Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

โรคระบบต่อมไร้ท่อ, ต่อมหมวกไตด้านใน Adrenal meddulla - Coggle Diagram

- - - - Cushing’s syndrome เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากร่างกายมีฮอร์โมน Glucocorticiod หรือ Cortisal มากเกินไป
        
        Pathogenesis การเกิดโรค latrogenic disease (โรคหมอทำ) เกิดจากการติดเชื้อโดยการกระทำของแพทย์ เช่นได้รับ Dexamethasone คือ เป็นยากลุ่ม steroid ทำหน้าที่ป้องกันการหลั่งสารที่ทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย หรือ Prednisolone เป็นเวลานาน
        
        มีการหลั่ง ACTH มากกว่าปกติ
  - - - มีอาการซูบผอมรับประทานอาหารไม่ได้อาเจียน และ ท้องเสีย
      - สูญเสียการรักษาสมดุลของแร่ธาตุทำให้สับสน และ ถึงแก่ความตายได้
- - - - testis
        
        อัณฑะนอกจากผลิตอสุจิแล้วยังทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนเพศชาย
        
        กระดูกใหญ่ขึ้น ไหล่ กนะดูกหน้าอกกว้างขึ้น
        
        อสุจิ น้ำอสุจิ
        
        หนวดเครา
        
        เสียงแหบห้าว/ลูกกระเดือกใหญ่
  - - - รังไข่ทำหน้าที่ผลิตไข่และผลิตฮอร์โมนเพศหญิง
        
        การตกไข่
        
        สะโพกผาย
        
        เสียงแหลม
- - - - มีนิ่วในไตเนื่องจากแคลเซียมในปัสสาวะสูง
      - กล้ามเนื้ออ่อนแรง
      - กระหายน้ำและมีปัสสาวะออกมาก
      - เบื่ออาหาร ท้องผูก
    - - มีแคลเซียมในพลาสมา
      - ระดับฟอตเฟตในพลาสมาสูงขึ้น
    - - การกำจัดต่อมพาราไทรอยด์ ระหว่าง ต่อมไทรอยด์
      - ความบกพร่องแต่กำเนิด (DiGeorge syndrome)
  - - - กล้ามเนื้อกระตุก มีอาการชัก
      - รู้สึกชา เสียวแปลบๆ คล้ายมีเข็มมาทิ่มแทง
    - - ใช้เครื่องวัดความดันรัดแขน จนเกิด systolic pressure เพื่อบีบเส้นเลือดให้ตีบ กล้ามเนื้อจะขาดแคลเซียมไปเลี้ยง
      - จะเกิดอาการกล้ามเนื้อเกร็ง มือกระตุกงอภายใน 3 นาที เรียกอาการนี้ว่า Trousseau's sign
- - - - ความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมน เนื่องจากไม่มีการตกไข่
        ทำให้ไม่มีProgesteroneออกมา มีแต่Estrogenอย่างเดียว
        เยื่อบุโพรงมดลูกจะไม่เปลี่ยนเป็น secretory endometruim
        
        เมื่อendometriumหนาตัวขึ้นเรื่อยๆ
        Estrogenไม่สามารถช่ายให้เจริญได้
        เยื่อบุบางส่วนจะหลุดลอกและมีเลือดออกกระปริกระปรอย
  - - - ทำให้มีการดูดซึมน้ำกลับที่หลอดฝอยของไต ทำให้ปัสสาวะน้อย
      - กระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบในผนังหลอดเลือด
        ทำให้หลอดเลือดบีบตัว (vasoconstriction) ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น เรียกว่า vasopressin
    - - vasopressin deficienc)
        
        ปัสสาวะมาก (polyuria) อาจจะมากถึง5-30ลิตรต่อวัน
        ปัสสาวะประกอบด้วยน้ำเกือบทั้งหมด เรียกว่า โรคเบาจืด (Diabetes Insuipidus)
        
        ผู้ป่วยจะแสดงอาการกระหายและดื่มน้ำมาก(polydipsia)
        ถ้าไม่ได้น้ำจะแสดงอาการขาดน้ำ(Dehydration)จนหมดสติได้
      - vasopressinexcess
        
        ทำให้น้ำคั่งในร่างกายมาก Na ในพลาสมาต่ำ (Hyponatremia)
        อาจมีสาเหตุจากเนื้องอกในไฮโปธาลามัสหรือมีการกระทบกระเทือนต่อศีรษะ
        
        ผู้ป่วยจะมีอาการบวมทั่วตัวชนิดกดบุ๋ม (Pitting edema) เนื่องจากมีการคั่งของน้ำ
  - - - ถ้าoxytocinที่หลังตามโรรมชาติไม่เพียงพอ จะทำให้การคลอดล่าช้า แพทย์จะให้ oxytocinสังเคราะห์เพื่อกระตุ้นปากมดลูกขยายขึ้น
      - หากมดลูกได้รับการกระตุ้นให้มีการหดรัดตัวมากเกินไป อาจทำให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์ได้
      - หลังคลอด ถ้ามีฮอร์โมนไม่เพียงพออาจทำให้มดลูกหดรัดตัวไม่ดีพอที่จะไปบีบเส้นเลือดจะทำให้ผู้คลอดเสียเลือดมากจนถึงชีวิตได้
- - - - แทรกอยู่กับ follicular cells สร้างและหลัง calcitonin
      - Calcitonin
        
        เป็นโปรตีนฮอร์โมน
        
        สังเคราะห์จากต่อมไทรอยด์ โดย parafollicular cell (C-cell)
        
        ลดระดับแคลเซียมในกระแสเลือด
        
        การสังเคราะห์ calcitonin จะถูกควบคุมโดย ระดับของแคลเซียมและฟอสเฟตในกระแสเลือดจากต่อมพาราไทรอยด์
    - - จับไอโอดีนจากอาหารที่รับประทานเข้าไป นำไปรวมกับกรดอะมิโน เพื่อสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน T3 และ T4
  - - - ไทรอยด์เป็นพิษชนิดก้อนตะปุ่มตะป่ำ
        (Toxic multinodular goiter)
        
        เกิดจากก้อนของต่อมไทรอยด์ สร้างฮอร์โมนออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยตัวเอง โดยไม่ขึ้นกับระดับการกระตุ้นของ TSH
      - ไทรอยด์เป็นพิษชนิดก้อนเดี่ยว (Toxic nodule)
      - ชนิดโตทั่วไป (Graves’disease)
        
        ต่อมไทรอยด์โตทั้งต่อม
        
        มี LATS เกิดจาก lgG ทำปฏิกิริยากับ TSH Rc
        
        ภาวะที่มีภูมิต้านทานต่ำเกินไป กระตุ้นต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนออกมามาก
    - - เกิดจากการบวมหรือมีก้อนเนื้อในเบ้าตา
      - ดันลูกตาโปนออกมาด้านหน้า อาจเกิดขึ้นข้างเดียว หรือทั้ง2ข้างก็ได้
    - - การแยกกันของ nail plate กับ nail bed บริเวณส่วนปลายของเล็บ
  - - - พัฒนาการด้านสติปัญญาด้อยมาก เรียกกลุ่มอาการนี้ว่า โรคเอ๋อ Cretinism
    - - สารประกอบประเภทวุ้น เช่น hyaluronic acid และ chondroitin sulfate จับกับโปรตีนใต้ผิวหนังมากขึ้น
      - ผิวหนังบวมน้ำ หน้าบวม อ้วน สมองทำงานช้าลง ประจำเดือนผิดปกติ เรียกกลุ่มอาการนี้ว่า Myxedema
    - - เนื่องจาก thyroiditis เกิดจาก autoimmune
      - ทำให้มีอาการ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ตาและปากแห้ง
      - อาจมีอาการซึมเศร้าได้ เรียกโรคนี้ว่า Hashimoto’s thyroiditis
- - - - การขาดอินซูลิน
        
        กลูโคสเข้าเซลล์เนื้อเยื่อไม่ได้ทำให้ร่างกายเสมือนขาดอาหาร(starvation)ตับจึงสลายไกลโคเจนมายังหลอดเลือดทำให้ระดับน้ำตาลยิ่งสูงมากขึ้น (hyperglycemia)
    - - โรคเบาหวานชนิดพึ่งอินซูลิน (Insulin-dependent diabetes)
        
        สร้างอินซูลินไม่ได้เลยหรือได้น้อยมาก เช่ือว่าร่างกายมีการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นต่อต้านตับอ่อนของตัวเองจนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้ เรียกว่า "โรคภู ภูมิแพ้ตัวเอง”
        
        เกิดภาวะKetosis
      - โรคเบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน (non-insulin dependent diabetes)
        
        มีความุรนแรงน้อย
        
        ตับอ่อนยังสามารถสร้างอินซูลินได้แต่ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายจึงทำให้มีน้ำตาลที่เหลือใช้กลายเป็น โรคเบาหวานได้
        
        มักไม่เกิดภาวะคีโตซิส
        
        ระดับน้ำตาลสูงมากๆ ก็อาจต้องใช้อินซูลินฉีดเป็นครั้ง คราว
- - - - ผลิตมากเกิน ทำให้เติบโตผิดปกติสูงผิดปกติ เรียก "Gigantism"
      - ผลิตน้อย เตี้ยแคระแกรน เรียก "Dwarfism"
      - ขาด หน้าตาอ่อนกว่าอายุ รูปร่างเตี้ยสมส่วน อ้วนกลมเนื่องจากมีไขมันสะสมลำตัว ถ้าชาย อวัยวะเพศเล็กไม่สมวัย
      - ขาดไม่มีผล สติปัญญา
    - - ผลิตGHหรือสร้างGHมากเกินไป เกิดหลังจากสร้าง endochondral bone เรียบร้อยและ epiphysis ปิดแล้ว
        
        รูปร่างผิดปกติ คือ ผิวหนังหนา หน้าผากยื่น คางยื่น ลิ้นโตคับปาก อวัยวะภายในจะใหญ่ร่างกายเทอะทะ มือเท้าใหญ่ เรียก "Acromegaly"
  - - - มีขนาดเล็กมากทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน Melanocyte Stimulating Hormone (MSH) ทำหน้าที่ปรับสีของสัตว์เลือดเย็น ให้เข้มขึ้น (ทำหน้าที่ตรงข้ามกับ Malatonin จากต่อม pineal )ในสัตว์เลือดอุ่นมีหน้าที่ไม่แน่ชัด
    - - ไม่ได้สร้างฮอร์โมนได้เอง
      - เป็นกลุ่มเซลล์ของเนื้อเยื่อประสาทจาก hypothalamus ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนภายนอก แล้วลำเลียงมาไว้ที่ต่อมใต้สมองส่วนหลัง