Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาระบบหัวใจ และหลอดเลือด, นางสาวสุชานาถ …
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาระบบหัวใจ และหลอดเลือด
กลุ่มโรคหัวใจที่เกิดภายหลัง
โรคหัวใจที่มีการดำเนินโรค หรือความผิดปกติของหัวใจซึ่งเกิดขึ้นภายหลังเกิด โดยโรคหัวใจที่เกิดภายหลังจะไม่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของยีนบนโครโมโซมของเด็กตั้งแต่แรกเกิด
infective endocarditis (IE)
การอักเสบซึ่งเกิดจากการติดเชื้อของเยื่อบุหัวใจชั้นในสุด หรือเยื่อบุผิวภายในหัวใจ หรือลิ้นหัวใจ หรือเนื้อเยื่อข้างเคียง หรือหลอดเลือดแดงของหัวใจ นอกจากนี้อาจพบในลิ้นหัวใจเทียม ผนังหัวใจที่ผิดปกติ
สาเหตุ
เชื้อที่เป็นสาเหตุ ได้แก่ แบคทีเรีย เชื้อรา ริคเกทเซีย หรือไวรัส
แต่มักมีสาเหตุมาจากแบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้อ Streptococcus viridans, Staphylococcus aureus
rheumatic heart disease (RHD)
โรคหัวใจรูห์มาติค เกิดตามหลังไข้รูห์มาติค
ซึ่งมีการติดเชื้อที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิสภาพของอวัยวะต่าง ๆ ได้
โดยเฉพาะทำให้เกิดการอักเสบของหัวใจ ส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจวาย ตลอดจนลิ้นหัวใจรั่วหรือตีบได้
ไข้รูห์มาติค
โรคที่มีการอักเสบของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
เป็นผลจาก autoimmune reaction มักเกิดตามหลังคออักเสบเนื่องจากเชื้อ β-hemolytic streptococcus group A
โรคนี้อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจวายและลิ้นหัวใจมักถูกทำลาย
อาการและอาการแสดง
major criteria
subcutaneous nodules
chorea หรือ sydenham’s chorea
polyarthritis
Carditis
erythema marginatum
minor criteria
มีประวัติเคยเป็นไข้รูห์มาติค
polyarthralgia มีอาการปวดข้อโดยไม่มีอาการอักเสบ
มีไข้ต่ำ ๆ
ปวดท้อง รู้สึกไม่สบาย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหงื่อออกมาก เจ็บหน้าอกซีด และน้ำหนักลด
เลือดกำเดาไหล
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
กระเพาะเชื้อจากบริเวณคอ
antistreptolysin O (ASO)
ค่า ASO ในเลือดจะสูงขึ้นเพราะมีการสร้างแอนติบอดีต่อเชื้อมาก่อน
ค่าปกติของ ASO อยู่ระหว่าง 0-120 Todd unit
การรักษา
ให้ยาปฏิชีวนะสำหรับกำจัดเชื้อสเตร็ปโตคอคคัสกลุ่มเอ
ให้ยาสำหรับต้านการอักเสบของหัวใจและข้อ ได้แก่ salicylate และ steroid
ผู้ป่วยที่มี arthritis carditis ที่ไม่มีหัวใจโต ให้ยา salicylates
ผู้ป่วยที่มี carditis ที่มีหัวใจโตหรือมีอาการหัวใจวาย ควรให้ยาเพรดนิโซโลน 2 มิลลิกรัม
ให้นอนพัก โดยทั่วไปผู้ป่วยที่มี carditis และอาการหัวใจวาย ให้พักจนกว่าจะควบคุมภาวะหัวใจวายได้ ต่อมาค่อย ๆ เพิ่มการเคลื่อนไหวมากขึ้นในเวลา 3 เดือน
ในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจวาย ให้การรักษาโดยให้ยา digitalis เช่น digoxin ยาขับปัสสาวะ ยาลด afterload ได้แก่ ยาขยายหลอดเลือดแดง รวมทั้งยา กลุ่ม angiotensin converting enzme inhibitor
Kawasaki disease (KD)
สาเหตุ
จากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ริกเก็จเชีย และอื่นๆที่กระตุ้นให้เด็กบางคนตอบสนองทางอิมมูนผิดปกติทำให้เกิดอาการขึ้น
พยาธิสรีรวิทยา
มีการอักเสบของผนังหลอดเลือดแดงโคโรนารี่และหลอดเลือดแดงขนาดกลางอื่นๆ และมี Platelet thrombi อุดหลอดเลือดแดง
อาการและอาการแสดง
ไข้ ตาแดง ปากแดง การเปลี่ยนแปลงที่มือแดง เท้า ผื่นและต่อมน้ำเหลืองที่โต
ไข้
ส่วนใหญ่จะเป็นไข้สูงเป็นพักๆ โดยช่วงที่ไข้ลดมักจะไม่ลดลงจนเป็นปกติ
ในรายที่มีความผิดปกติของหลอดเลือดแดง Coronary ถ้าไม่ได้การรักษาที่เหมาะสม ไข้จะอยู่นานหลายสัปดาห์
การเปลี่ยนแปลงที่มือและเท้า
เป็นลักษณะที่ไม่ค่อยเห็นในโรคอื่นๆ มือ เท้า จะบวม แดง
บางรายเจ็บชัดเจนตั้งแต่ข่วงแรกๆ ของโรคประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังจากเริ่มมีไข้จะเห็นผิวหนังลอก
โดยเริ่มลอกบริเวณรอบๆเล็บมือ เล็บเท้า อาจลามมาจนลอกทั้งฝ่ามือ ฝ่าเท้า
ประมาณ 4 – 6 สัปดาห์หลังจากเริ่มมีไข้อาจเห็นรอยขีดเล็กๆตามแนวขวางของเล็บ ที่เรียกว่า Beau Line
ตาแดง
จะเป็นทั้ง 2 ข้าง มักเห็นภายใน 2 - 4 วันแรก
นับจากเริ่มมีไข้ การแดงจะเป็นบริเวณตาขาวมาก รอบๆม่านตาจะไม่ค่อยแดง ไม่ค่อยมีขี้ตา และไม่ค่อยเจ็บ
ริมฝีปากแดงและแห้ง
เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่วันแรกๆของโรค มีริมฝีปากแตก อาจมีเลือดออกด้วย เยื่อบุในปากแดง แต่ไม่มีแผล
ลิ้นจะแดงและมี prominent papillae ที่เรียกว่า “Strawberry tongue”
ต่อมน้ำเหลืองโต
มักพบที่ anterior cervical triangle มักเป็นข้างเดียว
สังเกตบริเวณที่ต่อมน้ำเหลืองโตจะพบว่าผิงหนังมักไม่แดงกว่าบริเวณรอบๆและกดไม่ค่อยเจ็บ
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะหัวใจวาย
เป็นภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปตามระบบไหลเวียนเลือดเพื่อนำออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกายได้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
สาเหตุ
ความผิดปกติของหัวใจที่ทำให้หัวใจทำงานมากขึ้น เนื่องจากมีความดันในเวนตริเคิลสูงกว่าปกติเกิดจากการอุดกั้นของทางออกของเวนตริเคิล
ความผิดปกติของหัวใจที่ทำให้หัวใจทำงานมากขึ้น เนื่องจากมีปริมาณเลือดในหัวใจเพิ่มขึ้นมากเกิดจากมีการรั่วไหลของเลือด ทำให้มีปริมาณเลือดในเวนตริเคิลมากขึ้น
กลุ่มที่มีการรั่วของลิ้นหัวใจ
กลุ่มที่มีเลือดไหลลัดจากหัวใจซีกขวา
กลุ่มที่มีเลือดไปปอดมากขึ้น
ความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของหัวใจลดลง
จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ ส่งผลให้ปริมาณเลือดไหลออกจากหัวใจลดลง
อาการและอาการแสดง
อาการของหัวใจซีกซ้ายวาย
หายใจเร็ว ปีกจมูกบาน หายใจลำบาก หน้าอกบุ๋ม และมีการหดตัวของกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจ ฟองหรือมีเลือดปน และฟังได้เสียง crepitation
เนื่องจากมี pulmonary congestion
อาการของหัวใจซีกขวาวาย
หลอดเลือดดำที่คอโป่งพอง หน้าบวม ตาบวม ตับโต บางรายอาจมีม้ามโต คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดท้อง แน่นอึดอัดท้อง แขนขาเย็น บวม
การรักษา
Ianoxin
เพิ่มแรงในการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ และทำให้หัวใจเต้นช้าลง
อัตราการเต้นของหัวใจที่ลดลง ส่งผลให้มี cardiac output เพิ่มขึ้น มีเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมากขึ้น และส่งผลต่อเนื่อง คือ ลดการคั่งของเลือดในหลอดเลือดฝอยที่ปอด
เพิ่มการขับปัสสาวะออกจากร่างกายมากขึ้น
ทำให้ลดแรงต้านทานของหลอดเลือดส่วนปลาย หัวใจจึงสามารถบีบเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ง่ายขึ้น
กลุ่มโรคหัวใจแต่กำเนิด
กลุ่มที่มีการไหลลัดของเลือดจากหัวใจซีกซ้ายไปซีกขวา
Ventricular septal defect (VSD)
ชนิดไม่เขียวที่มีรูรั่วที่บริเวณผนังกั้นระหว่าง เวนตริเคิล
เนื่องจากมีการสร้างผนังกั้นเวนตริเคิลที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดทางติดต่อระหว่างเวนตริเคิลซ้ายและขวา
อาการและอาการแสดง
เหนื่อยง่ายโดยเฉพาะเวลาดูดนม
มีเหงื่อออกมาก
ตัวเล็กหรือเลี้ยงไม่โต
พัฒนาการอาจจะปกติหรือล่าช้า
ติดเชื้อในระบบหายใจได้บ่อย ๆ
Atrial septal defect (ASD)
ชนิดไม่เขียวที่มีรูรั่วที่บริเวณผนังกั้นระหว่างเอเตรียม เนื่องจากมีการสร้างผนังกั้นเอเตรียม ที่ไม่สมบูรณ์
อาการและอาการแสดง
ทั้งในเด็กเล็กและเด็กโต มักจะไม่มีอาการแสดงหรืออาการที่ผิดปกติ
บางรายอาจจะมีการติดเชื้อในระบบหายใจ
มีการเจริญเติบโตช้า
อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายเวลาออกแรงหรือออกกำลังกาย
Patent ductus arteriosus (PDA)
ชนิดไม่เขียวที่มีเลือดไปปอดมากมีความผิดปกติ คือ หลอดเลือด ductus arteriosus ยังเปิดอยู่ภายหลังเด็กเกิด
ทำให้เกิดการติดต่อระหว่างหลอดเลือดแดงพัลโมนารี และหลอดเลือดเอออร์ต้า
โดยทั่วไปหลอดเลือด ductus arteriosus จะฝ่อแข็งกลายเป็นพังผืด
ทำให้เกิดการปิดของหลอดเลือด ductus arteriosus ภายหลังเด็กเกิดได้ 1-4 สัปดาห์
สาเหตุ
การเกิดก่อนกำหนด
ทำให้หลอดเลือด ductus arteriosus ในทารกที่เกิด มีการหดตัวตอบสนองต่อความเข้มข้นของออกซิเจนที่เหลืออยู่ในกระแสเลือดได้ไม่ดี
หรือปอดของทารกที่เกิดก่อนกำหนดยังเจริญไม่เต็มที่
ทำให้ไม่สามารถขจัด prostaglandin ในกระแสเลือดออกได้หมด
ภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ
ส่งผลให้หลอดเลือด ductus arteriosus ยังเปิดอยู่หลังคลอด
การติดเชื้อ
การติดเชื้อหัดเยอรมันในช่วงการตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก
เชื้อไวรัสจะไปขัดขวางการสร้าง arterial elastic tissue ซึ่งจะเจริญต่อไปเป็นหลอดเลือด ductus arteriosus
อาการและอาการแสดง
PDA ขนาดเล็กมักจะไม่มีอาการผิดปกติ
PDA ขนาดใหญ่ มักจะมาด้วยอาการของหัวใจซีกซ้ายวาย
โดยมีอาการหายใจเร็ว เหงื่อออกมากเวลาดูดนม เหนื่อยหอบ น้ำหนักขึ้นช้า
กลุ่มที่มีการอุดกั้นการไหลของเลือด
Aortic stenosis (AS)
ชนิดไม่เขียวที่มีการตีบของลิ้นเอออร์ติค หรือมีการอุดกั้นของทางออกของเวนตริเคิลซ้าย
ทำให้เวนตริเคิลซ้ายบีบตัวส่งเลือดแดงผ่านลิ้นเอออร์ติคที่ตีบไปเลี้ยงร่างกายได้ไม่สะดวกหรือได้น้อยลง
อาการและอาการแสดง
ในพวกที่ลิ้นตีบมากอาจจะมีอาการอ่อนเพลียง่ายเวลาเล่น เจ็บหน้าอก
Pulmonary stenosis (PS)
ชนิดไม่เขียวที่มีการตีบของลิ้นพัลโมนารี หรือมีการอุดกั้นของทางออกของเวนตริเคิลขวา
ทำให้เวนตริเคิลขวาบีบตัวส่งเลือดดำผ่านลิ้นพัลโมนารีที่ตีบไปปอดได้ไม่สะดวกหรือได้น้อยลง
อาการและอาการแสดง
มีอาการเหนื่อยง่าย หรือเจ็บแน่นหน้าอก และจะเป็นมากขึ้นเวลาออกกำลังกาย บางรายอาจจะมีอาการเป็นลมหมดสติ
Coarctation of aorta (CoA)
ชนิดไม่เขียวที่มีการคอดหรือการตีบแคบที่หลอดเลือดเอออร์ต้าตรงบริเวณหลอดเลือด ductus arteriosus มาเชื่อมกับหลอดเลือดเอออร์ต้า
ทำให้เลือดไหลจากหลอดเลือดเอออร์ต้าไปเลี้ยงร่างกายส่วนบน และลงสู่ส่วนที่ไปเลี้ยงร่างกายส่วนล่างได้ไม่สะดวก
ทำให้ความดันโลหิตของแขนสูงกว่าขา
อาการและอาการแสดง
หายใจแรงและเร็ว เหนื่อยหอบ เหงื่อออกมาก ดูดนมช้า เลี้ยงไม่โต จะตรวจพบชีพจรที่ขาทั้ง 2 ข้างเบากว่า
โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดเขียว
ลุ่มที่มีอาการเขียวที่มีเลือดไปปอดน้อย อาจมีภาวะสมองขาดออกซิเจนอย่างเฉียบพลัน
Tetralogy of Fallot (TOF)
มีความผิดปกติ 4 อย่าง
ตำแหน่งของลิ้นเอออร์ติคเลื่อนไปทางด้านขวา
ผนังระหว่างเวนตริเคิลมีรูรั่ว ขนาดใหญ่
การตีบของลิ้นพัลโมนารี
มีการหนาตัวของเวนตริเคิลขวา
อาการและอาการแสดง
อาการเขียวทั่วร่างกายมีประวัตินั่งยอง ๆ อาการเหนื่อย อาการเขียวมากขึ้นร่วมกับอาการหอบลึก
ภาวะหัวใจวาย มีปริมาณเลือดไหลลัดจากหัวใจซีกซ้ายไปซีกขวามาก จึงมีเลือดไปปอดมากขึ้น
Pulmonic atresia (PA)
ลิ้นพัลโมนารีตัน
Tricuspid atresia (TA)
ลิ้นไตรคัสปิดตัน
กลุ่มที่มีอาการเขียวที่มีเลือดไปปอดมาก อาการเขียว และมีภาวะหัวใจวาย
Transposition of the Great Arteries (TGA)
ชนิดเขียวที่มีเลือดไปปอดมากซึ่งพบได้บ่อยที่สุด
มีความผิดปกติ คือ มีการสลับที่กันของหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ออกจากหัวใจ ได้แก่ หลอดเลือดเอออร์ต้าและหลอดเลือดแดงพัลโมนารีโดยหลอดเลือดเอออร์ตัวออกจากเวนตริเคิลขวา และหลอดเลือดแดงพัลโมนารีออกจากเวนตริเคิลซ้าย
อาการและอาการแสดง
อาการเขียวมากตั้งแต่แรกเกิด
ภายใน 2-3 วันแรกหลังเกิด หอบเหนื่อย
อาการของหัวใจวาย เพราะ foramen ovale และ PDA ซึ่งเป็นทางติดต่อของการไหลเวียนเลือดระหว่าง 2 วงจร ได้ปิดตัวลง
ส่วนในรายที่มี VSD ร่วมด้วย มีอาการเหนื่อย อาการของหัวใจวาย
นางสาวสุชานาถ สุโขประสพชัย เลขที่ 90 รหัสนักศึกษา 62111301093