Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

โรคระบบไหลเวียนโลหิต - Coggle Diagram

- - - - หัวใจ พร้อมทั้งการทำงานโดยละเอียด
      - หลอดเลือด มีเลือดบรรจุอยู่พร้อมทั้งกลไกการทำงาน
- - - - ลิ้นไมตรัลตีบ (Mitral Stenosis) เกิดจากการอักเสบเรื้อรังในห้องหัวใจภายหลังการติดเชื้อ Group A Streptococcal Pharyngitis ที่เรียกว่า Rheumatic Heart Disease และ Acute Rheumatic Fever สามารถทำให้หัวใจอักเสบได้ทุกชั้นหรือเรียกรวมว่าเกิด Rheumatic Carditis
        
        ลิ้นไตรคัสปิดตีบ (Tricuspid Stenosis) ภาวะลิ้นหัวใจไตรคัสปิดตีบหรือภาวะที่ไม่มีลิ้นหัวใจไตรคัสปิดตั้งแต่กำเนิด ซึ่งลิ้นหัวใจไตรคัสปิดตีบหมายถึงการที่เลือดไม่สามารถไหลจากหัวใจห้องบนขวาไปยังหัวใจห้องล่างขวาได้
        
        ลิ้นเอออร์ติคตีบ (Aortic Stenosis) เกิดจากกระบวนการสะสมของแคลเซียมและเซลล์อักเสบที่ลิ้นหัวใจคล้ายคลึงกับกระบวนการ Atherosclerosis
        
        ลิ้นพูลโมนิคตีบ (Pulmonic Stenosis) เป็นสาเหตุทำให้ลิ้นหัวใจหนาตัวขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปช่องเปิดจะค่อยๆมีขนาดแคบลงจึงเป็นผลทำให้เลือดไหลผ่านได้ช้าลง
  - - - Aortic Regurgitation การที่ลิ้นหัวใจเอออร์ติกปิดไม่สนิทเป็นสาเหตุทำให้เลือดไหลย้อนกลับ
        
        Pulmonary Regurgitation การมีลิ้นหัวใจพัลโมนารีรั่วเกิดขึ้นจะทำให้ลิ้นหัวใจปิดไม่สนิทจนเป็นผลทำให้เลือดไหลย้อนกลับไปยังหัวใจห้องบนขวา
        
        Mitral Regurgitation ภาวะลิ้นหัวใจไมตรัลโป่งพองหรือแล่บสามารถทำให้เกิดภาวะลิ้นหัวใจไมตรัลรั่วตามมาได้เช่นกันเนื่องจากการที่เลือดไหลย้อนกลับ นอกจากนี้ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันหรือการที่หัวใจมีขนาดใหญ่ขึ้นอาจเป็นผลมาจากการที่แผ่นของลิ้นหัวใจขยายขนาดตามไปด้วยจึงทำให้เกิดภาวะลิ้นหัวใจไมตรัลรั่วได้
        
        Tricuspid Regurgitation การที่ลิ้นหัวใจไตรคัสปิดรั่วหรือปิดไม่สนิท ในขณะที่ลิ้นหัวใจไตรคัสปิดตีบอาจเป็นสาเหตุทำให้ลิ้นหัวใจหนาตัวขึ้นจนในที่สุดช่องเปิดมีขนาดแคบลง
  - - - ลิ้นหัวใจที่ตีบ (Stenosis) เปิดไม่เต็มที่ เลือดไหลออกไม่สะดวก
  - - - โรครูห์มาติก (Rheumatic Fever)
        
        การติดเชื้อที่มีการทำลายลิ้นหัวใจ
        
        Bacterial Endocarditis
        
        Atherosclerosis
        
        Rheumatic Heart Disease
        
        โรคหัวใจที่ไม่ได้เป็นแต่กำเนิด มักพบในเด็กไม่มีอาการชัดเจนเมื่อโตขึ้นพบว่าลิ้นหัวใจพิการ จัดว่าเป็นสาเหตุของโรคลิ้นหัวใจตีบ,รั่ว เกิดจากการติดเชื้อคออักเสบจากเชื้อโรค ร่างกายตอบสนองผิดปกติ ภูมิต้านทานทำลายตัวเอง ผลที่ตามมาคือเกิดพังผืดยึดลิ้นหัวใจ
- - - - โรคหลอดเลือดหัวใจเกินผิดปกติระหว่างปอดและหัวใจ เป็นความผิดปกติของหลอดเลือด Ductus Arteriosus ที่เชื่อมระหว่างหลอดเลือดแดงใหญ่และหลอดเลือดปอดที่เป็ดอยู่หรือปิดไม่สนิท
      - เกิดจาก Ductus Arteriosus ไม่ปิดตามธรรมชาติ ควรปิดตั้งแต่ 10-15 ชั่วโมงหลังคลอด ปิดสมบูรณ์ 15-20 วัน ไม่เกิน 3 เดือน
      - จากภาวะคลอดก่อนกำหนด ขาดออกซิเจนขณะคลอด ติดหัดเยอรมันในระยะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
    - - เป็นความผิดปกติของหัวใจที่มีรูรั่วที่ผนังกั้นหัวใจห้องล่างขวา (RV) และซ้าย (LV) เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดไม่เขียวที่พบบ่อยที่สุด พบอุบัติการณ์ 2-6 คนต่อทารกเกิดมีชีพ 1,000 คน และร้อยละ 30 ของ VSD พบมีความผิดปกติของหัวใจอื่นๆ ร่วมด้วย
        
        แบ่ง VSD ตามตำแหน่งของรูรั่วได้ 4 ชนิด
        
        Type II หรือ perimembranous VSD มีรูรั่วอยู่ใต้ลิ้นหัวใจ aortic เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด ประมาณร้อยละ 80
        
        Type III, inlet VSD หรือ canal VSD มีรูรั่วอยู่ใต้ลิ้นหัวใจ tricuspid ด้านใน
        
        Type I, outlet หรือ supracrystal VSD มีรูรั่วของผนังกั้นหัวใจห้องล่างใกล้บริเวณ aorta หรือ pulmonary artery (PA)
        
        Type IV หรือ muscular VSD มีรูรั่วที่ trabeculae ถ้ามีรูรั่วหลายรู มีชื่อเรียก “Swiss cheess” VSD
    - - เป็นความผิดปกติของหัวใจที่มีรูรั่วที่ผนังกั้นหัวใจห้องบนขวา (RA) และซ้าย (LA) มักมีรูรั่วเดียวแต่ก็อาจพบรูรั่วหลายรูได้ ลักษณะรูรั่วอาจมีรูปร่างกลมหรือรี พบร้อยละ 8-10 ของโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดไม่เขียว หรือ 56 คนต่อทารกเกิดมีชีพ 100,000 คน พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ในอัตราส่วน 2:1
        
        แบ่ง ASD ตามตำแหน่งของรูรั่วได้ 4 ชนิด
        
        Primum ASD รูรั่วอยู่ที่ด้านหน้าส่วนล่างของ atrial septum เป็นชนิดที่พบบ่อยรองลงมา พบร้อยละ 20 อาจจะพบร่วมกับ mitral valve cleft
        
        Sinus venosus ASD รูรั่วอยู่ที่ superior vena cava ตรงตำแหน่งทางเข้า RA
        
        Secundum ASD รูรั่วอยู่ที่ fossa ovalis เป็นชนิดที่พบมากที่สุด พบร้อยละ 50-70 ของ ASD ทั้งหมด อาจพบร่วมกับ mitral valve prolapsed
        
        Coronary sinus ASD รูรั่วอยู่ที่ coronary sinus
    - - ภาวะที่มีการตีบตันของ Aorta ส่วนใหญ่เกิดที่ Aortic Isthmus ใต้ Left Subclavian Artery
        
        แบ่งเป็น 3 ชนิด
        
        Preductal Type มีการตีบก่อนถึง Ductus Arteriosus เสียชีวิตตั้งแต่เล็ก
        
        Ductal Type ส่วนที่ตีบจะอยู่ตรงกับส่วนต่อของ Ductusmพอดี
        
        Postductal Type ตีบใต้ต่อ Ductus Arteriosus มีชีวิตเติบโตจนถึงเป็นผู้ใหญ่ได้
    - - ลิ้นหัวใจหลอดเลือดแดงปอดตีบแคบ เกิดจากการที่ลิ้นหัวใจเชื่อมติดกันหรือไม่แยกจากกันโดยเด็ดขาด ทำให้ในท่าเปิดลิ้นไม่สามารถเปิดกว้าง ถ้ามีการตีบแคบมากทำให้หัวใจห้องล่างขวา ต้องเพิ่มความดันให้สูงขึ้น เพื่อสามารถบีบตัวให้เลือดไปปอดให้เพียงพอ
    - - ภาวะลิ้นหัวใจเออร์ติกตีบ สพบได้บ่อย โดยมากเกิดจากกระบวนการสะสมของแคลเซียมและเซลล์ อักเสบที่ลิ้นหัวใจคล้ายคลึงกับกระบวนการ atherosclerosis พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ
  - - - ความผิดปกติทางกายวิภาค
        
        ภาวะหัวใจห้องล่างขวาโตเกิน Right Ventricular Hypertrophy
        
        ลิ้นพัลโมนารีตีบ Pulmonary Valve Stenosis
        
        การเกยของเอออร์ตา Overriding of Aorta
        
        ความผิดปกติของหัวใจที่มีรูรั่วที่ผนังกั้นหัวใจห้องล่างขวา Ventricular Septal Defect
    - - Aorta ออกจาก Ventricle ขวา และ Pulmonary Artery ออกจาก Ventricle ซ้าย
    - - Pulmonary Valve ตันหรือตีบมากจนเลือดผ่านไม่ได้ อาจเกิดร่วมกับความพิการของหัวใจ
    - - ไม่มี Tricuspid Valve ทำให้เลือดเข้าสู่ RV ไม่ได้ เลือดจาก RA ต้องผ่าน ASD แล้วเข้าปอดทาง PDA หรือ VSD ถ้าไม่มี Transposition of Great Artery ร่วมด้วยจะมี CHF
- - - - กลุ่มกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดชนิด ST Elevation MI คือ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและตายเฉียบพลันมีการเปลี่ยนแปลงทางคลื่นไฟฟ้าหัวใจชนิด ST-segment elevation และมีผลเลือดที่บอกว่ากล้ามเนื้อหัวใจตาย เกิดจากมีลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือด
  - - - เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจตีบตันทั่วไปอย่างคงที่มีเลือดไหลผ่านไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจพอเพียงถ้ากำลังนั่งพักหรือหัวใจเต้นช้า ถ้าเริ่มทำงานจะเต้นเร็วขึ้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจก็จะไม่เพียงพอ
    - - เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจมีการตีบตันอยู่ แต่อยู่ๆเลือดไม่ไหลผ่านไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจเกิดขึ้นได้แม้ในการพักหรือขณะใช้กำลัง เจ็บหน้าอกปานกลางถึงรุนแรงอาจขาดเลือดไปเลี้ยงหัวใจได้
- - - - Primary Varicose Vein เป็นผลมาจาก Incompetence ของ One way valve ของ Superficial Vein
      - Secondary Varicose Vein เกิดจาก Valvular Incompetence ของ Perforating Vein มักเป็นตามหลัง DVT
  - - - ก้อนเลือดอุดตันภายในหลอดเลือดดำ (Phlebothrombosis)
- - - - Subacute Bacterial Endocarditis จากแบคทีเรียชนิดรุนแรงน้อย เกิดกับผู้ป่วยที่ลิ้นหัวใจผิดปกติหรือพิการแต่กำเนิด
      - Acute Bacterial Endocarditis จากแบคทีเรียชนิดรุนแรง เกิดกับหัวใจปกติ
- - - - Fusiform Aneurysm การโป่งพองตามแนว Axis of Vessle
      - Saccular Aneurysm การโป่งพองตามแนว Tangential of Axis
      - Dissecting Aneurysm การโป่งพองที่มีการแยกชั้น Intima ออกจากผนังหลอดเลือด