Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ระบบไหลเวียนโลหิต - Coggle Diagram

- - - - ลิ้นหัวใจแคบลง/แข็ง/หนา/ติดกัน/กีดกั้น ทำให้เลือดไหลไม่สะดวก
      - ลิ้นไตรคัสปิ ดตีบ (Tricuspid stenosis)
      - ลิ้นไมตรัลตีบ (Mitral stenosis)
        
        ส่วนใหญ่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังในห้องหัวใจภายหลังการติดเชื้อ Group A Streptococcal pharyngitis ที่เรียกว่า Rheumatic heart disease
        
        Acute rheumatic fever สามารถทeให้หัวใจ
        อักเสบได้ทุกชั้น หรือ
        pericarditis) เรียกรวมว่าเกิด Rheumatic
        carditis
      - ลิ้นเอออร์ติคตีบ (Aortic stenosis)
        
        เป็นภาวะที่พบบ่อย โดยมากเกิดจากกระบวนการสะสมของแคลเซียมและเซลล์อักเสบที่ลิ้นหัวใจคล้ายคลึงกับกระบวนการ atherosclerosis พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ
      - ลิ้นพูลโมนิคตีบ (Pulmonic stenosis)
    - - ลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท ทำให้เลือดไหลย้อนกลับ เมื่อลิ้นหัวใจรั่วทำให้เลือดไหลย้อนกลับ เช่น ลิ้นไมตรัลรั่ว
      - ลิ้นหัวใจเสื่อมสภาพตามวัย
        
        เกิดจากการที่ลิ้นหัวใจเสื่อมสภาพตามอายุส่วนใหญ่พบในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพไป
      - Aortic regurgitation
      - Pulmonary regurgitation
      - ลิ้นหัวใจรูมาติก
        
        เกิดจากการติดเชื้อในลำคอ หรือผิวหนัง และทำให้เกิดการสร้างภูมิต้านทาน ส่งผลให้มีการทำลายเนื้อเยื่ออื่นๆ รวมทั้งลิ้นหัวใจด้วย
      - Mitral regurgitation
      - Tricuspid regurgitation
  - - - เรียกว่าเส้นเลือดแดงโคโรนารี มีรูเปิดอยู่ที่บริเวณโคนของเส้นเลือดแดงเอออร์ตาแบ่งเป็น 2 เส้น คือ เส้นเลือดแดงโคโรนารี่ด้านขวา และเส้นเลือดแดงโคโรนารี่ด้านซ้าย
      - เส้นเลือดแดงโคโรนารี่ด้านขวา จะเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจด้านขวาแลพกล้ามเนื้อหัวใจด้านซ้ายส่วนล่าง
        
        เส้นเลือดแดงโคโรนารี่ด้านซ้าย จะเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจด้านซ้ายที่เหลือทั้งหมด จะแตกออกเป็น 2 แขนง คือ แขนงที่มาด้านหน้า เรียกว่า Left anterior descending artery และแขนงที่อ้อมไปด้านหลัง เรียกว่า Left circumflex artery
    - - กลุ่มกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดชนิด ST Elevation MI หมายถึง กลุ่มโรคที่มีกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และตายเฉียบพลัน ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางคลื่นไฟฟ้าหัวใจชนิด ST-segment elevation และมีผลเลือดที่บอกว่ากล้ามเนื้อหัวใจตายเพิ่ม
        
        มักจะเกิดจากมีลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดทันที
        
        การวินิจฉัยที่รวดเร็วและการรักษาจะลดอัตราการเสียชีวิต
        
        ปวดหัวใจจากการขาดเลือด แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
        
        แบบคงที่
        
        เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจมีตำแหน่งตีบตันทั่วไปอย่างคงที่ และมีเลือดไหลผ่านไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจพอเพียง ถ้าคนๆ นั้นกำลังนั่งพักหรือหัวใจเต้นช้าๆ
        
        ถ้าเริ่มทำงานแล้วหัวใจเต้นขึ้น เลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจในการปริมาณเดิมก็จะไม่เพียงพอ เกิดเวลามีการใช้กำลังกายหรือมีความเครียดหรือมีการตื่นเต้น
        
        โดยไม่เลยไปเป็นกล้ามเนื้อหัวใจตาย
        
        แบบไม่คงที่
        
        เป็นภาวะที่เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจมีการตีบตันอยู่
        
        แต่อยู่ๆ เลือดก็ไม่ไหลผ่านไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งเกิดขึ้นได้แม้การพั่งพัก นอนหลับ หรือขณะใช้กำลังกาย
        
        อาการเจ็บหน้าอกมาก่อน จึงอันตรายกว่า เพราะอาจก้าวเลยไปเป็นขาดเลือดไปเลี้ยงหัวใจ
        
        สาเหตุ - การเกิดรอยแตกที่คราบไขมัน ซึ่งพอกผนังเส้นเลือดแดงอยู๋
        
        พอเกิดรอยแยกแล้ว ร่างกายมีการตอบสนอง คือ เม็ดเลือดขาวมาควบคุมจนเกิดปฏิกิริยาการอักเสบแล้วมีการคั่งแข็งตัวของเลือดใกล้ๆ คราบที่ไขมันที่แตกนั้น
- - - - กลุ่มที่ไม่มีอาการเขียว (Acyanotic)
        
        Ventricular Septal Defect (VSD)
        
        Patent Ductus Arteriosus (PDA)
        
        สาเหตุ
        
        เกิดจาก ductus arteriosus ไม่ปิ ดตามธรรมชาติ ซึ่งควรปิดตั้งแต่ 10-15 ชั่วโมง หลังคลอด และปิดสมบูรณ์ 15-20 วันไม่เกิน 3 เดือน
        
        สาเหตุได้แก่ ภาวะคลอดก่อนกำหนด ภาวะขาดออกซิเจนขณะคลอด หรือการติดหัดเยอรมันในระยะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
        
        โรคหลอดเลือดหัวใจเกินผิดปกติระหว่างปอด
        และหัวใจ เป็ นความผิดปกติของหลอดเลือด ductus arteriosus ที่เชื่อมระหว่างหลอดเลือด
        แดงใหญ่และหลอดเลือดเปิดที่เปิดอยู่หรือปิดไม่สนิท
        
        Atrial Septal Defect (ASD)
        
        Coarctation of aorta
        
        ภาวะที่มีการตีบตันของ aorta ส่วนใหญ่เกิดที่ aortic isthmus ใต้ left subclavian artery แบ่งเป็ น 3 ชนิด
        
        1.Preductal type มีการตีบก่อนถึง ductus arteriosus
        มักจะเสียชีวิตตั้งแต่เล็ก
        2.Ductal type ส่วนที่ตีบจะอยู่ตรงกับสวนต่อของ Ductus พอดี
        3.Postductal type มีการตีบใต้ต่อ ductus arteriosus โดยทั่วไปแล้วกลุ่มนี้จะมีชีวิตโตจนถึงเป็นผู้ใหญ่ได้
        
        Pulmonary Stenosis
        
        Aortic Stenosis
      - กลุ่มที่มีอาการเขียว (Cyanotic)
        
        Tetralogy of fallot (TOF)
        
        4 anatomic malformations:
        
        Ventricular Septal Defect
        
        Right Ventricular Hypertrophy
        
        Pulmonary Valve Stenosis
        
        Overriding of aorta
        
        Pulmonary atresia
        
        การที่ Pulmonary valveตันหรือตีบ
        มากจนเลือดผ่านไม่ได้
        
        อาจเกิดร่วมกับความพิการของหัวใจ
        อย่างอื่น
        
        Tricuspid atresia
        
        1.ไม่มีTricucpid valve ทำให้เลือดสู่ RV ไม่ได้ 2.ทำให้เลือดจาก RA ต้องผ่าน ASD แล้วเข้าปอดทาง PDA หรือ VSD 3.ถ้ามี transposition of great artery ร่วมด้วยจะมี CHF
        
        Transposition of the great
        arteries (TGA)
        
        ความผิดปกติที่ aorta ออกจาก ventricle
        ขวา และ pulmonary artery ออกจาก ventricle ซ้าย