Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 11 การพยาบาลเด็กที่มีปัญหา ทางระบบประสาท, น.ส.สุชานาถ สุโขประสพชัย…

- - - - เด็กจะมีอาการชักเมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส
  - - - กรณีที่มีการชักเกิน 5 นาที ต้องทำให้หยุดชักเร็วที่สุด โดยให้ยาระงับอาการชัก เช่น diazepam
      - ให้ยาลดไข้ ร่วมกับ เช่น ตัวลดไข้ (เน้นขณะชักห้ามให้ยาชนิดรับประทาน)
    - - ซักประวัติตรวจร่างกายโดยละเอียด ให้ยาป้องกันการชัก รับประทานทุกวันนาน 1-2 ปี เช่น Phenobarbital , Depakine
- - - - Tonic seizure
        
        เกร็งแข็ง ล้มลงถ้ายืนอยู่
      - Clonic seizure
        
        มีการกระตุกเป็นจังหวะที่ช้ากว่า myoclonic
      - Tonic clonic seizure
        
        มีการเกร็งก่อนแล้วมีการกระตุกตาม
      - Atonic seizure
        
        มีการสูญเสียความดึงตัวของกล้ามเนื้อ
      - Myoclonic seizure
        
        มีการหดตัวของกล้ามเนื้อเป็นระยะสั้นๆ
      - Absence seizure
        
        มีตากระพริบหรือตากระตุก
      - Infantile spam
        
        ในเด็กเล็กตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 2 ปี คือ งอศีรษะ ลำตัว แขนขา เข้าหากันช่วงระยะสั้นๆ แล้วคลายออกคล้ายสะดุ้ง
    - - Simple partial seizure
        
        มีการกระตุกหรือชาของแขนขา หน้า คอ ประมาณ 5-10 วินาที
      - Complex partial seizure
        
        การชักที่มีอาการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม
      - Partial seizure evolving to secondary generalize seizure
        
        มีความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าสมองเฉพาะที่แล้วกระจายทั่วสมองทั้ง 2 ข้าง
    - - เป็นชนิดที่ไม่สามารถจัดกลุ่มได้
  - - - การมีรอยโรคในสมองทำให้เซลล์ประสาทหลั่งคลื่นไฟฟ้าสมองผิดปกติออกมาและไปมีผลต่ออวัยวะต่างๆที่สมองส่วนนั้นควบคุมทำให้เกิดอาการชักตามมา
  - - - ถ้าผู้ป่วยเด็กยังไม่หยุดชักภายใน 2-5 นาที ให้ diazepam 0 2-0.4 มก.กก.ซ้ำอีกครั้ง
      - ถ้า 5 นาทียังไม่หยุดซักให้ phenytoin 20 มก./กก.ผสม 0.9% NSS
        
        ให้ทางหลอดเลือดดำด้วยความเร็วไม่เกิน 1 มก./กก./นาที
        
        จับชีพจรและวัดความดันโลหิต ภายหลังจากให้ยาแล้ว 20-30 น.
  - - - ได้แก่diazepam (valium)
        
        ทำให้ง่วงหลับพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เดินเซ มีเสมหะจากหลอดลมมากกว่าปกติ
    - - ทำให้ง่วงซึม เดินเซ
    - - เกิดอาการเซ ง่วงซึม เห็นภาพซ้อน ตากระตุก คลื่นไส้ อาเจียน เหงือกหนา มีภาวะซีดจาก Folic acid ต่ำได้ มีผื่นขึ้น ผมขนดก
    - - ง่วงซึม คลื่นไส้อาเจียน มือสั่น
- - - - เด็กโต
        
        110-150 mmH2O
      - ทารก
        
        100 mmH2O
    - - ไม่พบ
    - - 50-75 mg/dl(ครึ่งหนึ่งของน้ำตาลในเลือด)
    - - 14-45 mg/dl
  - - - มีไข้ ปวดศีรษะมาก ซึมลง กระหม่อมโป่งตึง อาเจียน ชัก
    - - คอแข็ง
      - Kernig’s sign ได้ผลบวก
      - Brudzinski’s
  - - - ให้ยาปฏิชีวนะที่สอดคล้องกับผลการเพาะเชื้อน้ำ
        ไขสันหลังที่เป็นสาเหตุ
    - - ให้ยาลดไข้ ให้ยานอนหลับ ให้ยากันชัก ให้ยาลด
        อาการบวมของสมองให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำรักษาภาวะไม่สมดุล
    - - ควรฉีดวัคซีน เช่น Hib vaccine , JE vaccine,BCG
- - - - ไวรัสที่นำโดยแมลง โดยเฉพาะไข้สมองเจอี
    - - ไวรัสหัด ไวรัสหัดเยอรมัน ไวรัสอีสุกอีใส ไวรัสคางทูม
        รวมทั้งวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า
  - - - เกิดภาวะสมองบวม
  - - - พบว่าน้ำไขสันหลังใส ไม่มีสี มีเม็ดเลือดขาว
        10-1000 เซลล์/ลูกบาศก์มิลลิเมตรส่วนใหญ่เป็นlymphocyte
      - ความดันของน้ำไขสันหลังสูงมากกว่า 180 มิลลิเมตรน้ำเล็กน้อย
      - โปรตีนในน้ำไขสันหลังมีปริมาณสูงขึ้นเล็กน้อยมีค่ามากกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
      - น้ำตาลในน้ำไขสันหลังปกติ
- - - - การมีเลือดออกทางช่องคลอดของมารดาช่วง
        ระหว่างการตั้งครรภ์เดือนที่6-9
      - มารดาขณะตั้งครรภ์ขาดสารอาหาร
      - มารดามีภาวะชักหรือมีภาวะปัญญาอ่อน
      - การเกิดก่อนกำหนด
      - การเกิดน้ำหนักตัวน้อย
      - มารดาขณะตั้งครรภ์มีการใช้ยาบางชนิดทำให้สมองเด็กมีพัฒนาการผิดปกติ
      - มารดาได้รับอุบัติเหตุหรือเกิดการติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
    - - สมองขาดออกซิเจน
      - ได้รับอันตรายจากการคลอดคลอดยาก รกพันคอ คลอดท่าก้น การใช้คีมดึงเด็ก
    - - ตัวเหลืองเมื่อแรกเกิด
      - การได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ
      - เส้นเลือดที่สมองมีความผิดปกติ
      - การขาดออกซิเจนจากการจมน้ำ
      - การติดเชื้อบริเวณสมอง
  - - - เคลื่อนไหวได้ช้า
      - ขาอาจมีอาการมากกว่าแขน
      - มีความผิดปกติครึ่งซีกหรือผิดปกติทั้งตัว
    - - ไม่สามารถควบคุมให้อยู่นิ่งๆ
      - จะมีการแสดงสีหน้า คอบิด แขนงอ หรือเหยียดเปะปะ
      - พูด ลำบาก กลืนลำบาก อาจมีการกระตุกอย่าง รวดเร็ว
  - - - เพื่อให้สมองส่วนต่างๆที่ไม่มีความเสียหายได้พัฒนา
- - - - Ventriculo-peritoneal Shunt
        
        การให้ยาลดการสร้างน้ำไขสันหลัง
- - - - โรคหัวใจ
      - ระบบทางเดินอาหารอุดกั้น ภาวะฮัยโปไทรอยด์และ
      - อื่นๆ
- - - - เริ่มมีอาการเหน็บชา เจ็บ และปวดโดยเฉพาะปลายแขนปลายขาไหล่ สะโพกและโคนขา
      - อาการอาจเริ่มด้วยอาการคล้ายเป็นตะคริวที่ส่วนปลายและอาจรุนแรงต้องให้ยาแก้ปวด
    - - กล้ามเนื้ออ่อนแรงทั้งสองข้างสมดุลกัน
        
        อาการอัมพาตใน GBS จะเริ่มต้นที่ขา เดินลำบากและจะ
        ลุกลามขึ้นที่แขนและลำตัวด้านบน รวมไปถึงกล้ามเนื้อทรวงอก
    - - โดยเฉพาะส่วนใบหน้า ประสาทสมองคู่ที่ 7
      - ความผิดปกติบ่อยที่สุด มีอัมพาตของหน้า ปิดตา และปากไม่สนิท
      - ถ้ามีความผิดปกติเส้นประสาทคู่ที่ 7 , 9 , 10
        
        ผู้ป่วยจะมีอาการกลืน พูด และหายใจลำบาก
      - อาการลุกลามของประสาทอัตโนมัติ
        
        ส่วน medulla oblongata เกิดความผิดปกติ
        
        จะเกิดอาการผิดปกติในระบบประสาทอัตโนมัติซึ่งถือเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้ป่วย
  - - - เป็นการรักษาที่สะดวกและง่ายกว่าและมีความเสี่ยงน้อยกว่าการแลกเปลี่ยนพลาสม่า แต่มีข้อเสียคือราคาแพงและมีโอกาสกับเป็นซ้ำได้มากกว่า plasmapheresis