Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

โรคระบบสืบพันธุ์, นางสาวพลอยสวย ทองอินทรี เลขที่51 รหัส63123301095 …

- - - - เป็นแต่กำเนิด บริเวณที่หนังหุ้ม penis คลุมอยู่จะสกปรกเป็นที่สะสมสิ่งขับถ่ายและเกิดการติดเชื้อ
        
        การเกิดภายหลัง มักมีสาเหตุจากการอักเสบหรือจากความบอบช้ำของหนังหุ้ม Penis ทำให้บริเวณรูเปิดเกิดการบวมน้ำและเปิดผลทำให้รูเปิดตีบลง
  - - - การรักษาสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศที่ไม่ดี
        
        การติดเชื้อโดยทั่วไปมักเกิดจากการติดเชื้อของยีสต์แคนดิดา
        
        โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
        
        การแพ้และระคายเคือง
    - - มีอาการแดง เจ็บ คัน และระคายเคืองบริเวณส่วนปลายของอวัยวะเพศ
        
        รู้สึกเจ็บขณะปัสสาวะ
        
        มีหนองหรือน้ำสีเหลืองข้นไหลออกมาจากปลายอวัยวะเพศ
        
        อวัยวะเพศมีกลิ่นเหม็น
        
        ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง อาจไม่สามารถร่นหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศขึ้นและลงได้ตามปกติ
  - - - แบคทีเรีย เช่น chancroid (แผลริมอ่อน) Gonorrhea (หนองใน)
        
        เชื้อไวรัส เช่น condyloma acuminatum (หูดหงอนไก่) เริม HPV
        
        เชื้อปรสิต เช่น โลน หิด พยาธิช่องคลอด
        
        เชื้อรา เช่น เชื้อราในช่องลอด
  - - - การบาดเจ็บ อับเสบ บวม ของเซลล์เยื่อเมือกบุท่อปัสสาวะเกิดได้จากหลายสาเหตุ
        
        พบบ่อยที่สุด คือ จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะจากเชื้อแบคืีเรีย
      - สาเหตุ
        
        โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
        
        โรคหนองใน หรือโกโนเรีย Gonococcal urethritis
        
        เชื้อที่ไม่ใช่หนองใน เช่น โรคเริม โรคซิฟิลิส โรคหนองใน เทียมจาก protozoa ชื่อ trichomonas และจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี
        
        การติดเชื้อที่ไม่ใช่จากเพศสัมพันธ์
        
        ติดต่อผ่านทางลำไส้ (ทางอุจจาระ) หรือทางไตหรือทางกระเพาะปัสสาวะ
- - - - เกิดจากการเสื่อมของลิ้นในหลอดเลือดดำที่มีหน้าที่ช่วยในการไหลเวียนของเลือดจากอัณฑะและถุงอัณฑะให้ไหลกลับสู่หัวใจผิดปกติหรือล้มเหลว
      - เมื่อเลือดดำกลับเข้าสู่หัวใจได้น้อย หรือไม่ได้เลือดจึงคั่ง ส่งผลให้หลอดเลือดโป่งพอง อัณฑะขยายใหญ่ขึ้น
  - - - เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
        
        ผู้ใหญ่
        
        Chlamydia trachomatis และ Neisseria gonorrhoeae
        
        ผู้สูงอายุ
        
        E.coli และ Pseudomonas spp.
        
        อาจมาจากโรคติดเชื้อภายในร่างกาย เช่น โรคคางทูม
        
        เด็ก
        
        gram-negative bacilli
    - - พบลูกอัณฑะ บวมโต หลอดเลือดที่อวัยวะและบริเวณใกล้เคียงขยายใหญ่ และ มีเลือดคั่ง
      - พบเซลล์อักเสบจำพวก neutrophile,macrophages และ lymphocytes กระจัดกระจายทั่วไปและแทรกเข้าไปตามเนื้อเยื่อของอวัยวะของ Epididymis และลามเข้าไปในเนื้อเยื่อของลูกอัณฑะ
        โดยเฉพาะเข้าไปที่หลอดสร้างอสุจิ
      - ทำให้บริเวณระหว่างเนื้อเยื่อของลูกอัณฑะเกิดการบวมน้ำ
      - ในกรณีการอักเสบรุนแรง เกิดเป็นฝีหนอง
- - - - สาเหตุจากการติดเชื้อที่มาจากการอักเสบของทางเดินปัสสาวะส่วนปลาย หรือกระเพาะปัสสาวะ
  - - - พบค่อนข้างบ่อย ส่วนมากพบในผู้สูงอายุ
      - การติดเชื้อเช่นเดียวกับการที่พบในการอักเสบชนิดเฉียบพลัน
      - ผู้ป่วยมีอาการเรื้อรัง เช่น ปวดหลัง บริเวณบั้นเอว ปวดบริเวณหัวเหน่า เเละถ่ายปัสสาวะลำบาก
- - - - การติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      - อาการแทรกซ้อน : เชื้ออาจลุกลามเข้า Bartholin glan ที่แคมใหญ่เกิดBartholinitis หรือเป็นฝี(Bartholin abscess) อาจทำให้มดลูกอักเสบ(Endocervicitis)และถ้าเชื้อลุกลามมากๆ จะทำให้เกิดเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ(Endometritis)และท่อนำไข่อักเสบ(Salpingitis)
      - ถ้าการอักเสบลุกลามไปถึงท่อนำไข่และกระจายเข้าไปในอุ้มเชิงกราน เรียกว่าPelvic Inflammatory(PIN)
      - หากเป็นมากอาจทำให้มีหนองขังอยู่ระหว่างfallopian tube กับovary เรียกว่า Pelvic abscess
      - ถ้าเชื้อกระจายมากขึ้นก็ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุอุ้งเชิงกราน(Pelvic peritonitis)หรือกระจายไปทั่วช่องท้อง หลังการอักเสบจะมีพังผืดดึงรั้งท่อนำไข่ เกิดการตีบตัน ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก(infertility)
    - - พยาธิกำเนิด
        
        ระยะที่2 หรือระยะเข้าข้อออกดอก (secondary syphilis)
        
        ระยะที่3 หรือระยะทำลาย (teriary syphilis)
        
        ระยะที่1 หรือระยะเป็นแผล (primary syphilis)
      - เชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum ติดต่อโดยการร่วมเพศ โดยเข้าทางรอยถลอก หรือไชเข้าเยื่อบุผิวท่อปัสสาวะ ทวารหนัก ช่องคลอด และช่องปาก สามารถระฝักษาหายเองได้ ถ้าหญิงตั้งครรถ์เป็นจะถ่ายทอดสู่ลูกได้
    - - เชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรค Hemophilus ducreyi
      - เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคนี้ติดต่อโดยง่าย แต่ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้
      - ทำให้เกิแผลที่อวัยวะเพศและต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต บางครั้งมีหนองไหลออกมาที่เรียกว่าฝีมะม่วง
      - หากไม่รักษา จะเป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อHIV ได้ง่าย
      - Non-specific infection เชื้ออื่นๆก็อาจทำให้เกิดการอักเสบตามตำแหน่งดังกล่าวได้ เช่นการอักเสบจากเชื้อStreptococci,Staphylococci,Clostridium หลังการคลอดและการทำแท้ง
  - - - ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      - ตุ่มใสและแตกเป็นแผลบริเวณปากช่องคลอด
      - อาจติดต่อไปยังทารกในครรภ์ได้โดยเฉพาะขณะคลอด
    - - มีลักษณะขรุขระคล้ายหงอนไก่
      - มีความสัมพันธ์กับ precancerous lesion รอยโรคก่อนเกิดมะเร็ง
  - - - เกิดการอักเสบที่เยื่อบุปากช่องคลอดและช่องคลอด เรียก candidiasis
      - อาการ : เยื่อบุมีสีแดง ระดูขาวจับเป็นก้อนและมีอาการคัน
    - - การอักเสบที่ผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดและมักเป็นบริเวณขาหนีบ เรียก Tinea cruris
  - - - เกิดการอักเสบที่เยื่อบุช่องคลอด ทำให้มีระดูขาวสีเหลืองอมเขียว และมีอาการคันปากช่องคลอด
- - - - เกิดจากเชื้อไดวรัสตัวหนึ่งที่ชื่อว่า HPV (Human Papilloma Virus)ภาษาไทยเรียกกันว่า ไวรัสหูด
      - ติดต่อจากการสัมผัส ส่วนใหญ่เป็นการสัมผัสทางเพศสัมพันธ์
      - ทำให้มีรอยถลอกของผิวหรือเยื่อบุ และเชื้อไวรัสจะเขาไปที่ปากมดลูกทำให้มดลุกมีการเปลี่ยนของเนื้อเยื่อ
      - Stage Of CA Cervix
        
        Stage I เซลล์มะเร็งอยู่เฉพาะที่ปากมดลูก การรักษา มะเร็งปากมดลูก ระยะ 1 คือผ่าตัดใหญ่ ผ่าตัดมดลูก เลาะต่อมน้ำเหลืองใน เชิงกรานได้ผลดีถึง80%
        
        Stage II เซลล์มะเร็งกระจายออกจากปากมดลูก ไปที่ตัวมดลูก แต่ก็ไม่สามารถผ่าตัดได้ การรักษามะเร็งปากมดลูกระยะท่ี 2 นี้ ต้องรักษาด้วยการฉายรังสี และการให้เคมี บาบัด (คีโม) ได้ผลราว 60%
        
        StageIII เซลล์มะเร็งกระจายไปที่ผนังช่องเชิงกรานการ รักษา คือใช้รังสีรักษา และการให้เคมีบาบัด การรักษาระยะนี้ ได้ผลประมาณ 20-30%
        
        StageIV เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งกระจายทั่วร่างกายการ รักษา คือการให้คีโม และรักษาตามอาการ โดยหวังผลได้เพียง 5-10% และโอกาสรอดน้อยมาก
    - - Leiomyoma
      - เป็นก้อนมีขอบเขตชัดเจน เกิดขึ้นในตำแหน่งที่มีกล้ามเนื้อเรียบอยู่
      - เจริญเร็วถ้ามีฮอร์โมนเอสโตรเจนกระตุ้น
      - จะเล็กลงเมื่อเข้าสู้วัยหมดประจำเดือน
    - - ภาวะที่เยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ผิดที่
      - อยู่ในอุ้งเชิงกรานเรียกPelvice ndometriosisเกิดเป็นcyst เรียก Chocolate cyst
      - อยู่ผนังมดลูกในชั้นกล้ามเนื้อเรียก Adenomyosis
        ทำให้มดลูกมีขนาดโตขึ้น
      - มีอาการปวดท้องมากเวลามีประจำเดือน
      - อาจเกิดการดึงรั้งของพังผืดที่เกิดจากเลือดออกนาน
- - - - เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ
        
        ปกติ Endometriumจะมีการเปลี่ยนแปลงตามอิทธิพลของฮอร์โมนEstrogenและProgesteroneถ้าเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมน เนื่องจากไม่มีการตกไข่ ทำให้ไม่มีProgesteroneออกมา มีแต่Estrogenอย่างเดียว เยื่อบุโพรงมดลูกจะไม่เปลี่ยนเป็น secretory endometrium
        
        Endometrium หนาตัวมากขึ้นจนถึงระดับหนึ่งซึ่งเกินกำลังที่estrogen จะช่วยให้เจริญต่อไปได้ เยื่อบุบางส่วนจะหลุดออกและมีเลือดออกกระปริกระปรอย
  - - - ความผิดปกติของโครโมโซม
      - มารดามีการติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
      - มีความผิดปกติของการทำงานของต่อมไร้ท่อ
      - ภาวะพร่องทางโภชนาการ
      - ภาวะขาดฮอร์โมนProgesteroneหรือภาวะ Luteal phase defect เป็นภาวะที่มีการสร้างprogesteroneจาก Corpus luteumน้อยลง ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่แข็งแร
        หรือมีการสลายตัวของเยื่อบุโพรงมดลูกจึงเป็นผลต่อการฝังตัวของทารก
      - การสูบบุหรี่ เป็นผลทำให้หลอดเลือดที่รกเสื่อมสภาพ ทรากได้รับสารอาหารน้อยลงไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต ทารกอาจเกิดภาวะเจริญเติบโตช้าในครรภ์ เกิดความพิการหรือการแท้งได้
  - - - ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูกและผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์ทั้งหมดหลุดออกมา อันได้แก่ ถุงน้ำคร่ำ น้ำคร่ำ รกและทารก หลังจากนั้นปากมดลูกจะปิด
    - - ภาวะที่มีเลือดและผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์หลุดออกมาบางส่วนและปากมดลูกจะยังเปิดอยู่เนื่องมาจาก ผลิตภัณฑ์จากการตั้งครรภ์ยังออกมาไม่ครบ
    - - ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูกและมีการเปิดขยายของปากมดลูกร่วมด้วย โดยที่ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์หลุดออกมา
    - - ภาวะที่ทารกเสียชีวิตอยู่ในครรภ์เป็นเวลาหลายวัน โดยที่ปากมดลูกจะยังปิดอยู่ไม่มีผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์หลุดออกมา
      - ภาวะนี้อาจส่งผลให้มารดาติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
    - - ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูกแต่ปากมดลูกยังปิดอยู่
      - การตั้งครรภ์สามารถดำเนินต่อไปได้โดยทารกมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากไม่มีผลิตภัณฑ์ของการตั้งครรภ์หลุดออกมา