ระบบสุขภาพ

อุปสงค์ (Demand)

อุปทาน (Supply) ปริมาณสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตยินดีเสนอขาย ณ ราคาต่างๆกัน

ดุลยภาพของตลาด การกำหนดราคาและปริมาณของสินค้าแต่ละชนิดในตลาด

ปัจจัยกำหนดอุปสงค์

อุปสงค์ที่ทรงประสิทธิผล (Effective Demand) อุปสงค์หรือความต้องการซื้อที่จะมีผลอย่างแท้จริง ประกอบด้วย

กฎของอุปสงค์ Low of demand ปริมาณสินค้าหรือบริการที่ผู้บริโภคต้องการซื้อย่อมแประผกผันกับระดับราคาสินค้าหรือบริการชนิดนั้นเสมอ

การเปลี่ยนแปลงในปริมาณอุปสงค์และการเปลี่ยนแปลงระดับอุปทาน

ราคาของสินค้า(price)

ระดับรายได้ของผู้บริโภค (income)

รสนิยมผู้บริโภค(tastes)

ขนาดประชากร (Size of population)

ราคาสินค้าตัวอื่นที่เกี่ยวข้อง (Relative price)

การคาดคะเนราคาสินค้าในอนาคต(Price expectation)

ความเต็มใจยินดีที่จะซื้อ(willingness to pay)
ความสามารถที่จะจ่าย (Ability to pay)
หรือมีอำนาจซื้อ (Purchasing power)

อุปสงค์ต่อรายได้ (income demand) ปริมาณเสนอซื้อผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับรายได้ของผู้ซื้อ

อุปสงค์ต่อราคาสินค้าอื่น(cross demand) ความต้องการซื้อสินค้าบริการ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ณ ระดับราคาสินค้าอื่นที่เกี่ยวข้องในด้าน

อุปสงค์ต่อราคา(Price demand) ปริมาณเสนอซื้อสินค้า ณ ระดับราคาต่างๆกันของสินค้าืในช่วงเวลาหนึ่งโดยกำหนดปัจจัยอื่นคงที่ ราคาสูงการซื้อจะลด ราคาลด ปริมา

อุปสงค์ส่วนบุคคล(individual demand)ปริมาณสินค้าชนิดหนึ่งของผู้บริโภคแต่ละคน ณ ระดับราคาต่างๆของสินค้านั้น

อุปสงค์ตลาดสำหรับสินค้าใดๆ (Market demand) ปริมาณสินค้าชนิดหนึ่งที่ผู้ซื้อทุกคนในตลาดเต็มใจซื้อ ณ ระดับราคาสินค้าต่างๆ (เป็นผลรวมของอุปสงค์ส่วนบุคคลของผุ้บริโภคในตลาด)

สินค้าด้อย(inferior good) สินค้าที่มีความต้องการจะเพิ่มขึ้นหากรายได้ลด

สินค้าปกติ (Normal goods) ความต้องการเพิ่มหากมีรายได้เพิ่ม

สินค้าที่ใช้ประกอบกันได้ (Complementary goods)

สินค้าที่เป็นอิสระต่อกัน(independent good)

สินค้าที่ใช้ทดแทนกันได้(substitute goods)

ใช้แทนกันด้วยวัตถุประสงค์เดียวกัน สามาารถใช้แทนกันได้ สินค้าหนึ่งราคาเปลี่ยนไปราคาสินค้าอีกชนิดหนึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงราคาในทิศทางตรงข้าม

ใช้ร่วมกับสินค้าอื่น สินค้าหนึ้งเพิ่มหรือลดลงจะมีผลตทำให้ปริมาณการเสนอซื้อสินค้าอีกชนิดหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามด้วยเช่น น้ำมันกับรถยนต์

ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย ให้ประโยชน์คนละด้านไม่จำเป็นต้องใช้ประกอบกันหรือแทนกัน

การเปลี่ยนแปลงในปริมาณอุปสงค์(Chang in quantity demand) เกิดจากสาเหตุการเปลี่ยนแปลงทางราคาสินค้า และเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบนอุปสงค์เส้นเดียว)

การเปลี่ยนแปลงในระดับอุปสงค์ (change in demand) เป็นการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยที่กำหนดอุปสงค์อื่นๆที่ไม่ใช่ราคา และการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในเส้นอุปสงค์เส้นใหม่

ผู้บริโภคต้องการมากขึ้น โดยราคาคงที่

ผู้บริโภคต้องการลดลงโดยที่ราคาคงที่

กฎของอุปสงค์เกิดจากผลทางราคา (price effect)

ผลทางรายได้ เมื่อราคาเปลี่ยนแปลงจะส่งผลให้รายได้ที่แท้จริง(Renal income) เปลี่ยน"เงินเท่าเดิมซื้อของได้มากขึ้น"

ผลทางการทดแทน เมื่อสินค้าหนึ่งเปลี่ยนแปลงราคาโดยที่อีกชนิดหนึ่งยังคงเดิม จะให้ราคาเปรียบเทียบ (Relative price)ของสินค้าที่เปลี่ยนแลง"ซื้อของถูกแทนของแพง"

อุปทานตลาด(Market supply) ผู้ผลิตทุกรายในตลาดต้องการผลิตออกขายในช่วงเวลาหนึ่ง ณ ระดับต่างๆของราคา เช่น อุปทานเนื้อไก่ในประเทศไทย (เป็นผลรวมของอุปทานหน่วยผลิตทุกรายในตลาด รวมเส้นตามแนวนอน)

อุปทานหน่วยผลิต(individual supply)ผู้ผลิตรายหนึ่งต้องการผลิตออกขายในช่วงเวลาหนึ่ง ณ ระดับต่างๆของราคา เช่น อุปทานเนื้อไก่ของบริษัท A

การเปลี่ยนแปลงในปริมาณอุปทาน และการเปลี่ยนแปลงระดับอุปทาน

ปัจจัยกำหนดอุปทานตลาด

กฎอุปทาน(Law of supply)

จำนวนผู้ผลิต

เทคโนโลยีการผลิต

สภาพดินฟ้าอากาศ

ราคาของปัจจัยการผลิต (ต้นทุน)

นโยบายรัฐบาล

ราคาของสินค้าอื่นที่อาจผลิตได้

การเปลี่ยนแปลงในระดับอุปทาน (change in quantity supplied)เปลี่ยนแปลงปริมาณสินค้าที่ผู้ผลิตเต็มใจเสนอขายเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยอื่นๆ จำทำให้เส้นอุปทานเลื่อนไปทั้งเส้น ต้นทุนเพิ่มอยากขายลดลง ต้นทุนลดอยากขายเพิ่ม

การเปลี่ยนแปลงในปริมาณอุปทาน(change in quantity supplied)การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าจะทำให้ปริมาณเสนอขายเปลี่ยนแปลงในทิศทางเดียวกัน

การเปลี่ยนแปลงในปริมาณอุปทาน(change in quantity supplied) การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าจะทำให้ปริมาณเสนอขายเปลี่ยนแปลงในทิศทางเดียวกัน

ปริมาณสินค้าหรือบริการ ที่ผู้ผลิตต้องการขายแปรผันตามระดับราคาของสินค้าและบริการชนิดนั้นเสมอ ราคาสูงปริมาณการซื้อสูง ราคาลดปริมาณสินค้าลด

อุปสงค์ อุปทาน กับงานสาธารณสุข

กลไกราคา(price mechanism)ราคาจะปรับตัวเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการเสนอซื้อและเสนอขาย

อุปทานส่วนเกิน(Excess supply)เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ

อุปสงค์ส่วนเกิน(Excess demand) เสนอซื้อมากกว่าเสนอขาย

เมื่อเกิดอุปทานส่วนเกินขึ้น ราคาจะปรับลดลง เมื่ออุปสงค์ส่วนเกินราคาจะปรับสูงขึ้น

อุปสงค์

อุปทาน

ความจำเป็นโดยอาศัยหลักอุปสงค์

Felt need จำเป็นที่ตระหนัก ผู้บริโภครู้สึกว่าต้องมี

Express need ที่แสดงออก ปรับเชิงตระหนักให้เป็นการกระทำ

Normative จำเป็นควรมี ประเมินโดยแพทย์

Comparative need เปรียบเทียบ กลุ่มประชากรเหมือนกันควรได้รับการบริการเหมือนกัน

อุปสงค์ต่อสุขภาพ(demand fir health)ต้องการหรือจำเป็นที่ผู้บริโภคแสดงออก ณ ระดับราคาเงา

อุปสงค์ต่อการรักษาพยาบาล(demand for health care)ระดับการรักษาพยาบาลที่ผู้บริโภคจะรับเข้าบริการ ณ ระดับราคาต่างๆกัน

ไม่ขึ้นอยู่กับเหตุผลทางเศรษฐกิจ ,ผู้บริโภคแต่ละรายไม่ได้กำหนดปริมาณการบริโภคสินค้า, ผู้บริโภคไม่ได้ซื้อสุขภาพเหมือนซื้อสอนค้าในตลาด,สุขภาพมีระยะเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง

ปัจจัยกำหนดพฤติกรรมของผู้บริโภคในการซื้อบริการสุขภาพ

ความรุนแรงของโรค(severity;S) ค่าบริการ(Price;P)
รายได้(Income;Y) ฤดูกาล(Season;SS) อายุ(Age;A) เพศ(Gender;G) พันธุกรรม(Genetic;GE)พื้นฐานการศึกษา(Education;EDU)

อุปทานในการบริการทางการแพทย์(Supply for health services)จำนวนชั่วโมงที่ให้บริการเมื่อเทียบกับค่าตอบแทนที่บุคลากรพึงได้รับ

เป็นบริการที่ผู้ผลิตยินดีที่จะเสนอให้ผู้บริโภค ณ ระดับราคาต่างๆกัน การจัดบริการด้านสาธารณสุขนั้นไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสวงหาผลกำไรสูงสุด=สินค้าสาธารณะ(public goods)

ตลาดและตลาดสุขภาพ สถานที่ที่ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถแลกเปลี่ยนซื้อขสยกันได้ไม่ว่าจะมีสถานที่ทำการซื้อขายหรือไม่ก็ตาม

ลักษณะพิเศษ บริการสุขภาพจับต้องไม่ได้(Intangibility) ผลิตและบริโภคเกิดพร้อมกัน(Inseparability)บริการสุขภาพไม่สามารถทำสำรองหรือล่วงหน้าได้(Inventory)

ตลาดประกันสุขภาพ ตลาดการรักษาทางการแพทย์ ตลาดการให้บริการของโรงพยาบาล ตลาดแรงงานทางการแพทย์

อุปทานด้านการบริการสาธารณสุข(supply for public health)บริการในโรงพยาบาล(จน.เตียงชม.การให้บริการ)ยารักษา