Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
รูปแบบการจัดสัมมนาแบบ GROUP DISCUSSION - Coggle Diagram
รูปแบบการจัดสัมมนาแบบ GROUP DISCUSSION
ความหมาย
เป็นการประชุมพิจารณาหรืออภิปรายกันระหว่างสมาชิกจำนวน 6-20 คนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่สนใจร่วมกันหรือเป็นประโยชน์ร่วมกันโดยการประชุมมีลักษณะเป็นแบบกันเองไม่เป็นทางการเพื่อแสวงหาข้อยุติของกลุ่มในเรื่องที่อภิปรายกันนั้น
วัตถุประสงค์ของการประชุมแบบอภิปรายกลุ่ม
เพื่อให้สมาชิกในกลุ่มได้ทราบเรื่องราวและสนใจในปัญหาของกลุ่ม
เพื่อให้คนที่ขี้อายได้แสดงความคิดเห็นของตน
เพื่อพิจารณาเรื่องราวที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันของสมาชิกในกลุ่ม
เพื่อพัฒนาสมาชิกในกลุ่มให้มีลักษณะความเป็นผู้นำในด้านการอภิปราย
เพื่อเสริมสร้างระบบการประชุมกลุ่มในหมู่คณะหรือในองค์กร
เพื่อรวบรวมความคิดของแต่ละบุคคลในฐานะที่เป็นกำลังใจด้านการส่งเสริมความเจริญให้แก่หมู่คณะ
เพื่อสำรวจปัญหา
เพื่อให้สมาชิกแต่ละคนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นของตนโดยเสรีในการประชุมอภิปราย
เพื่อแก้ปัญหาใดปัญหาหนึ่งโดยอาศัยความคิดจากคนหลายๆคน
เพื่อตกลงกันในการวางแผนดำเนินงานเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
วิธีการดำเนินงาน
ระยะก่อนเริ่มการสนทนากลุ่ม
ผู้ดำเนินการสนทนากลุ่มควรมีข้อมูลพื้นฐานของผู้เข้าร่วมการสนทนากลุ่ม เช่น อายุอาชีพ ลักษณะงาน
การศึกษา หรือข้อมูลอื่นๆ ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการสนทนากลุ่ม
ระหว่างการสนทนากลุ่ม
ผู้ดำเนินการต้องเริ่มต้นในการสร้างสัมพันธภาพทั้งระหว่างผู้ดำเนินการกับผู้เข้าร่วมการสนทนากลุ่มและผู้เข้าร่วมการสนทนากลุ่มด้วยกันเองเพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ใกล้ชิดเป็นกันเองโดยขอให้สมาชิกได้แนะนำตนเองซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมการสนทนารู้จักกันเองและผู้ดำเนินการจะได้มีข้อมูลพื้นฐานของผู้เข้าร่วมสนทนาเพิ่มเติม
ผู้ดำเนินการอธิบายวัตถุประสงค์และขอบข่ายของการสนทนากลุ่มตลอดจนกระบวนการและวิธีที่จะดำเนินการสนทนากลุ่มการรักษาความลับของผู้ให้ข้อมูลสิทธิของผู้ร่วมสนทนากลุ่มและสอบถามความสมัครใจในการร่วมสนทนา
การร่วมกันกำหนดและปฏิบัติตามกติกาในการสนทนาเช่นการพูดทีละคนการแสดงความคิดเห็นได้แม้จะมีความเห็นที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ
การขออนุญาตบันทึกเทประหว่างการสนทนากลุ่มจากผู้เข้าร่วมสนทนากลุ่ม
การเริ่มต้นการสนทนาด้วยคำถามนำซึ่งอาจเรียกว่าเป็นคำถามย่อยก่อนเข้าสู่การสนทนา (small talk) เป็นประเด็นการสนทนาในเรื่องทั่วๆไปที่จะนำผู้เข้าร่วมสนทนาเข้าสู่เรื่องราวที่จะสนทนาควรเป็นคำถามที่ไม่ทำให้ผู้เข้าร่วมสนทนารู้สึกอึดอัดเป็นการสร้างความคุ้นเคย แต่ควรเป็นประเด็นซึ่งสามารถจะเชื่อมโยงไปสู่ประเด็นหลักได้
เมื่อเข้าสู่ประเด็นหลักผู้ดำเนินการจะขอให้ผู้เข้าร่วมสนทนากลุ่มอภิปรายอย่างอิสระเกี่ยวกับพฤติกรรมหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ศึกษาโดยผู้ดำเนินการใช้คำถามที่เตรียมไว้ทั้งคำถามหลักคำถามรองและคำถามตะล่อมกล่อมเกลา
บางครั้งอาจเกิดความขัดแย้งผู้ดำเนินการต้องมีวิธีการและสามารถจัดการกับความขัดแย้งในกลุ่มควบคุมหรือตัดประเด็นที่คาดว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งและให้โอกาสแก่สมาชิกที่ไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นโดยต้องแสดงความเป็นกลางในประเด็นที่ผู้เข้าร่วมสนทนากลุ่มเห็นแตกต่างกันหรือมีความขัดแย้งกัน
ผู้ดำเนินการไม่แสดงตัวว่าเป็นผู้รู้ดีในประเด็นที่สนทนาและไม่เข้าไปแก้ไขความรู้ความเข้าใจของสมาชิกหากสมาชิกขอให้แสดงความคิดเห็นควรหลีกเลี่ยงการเสนอความเห็นอย่างสุภาพ
ผู้ดำเนินการควรใช้การตั้งประเด็นเพื่อให้เกิดการโต้เถียงอภิปรายเพื่อให้เกิดการอภิปรายอย่างกว้างขวางนอกจากนี้ประเด็นคำถามที่ใช้อาจมีการปรับประเด็นหรือการจัดลำดับของหัวข้อใหม่ได้
ระยะการจบการสนทนากลุ่ม
ผู้ดำเนินการสนทนากลุ่มใช้คำถามเพื่อการสรูปการสนทนาและกล่าวขอบคุณในความร่วมมือของผู้เข้าร่วมสนทนากลุ่มทุกคนมีการมอบของที่ระลึกและขอความอนุเคราะห์ในการเข้าร่วมสนทนาอีกครั้งหากวิจัยพิจารณาว่าจำเป็นต้องมีการนัดหมายเพิ่มเติม
ข้อดี
ทุกคนมีโอกาสแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีอย่างเต็มที่
ช่วยให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างสมาชิก
ช่วยให้สมาชิกมีความคิดอ่านที่กว้างขวางขึ้น
ช่วยให้มีโอกาสปรับปรุงตัวทางสังคมคือรู้จักสนใจและฟังความคิดเห็นของบุคคลอื่น
เป็นการรวบรวมความคิดจากคนจำนวนมากซึ่งช่วยในการแก้ปัญหาหรือหาข้อยุติที่ดีได้
ข้อจำกัด
หากผู้นำอภิปรายไม่มีความสามารถอาจทำให้ไม่ได้ความคิดเห็นของสมาชิกมากหรือดีเท่าที่ควร
สมาชิกบางคนอาจพูดมากเกินไปในขณะที่บางคนมีส่วนร่วมในการอภิปรายน้อยเกินไป
ถ้าสมาชิกมีจำนวนมากเวลาที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอต่อการรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดเพื่อหาข้อยุติ
หากสมาชิกไม่เข้าใจเรื่องจุดหมายของการอภิปรายโดยแน่ชัดเพื่อหาของการอภิปรายก็จะสับสนและไม่เป็นไปตามแนวทางที่ต้องการ
ความแตกต่างกันอย่างมากในคุณสมบัติด้านต่างๆของสมาชิกอาจก่อให้เกิดผลเสียได้
หากสมาชิกมีความรู้และความคิดในวงแคบผลสรุปหรือข้อยุติอาจไม่ดีเท่าที่ควร
ประโยชน์
ใช้ในการศึกษาความคิดเห็นทัศนคติความรู้สึกการรับรู้ความเชื่อและพฤติกรรม
ใช้ในการกำหนดสมมติฐานใหม่ๆ
ใช้ในการกำหนดคำถามต่างๆที่ใช้ในแบบสอบถาม
ใช้ค้นหาคำตอบที่ยังคลุมเครือหรือยังไม่แน่ชัดของการวิจัยแบบสำรวจเพื่อช่วยให้งานวิจัยสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ใช้ในการประเมินผลทางด้านธุรกิจ