ส่งคลื่นเสียงเข้าไปกระทบหัวใจออกมาเป็นภาพให้เห็นซึ่งจะช่วยให้แพทย์เห็นความเสียหายของหัวใจที่เกิดจากการขาดเลือดได้
ข้อมูลผู้ป่วย
โรคประจำตัว
ไขมันในเลือดสูง เป็นมา2ปี
ผลการตรวจ EKG
V1V2V3V4 ST Elevation
V6 ST Depression
อาการสำคัญ
เจ็บหน้าอก ร้าวไปที่แขนซ้าย 30 นาที ก่อนมาโรงพยาบาล
ผลการตรวจจากห้องปฎิบัติการ
Cardiac Enzyme ผิดปกติ
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงและแก้ไขได้
อายุ
พบผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดในวัยกลางคนขึ้นไปถึงวัยสูงอายุเพศชาย อายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไปและเพศหญิงอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป
พันธุกรรม
ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเดียวกันป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดร่วมด้วยโดยเฉพาะคนในครอบครัวที่เริ่มมีอาการตั้งแต่วัยกลางคนขึ้นไปจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้มากกว่าผู้ที่ไม่มีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคนี
เพศ
พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
ปัจจัยเสี่ยงที่สามารถเปลี่ยนแปลงและแก้ไขได้
โรคประจำตัวต่างๆ
ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง น้ำหนักเกินเกณฑ์ เบาหวาน เป็นต้น
พฤติกรรมเสี่ยง
การสูบบุหรี่ ไม่ออกกำลังกาย กินอาการที่มีไขมันสูง
ดื่มเหล้าเป็นประจำ
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อภาวะเจ็บแน่นหน้าอกเนื่องจากปริมาณเลือดไปเลี้ยง
กล้ามเนื้อหัวใจลดลง
เสี่ยงต่อภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเนื่องจากกล้ามหัวใจขาดเลือด
มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน เนื่องจากได้รับยา
ละลายลิ่มเลือด
เสี่ยงต่อภาวะพร่องออกซิเจนเนื่องจากออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ
การรักษา
การรักษาด้วยยาสลายลิ่มเลือด เพื่อละลายเลือดที่แข็งตัวและอุดตันอยู่ที่เส้นเลือดแดงหัวใจ
การขยายหลอดเลือดหัวใจ (วิธีบอลลูน) เป็นวิธีที่นิยมมากและได้ผลการรักษาที่ดีกว่าการใช้ยาสลายลิ่มเลือด
การผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ (วิธีบายพาส) เพื่อให้เลือดมีทางไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ส่วนมากแล้วการรักษาด้วยวิธีนี้ในกรณีที่คนไข้มีหลอดเลือดหัวใจตีบตันหลายเส้น
แนวทางการป้องกัน/การลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
ไม่ม่สูบบุหรี่
ควบคุมความดันโลหิต และเบาหวานให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
หลีกเลี่ยงอาหารหวาน และเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ
ทานอาหารที่มีส่วนช่วยบำรุงหัวใจ เช่น ปลาทะเล ผักใบเขียว และผลไม้ อัลมอลด์ ถั่วชนิดต่างๆ ธัญพืชไม่ขัดสี อะโวคาโด น้ำมันมะกอก เป็นต้น
ควบคุมน้ำหนัก ให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอเหมาะ
ออกกำลังกายแบบแอโรบิคอย่างสม่ำเสมอ
ฝึกสมาธิ ทำให้จิตใจให้ผ่องใส
หมั่นตรวจเช็คสุขภาพของตนเองเป็นประจำ ด้วยการตรวจสุขภาพประจำปี
อ้างอิง
พรศิริ พันธสี. 2562. กระบวนการพยาบาล&แบบแผนสุขภาพ : การประยุกต์ใช้ทางเทคนิค. พิมพ์ครั้งที่ 23. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิมพ์อักษร.
นพ.ธีระศักดิ์ ศรีเฉลิม.2562.สืบค้นวันที่ 29เมษยายน 2564,จาก
https://www.sikarin.com/content/detail/A9%E0%B8%B2