1.สังเกตและประเมินอาการและอาการแสดงของ Hyperbilirubinemia ได้แก่ สีผิวสีเหลืองบริเวณใบหน้า ลำตัว แขน ขา ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ซีด ตับม้ามโต เพื่อวางแผนการพยาบาลได้อย่างเหมาะสม
2.ดูแลให้ทารกได้รับการรักษาโดย on double phototherapy เพื่อรักษาภาวะตัวเหลือง ตามแผนการรักษาของแพทย์
3.ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง หากพบอุณหภูมิกายสูง อาจมีสาเหตุมาจากการขาดน้ำ ควรตรวจดูความตึงตัวของกระหม่อม และชั่งน้ำหนักทารกทุกวัน เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพและเพื่อป้องกันทารกอุณหภูมิกายสูง
4.สังเกตภาวะแทรกซ้อนจากการส่องไฟรักษา ได้แก่ ภาวะขาดน้ำ ถ่ายเหลว มีผื่นที่ผิวหนัง -ประเมินภาวะที่บ่งบอกถึงอาการแสดงของการขาดน้ำ ได้แก่ผิวหนังเหี่ยวแห้งไม่ตึงตั;กระหม่อมบุ๋ม ริมฝีปากแห้งเพื่อให้การพยาบาลได้อย่างเหมาะสม
5.ดูแลให้ทารกได้รับนม โดยการดูดนมแม่จากเต้า สลับกับนมผสมมื้อละ 1-2 ออนซ์ ทุก 3 ชั่วโมงตามแผนการรักษา เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดบิลิรูบินออกจากร่างกาย
6.สังเกตอาการเปลี่ยนแปลงที่บ่งชี้ถึงภาวะที่มีการทำลายของเนื้อสมองได้แก่ ดูดนมไม่ดี ซึมลง ร้องเสียงลง หลังแอ่น ตัวเขียว ชักหรือกระตุก หากพบว่าทารกมีระดับบิลิรูบินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 12 ชั่วโมง หรือมีอาการเปลี่ยนแปลงข้างต้น รีบรายงานแพทย์และช่วยเหลือเบื้องต้น
7.ชั่งน้ำหนักทารกทุกวัน เพื่อประเมินความเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักทารก
8.บันทึกปริมาณสารน้ำที่เข้าร่างกายและน้ำที่ออกจากร่างกายเพื่อประเมินความสมดุลของปริมาณน้ำเข้าและออก และสังเกตการขับถ่าย สี ลักษณะ และปริมาณ ของทารกในแต่ละวัน
9.ติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ Micro bilirubin (MB) ทุก 4-6 ชั่วโมง Coombs test DAT reticulocyte count และ Hematocrit เพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงและการวางแผนให้การพยาบาลต่อไป