Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Reproductive System disease - Coggle Diagram

- - - - ท่อพักอสุจิ ( Epididymis)
      - ท่อนำอสุจิ (Vasdeferens)
      - ท่อฉีดอสุจิ (Ejaculatory duct)
      - ท่อปัสสาวะ(Urethra)
    - - ถุงน้ำอสุจิ (Seminal vesicle)
      - ต่อมลูกหมาก (Prostate gland)
      - ต่อมคาวเปอร์ (Cowper’s gland)
- - - - การบาดเจ็บ อักเสบ บวม ของเซลล์เยื่อเมือกบุท่อปัสสาวะ
      - สาเหตุ
        
        ติดทางเพศสัมพันธ์
        
        โรคหนองใน หรือโกโนเรีย (Gonococcal urethritis) และไม่ใช่หนองใน เช่น โรคเริม โรคหนองในเทียม จากprotozoa ชื่อ Trichomona และHIV
        
        ติดเชื้อที่ไม่ใช่เพศสัมพันธ์
        
        E.coli ทางไต หรือกระเพาะปัสสาวะ
    - - เกิดเนื้อเยื่อพังผืดในท่อปัสสาวะหรือรอบท่อปัสสาวะ
      - เกิดการอุดกั้นของน้ำปัสสาวะ ต่อมาจะอักเสบ และติดเชื้อภายหลัง
      - สาเหตุ
        
        อุบัติเหตุต่อท่อปัสสาวะ
        
        ติดทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะโรคหนองใน
        
        การใส่สายสวน
        
        การผ่าตัดต่อมลูกหมาก ผ่าตัดนิ่วในไต
  - - - รูเปิดของUrethra เปิดที่ส่วนล่างของPenis
      - -พบรูเปิดที่ใดที่หนึ่ง ตลอดส่วนล่างของPenis ตั้งแต่หัวจนถึงบริเวณPerineum
    - - ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือโรคSTD (Sexually Transmitted Diseases)
      - ติดจากการมีเพศสัมพันธ์ เรียกว่า กามโรค หรือวีดี (Veneal disease)
      - ติดจากการร่วมเพศทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปาก
      - ติดจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง การติดต่อทางเลือด
      - เชื้อที่ทำใหเกิด
        
        แบคทีเรีย เช่น หนองใน แผลริมอ่อน
        
        เชื้อไวรัส เช่น หูดหงอนไก่ เริม HPV
        
        เชื้อปรสิต เช่น โลน หิด
        
        เชื้อรา เช่น เชื้อราในช่องคลอด
    - - อักเสบของปลายอวัยวะเพศชาย เกิดทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ขลิบ หรือมีสุขอนามัยที่ไม่ดี
      - มีอาการบวมอักเสบที่ปลายอวัยวะเพศ
      - สาเหตุ
        
        สุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศไม่ดี
        
        การติดเชื้อของยีสต์แคนดิดา
        
        ติดต่อทางเฑศสัมพันธ์
        
        แพ้หรือระคายเคือง
      - อาการ
        
        แดง เจ็บ คัน และระคายเคือง
        
        เจ็บขณะปัสสาวะ
        
        หนองไหลออกมาจากปลายอวัยวะเพศ
        
        อวัยวะเพศมีกลิ่นเหม็น
        
        รุนแรง
        
        ไม่สามารถร่นหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศขึ้น-ลงได้
    - - ผิดปกติส่วนปลายหนังหุ้มองคชาต รูเปิดเล็กเกินไป
      - ผิวหนังปลายองคชาตหดตัว ไม่สามารถดึงให้เปิดขึ้นได้
      - สาเหตุ
        
        เป็นแต่กำเนิด หนังหุ้มPenisคลุมจะสกปรกที่ สะสมสิ่งขับถ่ายและเกิดการติดเชื้อ
        
        มาจากากรอักเสบ หรือบอบช้ำของหนังหุ้มPanis บริเวณรูเปิดเกิดการบวมน้ำ และทำให้รูเปิดตีบลง
    - - รูเปิดUrethra เปิดที่ด้านบนของPenis พบร่วมกับความผิดปกติอื่นๆ
  - - - พยาธิสภาพ
        
        เป็นภาวะที่ testis ไม่เคลื่อนหรือเคลื่อนลงมาใน scrotal sac ไม่สมบูรณ์
        
        พบว่า testis มี atrophy ทำให้เป็นหมัน
        
        มีโอกาสเป็นมะเร็งของอัณฑะได้สูงกว่าคนปกติ
      - อาการ
        
        การไม่มีหนึ่งหรือสองอัณฑะในถุงอัณฑะ hypoplasia ของมัน(หรือครึ่งหนึ่ง) ถูกเปิดเผย
        
        การขาดการสะท้อนครูค ชายหนุ่มและชายอาจมีอาการ hypogonadism
        
        spermatogenesis บกพร่องและภาวะมีบุตรยาก
      - ไม่ทราบสาเหตุของการเกิด
    - - พยาธิสภาพ
        
        เป็นภาวะที่หลอดเลือดดำในถุงอัณฑะบวมหรือขยายตัวขึ้น
        
        อาจส่งผลให้อัณฑะผลิตอสุจิได้น้อยและอสุจิมีคุณภาพต่ำลง
        
        อาจทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากหรือส่งผลให้ลูกอัณฑะหดตัวลง
        
        พบถุงอัณฑะข้างหนึ่งโต หรือมีอาการปวดหน่วง ๆ ที่อัณฑะข้างหนึ่งเป็นครั้งคราว
      - อาการ
        
        มีก้อนบวมที่อัณฑะข้างใดข้างหนึ่ง และอัณฑะข้างหนึ่งอาจมีขนาดเล็กกว่าอีกข้างหนึ่ง
        
        หลอดเลือดดำบริเวณถุงอัณฑะขยายตัว บิดตัว หรือมีลักษณะคล้ายตัวหนอน
        
        ถุงอัณฑะบวม หรือมีอาการปวดตื้อ ๆ อยู่ภายใน
        
        เจ็บมากขึ้นเมื่อนั่ง ยืน หรือออกกำลังกายเป็นเวลานาน ๆ แต่อาการจะดีขึ้นเมื่อเอนตัวนอน
      - สาเหตุ
        
        เกิดจากการเสื่อมของลิ้นในหลอดเลือดดำที่มีหน้าที่ช่วยในการไหลเวียนของเลือดจากอัณฑะและถุงอัณฑะให้กลับสู่หัวใจผิดปกติหรือล้มเหลว
        
        เมื่อเลือดดำเข้าสู่หัวใจได้น้อย หรือไม่ได้ เลือดจึงคั่ง ส่งผลให้หลอดเลือดโป่งพอง อัณฑะขยายใหญ่ขึ้น
    - - พยาธิสภาพ
        
        เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในถุงอัณฑะ เนื่องจากถุงอัณฑะมีของเหลวตกค้างหลังการปิดถุง
        
        ถุงที่ล้อมรอบลูกอัณฑะปิดไม่สนิทจนทำให้ของเหลวจากท้องสามารถไหลเข้าไปสะสมในถุงอัณฑะ
        
        ส่งผลให้เกิดอาการบวมบริเวณถุงอัณฑะ รู้สึกอึดอัด และไม่สะดวกสบายในการใช้ชีวิต
        
        เป็นความผิดปกติเนื่องจากการคั่งของน้ำใน tunica vaginalis
      - อาการ
        
        ถุงน้ำในถุงอัณฑะมีลักษณะเป็นก้อนนิ่มและนูนบวมในอัณฑะข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างโดยไม่ยุบหายไป
        
        ในบางครั้งบริเวณที่มีอาการบวมอาจยุบลงในตอนเช้าและขยายใหญ่ขึ้นได้ในระหว่างวัน
        
        หากเป็นกรณีที่ Hydrocele เกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่อาจก่อให้เกิดความอึดอัดและไม่สะดวกสบาย เนื่องจากน้ำที่ถ่วงน้ำหนักในบริเวณถุงอัณฑะ
      - สาเหตุ
        
        ถุงน้ำอัณฑะชนิดไม่ติดต่อกับช่องท้อง เป็นภาวะที่มีของเหลวค้างอยู่ในถุงอัณฑะหลังจากที่ถุงปิด แต่ของเหลวดังกล่าวไม่ถูกดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกาย
        
        ถุงน้ำอัณฑะชนิดมีทางติดต่อกับช่องท้อง เกิดขึ้นเนื่องจากถุงน้ำที่ล้อมรอบลูกอัณฑะยังคงเปิดอยู่ ส่งผลให้ของเหลวสามารถเข้าและออกภายในถุงดังกล่าวได้ มักพบในทารกที่คลอดก่อนกำหนด
    - - พยาธิสภาพ
        
        ลูกอัณฑะ มีลักษณะ บวมโต
        
        หลอดเลือด ที่อวัยวะ และ บริเวณใกล้เคียง ขยายใหญ่ และมี เลือดคั่ง
        
        หลอดสร้างอสุจิ ถูกทำลาย และ มีจำนวนลดลง
        
        ถ้าเป็นนาน และ เรื้อรัง จะเกิดเป็น เยื่อ fibrous หรือ hyaline แทรกอยู่ ระหว่าง หลอดสร้างอสุจิ ขัดขวาง การสร้างตัวอสุจิ และ การนำ เชื้ออสุจิ ออกสู่ภายนอก ผู้ป่วยเป็น หมันได้
      - อาการ
        
        ไข้หนาวสั่นมักจะพบในเด็ก ส่วนผู้ใหญ่พบได้ประมาณหนึ่งในสี่ของผู้ป่วย
        
        มีอาการปวดเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย
        
        อัณฑะมักจะบวมข้างหนึ่ง
        
        อาจจะมีอาการของท่อปัสสาวะอักเสบก่อนการปวดอัณฑะ
      - สาเหตุ
        
        สาเหตุสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยเจริญพันธ์คือเชื้อ C. trachomatis
        หรือ N. gonorrhoeae
        
        อาจจะเกิดจากเชื้ออื่นก็ได้ในกรณีที่ร่วมเพศทางทวารหนัก
        
        อาจจะเกิดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
        หรือการสวนท่อปัสสาวะ
    - - สาเหตุ
        
        เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
        
        ในเด็กมักพบเป็นชนิด Gram Negative Bacilli
        
        ผู้ใหญ่ มักเกิดจากเชื้อ Chlamydia trachomatis
        และ Neisseria gonorrhoeae
        
        ผู้สูงอายุ มักเป็นชนิด E.coli และ Pseudomonas spp.
        
        อาจเกิดเป็นผลตามมาจาก โรคติดเชื้อในร่างกายบางชนิด เช่น โรคคางทูม
      - พยาธิสภาพ
        
        พบลูกอัณฑะ บวมโต หลอดเลือดที่อวัยวะและบริเวณใกล้เคียงขยายใหญ่
        
        มีเลือดคั่ง เซลล์อักเสบจำพวก Neutrophils,Macrophages และ Lymphocytes พบกระจัดกระจายทั่วไปและแทรกเข้าไปตามเนื้อเยื่อของอวัยวะ Epididymis
        
        ลามเข้าไปในเนื้อเยื่อของลูกอัณฑะ โดยเฉพาะเข้าไปในหลอดสร้างอสุจิ (Seminiferous Tubule) ทำให้บริเวณระหว่างเนื้อเยื่อของลูกอัณฑะเกิดบวมน้ำ
        
        ในกรณีการอักเสบรุนแรง ทำให้เกิดเป็นหนองฝี
      - อาการ
        
        อาการปวดอัณฑะแบบค่อยๆปวด และมีอาการบวมอัณฑะก่อนมาโรงพยาบาลหลายวัน
        
        อัณฑะมักจะบวมข้างหนึ่ง
        
        มีอาการปวดเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย
        
        ไข้หนาวสั่นมักจะพบในเด็ก ส่วนผู้ใหญ่พบได้ประมาณหนึ่งในสี่ของผู้ป่วย
        
        ไม่ค่อยมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน
        
        อาจจะมีอาการของท่อปัสสาวะอักเสบก่อนการปวดอัณฑะ
  - - - acute prostatitis
        
        สาเหตุ
        
        สาเหตุส่วนใหญ่จากการติดเชื้อแบคทีเรีย
        ในระบบทางเดินปัสสาวะโดยผ่านจากท่อปัสสาวะเข้าสู่ต่อมลูกหมาก
        
        เกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
        
        การติดเชื้อจากการตรวจวินิจฉัยโรคอื่นที่เกี่ยวข้องกับต่อมลูกหมาก
        
        การตรวจอัลตราซาวนด์ต่อมลูกหมากผ่านทางทวารหนัก
        
        การตัดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากออกไปตรวจ
        
        อาการ
        
        ไข้สูง
        
        หนาวสั่น
        
        คลื่นไส้ อาเจียน
        
        อาจมีติดเชื้อในกระแสเลือด
        
        ปัสสาวะบ่อย
        
        แสบขัดขณะปัสสาวะ
        
        พยาธิสภาพ
        
        ต่อมลูกหมากจะโต นุ่มและบวมน้ำ/เลือดั่ง
        
        พบเซลล์อักเสบที่ต่อมลูกหมาก
        
        ต่อมลูกหมาก ผลิตน้าเมือกมากขึ้น
        ทำให้ภายในขยายขนาดขึ้น
      - chronic prostatitis
        
        อาการ
        
        ปัสสาวะบ่อย
        
        แสบขัดขณะปัสสาวะ
        
        ปัสสาวะไม่สุด
        
        ปัสสาวะไม่พุ่ง
        
        ใช้เวลาในการเบ่งปัสสาวะ
        
        ปัสสาวะขุ่นหรือมีเลือดปน
        
        ปวดหลัง บริเวณบั้นเอว
        
        ปวดบริเวณหัวเหน่า
        
        ส่วนมากพบในผู ป่วยสูงอายุ
        
        อักเสบที่มีอาการนานเกินกว่า 3 เดือน
        
        สาเหตุ
        
        การติดเชื้อแบคทีเรีย
        
        ผู้ป่วยอาจเป็นโรคต่อมลูกหมากอักเสบเฉียบพลัน
        มาก่อนแต่รับประทานยาไม่ครบถ้วนตามระยะเวลา
        จึงมีอาการเรื้อรังเป็นๆ หายๆ
    - - พบในชายอายุตั้งแต่ 50ปีขึ้นไป
      - อาการ
        
        ปัสสาวะไม่พุ่ง ไหลช้า
        
        ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้
        
        ใช้เวลาในการเบ่งปัสสาวะ
        
        ปัสสาวะไม่สุด
        
        ปัสสาวะบ่อย ห่างกันไม่เกิน 2 ชั่วโมง
      - เมื่ออายุมากขึ้นต่อมลูกหมากจะค่อยๆ โตขึ้น
      - ต่อมลูกหมากซึ่งอยู่ล้อมรอบท่อปัสสาวะมีขนาดโต
        และไปกดเบียดท่อปัสสาวะให้แคบลง
        ทำให้เกิดการอุดกลั้นท่อทางเดินปัสสาวะ
- - - - ความผิดปกติของโครโมโซม เช่น Down's syndrom(ผิดปกติคู่ที่ 21) พบบ่อย คือ trisomy คู่ที่ 13,16,18
      - มารดาติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
      - มีความผิดปกติของการทำงานของต่อมไร้ท่อ เช่น โรคเบาหวาน
      - ภาวะขาดฮอร์โมน progessteron เนื่องจาก corpus luteum สร้างฮอร์โมนน้อยลง ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่แข็งแรง
      - การสูบบุหรี่เป็นผลทำให้หลอดเลือดที่รกเสื่อมสภาพ
      - ภาวะพร่องโภชนาการ(Malnutrition)
  - - - ไม่มีการตกไข่=ไม่มี Progesterone ออกมามีแต่ Estrogen อย่างเดียว เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เปลี่ยนเป็น secretory endometrium
      - endometrium หนาตัวมากจนเกินกำลัง estrogen จะช่วยให้เจริญต่อไปได้ เยื่อบุบางส่วนจะหลุดลอกและมีเลือดออกกรพปริกระปรอย
  - - - ภาวะที่ทารกเสียชีวิตในครรภ์เป็นเวลาหลายวัน
      - ปากมดลูกยังปิดอยู่ เพราะ ไมม่มีผลิตภัณฑ์การตั้งครรภ์หลุดออกมา
      - ภาวะนี้อาจส่งผลให้มารดาติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเป็นอันตรายแก่ชีวิต
    - - ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูกและผลิตภัณฑ์การตั้งครรภ์หลุดออกมา ได้แก่ ถุงน้ำคร่ำ น้ำคร่ำ รก ทารก
      - ปากมดลูกปิดหลังากที่ผลิตภัณฑ์การตั้งครรภ์หลุดออกมา
    - - ภาวะที่มีเลือดและผลิตภัณฑ์การตั้งครรภ์หลุดออกมาบางส่วน
      - ปากมดลูกยังเปิดอยู่ เพราะ ผลิตภัณฑ์จากการตั้งครรภ์ยังออกมาไม่ครบ
    - - ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูกและมีการเปิดขยายของปากมดลูกร่วมด้วย
      - ไม่มีผลิตภัณฑ์การตั้งครรภ์หลุดออกมา
    - - ภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงมดลูก แต่ปากมดลูกยังเปิดอยู๋
      - การตั้งครรรภ์ดำเนินต่อไปได้โดยทารกมีความปลอดภัยสูง
      - ไม่มีผลิตภัณฑ์การตั้งครรภ์หลุดออกมา
- - - - :
  - - - ไม่มีรังไข่ทำให้เป็นหมัน เตี้ย คอสั้น หน้าอกกว้าง กระดูกอกกว้างแบน หัวนมห่าง ที่บริเวณคอเป็นพังผืดกางเป็นปีก
      - ไม่มีประจำเดือน และระดับสติปัญญาต่ำกว่าปกติ
  - - - มักพบที่บริเวณ Vulva
    - - เช่น การร่วมเพศครั้งแรกหรือมีการร่วมเพศอย่างรุนแรง อาจพบรอยฉีกขาดที่ hymen หรือผนังช่องคลอดโยเฉพาะบริเวณรอบๆ cervix เรียกว่า fornix
    - - อาจทำให้เกิดรอยฉีกขาดของช่องทางคลอดได้ เช่น ปากมดลูก ผนังช่องคลอด ปากช่องคลอด
        
        การฉีกขาดเช่นนี้มักจะมีเลือดออกและจะได้รับการเย็บรอยฉีกขาดหลังจากคลอดเสร็จ
    - - ผนังด้านหน้าของช่องคลอดหย่อนจนกระเพาะปัสสาวะโป่งเข้ามาในช่องคลอด เรียกว่า Cystocele
      - ผนังด้านหลังหย่อนจน rectum โป่งเข้ามาในช่องคลอด เรียกว่า Rectoclele
      - ปากมดลูกเคลื่อนต่ำลงมาจากตำแหน่งปกติ เรียกว่า descensus cervicis
      - ทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า กระบังลมหย่อน
- - - - ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      - เชื้ออาจลุกลามไปที่แคมใหญ่ เกิด Bartholinitis หรือเป็นฝี อาจทำให้มดลูก หรือเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ
      - ถ้าเข้าไปถึงท่อนำไข่ และอุ้งเชิงกราน เรียก PID อาจทำให้มีหนองขัง ถ้าเชื้อกระจายมากจะเกิดการอักเสบของเยื่อบุอุ้งเชิงกราน หลังการอักเสบจะมีผังผืดรั้งท่อนำไข่เกิดการตีบตีน ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก Infertility
    - - เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค Syphilis ติดต่อการร่วมเพศ เชื้อจะเข้าทางรอยถลอก หรือบาดแผล
      - สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้าปล่อยไว้เชื้อจะเข้าสู่ระบบต่างๆของร่างกาย ถ้าผู้หญิงเป็นโรคนี้ขณะตั้งครรภ์มีโอกาสถ่ายทอดเชื้อสู่ทารกได้
    - - เป็นเชื้อที่ก่อโรค Chancroid หรือแผลริมอ่อน เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สามารถรักษาให้หายขาดได้
      - หากไม่รักษา จะเป็นสาเหตุการติดเชื้อ HIV ได้
      - เกิดแผลที่อวัยวะเพศ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต บางครั้งมีหนองไหลออกมาเรียกว่า ฝีมะม่วง
    - - เป็นเชื้ออื่นๆที่ทำให้เกิดการอักเสบตามตำแหน่ง เช่น Streptococci,Staphylococci,Clostridium หลังการคลอดและการทำแท้ง
  - - - ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      - อาจติดต่อไปยังทารกในครรภ์ได้โดยเฉพาะขณะคลอด ถ้าเด็กติดเชื้ออาจะมีอาการรุนแรง
      - รอยโรคเป็นตุ่มใสและแตกเป็นแผลที่บริเวณปากช่องคลอด
      - มักเป็นๆหายๆ
    - - เกิดรอยโรค condyloma acuminatum ได้ที่บริเวณปากช่องคลอด ช่องคลอด และปากมดลูก
      - ลักษณะขรุขระคล้ายหงอนไก่ บางชนิดมีรอยโรคก่อนเกิดมะเร็ง(precancerous lesion)
  - - - ทำให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุปากช่องคลอด และช่องคลอด เรียกว่า Candidiasis เยื่อบุจะมีสีแดง ระดูขาวจับกันเป็นก้อน มีอาการคัน
    - - ทำให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนังบริเวณขาหนีบ เรียกว่า Tinea cruris
  - - - ทำให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุช่องคลอด
      - ผู้ป่วยจะมีระดูขาว เป็นน้ำสีเหลืองอมเขียวและมีอาการคัดปากช่องคลอด
- - - - มีการขัดขวางการเดินทางของ Ovum ที่ถูกผสมด้วย sperm เเล้วไม่ให้มาถึงโพรงมดลูก
      - ที่พบบ่อย ได้เเก่ Tubal pregnancy
  - - - จากความผิดปกติหลังการผสมไข่เเละอสุจิ
      - ทำให้เหลือเเต่โครโมโซมอสุจิ ไม่มีตัวอ่อน
      - มีเลือดออกเเละเเท้ในที่สุด
  - - - เกิดจากเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) ,ไวรัสหูด
        
        ติดต่อจากการสัมผัส ส่วนใหญ่เป็นการสัมผัสทางเพศสัมพันธ์
        
        ทำให้ มีรอยถลอกของผิวหรือเยืรอบุเเละเชื้อไวรัสจะเข้าไปที่ปากมดลูก ทำให้ปาดมดลูกมีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อ,เซลล์ จากปากมดลูกปกติ ~> ระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก
  - - - การรักษา
        
        ระยะที่ 1 ~> การผ่าตัด ผ่าตัดมดลูก เลาะต่อมน้ำเหลืองในเชิงกราน ได้ผลดีถึง 80%
    - - การรักษา
        
        การฉายรังสี เเละการให้เคมีบำบัด (คีโม) ได้ผลราว 60%
    - - การรักษา
        
        ใช้รังสีรักษา ,ใช้เคมีบำบัด ได้ผลประมาณ 20-30%
    - - การรักษา
        
        ให้คีโมเเละรักษาตามอาการ โดยหวังผลได้เพียง 5-10% และโอกาสน้อยมาก
  - - - เป็นก้อนขอบเขตชัดเจน เกิดขึ้นในตำเเหน่งที่มีกล้ามเนื้อเรียบอยู่
      - เจริญเร็ว ถ้ามีฮอร์โมนเอสโตรเจนกระตุ้น
      - จะเล็กลงเมื่อเข้าสผึ่วัยหมดประจำเดือน
  - - - ทำให้มดลูกมีขนาดโตขึ้น