Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

โรคระบบสืบพันธ์ุ - Coggle Diagram

- - - - ทำให้มีรอยถลอกของผิวหรือเยื่อบุ และเชื้อไวรัสจะเข้าไปที่ปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อหรือเซลล์ จากปากมดลูกปกติกลายเป็นระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก
      - Stage I เซลล์มะเร็งอยู่เฉพาะที่ปากมดลูก รักษาโดยการผ่าตัดมดลูก เลาะต่อมน้ำเหลืองในเชิงกราน ได้ผลถึง 80 %
      - Stage II เซลล์มะเร็งกระจายจากปากมดลูกไปที่ตัวมดลูก แต่ไม่สามารถผ่าตัดได้ รักษาโดยการฉายรังสี และการให้เคมีบำบัด (คีโม) ได้ผลประมาณ 60 %
      - Stage III เซลล์มะเร็งกระจายไปที่ผนังช่องเชิงกราน รักษาโดยใช้รังสีรักษา และการใช้เคมีบำบัด ได้ผลประมาณ 20-30 %
      - Stage IV เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งกระจายทั่วร่างกาย รักษาโดยการให้คีโม และรักษาตามอาการ โดยหวังผลได้เพียง 5-10% และโอกาสรอดน้อยมาก
- - - - เกิดจากการเสื่อมของลิ้นในหลอกดเลือดดำที่มีหน้าที่ช่วยในการไหลเวียนของเลือดจากอัณฑะและถุงอัณฑะให้ไหลกลับสู่หัวใจผิดปกติหรือล้มเหลว
      - เลือดดำกลับเข้าสู่หัวใจได้น้อยหีือไม่ได้เลย เลือดจึงคั่ง ส่งผลให้หลอดเลือดโป่งพองอัณฑะขยายใหญ่ขึ้น
  - - - เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย :
        
        เด็กมักพบเป็นชนิด gram-negative bacilli
        
        ผู้สูงอายุมักเป็นชนิด E.coli และ Pseudomonas spp. นอกจากนี้อาจเกิดเป็นผลมาจากโรคติดเชื้อในร่างกายบางชนิด เช่ย โรคคางทูม
        
        ผู้ใหญ่มักเกิดจากเชื้อ Chlamydia trachomatis และ Neisseria gonorrhoeae
      - พยาธิสภาพ
        
        พบลูกอัณฑะ บวมโต หลอดเลือดที่อวัยวะและบริเวณใกล้เคียง ขยายใหญ่ และ มีเลือดคั่ง เซลล์อักเสบจำพวก neutrophils, macrophages และ lymphocytes พบกระจัดกระจายทั่วไป และแทรกเข้าไปตามเนื้อเยื่อของอวัยวะเอพิดิไดมิส และลามเข้า ไปในเนื้อเยื่อของลูกอัณฑะ โดยเฉพาะเข้าไปในหลอดสร้างอสุจิ (seminiferous tubules) ทำให้บริเวณระหว่างเนื้อเยื่อของลูกอัณฑะเกิดบวมน้ำ ในกรณีการอักเสบรุนแรงทำให้เกิดเป็นหนองฝี
- - - - เป็นแต่กำเนิด
        
        ทำให้เกิดการสะสมสิ่งขับถ่ายและเกิดการติดเชื้อ
      - การอักเสบ/บอบช้ำของหนังหุ้ม Penis
  - - - การรักษาสุขอนามัยอวัยวะเพศไม่ดี
      - ติดเชื้อ จากยีสต์แคนดิดา
      - โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      - การแพ้/การระคายเคือง
    - - มีอาการระคายเคือง เจ็บ คัน
      - เจ็บขณะปัสสาวะ
      - มีหนอง/น้ำสีเหลืองข้นไหลออกมาจากอวัยวะเพศ
      - อวัยวะเพศมีกลิ่นเหม็น
      - ถ้ามีอาการรุนแรง จะไม่สามารถร่นหนังหุ้มขึ้น/ลงได้ปกติ
  - - - โลน หิด พยาธิช่องคลอด
      - Chancroid/Gorrnorhear
      - condyloma acuminatum
      - เชื้อราในช่องคลอด
- - - - ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      - อาการแทรกซ้อน เชื้ออาจลุกลามเข้า Bartholin gland ที่แคมใหญ่เกิด Bartholinitis หรือเป็นฝี (Bartholin abscess) อาจทำให้มดลูกอักเสบ (Endocervicitis) ถ้าเชื้อลุกลามมากๆ จะทำให้เกิดเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ (Endometritis) และท่อนำไข่อักเสบ (Salpingitis)
      - ถ้าการอักเสบลุกลามไปถึงท่อนำไข่และกระจายเข้าไปในอุ้งเชิงกราน เรียก Pelvic Inflammatory Disease (PID)
      - หากเป็นมากอาจทำให้มีหนองขังอยู่ะหว่าง fallopian tube กับ ovary เรียกว่า Pelvic abscess
      - ถ้าเชื้อกระจายมากขึ้น็จะทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุอุ้งเชิงกราน (pelvic peritonitis) หรือกระจายไปทั่วช่องท้อง หลังการอักเสบอาจมีผังพืดดึงรั้งท่อนำไข่เกิดการตีบตัน ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก (infertility)
    - - เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค Treponema pallidum
      - ติดต่อโดยการร่วมเพศ เชื้อจะเข้าทางรอยถลอกหรือบาดแผเล็กน้อย หรืออาจไชเข้าเยื่อบุผิวของท่อปัสสาวะ ทวารหนัก ช่องคลอด หรือ ช่องปาก
      - สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้าปล่ยทิ้งไว้ในระยะยาวอาจแสดงอาการในหลายระบบของร่างกายเช่น ทางระบบประสาท ผิวหนัง ตา กระดูก หัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ถ้าสตรีเป็นโรคนี้ในขณะที่ตั้งครรภ์มีโอกาศถ่ายทอดเชื้อไปสู่ทารกในครรภ์ได้ด้วยส่งผลให้ทารกมีภาวะซิฟิลิสแต่กำเนิดได้
      - พยาธิกำเนิด
        
        ระยะที่ 1 หรือ ระยะเป็นแผล (Primary syphilis)
        
        ระยะที่ 2 หรือ ระยะเข้าข้อออกดอก (Secondary syphilis)
        
        ระยะที่ 3 หรือ ระยะทำลาย (Tertiary syphilis)
    - - เชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคคือ Hemophilus ducreyi
      - เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคนี้ติดต่อได้ง่ายแต่ก็สามารถรักษาให้หายขาด
      - ทำให้เกิดแผลที่อวัยวะเพศ และต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตบางครั้งมีหนองไหลออกมาที่เรียกว่าฝีมะม่วง
      - หากม่รักษาจะเ็น สาเหตุให้เกิดการติดเชื้อ HIV ได้ง่าย
    - - เชื้ออื่นๆก็อาจทำให้เกิดการอักเสบตามตำแหน่งดังกล่าวได้ เช่นการอักเสบจากเชื้อ Streptococci,Staphylococci,Clostridium หลังการคลอด และการทำแท้ง
  - - - ติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์
      - รอยโรคเป็นตุ่มใสและแตกเป็นแผลที่บริเวณปากช่องคลอด
      - มักเป็นๆ หายๆ (recurrennt)
      - อาจติดต่อไปยังทารกในครรภ์ได้โดยเฉพาะขณะคลอดถ้าเด็กติดเชื้ออาจมีอาการรุนแรงได้
    - - ทำให้เกิดรอยโรค Condyloma acuminatum ได้ทั้งที่บริเวณปากช่องคลอด ช่องคลอด และปากมดลูก
      - มีลักษณะขรุขระคล้ายหงอนไก่ บางชนิดมีความสัมพันธ์กับ precancerous lesion (รอยโรคก่อนเกิดมะเร็ง)
  - - - ทำให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุช่องคลอด
      - ผู้ป่วยจะมี ระดูขาว เป็นน้ำสีเหลืองอมเขียว และมีอาการคันปากช่องคลอด
- - - - เตี้ย คอสั้น หน้าอกกว้าง
      - ที่บริเวณคอเป็นพังผืดกางเป็นปีก
      - ทำให้เป็นหมัน
      - สติปัญญาต่ำกว่าปกติ
  - - - ทำให้เกิดภาวะ กระบังลมหย่อน
      - ผนังด้านหน้าของช่องคลอดหย่อนจนกระเพาะปัสสาวะโป่งเข้ามาในช่องคลอด เรียกว่า Cystocele
      - ผนังด้านหลังหย่อนจน rectum โป่งเข้ามาในช่องคลอดเรียกว่า Rectocele หรือปากมดลูกเคลื่อนต่ำลงเรียกว่า descensus cervicis
- - - - การผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่21 Down’s syndrome
        และที่พบบ่อยได้แก่ trisomy ที่ 13,16,18
      - มารดามีการติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
      - ความผิดปกติของการทำงานของต่อมไร้ท่อ
      - ภาวะขาดฮอร์โมน progesterone ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่แข็งแรง เป็นผลต่อการฝังตัวของทารก
      - ภาวะพร่องทางโภชนาการ (Malnutrition) และการสูบบุหรี่
  - - - ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูก ปากมดลูกปิดอยู่
      - การตั้งครรภ์สามารถดำเนินต่อได้
    - - ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูก และมีการเปิดขยายของปากมดลูกร่วมด้วย โดยยังไม่มีผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์หลุดออกมา
    - - ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูกและผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์ทั้งหมดหลุดออกมา ได้แก่ ถุงน้ำคร่ำ น้ำคร่ำ รก และทารก จากนั้นปากมดลูกจะปิด
    - - ภาวะที่มีเลือดออก และผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์หลุดออกมาบางส่วนปากมดลูกยังเปิดอยู่ เนื่องจากยังออกมาไม่ครบ
    - - ภาวะที่ทารกเสียชีวิตอยู่ในครรภ์เป็นเวลาหลายวัน โดยที่ปากมดลูกยังปิดอยู่
      - อาจส่งผลให้มารดาติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
- - - - ติดเชื้อที่ไม่ใช่จากเพศสัมพันธ์
        
        E. coli, Staphylococcus,Pseudomonas ติดต่อผ่านทางลำไส้(ทางอุจจาระ)หรือทางไตหรือทางกระเพาะปัสสาวะ
      - ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
        
        โรคหนองใน หรือโกโนเรีย (Gonococcal urethritis)
        
        เชื้อที่ไม่ใช่หนองใน เช่น โรคเริม โรคซิฟิลิส โรคหนองในเทียม ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี
  - - - การใส่สายสวนท่อปัสสาวะ
      - โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะโรคหนองใน
      - อุบัติเหตุและอภัยนตรายต่อท่อปัสสาวะ
      - เกิดภายหลังการผ่าตัดต่อมลูกหมาก การผ่าตัดนิ่วในไต
- - - - Scrotal sac
      - Penis
    - - Testis (Testes)
      - Epididymis
      - Vas deferens
      - Ejaculatory ducts
      - Seminal Vesicles
      - Prostate gland
      - Bulbourethral’s gland
  - - - Mons pubis (เนินหัวหน่าว)
      - Clitoris (คลิตอริส)
      - Labia majora (แคมใหญ่):pudendal cleft
      - Labia minora (แคมเล็ก):vestibule
      - Urethral opening
      - Vaginal opening
      - Vestiblular gland (ต่อมเวสติบูลา)
    - - Vagina (ช่องคลอด)
      - Uterus (มดลูก)
      - Ovaries (รังไข่)
      - Uterine tubes/Follopian tube/Oviducts (ท่อนำไข่)