Urinary Tract Infection (UTI) with Sepsis

ผลทางห้องปฏิบัติการที่ผิดปกติ

การรักษา

การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ (urinary tract infection) คือการตอบสนองของการอักเสบของเยื่อบุผิวระบบทางเดินปัสสาวะต่อการบุกเข้าของแบคทีเรีย มักตรวจพบว่ามีแบคทีเรียและเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ

Sepsis คือ ภาวะที่ร่างกายของเรามีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการติดเชื้อหรือต่อพิษของเชื้อโรคโดยทำให้เกิดการอักเสบขึ้นทั่วทั้งร่างกายซึ่งการติดเชื้อนั้นอาจเกิดขึ้นที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งของร่างกายหรือเป็นการติดเชื้อทั่วร่างกายก็ได้

ข้อวินิจฉัย

Urinary Tract

CBC

Urine culture

click to edit

WBC = 12.76 (5-10 *103 /uL)

RBC = 4.28 (4.2-5.4 *10^6 /uL)

Hgb = 11 (12-16 g/dl)

Hct = 32.3(37-47 %)

%Neutrophil = 82(55-70%)

%Lymphocyte = 12(20-40%)

Sodium = 131 (135-145 mmol/L)

Choride = 93 (98-107 mmol/L)

Urine Analysis

สาเหตุของการติดเชื้อในกระแสเลือดที่พบได้มากที่สุดโดยเชื้อแบคทีเรียจะซึมเข้าสู่กระแสเลือดและแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดทันที ปัญหาสุขภาพซึ่งเป็นสาเหตุของการคิดเชื้อในกระแสเลือดได้แก่โรคที่เกี่ยวกับการติดเชื้อในปอด เช่นปอดบวม การติดเชื้อที่ไต โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ

E.coli (ESBL-producing strain). (MDR)

Protein = 1+

Blood = 2+

Leukocyte = 3+

RBC = 2-3

WBC = 50-100

มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆที่เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เช่น การร่วมเพศ และการกลั้นปัสสาวะบ่อยๆ ก็สามารถพบการเกิด UTI ได้เช่นกัน มักพบได้ได้สูงในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน, ผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนไต, ผู้ป่วยสูงอายุ หรือมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้มีความสามารถของภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำลง

ผู้ป่วยมีประวัติโรคประจำตัวเป็น โรคเบาหวาน มา 10 ปี

เป็นผู้สูงอายุ เพศหญิง

มีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะร่วม

ข้อมูลผู็ป่วย

ผู้ป่วยเพศ ชาย อายุ 65 ปี เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ

อาการสำคัญที่มาโรงพยาบาล ไข้สูง หนาวสั่น ซึมลง 4 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล

ผู้ป่วยหญิงไทย ผมสีดำตาลสั้นประบ่า ผิวขาว รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง นอน อยู่บนเตียง สีหน้าไม่สดชื่น มีอาการอ่อนเพลีย on cannula 4 L/Min ผิวหนังแห้งเล็กน้อย ปลายมือปลายเท้า บวมเล็กน้อย ประเมิน Muscle power ของแขนได้grade 3 ยกแขน หรือขาได้ แต่ต้านแรงไม่ได้Muscle power ของขาทั้งสองข้างคือ grade 1 รับประทานอาหารอ่อน on injection plug ที่บริเวณหลังมือด้านซ้าย และหลัง เท้าขวาไม่มีอาการปวด บวม แดง Retained Foley’s catheters และใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่เพื่อขับถ่ายบนเตียง เป็น ผู้ป่วยติดเตียงมาแล้ว 9 เดือน

ประวัติการเจ็บป่วย

เป็นเบาหวาน (Diabetes mellitus) 10 ปี

โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) เป็นมา 10 ปี

โรคหัวใจขาดเลือด (Ischemic heart disease)

ขาดการรับประทานยามา 9 ปี

กระดูกทับเส้นประสาท 9 เดือน

อาการและอาการแสดง

ไข้ หนาวสั่นทันที

คลื่นไส้อาเจียน

อ่อนแรงร่วมด้วย

ปัสสาวะขัด (dysuria)

กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ (urgency)

ปัสสาวะถี่ (frequency)

Aspirin 81 mg 1tab oral OD.

E.KCl 30 ml x I dose .

Ceftriaxone 2 g vein OD

  1. มีภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะจากการมีความจำเป็นต้องใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้เป็นเวลานาน
  1. มีภาวะไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์เนื่องจากผู้ป่วยรับประทานอาหารได้น้อย
  1. เสี่ยงต่อภาวะเนื้อเยื่อในร่างกายพร่องออกซิเจนเนื่องจากมีภาวะซีด
  1. เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการนอนนาน เช่น แผลกดทับ ข้อยึดติด ภาวะHypostatic Pneumonia
  1. มีโอกาสเกิดภาวะ Hyperglycemia แลHypoglycemia ซ้ำเนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาสม

รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด

Potassium =3.16 (3.5-5.1 mmol/L)

ภาวะ hypokalemia ที่ไม่สามารถให้ K+ ทดแทนโดยการกินได้

ใช้ตามอาการเพื่อบรรเทาอาการอักเสบและลดไข้ และใช้เพื่อต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด

ผู้ป่วยมี Potassium =3.16

ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น อาจจับไข้ตลอดเวลา หรือไข้สูงเป็นพักๆ ซึม กระสับกระส่าย เบื่ออาหาร

อาการสำคัญที่มาโรงพยาบาล ไข้สูง หนาวสั่น ซึมลง 4 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล

6.เสี่ยงต่อการเกิดการพัดตกหกล้มเนื่องจากแขนขาอ่อนแรง

7.ผู้ป่วยมีภาวะวิตกกังวลเกี่ยวกับความเจ็บป่วย

การตวรจวินิจฉัย

การตรวจปัสสาวะ

การเพาะเชื้อในปัสสาวะ ถือว่ามีความสำคัญที่สุดในการวินิจฉัยโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (gold standard) เพื่อยืนยันการวินิจฉัย และการเลือกใช้ยาต้านจุลชีพ

ทฤษฏี

การรักษาหลักสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้แก่ การให้สารน้ำที่เพียงพอร่วมกับการให้ยาต้านจุลชีพ

ระยะเวลาในการให้ยา

1 ในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะส่วนบน หรือผู้ป่วยที่มีใช้สูง ควรได้รับยาด้านจุลชีพรวม 7-14 วัน
2 ในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง โดยผู้ป่วยไม่มีอาการไข้ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ควรให้ยาต้านจุลชีพ 3-7 วัน

สาเหตุของโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะที่สำคัญคือ แบคทีเรีย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ใน ลำไส้ของคนเรา โดยมีกลไกการติดเชื้อคือ แบคทีเรียดังกล่าวมีการเคลื่อนที่จากลำไส้มาปนเปื้อนบริเวณส่วนนอก(Anus) จากนั้นเข้าสู่บริเวณช่องเปิดของท่อปัสสาวะ และเคลื่อนขึ้นไปตามท่อปัสสาวะ เข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ ท่อไต และไต และทำให้เกิดการติดเชื้อในอวัยวะที่เคลื่อนไปถึง นอกจากนั้นแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการติดเชื้ออาจมาจากกระแสเลือดในผู้ที่มีการติดเชื้อในกระแสเลือดนำมาก่อน หรือมาจากการติดเชื้อของอวัยวะใกล้เคียงกับระบบ ทางเดินปัสสาวะ

Urine culture > 105 CFU/mL. E.coli (ESBL-producing strain).

ผู้ป่วย Retained Foley’s catheters และใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเพื่อขับถ่ายบนเตียง เป็นผู้ป่วยติดเตียงมาแล้ว 9 เดือน

Urine Analysis

Protein = 1+ (Negative)

Blood = 2+ (Negative)

Leukocyte = 3+ (Negative)

RBC = 2-3 ( 0-2 cells/HPF)

WBC = 50-100 (< 5 cells/HPF)

จากการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะ (UTI)เชื้อเข้าสู่บริเวณช่องเปิดของท่อปัสสาวะ และเคลื่อนขึ้นไปตามท่อปัสสาวะ เข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ ท่อไต และไต และทำให้เกิดการติดเชื้อส่งผลให้เกิดภาวะติดเชื่อในร่างกาย(Sepsis) ที่ร่างกายของเรามีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการติดเชื้อหรือต่อพิษของเชื้อโรคโดยทำให้เกิดการอักเสบขึ้นทั่วทั้งร่างกาย เชื้อแบคทีเรียจะซึมเข้าสู่กระแสเลือดและแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดทันที

ภาวะแทรกซ้อนจาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

เช่น ไตวายเฉียบพลัน

การติดเชื้อ ผู้ป่วยเบาหวานที่ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดีมีโอกาสติดเชื้อง่ายเนื่องจากเม็ดเลือดขาวจับและทำลายเชื้อโรคลดลง พบว่าการติดเชื้อเป็นสาเหตุที่พบบ่อย และสำคัญที่สุดที่ทำให้เกิด keto-acidosis ทั้งสอง ภาวะนี้ถ้าการควบคุมเบาหวานและการรักษาโรคติดเชื้อ การติดเชื้อในผู้ป่วยเบาหวาน

ภาวะไตวายเฉียบพลัน คือ ภาวะที่มีการสูญเสียการทำงานของไตในช่วงเวลาเป็นชั่วโมงหรือเป็นวัน เป็นผลให้เกิดการคั่งของของเสียและการควบคุมสมดุลกรดด่าง รวมทั้งปริมาณน้ำและเกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ

พยาธิสภาพ

ขาดการรับประทานยาเบาหวานมาปี

เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ทางเดินปัสสาวะ

เกิดการติดเชื้อ

เชื้อเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะและ
เกาะติดกับเยื่อบุเซลล์

เชื้อเกิดการแบ่งตัวและเจริญเติบโต ทำให้อักเสบ

เชื้อในปัสสาวะเข้าสู่ท่อไต เกาะติดกับผนังท่อไต

มีการปล่อยสารที่ออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อเรียบของท่อไต

ท่อไตหดตัว เกิดการอุดตัน (Physiologic obstruction)

เกิดการไหลย้อนกลับบของปัสสาวะ เข้าสู่ไตมากขึ้น

ทำให้ไตสูญเสียการทำงานเป็นผลให้เกิดการคั่งของของเสียและการควบคุมสมดุลกรดด่างจึงทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันจากการที่มีการติดเชือในระบบทางเดินปัสสาวะ

อ้างอิง

สมพล เพิ่มพงศ์โกศล . (n.d.). การติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ. เข้าถึงได้จากhttps://med.mahidol.ac.th/surgery/sites/default/files/public/pdf/Urinary%20tract%20infection.pdf

แวววิมล คงดี. (2555). การพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ. เข้าถึงได้จาก http://www.msdbangkok.go.th/dowload%20file/Personal/Succeed/141258/13.pdf

วิษณุ ธรรมลิขิต. (2558). คู่มือ การควบคุมและป้องกันแบคทีเรียดื้อยาต้านจุลชีพในโรงพยาบาล. Retrieved from https://www.hsri.or.th/sites/default/files/attachment/book2.pd

มีโอกาสเกิดภาวะ Hyperglycemia แลHypoglycemia ซ้ำเนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาสม

เสี่ยงต่อภาวะเนื้อเยื่อในร่างกายพร่องออกซิเจนเนื่องจากมีภาวะซีด

มีภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะจากการมีความจำเป็นต้องใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้เป็นเวลานาน

เป็นผู้ป่วยติดเตียง 9 เดือน

เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการนอนนาน เช่น แผลกดทับ ข้อยึดติด ภาวะHypostatic Pneumonia