Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
อุปสงค์ อุปทาน และต้นทุนของบริการสุขภาพ, นางสาวสุรีรัตน์ เผ่าหอม เลขที่…
อุปสงค์ อุปทาน
และต้นทุนของบริการสุขภาพ
อุปทาน (Supply)
อุปทาน Supply for health care คือ ปริมาณเสนอขายงานบริการชนิดในชนิดหนึ่งที่ต้องการเสนอขายแปรผันโดยตรงตามราคาบริการนั้น
ได้แก่ ปริมาณยา ร้านขายยา ปริมาณแพทย์พยาบาล สถานบริการสุขภาพ คลินิกเอกชน
การควบคุมอุปทานของบริการสุขภาพ
1.การควบคุมราคาค่าบริการสุขภาพ
2.การควบคุมปริมาณของบริการโรงพยาบาล
ป้องกันมิให้โรงพยาบาลให้บริการสุขภาพเกินความจําเป็น
3.การควบคุมศักยภาพของโรงพยาบาล
4.กฎหมายป้องกันการผูกขาด
ความยืดหยุ่น
ยืดหยุ่นสูง เช่น สินค้าผูกขาดตลาด ถ้ารัฐกดราคาจะไม่นําสินค้ามาขาย
ยืดหยุ่นต่ำ เช่น ถ้ารัฐกดราคาจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ได้กำไรเหมือนเดิม
ต้นทุนทางเศรษฐศาตร์
ความแตกต่างระหว่างต้นทุนทางบัญชีกับต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์
ต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ (Economic cost)
อาจจ่ายเป็นตัวเงินหรือไม่เป็นตัวเงิน
ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost)
สิ่งที่มีมูลค่าสูงสุดที่ต้องเสียไปหรือมีประโยชน์สูงสุด
ต้นทนทางเศรษฐศาสตร์ (Economics Cost) คือต้นทนทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการผลิตสินค้านั้นไม่ว่าจะมิการจ่ายไปจริงหรือไม่ก็ตาม ดังนั้น Economic cost = implicit
ต้นทุนทางต้นทางบัญช (Accounting cost) คือ ตันทุนในการผลิตสินค้าที่ผู้ผลิตได้มีการจ่ายจริงและได้ลงบันทีกรายการทางบัญชีไว้ ดังนั้น Accounting cost = Explicit cost
ต้นทุนชัดแจ้ง (Explicit cost) ต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงและมีการจำยออกไปเป็นเงินจริง ๆ ต้นทุนไม่ชัดเจน
การจําแนกประเภทต้นทุน
ตามพฤติกรรม
ต้นทุนคงที่ (Fixed cost) ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิตและการขาย เช่น ค่าก่อสร้าง
ต้นทุนผันแปล (Variable cost) เป็นต้นทุนที่แปรโดยตรงและเป็นอัตราคงที่ปริมาณการผลิตและการขาย
ตามวัตถุประสงค์
ต้นทุนทางตรงรวม (Total direct cost)
ต้นทุนทางตรง (Direct cost)
ต้นทุนทางอ้อม (indirect cost)
ตามหน้าที่
ต้นทุนการเงิน คือ ดอกเบี้อจากเงินที่กู้มา
ต้นทุนการผลิต ได้แก่ วัสดุค่าแรง ค่าเสื่อมราคา
ต้นทุนดําเนินงาน ได้แก่ ต้นทุนการขาย
แบ่งทรัพยากร
ต้นทุนวัสดุ (Material cost) ค่าวัสดุที่ใช้ในการผลิต
ต้นทุนค่าแรง (Labor cost) เงินเดือน
ค่าจ้างค่าตอบแทนรวมสวัสดิการต่างๆ
ต้นทุนค่าลงทุน (Capital cost) คือ ต้นทุนของสินทรัพย์หลักที่ใชใ้นการกระบวนการผลิตสินค้า
การคิดต้นทุน
ค่าเสียโอกาส
ค่าเสนอราคาอายุการใช้งานสินทรัพย์
อุปสงค์ (Demand)
หมายถึง จํานวนสินค้าและบริการที่ผู้ซื้อต้องการซื้อ โดยปกติจะให้ความสําคัญกับเรื่องระดับราคามากที่สุดและเมื่อราคาสินค้าเปลี่ยนแปลงไปจํานวนสินค้าและบริการชนิดนั้น ก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงกันข้ามเสมอ มีความสัมพันธ์เชิงลบ
ความยืดหยุ่นต่อราคาเส้นอุปสงค์
ยืดหยุ่นต่ำ คือ สินค้าจำเป็น
อุปสงค์ด้านสุขภาพ Demand for health care ราคาสินค้าและบริการสุขภาพมีราคาสูงขึ้นผู้บรโิภคจะมีความต้องการสินค้าหรือบริการสุขภาพลดลงความชันของเส้นอุปสงค์จะลาดลงจากซ้ายไปขวาแสดงความชัน เป็นลบเสมอ การเปลี่ยนแปลงรสนิยม การศึกษา รายได้จะทําให้เส้นอุปสงค์เคลื่อนทั้งเส้นไปซ้าย หรือขวา โดยอุปสงค์เพิ่มขึ้นจะเคลื่อนไปทางขวา
การเปลี่ยนแปลงเส้นอุปสงค์
1.ภาวะความเจ็บป่วย หรือสุขภาพของแต่ละบุคคล ระดับสุขภาพสะสม
2.เพศ อายุเศรษฐกิจ รายได้ครัวเรือน การออมงบประมาณรฐัการกระจายรายได้ระดับการศึกษา
3.ความเชื่อ ทัศนคติต่อการรักษาพยาบาลและบริการสุขภาพ
4.ข้อแนะนําจากบุคลากรทางการแพทย์
5.คุณภาพการรักษาพยาบาล
6.ราคายา ราคาบริการ
7.จํานวนสถานพยาบาลสาธารณสุข
8.จํานวนผู้ใช้บริการ
9.การประกับสุขภาพ การประกันสังคม
10.จํานวนประชากรทั้งหมดของประเทศต่อสถานพยาบาลต่อจํานวนเตียง
ประเภทของสินค้า
และบริการสุขภาพ
1.สินค้าและบริการรที่ใช้ทดแทนกันได้ปริมาณเป็นไปในทางเดียวกันความสัมพันธใ์นทิศทางบวก เช่นยาบางชนิด
2.สินค้าและบริการที่ใช้ประกอบกันมีความไวในการเปลี่ยนแปลงและปริมาณจะมีทิศทางและความสัมพันธ์ตรงข้ามกัน เช่น น้ำตาลผงกาแฟ
3.สินค้าและบริการปกติผู้รับบริการจะซื้อเพิ่มเมื่อมีรายได้สูงหรือน้อย ความสัมพันธ์ทางบวกระหว่างปริมาณเสนอซื้อกับรายได้จะมีความไวในการเปลี่ยนแปลงราคา และปริมาณในทิศทางเดียวกัน
4.สินค้าและบริการด้อยคุณภาพ ผู้รับบริการจะซื้อสินค้าเมื่อรายได้สูงขึ้นจะซื้อมากขึ้นเมื่อรายได้ลดลง ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณเสนอซื้อกับรายได้สินค้าและบริการ
ราคาดุลยภาพ Equilibrium price
ราคาที่ทําใหจำนวนสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการซื้อมีค่าเท่ากับจํานวนสินค้าที่ผู้ผลิตประสงค์ที่จะผลิตออกขายในขณะเดียวกันพอดีเรียกว่า ดุลยภาพของตลาด
อุปสงค์ = อุปทาน
อุปสงค์ส่วนเกิน Excess demand : ความต้องการผู้ซื้อมีมากกว่าที่ผลิต
อุปทานส่วนเกิน Ecess supply : ปริมาณผลิตมีมากกว่าความต้องการซื้อ
พฤติกรรมของตลาดถูกกําหนดโดยกลไกหรือมือที่มองไม่เห็น (Invisiblehand) ซึ่งมักทําหน้าที่เป็นกลไกในการปรับราคา
นางสาวสุรีรัตน์ เผ่าหอม เลขที่ 71 ห้อง B
นักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตชั้นปีที่ 3 รุ่นที่ 26