Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
End stage renal disease (ESRD) - Coggle Diagram
End stage renal disease (ESRD)
Continuous ambulatory peritoneal dialysis : CAPD
คือ การล้างช่องท้องด้วยนำ้ยาเพื่อกรองของเสียในร่างกายออกโดยการใส่นำ้ยาเข้าไปในช่องท้องผ่านทางท่อมีการเปลี่ยนนำ้ยา 4–5 ครั้ง/วัน ผู้ป่วยสามารถเลือกเวลาทำเองได้ โดยผู้ป่วยหรือผู้ช่วยเหลือต้องเรียนรู้ วิธีการทำด้วย
เป็นการนำของเสียและนำ้ออกจากเลือด การล้างช่องท้องด้วยนำ้ยาเพื่อกรองของเสียในร่างกายออกโดยการใส่นำ้ยาเข้าไปในช่องท้อง ผ่านทางท่อ ซึ่งท่อนี้ต้องทำการฝังเข้าไปในช่องท้อง
ผู้ป่วยเพศชาย อายุ61ปี อาการสำคัญ 61
อาการสําคัญ ปวดท้อง มีคลื่นไส้แต่ไม่อาเจียน นำ้ยาล้างไตที่ปล่อยออกมามีสีขุ่น 4 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล
โรคประจําตัว Diabetes Mellitus ,End stage renal disease, hypertention.
Acute Febrile illness (Suspected infection CAPD) with End stage renal disease with Diabetes Mellitus
ไข้เนื่องจากมีการติดเชื้อที่เยื่อบุช่องท้องจากการล้างไตทางช่องท้องแบบต่อเนื่อง (CAPD)
มีภาวะของเสียคั่งในร่างกายเนื่องจากไตสูญเสียหน้าที่
มีภาวะไม่สมดุลนำ้และอิเล็กโตรไลต์ในร่างกายเนื่องจากไตสูญเสียหน้าที่
มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากพยาธิสภาพโรคเบาหวาน
มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากความดันโลหิตสูง
ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
เสี่ยงต่อภาวะนํ้าเกินเนื่องจากไตสูญเสียหน้าที่
ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบัน
15 ปีก่อนมาโรงพยาบาล เป็นโรคความดันโลหิตสูงรักษาโดยรับประทานยารักษาต่อเนื่อง
5 ปีก่อนมาโรงพยาบาล ตรวจพบเป็นโรคไตเรื้อรัง มีอาการหายใจไม่สะดวก เหนื่อยง่าย นอนราบไม่ได้ รับการรักษาโดยการรับประทานยาและล้างไตที่หน้าท้องเมื่อ2ปีที่แล้ว
1วันก่อนมาโรงพยาบาล สังเกตเห็นน้ำยาล้างไตสีขุ่นกว่าปกติ ไม่มีอาการปวดท้อง รู้สึกตัวร้อนเหมือนจะมีไข้
4 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาลมีไข้สูง ปวดท้อง มีคชื่นไส้แต่ไม่อาเจียน น้ำยาล้างไตที่ปล่อยออกมามีสีขุ่น
Continuous ambulatory peritoneal dialysis: CAPD
นำ้ยาล้างไตที่ปล่อยออกมามีสีขุ่น
พบเชื้อStreptococus gallolyticus
กระตุ้น WBC
อุณหภูมิร่างกายสูง
Acute Febrile illness
ไข้เนื่องจากมีการติดเชื้อที่เยื่อบุช่องท้องจากการล้างไตทางช่องท้องแบบต่อเนื่อง (CAPD)
ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
พฤติกรรมเสี่ยง
สูบบุหรี่วันละ 20มวน/วัน เลิกเมื่ออายุ55 ปี ดื่มสุราเมื่อสังสรรค์กับเพื่อน
Diabetes Mellitus
เกิดจากการเปลี่ยนแปลง Metabolism ของน้ำตาลกลูโคสในร่างกาย
|
เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลอดเลือดขนาดเล็กของไต
|
เกิดความดันสูงภายในหลอดเลือดไต อัตราการกรองของไตเพิ่มขึ้น
|
เกิดการรั่วของ Albuminในปัสสาวะ
|
อัตรการกรองของไตลดลง (eGFR)ลดลง
|
ESRD (End state renal disease ของเสียคลั่งในร่างกาย)
มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากพยาธิสภาพโรคเบาหวาน
การรักษา
Cefazolin 1 gm (v) stat then 0.5 gm (v) ทุก 12 ชม.
Record Vital sign q 4 hr
Furosemide 500 mg ½ tab Oral OD pc - Hydralazine 25 mg 1 tab oral tid pc ,
NaHCO3 2 tabs Oral qid. pc.
Fortum 2 gm (v) stat then 2 gm (v) OD
50% MgSO4 4 gm in 0.9%NSS100 cc. iv drip in 4 hr. OD, then 2 gm in 0.9%NSS100 cc. iv drip in 4 hr * 3 days
On O2 cannula 3 ลิตร/นาที Keep SpO2 ≥95%
CAPD วันละ 4 cycle ครั้งละ 2,000 CC.ใช้น้ำยา 1.5%PDF
CaCO3 1500 mg 1 tab Oral OD pc
อาหารอ่อน โซเดียม 2gm/วัน ไข่ขาว 2 ฟอง/มื้อ
คือ โรคไตถาวร ที่มีการสูญเสียหน้าที่ของไตลดลงมากที่สุด GFR น้อยกว่า 15 มล. และมีพยาธิสภาพที่เนื้อไตเกิดการคั่งค้างของ ของเสียจานวนมากทาให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงจนเสียชีวิตได้ ผู้ป่วยจำเป็นต้องรับการล้างตลอดชีวิตหรือปลูกถ่ายไตจึงจะสามารถมีชีวิตต่อได้โดยปกติถือว่าเป็นโรคไตวายระยะสุดท้ายเมื่อ การทางานของไตเสียไปมากกว่าร้อยละ 95
พยาธิและสรีรวิทยา
โรคไตวายเรื้อรังจะเริ่มเห็นชัดเมื่อ Serum creatinine 1.5-2.0 mg/dL การเพิ่มขึ้นระดับนี้ผู้ป่วยจะเข้าสู่ระยะ ESRD กระบวนการเกิดจะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อ nephron loss ทำให้ nephron ส่วนที่เหลือ ต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น (adaptive mechanism) จึงนำมาสู่การบาดเจ็บของ nephron ส่วนที่ เหลือเพิ่มมากขึ้น เกิดวนทำลาย nephron ที่เหลืออย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่ระยะ ESRD การปรับตัว ของไตจะพบว่า nephron ส่วนที่เหลือจะปรับตัวทำงานทดแทนส่วนที่สูญเสียไปมากขึ้นทำให้ของเสีย และปัสสาวะออกตามปกติในระยะแรกของการเกิด CKDแต่การปรับตัวจะทำให้เกิด fibrosis ที่ nephron เร็วยิ่งขึ้นที่เรียกว่า renal progression
อาการ
อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายกว่าปกติ มึนงง เยื่อบุตาซีด
ตัวเหลือง รู้สึกหนาวง่ายกว่าปกติ
ผู้ป่วยมีอาการ : หายใจไม่สะดวก เหนื่อยง่าย
นอนราบไม่ได้ มีไข้สูง คลื่นไส้แต่ไม่อาเจียน
การรักษา
1.ประคับประคองอาการ
2.การฟอกเลือด
3.การผ่าตัดปลูกถ่ายไต
ผู้ป่วยรักษาโดยการฟอกไตทางช่องท้องแบบถาวร
(Continuous ambulatory peritoneal dialysis : CAPD)
ESRD (End state renal disease
โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย)
ปริมาณเลือดไปเลี้ยงไต
|
Glumerulus กรองสารนำ้ออกจาก plasma ได้น้อยลง
|
อัตราการกรองที่ไตเมื่อglomerulus
กรองน้ำได้น้อยจะไปลดการส่งออกซิเจนไปยังท่อไตส่วนต้น
|
เกิดการตายของเนื้อเยื่อและกลุ่มเซลล์
|
หลอดเลือดบริเวณท่อไตเกิดการหดเกร็ง
|
ความดันในท่อไตเพิ่มขึ้น ไตเสื่อมสภาพ
|
Henle ‘ loop ดูดกลับไม่ได้
|
เกิดภาวะของเสียคั่ง
BUN ค่าที่ได้ 90 (ค่าปกติ 8-23 mg/dL)
Creatinine ค่าที่ได้ 10.95 (ค่าปกติ 0.67-1.17mg/dL)
eGFR 5 มล/นาที/ตารางเมตร
เสี่ยงต่อภาวะนํ้าเกินเนื่องจากไตสูญเสียหน้าที่
BUN ค่าที่ได้ 90 (ค่าปกติ 8-23 mg/dL)
Creatinine ค่าที่ได้ 10.95(ค่าปกติ 0.67-1.17 mg/dL)
มีภาวะของเสียคั่งในร่างกายเนื่องจากไตสูญเสียหน้าที่
มีผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด
เกิดแรงต้านของหลอดเลือดส่วนปลาย
เพิ่มขึ้น อัตราการไหลเวียนเพื่อมาเลี้ยงลดลง
กระตุ้น juxtaglomerular apparatus
ให้หลั่งเอนไซม์
หลอดเลือดส่วนปลายหดตัวกระตุ้นต่อมหมวกไตผ่าน medulla
หลั่งaldosterone
เพิ่มการดูดกลับNa ในร่างกาย
ทำให้ความดันโลหิตสูง
1 more item...
renin-angotensin-aldosteronsystem
ผลิตและควบคุมการทํางานของของฮอ์โมนrenin เพิ่ม
สูญเสียการควบคุมสมดุลน้ำและอิเล็คโตรไลต์
มีภาวะไม่สมดุลนำ้และอิเล็กโตรไลต์ในร่างกายเนื่องจากไตสูญเสียหน้าที่