Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ใบงานบทที่ 7.2 การพยาบาลผู้สูงอายุผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม (Total Hip…
ใบงานบทที่ 7.2
การพยาบาลผู้สูงอายุผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม
(Total Hip Replacement : THR)
การดูแลก่อนผ่าตัด
ด้านจิตใจ
ผู้ป่วยส่วนใหญ่เมื่อทราบว่าจะต้องได้รับการผ่าตัดมักจะมีอาการวิตกกังวลและกลัวการผ่าตัดจึงควรให้กำลังใจและความมั่นใจแก่ผู้ป่วยและอธิบายโปรแกรมการฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังผ่าตัดร่วมด้วยเพื่อให้การพยาบาลและการฟื้นฟูสภาพเป็นไปได้ด้วยดี
การเตรียมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตนหลังผ่าตัดจึงมีความสำคัญผู้ป่วยจะต้องให้ความร่วมมืออย่างจริงจังและได้รับการฝึกบริหารร่างกายก่อนผ่าตัด
ในระยะนี้ผู้ป่วยยังมีอาการปวดบริเวณข้อสะโพกและมีความวิตกกังวลอาจจะไม่ให้ความร่วมมือในการฝึกปฏิบัติเท่าที่ควร
ด้านร่างกาย
ผู้ป่วยควรเข้ามาอยู่โรงพยาบาลก่อนผ่าตัด 1 วันเพื่อรับการประเมินสภาพร่างกายอย่างละเอียดก่อนผ่าตัดรวมทั้งแนะนำเรื่องความสะอาดของร่างกาย
ก่อนการผ่าตัดผู้ป่วยต้องไม่มีการติดเชื้อหรือมีแหล่งของการติดเชื้ออยู่ในร่างกาย เช่น เป็นหวัด ฟันผุ เป็นต้น
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการพักผ่อนดูแลให้ได้รับอาหารและน้ำดื่มอย่างเพียงพอ
ให้คำแนะนำเรื่องการปฏิบัติตัวเช่นการไอและการหายใจเข้าออกลึก ๆ
อธิบายให้ผู้ป่วยเห็นความสำคัญของการฝึกบริหารร่างกายเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังผ่าตัดได้อย่างรวดเร็วและลดภาวะแทรกซ้อน
ก่อนผ่าตัด งดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืน และได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
การตรวจเลือด คลื่นไฟฟ้าหัวใจ และเอกซเรย์ปอด
ถ้ารับประทานยาห้ามการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน ให้แจ้งแพทย์ หรือพยาบาล ก่อนผ่าตัดต้องหยุดยาก่อนผ่าตัด 7 วัน
กิจกรรมการพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพโดยการเข้าไปพูดคุยซักถามและเปิดโอกาสให้ระบายความรู้สึกที่ทำให้ไม่สบายใจและรับฟังอย่างตั้งใจ
ประเมินภาวะความวิตกกังวลของผู้ป่วยจากสีหน้าท่าทางและคำบอกเล่า
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ป่วยวิตกกังวลพร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยซักถามปัญหาจนเข้าใจให้กำลังใจพูดคุยให้ความเป็นกันเองกับผู้ป่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ป่วยยกตัวอย่างหรือแนะนำให้พูดคุยกับผู้ป่วยกลุ่มโรคเดียวกัน
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับกฎระเบียบข้อปฏิบัติของโรงพยาบาลขณะอยู่โรงพยาบาลเพื่อให้ผู้ป่วยและญาติเข้าใจและคลายความกังวล
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตนก่อนและหลังผ่าตัดแก่ผู้ป่วยและญาติอธิบายเกี่ยวกับโรคและการผ่าตัดให้ผู้ป่วยทราบโดยการสอนข้างเตียงเปิดวีซีดีให้ดูและแจกคู่มือเรื่องการปฏิบัติตนก่อนและหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมพร้อมให้แผ่นคำแนะนำการปฏิบัติตนหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมโดยสอนแนะนำกระตุ้นให้ผู้ป่วยบริหารร่างกาย ได้แก่ กล้ามเนื้อขาและกล้ามเนื้อรอบสะโพกให้แข็งแรงโดยบริหารสม่ำเสมอต่อเนื่องอย่างน้อย 6 สัปดาห์เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงแล้วเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยป้องกันการเคลื่อนหลุดของข้อสะโพกเทียมได้
5.1 วันแรกหลังผ่าตัดบริหารร่างกายในท่านอนควรเริ่มออกกำลังกายให้เร็วที่สุดตั้งแต่หลังผ่าตัดวันแรกเพื่อป้องกันภาวะปอดแฟบและปอดอักเสบให้หายใจเข้า-ออกลึก ๆ ช้าๆโดยหายใจเข้าลึก ๆ ค้างไว้ 30 วินาทีแล้วผ่อนลมหายใจออกช้าๆทำซ้ำ 5-10 ครั้งแล้วหายใจตามปกติ
5.2 วันที่ 1-2 หลังผ่าตัดบริหารร่างกายกล้ามเนื้อขาและกล้ามเนื้อรอบสะโพกในช่วงแรกหลังผ่าตัดจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปบริเวณขาและเท้าเพื่อป้องกันการเกิดก้อนเลือดอุดตันอีกทั้งยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหวของข้อสะโพกการบริหารร่างกายนี้สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่อยู่ในห้องพักฟื้นในโรงพยาบาลช่วงแรกหลังการผ่าตัดในช่วงเริ่มต้นอาจจะรู้สึกไม่ค่อยสบาย แต่การบริหารจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและลดอาการปวดหลังการผ่าตัด
การดูแลหลังผ่าตัด
ข้อควรปฏิบัติหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม
1.ไม่ควรนั่งยองๆ คุกเข่า พับเพียบ หรือนั่งไขว่ห้าง
2.ไม่ควรยืนไขว้ขาไม่ก้มใส่รองเท้าเองไม่ก้มเก็บของที่พื้น
3.หลีกเลี่ยงการขี่จักรยาน ซ้อนมอเตอร์ไซด์ เพราะอาจทำให้สะโพกงอมากไป เสี่ยงต่อการเกิดข้อสะโพกเทียมหลุดได้
4.หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่ต้องกระโดด หรือปะทะต่อสู้
ควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม ปลาตัวเล็กปลาตัวน้อย เต้าหู้ งาดา เป็นต้น เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก
การปฏิบัติตนหลังการผ่าตัด
การลงจากเตียง
(1) ขยับตัวลงจากเตียงไปยังด้านเดียวกันกับขาข้างที่ผ่าตัด
(2) เลื่อนสะโพกโดยใช้ข้อศอกช่วยดัน ขณะที่ขยับขาข้างที่ผ่าตัดลงมาข้างๆเตียง พยายามทาให้ลำตัวตรง และห้ามบิดหรือหมุนขาเข้าใน
(3) เคลื่อนขาข้างที่ปกติมาไว้ข้างๆ ขาข้างที่ผ่าตัด และนั่งลงบนขอบเตียง พยายามทาให้ขาข้างที่ผ่าตัดเหยียดตรง จับเครื่องช่วยพยุง 4 ขา (วอล์กเกอร์, Walker) เพื่อช่วยรองรับน้าหนักขณะที่ยืนขึ้น และหลีกเลี่ยงการงอขาหรือพับขาไปด้านหลังในขณะที่พยายามยืนขึ้น
การนั่ง
(1) จับวอล์กเกอร์เอาไว้ จนกระทั่งรู้สึกว่า เก้าอี้สัมผัสถูกน่องทั้งสองข้าง
(2) ค่อยปล่อยมือจากวอล์กเกอร์ และย่อตัวลงต่ำ เคลื่อนมือมาจับพนักเท้าแขนทั้งสองข้าง จากนั้นพยายามทาให้ขาข้างที่ผ่าตัดเหยียดตรง และเหยียดไปข้างหน้า ระวังอย่าให้ปลายเท้าบิดเข้าใน
(3) นั่งลง และขยับตัวไปทางด้านหลังให้ชิดพนักพิง งอขาข้างที่ไม่ได้ผ่านการผ่าตัดก่อน (สามารถใช้เทคนิควิธีนี้สาหรับการใช้โถชักโครกที่มีราวจับได้)
การเดิน
(1) วางวอล์กเกอร์ให้ห่างออกไปยังทิศทางที่จะเดินไปข้างหน้าประมาณ 1-2 คืบ จับวอล์กเกอร์ให้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง พยายามทาให้ข้อสะโพกตรง
(2) ก้าวเท้าข้างที่ผ่าตัดไปกึ่งกลางของวอล์กเกอร์ หลีกเลี่ยงการหมุนสะโพกและขาโน้มตัวไปข้างหน้า และปล่อยให้วอล์กเกอร์ รับน้าหนักตัวของท่าน
(3) ก้าวเท้าข้างที่ปกติตามไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ให้ปลายเท้าเสมอกันทั้งสองข้าง พึงระวังอย่าให้เท้าของท่านชนกับปลายขาของเครื่องช่วยพยุงยกวอล์กเกอร์ขึ้นตรงๆ (ถ้าวอล์กเกอร์ไม่มีล้อเลื่อน) ตรวจสอบให้มั่นใจว่าขาทั้งสี่ของวอกเกอร์วางแนบสนิทกับพื้น ทุกครั้งก่อนที่จะเริ่มก้าวเดินไปข้างหน้า
การพยาบาลผู้สูงอายุหลังผ่าตัด
ระบบการทำงานของร่างกาย
การดูแลด้านกายภาพจากการประเมินสภาพร่างกาย เนื่องจากความสามารถในการปรับตัวของร่างกายต่อการฟื้นหายในผู้สูงอายุจะช้ากว่าคนหนุ่มสาว การประเมินสภาพทั่ว ๆ ไปเพื่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ของร่างกาย
ระบบทางเดินหายใจ
ต้องมีการประเมินอัตราการหายใจเสียงหัวใจ การหายใจ สังเกตการไอ การขับเสมหะ สีของเล็บ ว่าผิดปกติหรือไม่ระบบหัวใจและหลอดเลือดตรวจดูความอุ่นของผิวหนังจังหวะการเต้นของหัวใจความดันโลหิตเสียงหัวใจชีพจรการไหลของเลือดในหลอดเลือดฝอยดูเส้นเลือดที่คอโป่งพองหรือไม่
ระบบทางเดินปัสสาวะ
ดูการเปลี่ยนแปลงของร่างกายความตึงตัวของผิวหนัง ปริมาณและลักษณะของปัสสาวะ การขับออกระดับของ Electrolyte ในร่างกายการบันทึกสารน้ำเข้าออก (Intake and Output)
ระบบประสาทส่วนกลาง
ตรวจดูรูม่านตาการขยายของม่านตาและปฏิกิริยาต่อแสง การรับรู้ต่าง ๆ ระดับความรู้สึกตัว การขยับของแขนขา ลักษณะของความเจ็บปวดที่ผู้ป่วยบอก
การควบคุมอุณหภูมิ
วัดอุณหภูมิอาการหนาวสั่นและเหงื่อออกแผลผ่าตัดตรวจดูตำแหน่งที่ผ่และลักษณะของแผล