Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
อนามัยโรงเรียน - Coggle Diagram
อนามัยโรงเรียน
2.การวินิจฉัยการพยาบาล
Nursing Diagnosis
(แนวคิดและหลักการพยาบาลชุมชน 215-227)
หลักการระบุหรือเขียนปัญหาสุขภาพ
มีความชัดเจน
มีการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ
มีการนำใช้ข้อมูลประเมินภาวะสุขภาพ
ข้อควรระวังในการวินิจฉัยปัญหาสุขภาพ
ความสับสนระหว่างปัญหาอาการของความเจ็บป่วย และสาเหตุของปัญหา
การระบุขอบเขตและขนาดของปัญหาต้องชัดเจน
การให้เหตุผลของการกำหนดปัญหาสามารถให้เหตุผลได้ว่าปัญหานั้นเกิดขึ้นนได้อย่างไร
ความสัมพันธ์ของปัญหาที่กำหนดกับปัญหาอื่น โดยต้องพิจารณาว่าปัญหานี้เป็นปัญหาย่อยของปัญหาอื่นหรือไม่
ปัญหาสุขภาพที่พบ
ปัญหาเกี่ยวเหา
จากผลการตรวจสุขภาพทั้งหมด 36 คน พบว่าผมและศีรษะพบไข่เหา 9 คน คิดเป็นร้อยละ 25
ไม่คัดแยกประเภทขยะก่อนทิ้ง
มีถังขยะสำหรับขยะแต่ละประเภทแต่ไม่มีการคัดแยกประเภทขยะมีที่พักรวมขยะแต่ไม่มิดชิดอาจเป็นที่สะสมของสัตว์และแมลง ตามมาด้วยเชื้อโรค
ห้องน้ำไม่เพียงพอต่อนักเรียน
จากการสำรวจพบว่า ห้องน้ำบนอาคารเรียน มี 2 จุด คือบริเวณชั้น2 และชั้น3 ซึ่งมีชั้นละ 5ห้อง ซึ่งไม่เพียงพอต่อจำนวนของนักเรียนในโรงเรียน
ภาวะโภชนาการเกิน
จากน้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูงเกินเกณฑ์ พบว่า
ท้วม 2 คน คิดเป็นร้อยละ 5.56
เริ่มอ้วน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 8.33
อ้วน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 8.33
ปัญหาสุขภาพช่องปาก
จากการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันพบว่ามีคราบเหลืองและหินปูน ฟันผุ ฟันโยก รวม 15 คน คิดเป็นร้อยละ 41.66
ปัญหาเกี่ยวกับสายตา
การมองเห็นที่ผิดปกติ พบ 22 คน คิดเป็นร้อยละ 62.86
การวิเคราะห์ปัญหาสาธารณสุข
ลักษณะของปัญหา แบ่งตามกลุ่มบุคคล เช่น อายุ เพศ ลักษณะครอบครัว
พิจารณาตามสาเหตุของการเกิดปัญหาสาธารณสุข โดยใช้วิธีการทางระบาด
สาเหตุที่มาจาก Host
สาเหตุที่มาจาก Agent
สาเหตุที่มาจาก Environment
พิจารณาว่าผลของปัญหามีผลต่อ บุคคล สิ่งก่อโรค และสิ่งแวดล้อมอย่างไร
5.การประเมินผลการพยาบาล
Nursing Evaluation
(แนวคิดและหลักการพยาบาลชุมชน 273-283)
การประเมินผลก่อนเริ่มโครงการ
การประเมินความต้องการ การประเมินก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมหรือโครงการ เพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจว่ากิจกรรมนั้นมีความเหมาะสมหรือไม่
การประเมินความเป็นไปได้ ความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุประสงค์ของโครงการกับกลวิธีหรือกิจกรรม และทรัพยากรหรือปัจจัยนำเข้าอื่นๆ มีความเหมาะสมหรือสดคล้องกันหรือไม่
การประเมินผลระหว่างดำเนินโครงการ
การประเมินผลระหว่างดำเนินกิจกรรม เป็นการประเมินผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์เมื่อดำเนินโครงการไปแล้วระยะหนึ่ง
กาารประเมินความก้าวหน้าของโครงการ ประเมินในแง่ของกิจกรรมที่ทำในแต่ละช่วงาวลา
การประเมินผลกระบวนการ ประเมินความสารถในการตอบสนองความคาดหวังของผู้ที่เกี่ยวข้องของการดำเนินการ
การประเมินเมื่อสิ้นสุดโครงการ
การประเมินผลผลิต ประเมินหลังดำเนินกิจกรรมเสร็จว่าผลผลิตเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่
การประเมินประสิทธิผล เป็นการประเมินระหว่างผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงกับเป้าหมายตามวัตถุประสงค์
การประเมินประสิทธิภาพ เป็นการเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังดำเนินโครงการกับทรัพยากรที่นำไปใช้ในแง่ของความคุ้มค่า
การประเมินผลกระทบ เป็นการประเมินผลที่เกิดขึ้นจากโครงการทั้งผลดี และผลเสีย ว่ากระทบต่อสิ่งใดบ้างทั้งระยะสั้นและระยะยาว
3. การวางแผนการพยาบาล
Nursing Planning
ระดับการวางแผน
การวางแผนกลยุทธ์ (Strategic planning) เป็นการวางแผนให้ครอบคลุมกิจกรรมทั้งหมดขององค์กรหรือแผนงานใหญ่ระบุไว้แนวทางกว้าง ๆ ซึ่งมักจะเป็นแผนระยะยาวสอดคล้องกับแผนระดับนโยบายระดับของวัตถุประสงค์คือวัตถุประสงค์ (objective) ซึ่งกำหนดเฉพาะเจาะจงถึงประชากรและความมุ่งหมายให้ปัญหาลดลงหรือมีความต้องการใดเพิ่มขึ้นโดยต้องวัดได้และกำหนดระยะเวลามีเหตุผลสอดคล้องกับความเป็นจริงเช่นวัตถุประสงค์ในการพัฒนาคุณภาพประชากรของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 คือระดับพัฒนาการเด็กไทยที่สมวัยไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 ภายในปี 2564
แผนปฏิบัติการหรือแผนดำเนินงาน (operational plan) เป็นการวางแผนที่กำหนดจุดมุ่งหมายระยะสั้นส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีสอดคล้องและสนับสนุนแผนกลยุทธ์องค์ประกอบของแผนปฏิบัติการประกอบด้วยวัตถุประสงค์เป้าหมายกิจกรรมขั้นตอนการปฏิบัติงบประมาณผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานระดับของวัตถุประสงค์ คือ เป้าหมาย / วัตถุประสงค์เฉพาะ ต้องระบุกลุ่มประชากร กิจกรรมที่มุ่งหมาย โดยต้องวัดได้และกำหนดระยะเวลาชัดเจน โครงสร้างพื้นฐานทั่วไปจะประกอบด้วยแผน (plan) แผนงาน (program) โครงการ (project)
แผนงาน (Program)
เป็นส่วนประกอบสำคัญของแผน ซึ่งแผนงานคือ กลุ่มของโครงการตั้งแต่สองโครงการขึ้นไป มีการดำเนินการที่สอดคล้องกัน เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายเดียวกัน
แผน (Plan)
เป็นแผนรวมขององค์กรหรือหน่วยงานนั้น เช่น แผนการศึกษาแห่งชาติ แผนของกระทรวง แผนของกรม เแผนของกอง เป็นต้น รายละเอียดที่สำคัญของแผน คือ วัตถุประสงค์ นโยบาย เป้าหมาย ยุทธศาสตร์ มาตรการ
โครงการ (Project)
หมายถึง แผนที่มีขนาดเล็ก โดยมีกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน มีการดำเนินงานในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งโครงการจะมีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนด
กิจกรรม (Activity)
หมายถีง การกระทำที่บุคลากรปฏิบัติเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง หรือหลายวัตถุประสงค์ เช่น การอบรมให้ความรู้ การเยี่ยมบ้าน การให้คำปรึกษา เป็นต้น
การวางแผนระดับนโยบาย (policy planning) เป็นแผนระดับสูงสุดขององค์กรซึ่งจะระบุแนวทางกว้าง ๆ นำไปสู่การวางแผนระดับอื่น ๆ มันเป็นแผนระยะยาว (long-range plan) เช่นแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ระดับของวัตถุประสงค์คือเป้าหมาย (goal) มีความหมายกว้าง ๆ ระบุประชากรและสิ่งที่ต้องการให้บรรลุเป้าหมายที่ดีต้องมีลักษณะท้าทายสร้างแรงจูงใจในการทำงานของผู้ปฏิบัติงานมีความเป็นไปได้มุ่งเน้นที่ผลลัพธ์เช่นเป้าประสงค์ในการพัฒนาคุณภาพประชากรของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 คือคนไทยทุกช่วงวัยมีสุขภาพดีแข็งแรง
ความสำคัญ
เป็นการพิจารณาทางเลือกที่ดีและเหมาะสมที่สุด ช่วยให้สามารถดำเนินโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ใช้เป็นเครื่องมือกำหนดทิศทางในการบริหารงาน การควบคุมและประเมินผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำให้เห็นทิศทางการดำเนินงานที่มีความชัดเจน
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานและลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในการดำเนินงาน
ช่วยให้เกิดความร่วมมือและรับผิดชอบงานตามศักยภาพแต่ละบุคคล
การวางแผนที่ถูกต้องสมบูรณ์จะช่วยให้การบริหารงานเป็นระบบ เกิดประสิทธิภาพตามเป้าหมาย
ทำให้หน่วยงานใช้เป็นวิธีในการทำงานร่วมกันของบุคลากรในหน่วยงาน
ประเภทของแผนงาน
จำแนกตามระยะเวลา
1.แผนระยะยาว เป็นแผนที่กำหนดระยะเวลาในการดำเนินงานมากกว่า 5 ปี
แผนระยะกลาง เป็นแผนที่มีระยะเวลาดำเนินการระหว่าง 3-5 ปี
3.แผนระยะสั้น เป็นแผนที่มีระยะเวลากำหนดไว้ประมาณไม่เกิน 2 ปี
จำแนกตามระดับพื้นที่ ที่จะนำแผนไปดำเนินงาน
1.แผนระดับชาติ อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้น
2.แผนระดับภาค อยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์พัฒนาภาค
3.แผนระดับจังหวัด เป็นแผนพัฒนาของแต่ละจังหวัด อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการพัฒนาจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
4.แผนระดับอำเภอ เป็นแผนพัฒนาระดับอำเภอของแต่ละจังหวัดอยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการพัฒนาอำเภอ มีนายอำเภอเป็นประธาน
4.แผนระดับตำบล เป็นแผนพัฒนาระดับตำบล อยู่ในความรับผิดชอบของกรรมการสภาตำบล มีกำนันเป็นประธาน
จำแนกตามสายงานบริหารราชการ
1.แผนระดับชาติ
2.แผนระดับกระทรวง
3.แผนระดับกรม หรือสำนักงาน
4.แผนระดับกองหรือระดับฝ่าย
จำแนกตามหลักเศรษฐศาสตร์
1.แผนมหภาค เป็นแผนชาติและแผนสาขาต่างๆ เป็นแผนระดับโดยส่วนรวมที่ครอบคลุมระบบนั้นๆ ทั้งระบบ
2.แผนจุลภาค เป็นแผนเฉพาะเรื่องหรือเฉพาะสถาบัน
จำแนกตามการใช้ประโยชน์
1.แผนระดับนโยบาย
2.แผนปฏิบัติการ
1. การประเมินอนามัยโรงเรียน
Health Assessment
การประเมินภาวะสุขภาพ
การประเมินน้ำหนักตามเกณฑ์อายุ
น้ำหนักของเด็กเหมาะสมกับอายุหรือไม่
การประเมินการตรวจร่างกาย
การตรวจวัดสายตา
ใช้ E Chart ในการประเมิน
การตรวจสุขภาพช่องปาก
ใช้ไฟฉายเพื่อตวจหาว่ามีฟันผุหรือไม่
การทดสอบการได้ยิน
การใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ถูกันให้ห่างจากหูนักเรียน 1 นิ้ว
ให้นักเรียนยืนหันหลังให้ผู้ตรวจห่าง 5 ฟุต ผู้ตรวจเรียกชื่อหรือพูดให้ตามคำสั่งด้วยเสียงปกติ ถ้านักเรียนขานตอบแสดงว่าการได้ยินปกติ
การประเมินน้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูง
น้ำหนักเหมาะสมกับส่วนสูงหรือไม่สามารถแปลผลภาวะการเจริญเติบโตได้โดยไม่ต้องทราบอายุเด็ก
การประเมินส่วนสูงตามเกณฑ์อายุ
ภาวะโภชนาการระยะยาวที่ผ่านมาว่า ส่วนสูงเหมาะสมกับอายุหรือไม่
ประเมินการตรวจร่างกายทั่วไป
ใช้การตรวจร่างกาย ทั้ง 10 ท่า
2.การประเมินสภาพสิ่งแวดล้อม
สนามและบริเวณ
บริเวณโดยรอบโรงเรียนสะอาดและปลอดภัย
มีขอบเขตบริเวณรอบโรงเรียน เช่น รั่ว แนวต้นไม้ ฯลฯ โดยรั้วมีความมั่นคงปลอดภัย
มีการจัดระเบียบจราจรทางเข้า - ออกจุดจอดรถเป็นสัดส่วนและปลอดภัยพร้อมป้ายสัญลักษณ์การจราจร
สนามกีฬาสนามเด็กเล่น เครื่องเล่นในสนามจัดเป็นสัดส่วนมั่นคงปลอดภัยและมีระบบการตรวจสอบให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
มีบริเวณสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ เป็นระเบียบสวยงามและไม่อยู่ในจุดที่ลับตา
อาคารเรียน
อาคารเรียน พื้น ผนัง เพดาน และบันได สะอาด แข็งแรง และมีความปลอดภัย โดยมีการจัดระเบียบการขึ้นลง พร้อมมีป้ายสัญลักษณ์
จัดวางสิ่งของเป็นระเบียบ เหมาะสมปลอดภัยและสวยงาม
ห้องเรียน/ห้องสมุด
สภาพห้องมีความสะอาดเป็นระเบียบ
มีการระบายอากาศดีและมีแสงสว่างเพียงพอ
ขนาดของวัสดุ อุปกรณ์ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ มีขนาดเหมาะสมกับ นักเรียน เพียงพอและสภาพดี
ห้องพยาบาล
ห้องพยาบาลอยู่ชั้นล่างในอาคาร จัดเป็นสัดส่วน ไม่อยู่ในที่ลับตา อุปกรณ์ของใช้สะอาด สภาพดี
มียาเวชภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ ที่จำเป็น จัดเก็บเป็น ระเบียบ มีป้ายบอกชื่อยาชัดเจนและยาไม่หมดอายุ
ในห้องหรือบริเวณใกล้เคียงมีที่ล้างมือและทำความสะอาด เครื่องมือ/อุปกรณ์
สำหรับโรงเรียนสหศึกษา มีเตียงพักแยกสำหรับชาย-หญิง และมีที่กั้นชัดเจน
มีน้ำดื่ม / น้ำใช้มีคุณภาพและความเพียงพอ-มีน้ำดื่มสะอาด ปลอดภัยและมีปริมาณเพียงพอน้ำใช้สะอาดและมีปริมาณเพียงพอ
น้ำดื่ม/น้ำใช้
ที่เก็บน้ำดื่มสะอาดมีฝาปิดมีก๊อกสำหรับเปิดหากเป็นตู้กดน้ำ เย็นต้องมีการต่อสายดินป้องกันไฟฟ้าดูด
มีภาชนะดื่มน้ำประจำตัวไม่ใช้ร่วมกันหรือเป็นน้ำดื่มแบบน้ำพุ
ห้องส้วม
พื้น ผนัง เพดาน โถส้วมที่กดโถส้วมโถปัสสาวะที่กดโถปัสสาวะ สะอาดไม่มีคราบสกปรกอยู่ในสภาพดีใช้งานได้
น้ำใช้สะอาดเพียงพอและไม่มีลูกน้ำยุงในภาชนะเก็บกักน้ำขัน ตักน้ำสะอาดอยู่ในสภาพดีใช้งานได้
กระดาษชำระเพียงพอต่อการใช้งานตลอดเวลาที่เปิดให้บริการ (อาจจำหน่ายหรือบริการฟรี) หรือสายฉีดชำระที่สะอาดอยู่ใน สภาพดีใช้งานได้
อ่างล้างมือก๊อกน้ำกระจกสะอาดไม่มีคราบสกปรกอยู่ในสภาพ ดีใช้งานได้
สบู่ล้างมือพร้อมให้ใช้ตลอดเวลาที่เปิดให้บริการ
ถังรองรับมูลฝอยสะอาดมีฝาปิดอยู่ในสภาพดีไม่รั่วซึมตั้งอยู่ใน บริเวณอ่างล้างมือหรือบริเวณใกล้เคียง
มีการระบายอากาศดีและไม่มีกลิ่นเหม็น
สภาพท่อระบายสิ่งปฏิกูลและถังเก็บกักไม่รั่วแตกหรือชำรุด
จัดให้มีการทำความสะอาดและระบบการควบคุมตรวจตรา เป็นประจำ
จัดให้มีส้วมนั่งราบสำหรับผู้พิการผู้สูงวัยหญิงตั้งครรภ์และ ประชาชนทั่วไปอย่างน้อย 1 ที่
ส้วมสาธารณะพร้อมใช้งานตลอดเวลาที่เปิดให้บริการ
12.บริเวณที่ตั้งส้วมต้องไม่อยู่ที่ลับตา/เปลี่ยว
ที่แปรงฟัน
จัดให้มีที่แปรงฟัน ก๊อกน้ำ และกระจกสะอาด เพียงพอ เหมาะสมกับวัยและอยู่ในสภาพดี ใช้งานได้
-ก๊อกน้ำ 1 ก๊อก/เด็ก 5/รอบ
การป้องกันและรักษาความปลอดภัย
มีการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยและตรวจสอบให้อยู่ใน สภาพพร้อมใช้งาน
มีระบบป้องกัน/อุปกรณ์ช่วยในการดับไฟให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
มีการให้ความรู้ในเรื่องการดับเพลิงเบื้องต้นและฝึกซ้อมหนีไฟ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
มีการจัดการแหล่งน้ำที่มีความเสี่ยง/จุดเสี่ยง เช่น ล้อมรั้ว ติด ป้ายเตือน ฯลฯ
จัดให้มีอุปกรณ์สำหรับช่วยคนตกน้ำ เช่น ไม้ เชือก ถังแกลลอน พลาสติกเปล่า
โรงอาหาร
ก. สถานที่รับประทานอาหาร และบริเวณทั่วไป
สะอาด เป็นระเบียบ
โต๊ะ เก้าอี้ สะอาด แข็งแรง จัดเป็นระเบียบ
มีการระบายอากาศที่ดี
ข. บริเวณที่เตรียมปรุงอาหาร
สะอาด เป็นระเบียบ พื้นทำด้วยวัสดุถาวร แข็ง เรียบสภาพดี
มีการระบายอากาศรวมทั้งกลิ่น และควันจากการทำอาหารได้ดี เช่น มีปล่องระบายควัน หรือพัดลมดูดอากาศที่ใช้การได้ดี
ไม่เตรียมและปรุงอาหารบนพื้น
โต๊ะเตรียม–ปรุงอาหารและผนังบริเวณเตาไฟ ต้องทำด้วยวัสดุที่ทำ ความสะอาดง่าย (เช่น สเตนเลส กระเบื้อง) มีสภาพดี และพื้นโต๊ะต้อง สูงจากพื้นอย่างน้อย 60 ซม.
ง. ภาชนะอุปกรณ์
ภาชนะ เช่น จาน ชาม ช้อน ส้อม ฯลฯ ต้องทำด้วยวัสดุที่ไม่เป็นอันตราย เช่น สเตนเลส กระเบื้องเคลือบขาวแก้ว อลูมิเนียม เมลามีน สีขาวหรือสีอ่อน ตะเกียบต้องเป็นไม้ ไม่ตกแต่งสีหรือพลาสติกสีขาว
ภาชนะใส่นํ้าส้มสายชู นํ้าปลา และนํ้าจิ้ม ต้องทำด้วยแก้ว กระเบื้องเคลือบขาว มีฝาปิดและช้อนตัก ทำด้วยกระเบื้องเคลือบขาว หรือสเตนเลส สำหรับเครื่องปรุงรสอื่นๆ ต้องใส่ในภาชนะที่ทำความสะอาดง่าย มีฝาปิด และสะอาด
ล้างภาชนะอุปกรณ์ด้วยวิธีการอย่างน้อย 2 ขั้น ตอน โดย ขั้นตอนที่ 1 ล้างด้วยนํ้ายาล้างภาชนะ และขั้นตอนที่ 2 ล้างด้วยนํ้า สะอาด 2 ครั้ง หรือล้างด้วย นํ้าไหลและอุปกรณ์การล้างต้องสูงจากพื้นอย่างน้อย 60 ซม.
ใช้อ่างล้างภาชนะอุปกรณ์ที่มีท่อระบายนํ้าที่ใช้การได้ดีอย่างน้อย 2 อ่าง
จาน ชาม ถ้วย แก้วนํ้า ถาดหลุม ฯลฯ เก็บควํ่าในภาชนะโปร่ง สะอาดหรือตะแกรงวางสูงจากพื้นอย่างน้อย 60 ซม. หรือ เก็บในภาชนะหรือสถานที่ที่สะอาดมีการปกปิด
ช้อน ส้อม ตะเกียบ วางตั้งเอาด้ามขึ้นในภาชนะโปร่งสะอาดหรือ วางเป็นระเบียบในภาชนะที่สะอาดและมีการปกปิด ตั้งสูงจากพื้นอย่างน้อย 60 ซม.
เขียงต้องมีสภาพดีไม่แตกร้าวหรือเป็นร่อง มีเขียงใช้ เฉพาะอาหารสุกและอาหารดิบแยกจากกัน มีฝาชีครอบ (ยกเว้นครัวที่มีการป้องกันแมลงวันแล้ว)
ค. อาหาร นํ้า นํ้าแข็ง เครื่องดื่ม
อาหารและเครื่องดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทต้องมีเลขสารบบอาหาร
อาหารสด เช่น เนื้อสัตว์ ผักสด ผลไม้และอาหารแห้งมีคุณภาพดี แยกเก็บเป็นสัดส่วนไม่ปะปนกัน วางสูงจากพื้นอย่างน้อย 60 ซม. สำหรับอาหารสดต้องล้างให้สะอาดก่อนนำมาปรุง
อาหารและเครื่องดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท มีคุณภาพดีเก็บ เป็นระเบียบ วางสูงจากพื้นอย่างน้อย 30 ซม.
อาหารที่ปรุงสำเร็จแล้ว เก็บในภาชนะที่สะอาดมีการปกปิด วาง สูงจากพื้นอย่างน้อย 60 ซม.
มีตู้สำหรับปกปิดอาหารที่ปรุงสำเร็จแล้วและด้านหน้าของตู้ ต้อง เป็นกระจก
นํ้าดื่ม เครื่องดื่ม นํ้าผลไม้ต้องสะอาด ใส่ภาชนะที่สะอาดมีฝาปิด มีก๊อกหรือทางเทรินนํ้าหรือมีอุปกรณ์ที่มีด้ามสำหรับตักโดยเฉพาะและ วางสูงจากพื้น อย่างน้อย 60 ซม.
นํ้าแข็งที่ใช้บริโภคต้องสะอาด ใส่ในภาชนะที่ สะอาดมีฝาปิด มี อุปกรณ์ที่มีด้ามสำหรับตัก โดยเฉพาะวางสูงจากพื้นอย่างน้อย 60 ซม. และต้องไม่มีสิ่งของอื่นแช่รวมไว้
จ. การรวบรวมขยะ และนํ้าโสโครก
ใช้ถังขยะที่ไม่รั่วซึม และมีฝาปิด
มีท่อหรือรางระบายนํ้าที่มีสภาพดี ไม่แตกร้าวระบายนํ้าจาก ห้องครัว และที่ล้างภาชนะอุปกรณ์ลงสู่ท่อระบายน้ำหรือแหล่งบำบัด ได้ดี และต้องไม่ระบายนํ้าเสียลงสู่นํ้าสาธารณะโดยตรง
มีบ่อดักเศษอาหารและดักไขมันที่ใช้การได้ดีก่อนระบายนํ้าเสียทิ้ง
ช. ผู้ปรุง ผู้เสิร์ฟ
แต่งกายสะอาด สวมเสื้อมีแขน
ผูกผ้ากันเปื้อนสีขาว หรือมีเครื่องแบบ ผู้ปรุงจะต้องสวมหมวก หรือเนทคลุมผมด้วย
ต้องเป็นผู้มีสุขภาพดี ไม่เป็นโรคติดต่อ ไม่เป็นโรคผิวหนังสำหรับผู้ ปรุงจะต้องมีหลักฐานการตรวจสุขภาพในปีนั้นให้ตรวจสอบได้
มีสุขนิสัยที่ดี เช่น ตัดเล็บสั้น ไม่สูบบุหรี่ในขณะปฏิบัติงานไม่ใช้มือ หยิบจับอาหารที่ปรุงเสร็จแล้ว โดยตรง
ฉ. ห้องนํ้า ห้องส้วมในโรงอาหาร
ห้องนํ้า ห้องส้วม ต้องสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น มีนํ้าใช้เพียงพอ
ห้องส้วมแยกเป็นสัดส่วน ประตูไม่เปิดสู่บริเวณ ที่เตรียม–ปรุงอาหาร ที่ล้าง และเก็บภาชนะอุปกรณ์ ที่เก็บอาหาร และต้องมีอ่างล้างมือที่ใช้การได้ดีอยู่ใน บริเวณห้องส้วม
กิจกรรมการจัดสิ่งแวดล้อม
มีการจัดกิจกรรมการจัดการสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยใน โรงเรียน ได้แก่ การลดปริมาณและใช้ประโยชน์จากขยะ การ ป้องกันอุบัติเหตุ พฤติกรรมอนามัย เป็นต้น
การกำจัดขยะ/น้ำเสีย/พาหะนำโรค
ภาชนะรองรับขยะที่สะอาด สภาพดี มีฝาปิด ไม่รั่วซึม ไม่แตกร้าว มีจำนวนเพียงพอต่อการรองรับขยะ มีการทำความ สะอาดและจัดเก็บออกจากอาคารทุกวัน ไม่มีขยะเกลื่อนกลาดในบริเวณโรงเรียน 2. มีการคัดแยกขยะแต่ละประเภท และจัดให้มีภาชนะรองรับขยะ แยกประเภท พร้อมสัญลักษณ์
มีที่พักรวมขยะที่มิดชิด ป้องกันสัตว์และแมลงพาหะนำโรค มี การนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี มีการดูแลให้สะอาดอยู่เสมอ และมีการ รวบรวมน้ำเสียที่เกิดขึ้น ลงระบบบำบัดหรือรางระบายน้ำ
มีท่อ/รางระบายน้ำสภาพดี ไม่อุดตัน โดยไม่มีน้ำท่วมขังเป็น แหล่งเพาะพันธุ์สัตว์และแมลงพาหะนำโรค
มีการบำบัดน้ำเสียอย่างเหมาะสม เช่น บ่อดักไขมัน หลุมซึม หรือระบบร่องซึม
มีการควบคุมกำจัดแมลง สัตว์พาหะนำโรค ได้แก่ หนู แมลงวัน แมลงสาบ เป็นต้น
4.การปฏิบัติการพยาบาล
Implementation
2.-แนะนำการเตรียมจัดหาบัตรบันทึกสุขภาพนักเรียน
-รับผิดชอบในการจัดหาบัตรบันทึกสุขภาพมาเสริมให้แก่โรงเรียนที่ยังมีบัตรสุขภาพไม่ครบตามจำนวน
4.-นัดโรงเรียนล่วงหน้าก่อนให้ภูมิคุ้มกัน
-ชี้แจงถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
-ให้ภูมิคุ้มกันโรคตามกำหนดระยะเวลาอย่างสม่ำเสมอและเหมาะสมตามแผนของจังหวะ
-แนะนำให้ทราบถึงอาการและวิธีปฏิบัติภายหลังที่ได้รับภูมิคุ้มกันโรคแล้ว
-แนะนำให้บันทึก วัน เดือน ปี ทันทีที่ได้รับภูมิคุ้มกันลงในบัตรบันทึกสุขภาพรวมทั้งภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่นอาการแพ้วัคซีน
5.-ให้สุขศึกษาเป็นกลุ่มตามสภาพปัญหาในขณะนั้นและตามความเหมาะสม เช่น การสุขศึกษาเกี่ยวกับโรคที่พบมากในฤดูกาลนั้นหรือตามปัญหาสังคม เช่น ครอบครัวแตกแยก
-นำเอกสารเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยให้กับโรบงเรียนพิจารณาตามโอกาสและความเหมาะสม
6.ตรวจสุขภาพนักเรียนทุกเรียนทุกคนในโรงเรียนทุกคนในโรงเรียนที่รับผิดชอบ
-ตรวจนักเรียนเจ็บป่วยที่ครูหรือผู้ปกครองส่งมาปรึกษา
-บักทึกบัตรสุขภาพทุกครั้งเมื่อตรวจสุขภาพ
3.-สำรวจสุขาภิบาลโรงเรียนสิ่งที่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษคือน้ำดื่มน้ำใช้ ส้วม การกำจัดขยะมูลฝอย แสงสว่างในห้องเรียน
โรงอาหาร ห้องพยาบาล หรือมุมพยาบาล
-ให้เห็นความจำเป็นที่นักเรียนควรมีภาชนะสำหรับใช้ดื่มน้ำประจำตัว
-คิดหาทางแก้ไขตามฐานะของโรงเรียนและสภาพของห้องเรียน
7.-ให้การรักษาการพยาบาลโรคเล็กๆน้อยไที่ตรวจพบในรายที่เกินขอบเขตความรับผิดชอบส่งปรึกษาาแพทย์
-ในกรณีที่ให้ยาไปรักษาที่บ้านควรแนะนำวิธีปฏิบัติแก่ผู้ปกครองนักเรียนด้วยโดยจดหมายแจ้งให้ทราบหรือพบผู้ปกครองเพื่อชี้แจง
-เมื่อพบโรคที่เป็นปัญหามากในโรงเรียนควรประชุมผู้ปกครองนักเรียนเพื่อขอความร่วมมือในการรักษาพยาบาล
-บันทึกลงในบัตรสุขภาพทุกครั้งเมื่อให้การรักษา
8.-ติดตามผลการรักษาที่โรงเรียน
-บันทึกผลการติดตามลงในบัตรบันทึกสุขภาพ
9.-ส่งเสริมการจัดการบริหารอาหารกลางวัล -ส่งเสริมให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางเผยแพร่เรื่องโภชนาการแก่ผู้ปกครองและประชาชน
-นัดประชุมครูทำความเข้าใจวางแผนปฏิบัติงานอนามัยโรงเรียนร่วมกันทุกต้นปีการศึกษา
-ชี้แจงให้ทางโรงเรียนทราบครูจะมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการให้บริการอย่างไร
-พิจารณาโรงเรียนที่จะไปให้การบริการอนามัยอยู่ในระดับใดและมีแผนการเลื่อนระดับบริการอนามัยโรงเรียนให้สูงขึ้นอย่างไร
-เตรียมจัดหาสมุดบันทึกการปฏิบัติงานอนามัยโรงเรียนไว้ประจำโรงเรียนสำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงบันทึกเมื่อได้เข้าไปปฏิบัติงานในโรงเรียน สมุดนี้จะมีหน้าที่บันทึกความคิดเห็นของผู้นิเทศงานรวมอยู่ในเล่มด้วย
โครงการสุขภาพฟันดีชีวีมีสุข
ขั้นนำ
กิจกรรมการสอน
ผู้สอนกล่าวคำทักทายและนำตัวเอง
พูดคุย small talk เพื่อสร้างสัมพันธ์ภาพ
บอกวัตถุประสงค์ของการสอน
1.เพื่อให้นักเรียนมีคสามรู้ความเข้าใจในการรักษาความสะอาดของช่องปากและฟัน
2.ให้นักเรียนรู้จักและเข้าใจขั้นตอนการแปรงฟันและดูแลช่องปากอย่างถูกวิธี
3.เพื่อให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้มาใช้ในชีวิตประจำวัน
เนื้อหาการสอน
เด็กวัยเรียนเป็นกลุ่มวัยสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ปัญหาสุขภาพช่องปากโดยเฉพาะโรคฟันผุเป็นปัญหาสำคัญในกลุ่มวัยนี้เนื่องจากมีอัตราการเกิดสูง เนื่องจากโรคฟันผุเป็นโรคที่เริ่มพบได้ช่วงวัยเริ่มต้นของชีวิตจนถึงวัยผู้ใหญ่ การเกิดโรคฟันผุในเด็กเป็นจุดเริ่มต้นของปัยหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายโดยรวมและคุณภาพชีวิตของเด็ก โรคฟันผุเป็นโรคที่สัมพันธ์กับพฤติกรรม การกินและการดูแลความสะอาดช่องปาก ดังนั้นการส่งเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันไม่ให้ฟันผุ จึงต้องมุ่งเน้นพฤติกรรมทั้ง 2ประการ เพื่อให้เกิดเป็นสุขนิสัยในการดำเนินชีวิต
ขั้นสอน
กิจกรรม
นำเสนอเนื้อหาแบบการบรรยายเล็กน้อย
เปิดโอกาศให้ถามคำถาม
ดูวีดีโอสอนการแปรงฟัน
เล่นเกมตอบคำถามอาการ การป้องกัน และการรักษาฟันผุ 10 ข้อ
ให้ออกมาสาธิตย้อนกลับ
เนื้อหาหารสอน
สาเหตุ
โรคฟันผุ เกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในช่องปากรวมตัวกับเศษอาหารและน้ำลายสะสมกันเป็นคราบเหนียว ที่เรียกว่า คราบฟัน หรือคราบแบคทีเรีย ซึ่งจะเกาะอยู่บนผิวของฟัน แบคทีเรียจะเปลี่ยนสภาพน้ำตาลและแป้งให้เป็นกรด มีฤทธิ์ทำลายแร่ธาตุที่ผิวฟัน จนก่อให้เกิดเป็นรู โดยเริ่มจากขนาดเล็กๆ ลุกลามใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นโรคฟัน
อาการ
เสียวฟัน
ปวดฟัน
มีกลิ่นปาก
เหงือกบวม
ฟันโยก
การรักษา
การอุดฟันหรือทดแทนฟันส่วนที่ถูกทำลายด้วยวัสดุอุดฟัน
หากมีการลุกลามจนสูญเสียเนื้อฟันมากอาจต้องทำการครอบฟัน
หากทะลุโพรงประสาทฟันต้องรักษารากฟัน
วิธีป้องกันฟันผุ
การแปรงฟันอย่างถูกวิธี
ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์
การรับประทานอาหารจุกจิกระหว่างมื้อ
ไม่ใช้ฟันผิดหน้าที่ เช่น การใช้ฟันเปิดขวด การจัดฟันเถื่อน
ขั้นตอนการแปรงฟันอย่างถูกวิธี
ฟันด้านนอก
-วางขนแปรงเข้าหาฟันให้ปลายขนแปรงอยู่บริเวณขอบเหงือกโดยเอียงทำมุม 45 องศา กับตัวฟันและขนานกับแนวฟัน
-ขยับขนแปรงไปมาในแนวหน้าหลัง เป็นระยะสั้นๆ ไม่เกินครึ่งซี่ฟัน
-ปัดขนแปรงขึ้นในฟันล่างและปัดลงสำหรับฟันบน
-ในแต่ละตำแหน่งควรแปรงประมาณ 10 ครั้ง
ฟันด้านใน
-วางขนแปรงบริเวณขอบเหงือกและแปรงฟันเช่นเดียวกับการแปรงฟันด้านนอก
ฟันด้านบดเคี้ยว
-วางขนแปรงบริเวณด้านบดเคี้ยวของฟันโดยวางแปรงให้หน้าตัดขนแปรงอยู่ด้านบนของฟันบดเคี้ยว ถูไปมาในแนวหน้าหลังทั้งฟันบนและฟันล่าง
ฟันหน้าด้านใน
-วางแปรงสีฟันในแนวตั้งใช้ปลายแปรงสีฟันแปรงด้านหลังของฟันหน้าแต่ละซี่โดยขยับและปัดปลายขนแปรงมาทางปลายขอบฟันทั้งฟันหน้าบนและฟันหน้าล่าง
แปรงลิ้น
-แปรงที่ลิ้นเพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์และป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นปากโดยการปัดขนแปรงสีฟัน จากโคนลิ้นมาทางปลายลิ้นประมาณ 10 ครั้ง
อาหารและของว่างที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก
อาหารที่มีเส้นใยสูง ช่วยกระตุ้นการหลั่งของน้ำลายและทำความสะอาดฟัน
อาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ ส้มโอช่วยในการรักษาเหงือก ฟัน กระดูก
อาหารที่มีวิตามินบีสูง เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง กล้วย ไข่แดง ช่วยเรื่องของมุมปากแตก ลิ้นอักเสบ
เลือกรับประทานของว่างที่เป็นโปรตีนหรือผลไม้ดีกว่าของที่เป็นแป้งและน้ำตาล
หลีกเลี่ยงอาหารประเภทน้ำอัดลม ขนมถุง
ควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยลดกลิ่นปากและฟันผุ
ขั้นสรุป
เนื้อหาการสอน
โรคฟันผุ เกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในช่องปากซึ่งจะเกาะอยู่บนผิวของฟัน แบคทีเรียจะเปลี่ยนสภาพน้ำตาลและแป้งให้เป็นกรด มีฤทธิ์ทำลายแร่ธาตุที่ผิวฟัน จนก่อให้เกิดเป็นรู จนกลายเป็นโรคฟันผุ ซึ่งอาการของโรคฟันผุ ได้แก่ เสียวฟัน ปวดฟัน การมีกลิ่นปาก เหงือกบวม ฟันโยก การรักษาจะทำโดยการอุดฟันหรือทดแทนฟันส่วนที่ถูกทำลายด้วยวัสดุอุดฟัน หากมีการลุกลามจนสูญเสียเนื้อฟันมากอาจต้องทำการครอบฟัน หากทะลุโพรงประสาทฟันต้องรักษารากฟัน วิธีป้องกันฟันผุ ได้แก่ การแปรงฟันอย่างถูกวิธี ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ การรับประทานอาหารจุกจิกระหว่างมื้อ ไม่ใช้ฟันผิดหน้าที่ เช่น การใช้ฟันเปิดขวด การจัดฟันเถื่อน