Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเงินการคลังสุขภาพ (Health Care Financing) - Coggle Diagram
การเงินการคลังสุขภาพ
(Health Care Financing)
แนวคิดทางการเงินการคลังในระบบสุขภาพ
กระบวนการสนับสนับสนุนเงินให้กับสถาน
บริการสาธารณสุข (Process of funding health service)
เพื่อใช้ตามพันธกิจหลักและพันธกิจรอง เป้าหมาย (Gold) คือ สถานะ
สุขภาพของประชาชนดีขึ้นสูงสุด (Maximise health) อย่างถ้วนหน้า (Health for all)
ชุดสิทธิประโยชน์ (Benefit packages)
เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพ และไม่เกิดภาวะไม่มีเงินจากการจ่ายค่าบริการ
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ที่ต้องการให้ทุกคนได้รับการบริการสุขภาพอย่างทั่วถึง เท่าเทียมกัน
สปสช. ต้องดูแลคนรวม 47.4ล้านคน ที่มีอายุ โรค มีปัญหาด้านสังคมและเศรษฐกิจที่หลากหลาย สปสช.จึงต้องดูแลคนกลุ่มที่ไม่ให้ล้มละลายทางเศรษฐกิจ หรือไม่มีเงินใช้จ่าย จำเป็นต้องสร้างความมั่นใจ ว่าดูแลเขาได้ตั้งแต่เกิดจนตาย โดยการฟื้นฟูครบทุกวงจร
เป้าหมาย เพื่อให้คนไทยได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพและทั่วถึง
เป้าหมายของการคลังสุขภาพ (Health financing objective)
1.ทำให้มีเงินเพียงพอในการจัดบริการสุขภาพ
ประเทศปานกลาง
จะทำยังไง ให้มีหลักประกันสุขภาพที่ครอบคลุม?
ประเทศรวย
จะคุมค่าใช้จ่ายที่เพิ่มยังไง?
ประเทศจน
จะหาเงินจากไหนมาจัดบริการ?
2.จัดระบบกลไกให้ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
การเลือกซื้อบริการ (Purchase)
Which services?
การจ่ายค่าบริการ (Reimbursement)
ผู้ให้บริการมีแรงจูงใจในการให้บริการ
มีประสิทธิภาพในการบริการสูง
จ่ายยังไง?
อัตราเท่าไหร่?
3.ให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน
จ่ายยังไงดี ที่ประชาชนได้รับสิทธิเท่าเทียมกัน
กระบวนการจัดหาเงินเพื่อสุขภาพ (health financing process)
การรวมความเสี่ยง (risk pooling)
การจัดสรรทรัพยากรและการจัดซื้อ (resource allocation and Purchasing)
การจัดเก็บรายได้ (revenue collection)
เงื่อนไขการบริการ (service provision)
แหล่งการเงินการคลังในระบบบริการสาธารณสุข
คลังอื่นๆ
เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ / เงินอื่นๆ
จากภาคเอกชน
รายจ่ายโดยตรงจากครัวเรือน (ยินดีจ่ายเอง) (Out of pocket) / รายจ่ายจากประกันชีวิต
จากภาครัฐ
งบประมาณ / รายจ่ายองค์กรส่วนท้องถิ่น / สวัสดิการข้าราชการ
ทั้ง3แหล่งนี้ นำเงินไปให้ " หน่วยบริการสุขภาพ " แล้วส่งต่อให้
ระบบบริการภาครัฐ
ระบบบริการภาคเอกชน
ข้อดี-ข้อเสีย
คลังอื่นๆ
ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับคววามรุนแรงของปัญหาในประเทศ
จากเอกชน
ขาดความเสถียรตามวิกฤตเศรษฐกิจ (การถูกเลิกจ้างงาน รายจ่ายเพิ่มขึ้น) / หาบริการอื่นทดแทนได้
ของภาครัฐ
มีการเก็บภาษี จึงมีความเสถียรมาก / ขึ้นอยู่กับนโยบายทางการเมือง
สภาพปัญหาการคลังในระบบบริการสาธารณสุข
จากภาครัฐ
ไทยมีระบบประกันสุขภาพ 3 ระบบ คือ กระทรวงการคลัง / กระทรวงสาธารณสุข / กระทรวงแรงงาน
จะเกิดความซ้ำซ้อนในการบริหาร
การลักลั่นสิทธิประโยชน์
เบี้ยประกัน
การจัดการบริหารด้านการเงินการคลัง
การที่มีหลายกองทุนไม่ใช่ปัญหา แต่ควรมีการพัฒนากองทุน ให้อยู่ใต้การดูแลของหน่วยงานเดียวกัน
เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์การรักษา และลดความไม่เท่าเทียม
ปัจจัยที่มีผลต่อสมดุลทางการเงิน
การเปลี่ยนแปลงสภานภาพและกระบวนการรักษา
การเปลี่ยนแปลงการอภิบาลระบบ
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร
การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ
ตัวแปรที่มีผลต่อสมดุลการเงิน
รายรับ : เงินสมทบ / ภาษี / รายได้ / อัตราพึ่งพิง
รายจ่าย : ต้นทุนต่อหน่วยบริการ
ปัญหาระหว่างผู้เอาประกัน และผู้ให้บริการ
องค์กรประกัน
คัดเลือกกลุ่มเสี่ยง (risk selection) กรณี voluntary insurance
ผู้ให้บริการ
จริยธรรมการให้บริการ (Provider moral hazard)
ให้บริการเกินความจำเป็น (Over-service)
ให้บริการต่ำกว่าที่ควรจะเป็น (Under-service)
ผู้เอาประกัน
กลุ่มเสี่ยงนิยมซื้อ กรณี voluntary insurance
จริยธรรมการใช้บริการ (User moral hazard) คือ ใช้บริการมากเกินจำเป็น
ความไม่สมมาตรของข้อมูล (Asymmetric Information)
ผู้ขายจะมีข้อมูลเรื่องนั้นๆ มากกว่าผู้ซื้อ จึงเกิดความล้มเหลวในตลาด
อันตรายทางศีลธรรม (Moral hazard)
เกิดก่อนป่วย (ex-ante)
ใช้ชีวิตไม่ระวัง เพราะมีประกันจ่าย
1.ปัญหา moral hazard คือ "จะทำอะไรก็ได้ เดี๋ยวประกันจ่ายให้" "ต้องใช้ประกันให้คุ้ม เพราะจ่ายเบี้ยไปเยอะแล้ว"
ทำให้ประกันจ่ายค่่าสินไหมทดแทนโดยไม่จำเป็น
เกิดหลังป่วย (ex post)
เราจะคอยสังเกตอาการไปก่อนหรอจนอาจหายเอง เพราะไม่มีประกัน
การเลือกที่ไม่พึงประสงค์ (Adverse selection)
2.ปัญหา adverse selection ของกลุ่มที่เสี่ยงสูงกับกลุ่มเสี่ยงต่ำ
ผู้เสี่ยงรู้แก่ใจ แต่ประกันไม่รู้ จึงแยกไม่ออกว่าผู้เอาประกันกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะเจ็บป่วย พิการ หรือตาย
บริษัทประกันจึงตั้งราคากลางๆ เพื่อลดความเสี่ยง โดยคนรวยมักนิยมซื้อ แต่เบี้ยประกันก็จะสูงขึ้นด้วย
การเงินและการเจ็บป่วยในระบบสุขภาพ
Patient
ผู้ให้บริการ (provider)
เช่น รพ.รัฐ-เอกชน / อปท. / กสส.
แรงจูงใจที่สำคัญ
สำนักงาน
ผู้ซื้อบริการ (purchaser)
เช่น สปสช. / อปท. / สบง.ประกันสังคม / สวัสดิการค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ
ครอบครัว
regulation + system supporter คือ ระเบียบ + ผู้สนับสนุนระบบ
เช่น เขตสุขภาพ / สสจ. / สสอ.
องค์ประกอบในระบบประกันสุขภาพ
ผู้ให้บริการ
กองทุน
ประชาชน / ผู้ป่วย
รัฐ / องค์กรวิชาชีพ
ประเภทประกันสุขภาพ
การประกันสุขภาพแบบบังคับ (Compulsory health insurance) หรือ (Bismarck model)
เช่น ประกันสังคม / กองทุนเงินทดแทน / ประกันผู้ประสบเหตุจากรถ (พ.ร.บ.)
การประกันสุขภาพแบบสมัครใจ (Voluntary health insurance)
เช่น บัตรสุขภาพ / ประกันสุขภาพเอกชน
1.การสร้างหลักประกันสุขภาพจากระบบภาษี (Tax-based health insurance) หรือ (Beveridge model)
รูปแบบการประกันสุขภาพในประเทศไทย
สวัสดิการรักษาพยาบาล และ พนักงานรัฐวิสาหกิจ
ประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน การประกันภัยภายใต้ พรบ.
ประกันกับบริษัทเอกชน (สมัครใจ)
ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า (๓๐ บาทรักษาทุกโรค)
สิทธิประโยชน์ในระบบสปสช.
เจ็บป่วยทั่วไป มารักษาในเวลาทำการได้
การใช้สิทธิ
1.เข้ารักษาตามสิทธ์ โยต่อต่อเจ้าหน้าที่ก่อน
2.แจ้งขอใช้สิทธิที่มีก่อนรับบริการ พร้อมแสดงหลักฐาน " บัตรปชช.-เอกสารข้าราชที่มีรูปถ่าย/เลขปชช. เด็กต่ำกว่า 15 ยื่นใบเกิด"
ประกันสังคม
มีลูกจ้างมากว่า1คน นายจ้างต้องจ่ายให้กองทุน
นายจ้าง จ่ายร้อยละ 4.5 ของเงินเดือน
รัฐร่วมจ่ายร้อยละ 2.5 ของเงินเดือน
ผู้ประกันตน จ่ายร้อยละ 4.5 ของเงินเดือน
คิดจากฐานขั้นต่ำตั้งแต่ 1650-15000
พรบ. พ.ศ 2535
การจ่ายเงินให้สถานบริการ (Payment to provider)
จ่ายเงินล่วงหน้าตามข้อตกลง (Prospective payment)
จ่ายเงินแบบผสม (Mixed payment)
จ่ายย้อนหลังตามบริการ (Retrospective reimbursement)
ปัญหาระบบสุขภาพในประเทศไทย
ผู้ป่วยเลือกซื้อบัตรสุขภาพเป็นส่วนใหญ่ (adverse selection)
อัตราการคืนทุนต่ำในบัตรสุขภาพ (low cost recovery)
การเลือกและการให้สิทธิกับผู้มีรายได้น้อย
เอกชนให้บริการน้อยกว่าที่ควรในประกันสังคม
ค่าใช้จ่ายของสวัสดิการข้าราชการสูงมาก
ความไม่เท่าเทียมของบริการและค่าใช้จ่ายระหว่างระบบ
นางสาวกรกนก แย้มเจริญ เลขที่ 4B รหัส63123301005