Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่7 นวัตกรรมและเทคโนโลยี สมัยใหม่ - Coggle Diagram
บทที่7 นวัตกรรมและเทคโนโลยี
สมัยใหม่
บทนำ
“เทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นสิ่งที่เข้ามาปรับเปลี่ยนทัศนคติ และวิถีการใช้ชีวิตของมนุษย์ให้แตกต่างจากเดิมมาก เทคโนโลยีที่เกิดใหม่ขึ้นเรื่อยๆนี้เป็นสิ่งยิ่งใหญ่ที่ต้องอาศัยความสามารถของการประมวลผลจากคอมพิวเตอร์ที่สูงขึ้น ผนวกกับการใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาล ทำให้เครื่องจักรสามารถทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ในหลายๆ ด้านเทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง หรือ คลาวด์ ถูกนำมาใช้ผสมผสานกันเพื่อสนับสนุนการดำเนินชีวิตประจำวันและการทำ
งานต่างๆ เช่น การติดต่อสื่อสาร ธุรกิจ การเงิน
หัวข้อการเรียนรู้
ปัญญาประดิษฐ์
ในปัจจุบัน ปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีบทบาทสำคัญใน
การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของมนุษย์ ตัวอย่างเช่น ผู้ช่วยอัจฉริยะ (Intelligent personal assistant) อย่าง Siri ของ Apple, Cortana ของ Microsoft, Alexa ของ Amazon,Google Assistant ของ Google ที่สามารถรับคำสั่งเสียงของมนุษย์ ไปประมวลผลแล้วตอบคำถาม จัดการสิ่งต่างๆ ตามคำสั่งที่ได้รับ
ตัวอย่างนวัตกรรมที่ใช้ปัญญา
ประดิษฐ์
1.การแปลงเสียงพูดให้เป็นข้อความ
2.เครื่องแปลภาษา
3.การระบุตัวตนด้วยใบหน้า
4.รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ
การประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud
Computing)
เป็นรูปแบบหนึ่งของการให้บริการทรัพยากรคอมพิวเตอร์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น หน่วยประมวลผล หน่วยความจำ พื้นที่เก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่สนใจว่าทรัพยากรที่ใช้นั้นอยู่ที่ใด เปรียบเสมือนการใช้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา นั่นคือใช้บริการได้โดยไม่ต้องรู้ว่าโรงผลิตอยู่
ที่ใด เพียงแต่ต้องจ่ายค่าบริการตามปริมาณที่ใช้
ค่าใช้จ่ายการประมวลผลแบบคลาวด์
สำหรับบุคคลทั่วไป มักไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ได้รับ
บริการพื้นฐานอย่างจำกัด หากต้องการใช้บริการเพิ่มเติม ต้องเสียค่าบริการสำหรับการใช้งาน
สำหรับภาคธุรกิจ มีค่าใช้จ่ายสำหรับอำนวย
ความสะดวกแก่หน่วยงานที่พร้อมใช้งาน โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์หรือแอปพลิเคชั่นเอง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุน และค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้ดูแลระบบ นอกจากนี้ยังปรับเพิ่ม-ลด ทรัพยากรที่ต้องการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น
การประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud
Computing)
Infrastructure-as-a-Service (IaaS) คือ การให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบด้วย ระบบประมวลผล ระบบการจัดเก็บข้อมูล ระบบเครือข่าย และระบบรักษาความปลอดภัย
Platform-as-a-Service (PaaS) คือ การให้บริการด้านแพลตฟอร์ม สำหรับผู้ใช้งานที่เป็นนักพัฒนาแอปพลิเคชั่นเป็นหลัก โดยจะมีเครื่องมือให้บริการโดยไม่ต้องติดตั้งด้วยตนเอง รวมถึงสามารถติดตั้งแอปพลิเคชั่นที่พัฒนาเสร็จแล้วเพื่อใช้งานบนคลาวด์ของผู้ให้บริการได้โดยง่าย เช่น บริการฐานข้อมูลสำหรับพัฒนาเว็บไซต์
Software-as-a-Service (SaaS) คือการให้บริการด้านซอฟต์แวร์บนคลาวด์ ผู้ใช้บริการใช้งานได้ผ่านเบราวเซอร์ ลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนา ติดตั้งบำรุงรักษา และรักษาความปลอดภัยของซอฟต์แวร์คิดค่าบริการตามลักษณะการใช้งาน
อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet
of Things: IoT)
เป็นเทคโนโลยีจากการที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
สามารถเชื่อมต่อหรือสื่อสารถึงกันได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน สมาร์ทวอทช์
รถยนต์อัจฉริยะ และอุปกรณ์อื่นๆโดยมีจำนวนอุปกรณ์ IoT ทั่วโลกนับหลายพันล้านชิ้นและมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
สถาปัตยกรรมอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง
สมองกลฝังตัวและเซนเซอร์ ใช้ในการเชื่อมต่อเซอร์จะตรวจจับสิ่งที่สนใจ รวมทั้งประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลแบบทันทีทันใด เช่น เซนเซอร์วัดระหว่างโลกทางกายภาพและโลกดิจิทัล โดยเซนอุณหภูมิ คุณภาพอากาศ ความชื้น การเคลื่อนไหวความเร็ว
2.เกตเวย์และเครือข่าย ใช้สำหรับการเชื่อมต่อสู่อิน
เทอร์เน็ต ทำให้เกิดการเชื่อมต่อแบบท้องถิ่น(Local
Are Network: LAN) เครือข่ายไร้สาย (Wi-Fi)เครือข่ายโทรศัพท์ เครือข่ายส่วบุคคล(PersonalAreaNetwork: PAN) อย่างบลูทูธ (Bluetooth)สำหรัเซนเซอร์บางตัวสามารถเชื่อมต่อกันเองได้ผ่านเครือข่ายไร้สาย เรียกว่า เครือข่ายเซนเซอร์ไร้สาย
3.ส่วนสนับสนุนการบริการ ใช้สำหรับสนับสนุนการ
ทำงานของบริการ เช่น การประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูล ควบคุมความปลอดภัย บริหารจัดการการเชื่อมต่อุปกรณ์ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นตัวกลางสนับสนุนการเชื่อมโยงระหว่างแอปพลิเคชั่นกับอุปกรณ์ IoT ซึ่งนิยมใช้การประมวลผลแบบคลาวด์มาใช้ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล
4.แอปพลิเคชั่น ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่าง
มนุษย์กับอุปกรณ์ ทำให้สามารถควบคุมอุปกรณ์IoT ได้จากระยะไกลผ่านอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังเป็นส่วนที่ควบคุมอุปกรณ์ให้ทำงานสอดคล้องกันตามวัตถุประสงค์ของการทำงานแบบอัตโนมัติ
เมืองอัจฉริยะ (Smart City)
เป็นการนำเทคโนโลยี IoT มาประยุกต์ใช้ภายใน
เมือง เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของผู้คนในเมืองดีขึ้นเช่น การดูแลรักษาความปลอดภัยโดยใช้กล้อง
วงจรปิด การอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันการบริหารจัดการพลังงาน การจัดการจราจร
เทคโนโลยีเสมือนจริง
เทคโนโลยีที่จำลองสภาพแวดล้อมผ่านระบบ
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เกิดการรับรู้เสมือนกับอยู่ในสภาพแวดล้อมจริง โดยจะกล่าวถึงความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality: AR) และความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality: VR)
หลักการทำงานของความเป็นจริงเสริม
ความเป็นจริงเสริม เป็นการรวม
สภาพแวดล้อมจริงกับวัตถุเสมือนเข้าด้วยกัน โดยนำเข้าสภาพแวดล้อมจริง
ผ่านกล้องถ่ายรูป นำไปแสดงเป็นฉากหลัง และเพิ่มวัตถุเสมือนซ้อนทับบน
ฉากหลัง ซึ่งต้องอาศัยซอฟต์แวร์ประมวลผลร่วมกับกล้องโทรศัพท์มือ
ถือ คอมพิวเตอร์ หรือแว่นตาอัจฉริยะ(smart glasses)
การใช้ประโยชน์จากความเป็นจริงเสริม
ด้านการศึกษา
ด้านการโฆษณาและการส่งเสริมการขาย
ด้านความบันเทิง/เกม
ด้านการสร้างงานศิลปะ
ด้านการแพทย์
หลักการทำงานของความเป็นจริงเสมือน
ความเป็นจริงเสมือน เป็นเทคโนโลยีที่นำเสนอภาพและเนื้อหาที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อจำลองโลกในความจริง โดยมีจุดมุ่งหมายให้ผู้ใช้รู้สึกเสมือนอยู่ในสภาพแวดล้อมจริง ผ่านประสาทสัมผัส เช่น การมองเห็น ได้ยิน สัมผัส
เทคโนโลยีอื่นๆ ที่ควรรู้
Mixed Reality (MR)
สถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมที่ผสานโลกจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างภาพแวดล้อมใหม่ที่วัตถุเสมือนและวัตถุจริงสามารถโต้ตอบกันได้ เพื่อให้รู้สึกจับต้องได้จริงๆ
บล็อกเชน (Blockchain)เทคโนโลยีสำหรับการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์
(Decentralized) ที่ทุกโหนด (Node) ในเครือข่ายบล็อกเชน จะเก็บข้อมูลชุดเดียวกัน โดยข้อมูลในแต่ละโหนดจะถูกเก็บอยู่ในรูปแบบของบล็อก (Block) แล้วนำมาเชื่อมโยงกันเป็นสายโซ่เรียกว่า เชน(Chain) และใช้หลักการเข้ารหัส (Cryptography) ที่ยากต่อการปลอมแปลงแก้ไข รวมทั้งสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในทุกบล็อกตลอดทั้งเชนได้ ปัจจุบันมีการประยุกต์บล็อกเชนในการสร้างสกุลเงินดิจิทัล เช่น บิตคอยน์ (Bitcoin) หรือด้านบริการลายมือชื่อออนไลน์, ซื้อขายหลักทรัพย์, ระบบลงคะแนนเสียง
เลือกตั้ง และแอปพลิเคชั่นต่างๆ
ควอนตัมคอมพิวติง (Quantum Computing)คอมพิวเตอร์ในอดีตถึงปัจจุบันเกิดจากการพัฒนาให้ระบบประมวลผลมีขนาดเล็กลงและมีความเร็วเพิ่มขึ้น แต่นักพัฒนายังต้องการพัฒนาให้ระบบประมวลผลมีขนาดเล็กลงมากกว่านี้ จึงได้ออกแบบและพัฒนาระบบประมวลผลขนาดเล็กระดับอะตอมเรียกว่า ควอนตัมคอมพิวติง
ในอนาคต หากมีการพัฒนาควอนตัมคอมพิวติงจนผู้ใช้ทั่วไป
สามารถเข้าถึงได้ การทำงานของระบบต่างๆ จะต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เช่น
การสร้างปัญญาประดิษฐ์ สร้างปัญญาประดิษฐ์ได้ง่ายและรวดเร็ว
ทำให้ปัญญาประดิษฐ์มีความฉลาดสูง ต้นทุนต่ำ
ระบบรักษาความปลอดภัย ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการเข้ารหัสใหม่ทั้งหมด เพราะควอนตัมคอมพิวติงสามารถถอดรหัสความปลอดภัยในปัจจุบันได้ในเวลาอันสั้น
การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสุขภาพ ด้วยประสิทธิภาพที่สูง ทำให้มี
ข้อมูลสุขภาพที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถใช้งานเพื่อถอดรหัสดีเอ็นเอได้อย่างแม่นยำ และใช้วิเคราะห์ยาที่เหมาะสมกับโรคและรหัสพันธุกรรมแต่ละคน