Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Asthma ผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 35 ปี - Coggle Diagram
Asthma
ผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 35 ปี
ปัจจัยและสาเหตุ
ปัจจัยภายในตัวเอง
ปัจจัยทางกรรมพันธุ์เป็นโรคหืด หรือ
ภูมิแพ้อื่นๆ
20% ที่พ่อเเม่ไม่เป็น
60% ที่พ่อแม่เป็น
ประวัติผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้
ปัจจัยทางด้านเพศ
ในเด็กอายุต่ำกว่า10 ขวบเด็กชาย>เด็กผู้หญิง
ในวัยผู้ใหญ่ผู้หญิง>ผู้ชาย
ปัจจัยภายนอก
การได้รับสารที่ก่อภูมิแพ้
เช่นไรฝุ่น เศษโปรตีนจากสัตวเลี้ยง แมลงสาบ สปอร์ของเชื้อราละอองเกสรต่าง ๆ และควันบุหรี่ทั้งที่ผู้ป่วยสูบเอง หรือได้รับจากคนข้างเคียง
มลพิษจากการทํางาน
เช่น ก๊าซพิษต่าง ๆ ฝุ่นแป้งฝุ่นจากการไสไม้สารเคมีต่าง ๆ
มลภาวะทางอากาศ
เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์โอโซน ไนโตรเจนออกไซด์ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ก๊าซ
การติดเชื้อ
ในระบบทางเดินหายใจเช่น เชื้อไวรัสบางชนิด
จากผู้ป่วย
มีประวัติว่าเป็นภูมิแพ้มา3ปี
ผู้ป่วยได้กลิ่นควันไฟข้างบ้านจึงมีอาการกำเริบ
ผู้ป่วยเพศหญิง
การตรวจร่างกาย
จากทฤษฏี
การฟังปอด
จะได้ยินเสียง wheeze ลักษณะของ wheeze ในผู้ป่วยโรคหืดนั้นควรเป็นทั้ง 2 ข้าง
และควรเป็น expiratory wheezing และ polyphonic
จากผู้ป่วย
ฟังปอดได้ยินเสียง wheezing ที่ปอด ทั้ง 2 ข้าง
อาการและอาการแสดง
จากทฤษฎี
ไอ หายใจมีเสียงหวีด และอาการหอบ tachypnea, accessory muscle use หรือ suprasternal notch retraction หรือ subcostal retraction
มีอาการหอบหืดเกิดขึ้นเมื่อได้รับสิ่งกระตุ้น และอาการดังกล่าว อาจหายไปได้เองหรือหายไปเมื่อได้รับยาขยายหลอดลม
มีการหอบหืดเกิดขึ้นหลังการออกกำลังกาย
จากผู้ป่วย
ผู้ป่วยมีอาการหายใจเร็วและหอบลึก
ผู้ป่วยมีอาการหลังได้กลิ่นควันไฟข้างบ้าน
การตรวจพิเศษ
จากทฤษฎี
Methacholine Challenge Testing
คือ การตรวจความไวของหลอดลมด้วย Methacholine
การตรวจ Spirometry
chest x-ray
วัด peak fow
ด้วย peak fow meter
จากผู้ป่วย
chest x-ray
เจาะ CBC Electrolyte Blood chemistry ABG
พยาธิสภาพ
โรคหืดเกิดจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม การ อักเสบเกิดขึ้นตลอด เวลาการกระตุ้นของสารเคมี ที่ก่อการอักเสบที่เรียกว่า Th2 Cytokine ได้แก่ interleukin (IL)-4 IL-5 และ IL-13 จากT-lymphocyte ออกฤทธิ์ เรียก eosinophilเข้ามาในหลอดลม9-10 และกระตุ้นการสร้างmucus
การรักษา
จากทฤษฎี
การรักษา
การให้ความรู้เกี่ยวกับโรคหืด แก่ผู้ป่วยและผู้ใกล้ชิด
การให้คำแนะนำควบคุมสิ่งแวดล้อมที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้
การรักษาด้วยยา β2–agonist ชนิดสูด ออกฤทธิ์เร็วเฉพาะเมื่อมีอาการ
การรักษาด้วยยา corticosteroid ชนิดสูด
การรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคหืดกำเริบเฉียบพลัน
การให้ oxygen ในขนาดที่เหมาะสม
การให้ยาขยายหลอดลม
ยา corticosteroid
ยาอื่น ๆ ที่ใช้วมด้วย
ยาต้านจุลชีพ
ยากล่อมประสาท ยานอนหลับ
ยา antihistamine
จากผู้ป่วย
ventolin
1 dose สลับกับ
berodual
foret 1 dose stat ทุก 2 ชั่วโมง 2 ครั้ง then berodual foret 1 dose ทุ ก 4 ชั่วโมง
dexamethasone
4 mg vein ทุก 8 ชั่วโมง
salbutamol
1 tab oral tid pc
on
NG tube
for feed
BD 1:1 250 x 5 feeds
retained foley’s cath with bag
on O2
cannular
3 lits/min
on IV เป็น
Acetar 1000 ml
vein drip 60 cc/hr
ใส่ท่อช่วยหายใจ
ยาที่ผู้ป่วยได้รับ
dexamethasone
4 mg vein stat
ยากลุ่ม Glucocorticoid
กลไกล
กระตุ้น pneumocyte type II ให้มีการสร้างและปล่อยสาร surfactant และช่วยเพิ่มปริมาตรและเนื้อที่การแลกเปลี่ยนก๊าซของเซลล์เยื่อบุภายในปอด
ผลข้างเคียง
ผิวหนังเป็นผื่นแดง คัน ผื่นลมพิษ บวมบริเวณหน้า ริมผีปาก ลิ้น ประสิทธิภาพในการ มองเห็นลดลง ไข้ ไอ จาม เจ็บคอ หรืออาการอื่นที่แสดงถึงการติดเชื้อ สับสน ประสาทหลอน ใบหน้าบวมกลม
เหตุผลการให้ย
า เพื่อต้านการอักเสบและแก้แพ้เนื่องจากผู้ป่วยสัมผัสสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ คือ ควันไฟ
berodual
foret 1 dose
Berodual forte ประกอบด้วยยาขยายหลอดลม 2 ชนิด คือ Ipratropium bromide ซึ่งเป็นยา ประเภท
Anticholinergic
และ Fenoterol hydrobromide ซึ่งเป็น
Beta adrenergic
Ipratropium bromide
มีฤทธิ์ยับยั้งการกระตุ้นรีเฟลกซ์ของเส้นประสาท vagus
Fenoterol hydrobromide
เป็นยากระตุ้นซิมพาเทติคที่ออกฤทธิ์กระตุ้นเฉพาะต่อ Beta-2 receptor ทำให้เกิดการขยายตัวของกล้ามเนื้อเรียบของผนังเส้นเลือดและหลอดลม
ผลข้างเคียง
อาจพบอาการกล้ามเนื้อสั่น กระสับกระส่าย ปากแห้ง ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ หัวใจเต้นเร็วและใจสั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่ไวต่อยากลุ่มนี้ การใช้ยาในกลุ่มเบต้า-2 อาจทำให้ระดับโปแตสเซียมในเลือดต่ำลง มีรายงานว่าอาจเกิดการไอ ระคายเคืองเฉพาะที่
เหตุผลการให้ยา
เพื่อขยายหลอดลมเนื่องจากผู้ป่วยมีอาการของโรคหอบคือ หายใจเร็วหอบลึก ฟังเสียงปอดทั้ง2ข้างได้เสียง wheezing
salbutamol
1 tab oral tid pc ,
Ventolin
2 dose stat
กลุ่มยา Short acting beta2 agonist
กลไกการออกฤทธิ์
โดยการจับกับ beta2 adrenergic receptor เกิดการกระตุ้น adenyl cyclase เพิ่มการหลั่ง cyclic AMP ทำให้กล้ามเนื้อเรียบหลอดลมคลายตัวเป็นผล ให้หลอดลมขยาย ซึ่งมีทั้งแบบชนิดกิน ฉีดและพ่นสูด
ผลข้างเคียง
หัวใจเตน้ เร็ว , ใจสั่น, หัวใจเต้นแรง , คลื่นไส้หน้าแดง , กระสับกระส่ายนอนไม่หลับ, มึนงง, ง่วงนอน , เป็นลม, อาเจียน , อ่อนเพลีย , แน่นหน้าอก, เบื่ออาหาร , หลอดลมบีบตัว
เหตุผลการให้ยา
เพื่อขยายหลอดลมเนื่องจากผู้ป่วยมีอาการของโรคหอบคือ หายใจเร็วหอบลึก ฟังเสียงปอดทั้ง2ข้างได้เสียง wheezing
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อภาวะเนื้อเยื่อในร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอเนื่องจาก
การหดเกร็งของหลอดลมจากพยาธิสภาพของโรคหอบหืด
ผู้ป่วยและญาติขาดความรู้ในการดูแลตนเองและฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยเมื่อกลับไปบ้าน
มีภาวะเสียสมดุลelectrolyteจากพยาธิสภาพของโรคหอบหืด
เสี่ยงต่อการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอจากการใส่ท่อช่วยหายใจ