Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลสตรีที่มีภาวะเลือดออกในระยะตั้งครรภ์ - Coggle Diagram
การพยาบาลสตรีที่มีภาวะเลือดออกในระยะตั้งครรภ์
การตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก
สาเหตุ: เกิดจากความแปรปรวนทางพันธุกรรมในเนื้อรกทําให้เนื้อรก (chorionic villi) เสื่อมสภาพกลายเป็นถุงน้ำเล็กๆใสๆ เกาะเป็นกระจุก แบ่งเป็น 2 ประเภท
1.Benign GTD
2.Malignant GDT รวมเรียกเป็นมะเร็งเนื้อรก
ความหมาย: เป็นการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติโดยที่ตัวอ่อนและรกไม่เจริญเติบโตตามปกติ เซลล์ของรกกลายเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง
พยาธิสรีรวิทยา: เป็นการแบ่งตัวที่ผิดปกติของเซลล์trophoblasts เฉพาะที่โพรงมดลูกและไม่มีการลามไปที่อื่น โดยชนิด complete mole จะไม่พบตัวอ่อนหรือถุงน้ำคร่ำแต่ยังมีการไหลเวียนเลือดทางด้านมารดา ส่วนชนิด partial mole จะพบส่วนของตัวอ่อนและถุงน้ำคร่ำ และพบหลอดเลือดทารกใน villi ด้านทารก ลักษณะของเนื้อจะมีทั้งปกติและเสื่อมสลายบวมน้ำเป็นหย่อมๆ
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง: 1.อายุ การตั้งครรภ์อายุน้อยกว่า 15 ปีและมากกว่า 45 ปีจะมีความเสี่ยงสูง
2.ภาวะโภชนาการ จากการศึกษาพบว่าการที่ทานแคดรทีนน้อย และมีภาวะพร่องวิตามินเอจะเพิ่มอุบัติการณ์การตั้งไข่ปลาอุกชนิดการตั้งครรภ์ไข่ปลาอุกแบบสมบูรณ์
3.อื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่ กรรมพันธุ์ เผ่าพันธุ์และสภาพทางเศรษฐกิจ
อาการและอาการแสดง: 1.มีประวัติการขาดประจำเดือน
2.เลือดออกทางช่องคลอด อาจจะออกแบบกะปริบกะปรอย
3.ขนาดของมดลูกอาจจะโตกว่าอายุครรภ์หรือขนาดเล็กกว่าอายุครรภ์
4.มีอาการแสดงของพิษแห่งครรภ์ก่อนอายุครรภ์ 24 สัปดาห์ได้แก่อาการบวม ความดันโลหิตสูง
การวินิจฉัย: 1.ประวัติอาการและอาการแสดง ได้แก่ อาการมีเลือดออกทางช่องคลอดในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 2 ของการตั้งครรภ์
2.จากการตรวจร่างกาย ถ้าเป็นการตั้งครรภ์แบบสมบูรณ์พบในมดลูกโตกว่าอายุครรภ์ คลำส่วนทารกไม่พบ ฟังเสียงหัวใจทารกไม่ได้
3.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
3.1 การตรวจหาระดับความเข้มข้นของ Human Chorionic Gonadotropin ในเลือดหรือในปัสสาวะ
3.2 ตรวจหาระดับฮอร์โมนไทรอยด์เนื่องจากภาวะครรภ์ไข่ปลาอุกอาจพบต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
การรักษา: ต้องทําให้การตั้งครรภ์สิ้นสุดลง โดยการขูดมดลูกด้วยเครื่องดูดสุญญากาศ ร่วมกับการให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก ติดตามดูระดับ serum bête-hCG เพื่ือประเมินการเกิดมะเร็งเนื้อรก ตรวจตามนัดนาน 1 ปี และคุมกําเนิดอย่างน้อย 1 ปี
การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะแท้ง
ความหมาย: การสิ้นสุดการตั้งครรภืก่อนในช่วงเวลาที่ทารกไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ การกำหนดการตั้งครรภ์มีความแตกต่างกัน
สาเหตุ:
สาเหตุจากมารดา
1.อายุ หญิงที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปีและมีอายุมากกว่า 40 ปี มีโอกาสแท้งมากกว่าวัยเจริญพันธุ์
2.การติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อซิฟิลิส เชื้อคลาไมเดีย
3.ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ เช่น หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเป็นเบาหวานและไม่สามารถควบคุมน้ำตาลได้
4.ภาวะทุพโภชนาการ
ด้านทารก
1.กลุ่มที่มีความผิดปกติของจำนวนโครโมโซม แท้งก่อนอายุ 12 สัปดาห์
2.กลุ่มที่มีจำนวนโครโมโซมผิดปกติ ส่วนใหญ่จะเกิดการแท้งภายหลัง 12 สัปดาห์
ด้านบิดา: บิดาที่มีอายุมากกว่า 40 ปีมีโอกาสเกิดได้มากกว่าร้อยละ 20
ชนิดของการแท้งแบ่งเป็น 2 กลุ่ม
1.การแท้งที่เกิดขึ้นเองแบ่งออกเป็น
1.1 การแท้งคุกคาม
1.2 การแท้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
1.3 การแท้งไม่ครบ
1.4 การแท้งครบ
1.5 การแท้งค้าง
1.6 การแท้งเป็นอาจิณ
2.การทำแท้งแบ่งเป็น
2.1 การทำแท้งเพื่อการรักษา
2.2 การทำแท้งผิดกฎหมาย
การวินิจฉัย: การซักประวัติ การตรวจร่างกาย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การตรวจพิเศษ
การรักษา:
มักให้การรักษาโดยการเฝ้าสังเกตอาการ การใช้ยาหรือการขูดมดลูกสำหรับในไตรมาสที่ 2 การรักษาด้วยยาจะมีความปลอดภัยมากกว่าการตั้งครรภ์นอกมดลูก
การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์นอกมดลูก
ความหมาย: การตั้งครรภ์ที่เกิดจากการฝังตัวของไข่ที่ถูกผสมแล้วนอกโพรงมดลุก
พยาธิสรีรภาพ: สันนิฐานว่าเป็นผลมาจากการอักเสบของท่อนำไข่ส่งผลให้เกิดผังผืดขึ้นจนท่อนำไข่ตีบแคบและผิดรูป ตัวอ่อนจึงไม่สามารถเคลื่อนผ่านไปได้ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งบริเวณที่ตัวอ่อนฝังตัวมากที่สุดคือ ส่วน ampulla ของท่อนำไข่
สาเหตุ: 1.มีปัจจัยขัดขวางไม่ให้ไข่ที่ถูกผสมแล้วเดินทางเข้าไปฝังตัวในโพรงมดลูก
1.1 การอักเสบของท่อนำไข่ มักจะเกิดจากการอักเสบเรื้อรังที่พบบ่อย
1.2 ท่อนำไข่มีพังผืด เป็นผลจากการอักเสบติดเชื้อในช่องเชิงกราน
1.3 ท่อนำไข่มีพัฒนาการที่ผิดปกติตั้งแต่กำเนิด เช่น ท่อนำไข่ยาวคดเคี้ยว
1.4 ท่อนำไข่มีแผลเป็นจากการผ่าตัด เช่น การทำหมัน
1.5 ก้อนเนื้องอกที่รังไข่หรือท่อนำไข่ทำให้รูปร่างบิดเบี้ยว
อาการและอาการแสดง: 1.ขาดประจำเดือนได้แก่ เต้านมคัดตึง มดลูกโต คลื่นไส้อาเจียน
2.เลือดออกทางช่องคลอด ลักษณะเลือดจะมีสีคล้ำเป็นเลือดเก่าๆ
3.ปวดท้องน้อยในลักษณะเกร็ง
การวินิจฉัย: 1.จากอาการและอาการแสดงและการตรวจภายในพบอาการแสดงของการตั้งครรภ์ เช่น ปากมดลูกมีสีคล้ำ
2.ตรวจ pregnancy test
3.การตรวจด้วยคลื่นความถี่สูงทางช่องคลอด
4.การตรวจเลือดหากมีค่าเม็ดเลือดขาวมมากกว่า 20,000 WBC/dl บ่งชี้ว่าน่าจะมีภาวะการติดเชื้อมากกว่าการตั้งครรภ์นอกมดลูก
การรักษา
1.การผ่าตัด
1.1 ผ่าตัดปีกมดลูก ในกรณีที่ปีกมดลูกยังไม่แตก อาจใช้วิธีการผ่าตัดเปิดช่องเล็กๆตรงท่อนำไข่
1.2 ผ่าตัดมดลูกและปีกมดลูก
2.การรักษาทางยา methotrexate ให้ได้ทั้งรูปแบบกินและฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือเข้าเส้นเลือด
การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเลือดออกครึ่งหลังของการตั้งครรภ์
ภาวะรกเกาะต่ำ (Pacenta previa)
ความหมาย: ภาวะที่รกเกาะส่วนล่างของมดลูก โดยรกอาจเกาะคลุมปากมดลูกหรือรกเกาะอยู่ใกล้ปากมดลูกด้านใน
แบ่งออกเป็น 4 ประเภท
1.รกอยู่ต่ำ รกเกาะคลุมส่วนล่างของมดลูก
2.รกเกาะติดขอบ ขอบรกติดขอบปากมดลูกด้านในแต่ไม่คลุมปาดมดลูกด้านใน
3.รกเกาะต่ำบางส่วน ขอบรกเกาะคลุมบางส่วนของปากมดลูกด้านใน
4.รกเกาะต่ำอย่างสมบูรณ์ รกเกาะคลุมปากมดลูกด้านในทั้งหมด
พยาธิสรีรภาพ: การตั้งครรภ์ปกติตัวอ่อนจะฝังตัวในเยื่อบุโพรงมดลูกในตำแหน่งปกติแต่ในภาวะรกเกาะต่ำจะเลื่อนลงมาฝังตัวในผนังมดลูกส่วนล่างเนื่องจากมีภาวะผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นในส่วนบนของมดลูก
สาเหตุ
1.หญิงตั้งครรภ์อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไปเสี่ยงต่อการเกิดภาวะรกเกาะต่ำ
2.มีบุตรมาก หญิงที่มีบุตรจำนวน 5 คนขึ้นไปพบภาวะรกเกาะต่ำร้อยละ 5
3.มีประวัติเคยทำแท้ง เคยขูดมดลูก
4.เคยผ่าตัดคลอดบุตร
5.มีประวัติรกเกาะต่ำของการตั้งครรภ์ครั้งที่ผ่านมา
อาการและอาการแสดง: หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะรกเกาะต่ำจะมีเลือดออกทางช่องคลอด ไม่เจ็บครรภ์ ไม่มีการหดรัดตัวของมดลูกหรือมดลูกไม่แข็งเกร็ง
การวินิจฉัย:
1.อาการเลือดออกทางช่องคลอด โดยไม่มีอาการเจ็บครรภ์ร่วมซึ่งอาจเกิดจากการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
2.การตรวจภายใน เป็นวิธีการที่แม่นยำที่สุด
ผลต่อทารก:
1.ทารกซีดเนื่องจากมารดาเสียเลือดมาก
2.ทารกขาดสารอาหาร เนื่องจากรกไม่สมบูรณ์จึงส่งสารอาหารไปเลี้ยงได้ไม่ดี
3.ทารกคลอดก่อนกำหนด
4.ทารกพิการพบในกรณีมารดามีภาวะรกเกาะต่ำสูงกว่าปกติ
ผลต่อมารดา
1.ตกเลือดมาก
2.เสี่ยงต่อการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
3.มดลูกอักเสบติดเชื้อ
4.มีโอกาสเกิดรกเกาะต่ำในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป