Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหา ทางระบบประสาท, น.ส. พิชญานิน นิสภา 62111301059…
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหา
ทางระบบประสาท
ชักจากไข้สูง
(Febrile convulsion)
อาการชักสัมพันธ์กับการมีไข้
ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อของระบบประสาท
ชนิด
complex febrile seizure
simple febrile seizure
สาเหตุ
ติดเชื้อในระบบต่างๆ เด็กจะมีอาการชักเมื่อ Temp >39 °C
อาการและอาการแสดง
ตัวร้อน หน้าแดง มึนงงสับสน กระสับกระส่าย ร้องกวน
มีอาการชักลักษณะการชักอาจจะตัวแข็งหรือตัวอ่อน
ชักเกร็งหรือกระตุก ไม่รู้สึกตัว
การรักษา
ระยะหลังชัก
ซักประวัติตรวจร่างกายโดยละเอียด ให้ยาป้องกันการชัก ทานทุกวันนาน 1-2 ปี เช่น Phenobarbital , Depakine
ระยะที่กำลังมีอาการชัก
ให้ยาลดไข้ ร่วมกับ เช่น ตัวลดไข้ (เน้นขณะชักห้ามให้ยาชนิดรับประทาน)
ชักเกิน 5 นาที ต้องทำให้หยุดชักเร็วที่สุด โดยให้ยาระงับอาการชัก เช่น diazepam
การพยาบาล
ไม่ผูกยึดเด็กหรือจับเด็กขณะมีอาการชักเพราะอาจเกิดข้อไหล่หลุดหรือกระดูกหัก
ไม่ใส่ไม้กดลิ้น เพราะอาจทำให้ฟันหักและฟันที่หักอาจตกลงไปในลำคอเกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ
จัดท่านอนตะแคงศีรษะต่ำกว่าลำตัว ดูดเสมหะถ้ามีเสมหะ
ระมัดระวังอุบัติเหตุที่อาจเกิดขณะมีอาการชัก
เช็ดตัวลดไข้ (tepid sponge)และให้ยาลดไข้
สังเกตและบันทึกระยะเวลาของการชักลักษณะการซัก
วัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
โรคลมชัก
(Epilepsy)
อาการชักที่เกิดขึ้นซ้ำๆ อย่างน้อย 2 ครั้งขึ้นไป โดยไม่สัมพันธ์กับการมีไข้
อาการชักเกิดจากคลื่นไฟฟ้าของสมองถูกปล่อยออกมาจำนวนมาก
อาการชักจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของสมองที่ปล่อยคลื่นไฟฟ้าสมอง
อาการชักจะเกิดเพียง 2- 3 นาทีแล้วจะเป็นปกติ
ถ้านานเกิน 10 นาทีแล้วไม่หยุดเองและไม่ได้รับการรักษามักจะกลายเป็นภาวะชักต่อเนื่อง(Status epilepticus)
ชนิดของอาการชัก
Generalized seizure
Atonic seizure มีการสูญเสียความดึงตัวของกล้ามเนื้อ
Myoclonic seizure มีการหดตัวของกล้ามเนื้อเป็นระยะสั้นๆ
Tonic clonic seizure (Grand mal) มีการเกร็งก่อนแล้วมีการกระตุกตาม
Absence seizure (Petit mal) มีตากระพริบหรือตากระตุก
Clonic seizure มีการกระตุกเป็นจังหวะที่ช้ากว่า myoclonic
Infantile spam ในเด็ก 3 เดือน ถึง 2 ปี คือ งอศีรษะ ลำตัว แขนขาเข้าหากันช่วงระยะสั้นๆ แล้วคลายออกคล้ายสะดุ้ง
Tonic seizure เกร็งแข็ง ล้มลงถ้ายืนอยู่
Partial seizure
Simple partial seizure มีการกระตุกหรือชาของแขนขา หน้า คอ ประมาณ 5-10 s
Complex partial seizure การชักที่มีอาการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม
เกิดจากซีกหนึ่งซีกใดของสมอง มีลักษณะการชักเฉพาะที่ ขึ้นอยู่กับบริเวณสมองที่คลื่นไฟฟ้า
Partial seizure evolving to secondary generalize seizure มีความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าสมองเฉพาะที่แล้วกระจายทั่วสมองทั้ง 2 ข้างโดยมีอาการของ simple partial seizure หรือ complex partial seizure แล้วมีอาการชักเกร็งและ/หรือกระตุกทั่วทั้งตัว
Unclassified epileptic seizure เป็นชนิดที่ไม่สามารถจัดกลุ่มได้
สาเหตุการชัก
เกิดจากการมีรอยโรคในเนื้อสมอง ทำให้เซลล์ประสาทหลั่งคลื่นไฟฟ้าสมองผิดปกติออกมาและมีผลต่ออวัยวะต่างๆที่สมองส่วนนั้นควบคุมทำให้เกิดอาการชักตามมา
การรักษา
ให้ Diazepam 0.2-0.4 มก./กก./นาที ทางหลอดเลือดดำ
ถ้าผู้ป่วยเด็กยังไม่หยุดชักภายใน 2-5 นาที ให้ diazepam 0 2-0.4 มก.กก.ซ้ำอีกครั้งทางหลอดเลือดดำ
ถ้า 5 นาทียังไม่หยุดซักให้ phenytoin 20 มก./กก.ผสม0.9% NSS ให้ทางหลอดเลือดดำด้วยความเร็วไม่เกิน 1 มก./กก./นาที
ภายหลังจากให้ยาแล้ว 20-30 นาที จับชีพจรและวัดความดันโลหิต
ยากันชัก
Phenytoin (dilantin) เกิดอาการเซ ง่วงซึม เห็นภาพซ้อน ตากระตุกคลื่นไส้ อาเจียน เหงือกหนา มีภาวะซีดจาก Folic acid ต่ำได้ มีผื่นขึ้น ผมขนดก
Valproic acid ง่วงซึม คลื่นไส้อาเจียน มือสั่น
Phenobarbital ทำให้ง่วงซึม เดินเซ
Benzodiazepine ได้แก่diazepam (valium) ทำให้ง่วงหลับพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เดินเซ มีเสมหะจากหลอดลมมากกว่าปกติ
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
2.เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากมีอาการชัก
3.บิดามารดามีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชักของผู้ป่วยเด็ก
1.เสี่ยงต่อภาวะพร่องออกซิเจน เนื่องจากการชักเป็นเวลานาน
4.บิดามารดาขาดความรู้ในการดูแลผู้ป่วยเด็กโรคลมชัก
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
(Meningitis)
สาเหตุ
เชื้อแบคทีเรีย (Bacterial meningitis)
เชื้อไวรัส (Viral หรือ Asepitc meningitis)
พยาธิ (Eosinophilic meningitis)
เชื้อรา (Fungal memingitis)
Cerebrospinal fluid test
White cell count ไม่พบ
Glucose 50-75 mg/dl(ครึ่งหนึ่งของน้ำตาลในเลือด)
Red cells ไม่พบ
Protein 14-45 mg/dl
Pressure
เด็กโต = 110-150 mmH2O
ทารก 100 mmH2O
อาการและอาการแสดง
ปวดศีรษะมาก ซึมลง กระหม่อมโป่งตึง อาเจียน ชัก
อาการแสดงของการระคายเคืองของเยื่อหุ้มสมอง
Kernig’s sign ได้ผลบวก
Brudzinski’s
คอแข็ง (Stiffness of neck)
อาการที่แสดงว่ามีการติดเชื้อ เช่น มีไข้
การรักษา
รักษาตามอาการ
การรักษาตามอาการ ให้ยาลดไข้ ให้ยานอนหลับ ให้ยากันชัก ให้ยาลดอาการบวมของสมอง
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำรักษาภาวะไม่สมดุลย์สารน้ำและอิเล็คโทรลัยท์
อาจต้องเจาะคอหรือใช้เครื่องช่วยหายใจในรายที่มีปัญหาการหายใจหรือหมดสติ
การรักษาเฉพาะ
ให้ยาปฏิชีวนะที่สอดคล้องกับผลการเพาะเชื้อน้ำไขสันหลังที่เป็นสาเหตุ
การป้องกัน ควรฉีดวัคซีน เช่น Hib vaccine , JE vaccine,BCG
โรคสมองพิการ
(Cerebral Palsy)
ความบกพร่องของสมองส่วนที่ใช้ควบคุมกล้ามเนื้อทำให้เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับท่าทางการทรงตัวการเคลื่อนไหว(motor disorders)
สาเหตุ
ระยะคลอด
สมองขาดออกซิเจน
ได้รับอันตรายจากการคลอด คลอดยาก รกพันคอ คลอดท่าก้น การใช้คีมดึงเด็ก
เกิดร้อยละ 30
ระยะหลังคลอด
เกิดร้อยละ 5
การได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ
ตัวเหลืองเมื่อแรกเกิด เส้นเลือดที่สมองมีความผิดปกติ
การขาดออกซิเจนจากการจมน้ำ
การติดเชื้อบริเวณสมอง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฝีที่สมอง เป็นต้น
การได้รับสารพิษ เช่น สารตะกั่ว ยาฆ่าแมลง
ระยะก่อนคลอด
มีเลือดออกทางช่องคลอดของมารดาช่วง 6-9 เดือน
มารดาขาดสารอาหารขณะตั้งครรภ์
มารดาภาวะชักหรือมีภาวะปัญญาอ่อน
ขณะตั้งครรภ์มารดามีการใช้ยาบางชนิดทำให้สมองเด็กมีพัฒนาการผิดปกติ
มารดาได้รับอุบัติเหตุหรือเกิดการติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
การเกิดก่อนกำหนด การเกิดน้ำหนักตัวน้อย
อาการและอาการแสดง
กลุ่มเคลื่อนไหวผิดปกติ (Dystonia)
มีการแสดงสีหน้า คอบิด แขนงอ หรือเหยียดเปะปะ
พูดลำบาก กลืนลำบาก อาจมีการกระตุกอย่างรวดเร็ว คล้ายอาการขว้างลูกบอล
ไม่สามารถควบคุมให้อยู่นิ่งๆ
กลุ่มเกร็ง (Spastic)
มีความผิดปกติครึ่งซีกหรือผิดปกติทั้งตัว
ทำให้ควบคุมกล้ามเนื้อ คอ ลำตัว และแขน ขาไม่ได้
มีกล้ามเนื้อเกร็ง เคลื่อนไหวได้ช้า ขาอาจมีอาการมากกว่าแขน
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
3.ได้รับสารอาหารน้อยกว่าความต้องการของร่างกายเนื่องจากปัญหาการให้อาหารและความบกพร่องทางร่างกาย
4.มีความบกพร่องในการสื่อสารด้วยวาจาเนื่องจากสูญเสียการได้ยิน/ระบบประสาทบกพร่อง
2.ขาดการดูแลตนเองเนื่องจากความบกพร่องทางด้านร่างกาย
5.เสี่ยงต่อพัฒนาการช้ากว่าวัย/มีพัฒนาการช้ากว่าวัยเนื่องจากความบกพร่องของระบบ
1.การเคลื่อนไหวของร่างกายบกพร่องเนื่องจากมีความบกพร่องของระบบประสาท
การรักษา
การให้ early stimulation เพื่อให้สมองส่วนต่างๆที่ไม่มีความเสียหายได้พัฒนา
การแก้ไขความผิดปกติของการรับรู้ที่สำคัญ
การทำกายภาพบำบัดของกล้ามเนื้อแขน ขา หรือลำตัว
การแก้ไขความผิดปกติของระบบประสาทส่วนอื่น
การให้ยาคลายกล้ามเนื้อ ได้แก่ diazepam,baclofen
แนะนำผู้ปกครองในการดูแลเด็กในชีวิตประจำวันและส่งเสริมให้เด็กฝึกทักษะการใช้ส่วนต่างๆของร่างกายตามความสามารถและศักยภาพอย่างเหมาะสม
ไข้สมองอักเสบ (Encephalitis)
เนื้อสมองผิดปกติอาจเกิดจากการติดเชื้อไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส
(Virus encephalitis)
ชนิด
Secondary viral encephalitis เช่น ไวรัสหัด ไวรัสหัดเยอรมัน
ไวรัสอีสุกอีใส ไวรัสคางทูม รวมทั้งวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า
Primary viral encephalitis ไวรัสที่นำโดยแมลง โดยเฉพาะไข้สมองเจอี หรือ Japanese encephalitis virus ไวรัสเริม ไวรัสโรคพิษสุขนัขบ้า
อาการและอาการแสดง
เกิดอย่างเฉียบพลันโดยเริ่มมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดบริเวณต้นคอมาก
คอแข็ง อาเจียน หายใจไม่สม่ำเสมอ ซึมลง การเคลื่อนไหวผิดปกติ บางรายอาจมีอาการชัก
เกิดภาวะสมองบวมจากการคั่งของ lymphocyte ในเนื้อสมองและเยื้อหุ้มสมอง
การรักษา
ยาต้านจุลชีพหรือยาปฏิชีวนะ เพื่อรักษาภาวะติดเชื้อแทรกซ้อน
การให้ยากันชัก เช่น Phenoberbital
ยาที่ลดอาการบวมของสมอง ได้แก่ ยาสเตียรอยด์ เช่น dexamethasone
ยา acyclovir ทางหลอดเลือดดำในผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัสเริม (herpes simplex virus) ให้ทางหลอดเลือดดำ
การป้องกัน
การฉีดวัคซีน การฉีดป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี
หลักเลี่ยงการสัมผัสกับเชื้อโรคหรือพาหะ เช่น ป้องกันไม่ให้ยุงกัด
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
4.อาจเกิดภาวะขาดสมดุลของสารน้ำ อิเล็คโทรลัยท์และสารอาหาร
อาจเกิดอันตรายจากการชักเนื่องจากไข้สูง
3.อาจเกิดอันตรายต่อเซลล์สมองเนื่องจากภาวะพร่องออกซิเจน
6.มีความไม่สุขสบายปวดศีรษะจากการมีการระคายเคืองที่เยื้อหุ้มสมอง
2.อาจเกิดอันตรายต่อเซลล์สมองเนื่องจากภาวะความดันในสมองสูง
1.อาจเกิดอันตรายต่อเซลล์สมองเนื่องจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ/สมองอักเสบ
7.บิดามารดามีความกลัวและวิตกกังวลเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของบุตร
Hydrocephalus
ภาวะที่มีการคั่งของน้ำไขสันหลังในกะโหลกศีรษะบริเวณventricleของสมองและ subarachnoid space มากกว่าปกติน้ำไขสันหลังที่คั่งในปริมาณมากจะทำให้เกิดความดันภายในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น
สาเหตุ
การสร้างหรือการผลิตน้ำไขสันหลังมากผิดปกติ
การอุดกั้นการไหลเวียนของน้ำหล่อสมองและไขสันหลัง
ความผิดปกติในการดูดซึมน้ำไขสันหลัง
การพยาบาลก่อนผ่าตัด
ปัญหาที่ 2
อาจเกิดแผลกดทับบริเวณศีรษะ
การพยาบาล
1.จัดให้นอนบนที่นอนนุ่มๆ ใช้หมอนนุ่มรองศีรษะไหล่ เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
2.รักษาความสะอาดของผิวหนัง
3.จัดปูที่นอนให้เรียบตึง
4.ตรวจสอบประเมินการเกิดแผลกดทับสม่ำเสมอ
ปัญหาที่ 1
อาจเกิดความดันในกะโหลกศีรษะสูงจากการคั่งของน้ำไขสันหลัง
การพยาบาล
1.ประเมินอาการความดันในกระโหลกศีรษะสูง
2.วัดเส้นรอบวงศีรษะทุกวันเวลาเดียวกัน
3.จัดท่านอนศีรษะสูง 15-30 องศา
ปัญหาที่ 3
อาจเกิดภาวะขาดสารน้ำและอาหารเนื่องจากการสำรอกอาเจียนหรือดูดนมได้น้อย
การพยาบาล
1.ดูแลให้รับนมน้ำครั้งละน้อยๆโดยแบ่งให้บ่อยครั้ง
2.ขณะให้นมอุ้มท่าศีรษะสูงเสมอ
3.หลังให้นมจับเรอไล่ลม
การพยาบาลระยะหลังผ่าตัด ทางเดินของท่อไขสันหลัง
ดูแลรักษาความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัด ตามแผนการรักษา
พลิกตะแคงตัว-เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ เพื่อห้องกันการเกิดภาวะปอดอักเสบ
วัดและบันทึกสัญญาณชีพและประเมินอาการทางประสาท
ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะอย่างถูกต้อง
สังเกตและบันทึกอาการและอาการแสดงของภาวะแทรกซ้อนหลังทำผ่าตัด
วัดเส้นรอบท้อง หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมงแรก เพื่อประเมินประสิทธิภาพการดูดซึมน้ำไขสันหลังที่ระบายมาจากเวนตริเคล
จัดท่านอนเพื่อป้องกันการกดทับลิ้นของท่อทางเดินน้ำไขสันหลัง
วัดเส้นรอบวงศีรษะทุกวัน เพื่อประเมินประสิทธิภาพการทำงานของท่อระบายน้ำไขสันหลัง
Down ’s syndrome
อาการและอาการแสดง
มือกว้างและสั้น มักจะมี simian crease นิ้วก้อยโค้งงอ(clinodactyly) ร่องระหว่างนิ้วโป้งเท้าและนิ้วชี้กว้าง เส้นลายนิ้วมือมักพบ ulnar loopมากกว่าปกติและพบ distal triradius ในฝ่ามือ
ทางเดินอาหารอุดตัน ที่พบบ่อยคือ duodenum stenosis
มี brush field spot และปากอ้าและลิ้นมักจะยื่นออก และมีรอยแตกที่ลิ้น
Hypothyroidism , Polycythemia
หัวแบนกว้าง (brachiocephaly) คอสั้นและผิวหนังด้านหลังของคอค่อนข้างมากและนิ่ม หูติดอยู่ต่ำ
ร่างกายเจริญเติบโตช้า
กล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก (hypotonia)
ความผิดปกติเกี่ยวกับตา เช่น ต้อกระจก ต้อหิน ตาเข สายตาสั้น
ความผิดปกติเกี่ยวกับหู เช่น ช่องรูหูเล็ก มีปัญหาการได้ยิน
การติดเชื้อ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจเกิดง่ายกว่าเด็กทั่วไป
การรักษา
การรักษาโรคทางกายอื่นๆที่มีร่วมด้วย คือ โรคหัวใจระบบทางเดินอาหารอุดกั้นภาวะฮัยโปไทรอยด์และอื่นๆ
การให้คำปรึกษาแนะนำด้านพันธุกรรม
การกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการให้เหมาะสมตามวัยตั้งแต่อายุยังน้อย(early stimulation)
สาเหตุ
โอกาสเสี่ยงจะสูงขึ้นถ้ามารดามีอายุมากกว่า 30 ปี และจะสูงขึ้นชัดเจนมากถ้าอายุมากกว่า 35 ปี
บิดามารดาของผู้ป่วยจะมีโครโมโซมปกติ
เป็นความผิดปกติทางโครโมโซมคู่ที่ 21 และเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดในกลุ่มโรคพันธุกรรมที่ทำให้เกิดปัญญาอ่อน
SpinaBifida
เป็นความผิดปกติของท่อระบบประสาทที่เจริญไม่สมบูรณ์ ทำให้รอยต่อของกระดูกสันหลังไม่เชื่อมติดกัน
การวินิจฉัย
มารดามีประวัติติดเชื้อขณะตั้งครรภ์การตรวจทาง ห้องปฏิบัติการ พบ Alphafetoprotienในน้ำคร่ำสูง
การตรวจร่างกายทารกพบความผิดปกติ
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
ปัญหาที่1
อาจเกิดการติดเชื้อ เนื่องจากถุงน้ำแตก
การพยาบาล
ดูแลถุงน้ำให้ชุ่มชื่น ระวังไม่ให้เกิดแผล
หมั่นตรวจสอบการฉีกขาด รั่ว
ไม่นุ่งผ้าอ้อม
ประเมินการติดเชื้อ
จัดท่านอนตะแคงหรือนอนคว่ำ
ปัญหาที่ 2
อาจมีการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะเนื่องจากการคั่งของน้ำปัสสาวะ
การพยาบาล
ทำความสะอาดทุกครั้งหลังขับถ่าย
ให้ยา Antibiotic ตามแผนการรักษา
ทำ Crede’manuever ทุก 2-4 hr
ปัญหาที่ 3
มีกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงจากการกดเบียดเส้นประสาทไขสันหลัง
การพยาบาล
สอนผู้ปกครองในการกระตุ้นกาเคลื่อนไหวของผู้ป่วย
สังเกตอาการอ่อนแรงของแขนขาการควบคุมการขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ
ทำ Passive Exercise ให้ผู้ป่วย
การพยาบาลหลังผ่าตัด
ปัญหาที่ 1
มีโอกาสติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดได้ง่ายจากการปนเปื้อนอุจจาระปัสสาวะ
การพยาบาล
จัดท่านอนตะแคงหรือคว่ำไม่นุ่งผ้าอ้อม
ดูแลทำความสะอาดแผล
ดูแลให้ยา Antibiotic / check V/S
ปัญหาที่ 2
เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
การพยาบาล
วัดสัญญาณชีพ ทุก 2-4 hr
เฝ้าระวังและสังเกตภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ แผลติดเชื้อ และ Hydrocephalus
วัดเส้นรอบศีรษะทุกวันเพื่อประเมินภาวะ Hydrocephalus
บริหารแขนขา/ เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
Guillain Barre ‘s Syndrome
เกิดจากการบวมอักเสบของระบบประสาทส่วนปลายหลายๆ เส้น อย่างเฉียบพลัน (Polyradiculoneuropathy) ที่เกิดขึ้นหลังจากมีการติดเชื้อในร่างกาย
อาการและอาการแสดง
motor กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Flaccid motorparalysis) ทั้งสองข้างสมดุลกัน อาการอัมพาต
อัมพาตของหน้า ปิดตา และปากไม่สนิท ความผิดปกติของการแสดงสีหน้า มีอาการกลืน พูด และหายใจลำบาก
Sensation เริ่มมีอาการเหน็บชา เจ็บ และปวด โดยเฉพาะปลายแขนปลายขา ไหล่ สะโพกและโคนขา
การเต้นหัวใจผิดจังหวะ ความดันโลหิตไม่คงที่ หัวใจเต้นช้าหรือเร็ว หน้าแดง เหงื่อออก ปัสสาวะคั่ง และท้องอืด
การรักษา
การรักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายพลาสมา (Plasma Exchange)
การรักษาด้วย Intravenous Immunglobulin (IVIG)
หลักการพยาบาลในระยะเฉียบพลันและต่อเนื่อง
ดูแลปัญหาการขาดสารอาหาร เนื่องจากผู้ป่วยจะมีน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว ต้องการพลังงานในการหย่าเครื่องช่วยหายใจ ทำให้ได้รับอาหารไม่เพียงพอ
สังเกตอาการปวดตามกล้ามเนื้อ
ติดตามประเมินการเคลื่อนไหว กำลังของกล้ามเนื้อ การรับรู้สัมผัส สภาวะของmotor sensory และ cranial nerve ช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพ Observe อาการแทรกซ้อนจากการจำกัดการเคลื่อนไหว
ประคับประคองด้านจิตใจ ส่งเสริมการมองโลกในแง่ดีสำหรับผู้ป่วย
ให้ออกซิเจน ถ้ามีภาวการณ์หายใจไม่พอจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจพร้อมเครื่องช่วยหายใจ
Check vital sign โดยเฉพาะ RR ต้องมีการตรวจวัด vital capacity , tidal volumeหรือ minute volume
วินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการไม่เคลื่อนไหว จากกล้ามเนื้ออ่อนแรงทำให้สูญเสียความสามารถในการดูแลตนเอง
ทุกข์ทรมานจากอาการปวดกล้ามเนื้อ
เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารจากไม่สามารถช่วยตนเองจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างสมบูรณ์
ขาดการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นๆจากไม่สามารถพูดได้
เสี่ยงเกิดการหายใจไม่เพียงพอจากกล้ามเนื้อช่วยหายใจอ่อนแรงอย่างเฉียบพลัน
ผู้ป่วยและญาติกลัว วิตกกังวล ท้อแท้ กับอาการของโรคที่เป็นจากการขาดความรู้และความเข้าใจ
น.ส. พิชญานิน นิสภา 62111301059 เลขที่ 57