Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้คลอดและทารกที่มีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ในระยะคลอด - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้คลอดและทารกที่มีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ในระยะคลอด
ภาวะแทรกช้อนที่เกี่ยวข้องกับทารกในครรภ์
ภาวะทารกเติบโตช้ำในครรภ์ (intrauterine growth retardation or restriction, IUGR)
ความหมาย
ภาวะทารกเติบ โตช้าในครรภ์ หมายถึง ทารกที่มีน้ำหนักต่ำกว่าน้ำหนักปกติเมื่อเทียบกับน้ำหนักทารกในอายุครรภ์นั้น โดขตามACOG ปี2013ให้คำนิยามไว้ว่าหมายถึงน้ำหนักทารกในครรภ์ที่ประมาณน้ำหนัก < เปอร์เซนไตล์ที่ 10 เป็นเกณฑ์ในการวินิจฉัยภาวะทารกเติบโตช้าในครรภ์ ขณะที่ทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนัก< เปอร์เซนไตล์ที่ 10 เมื่อเทียบกับอายุครรภ์นั้นเรียกว่า Small for gestational age SGA
สาเหตุ
1.สาเหตุจากหญิงตั้งครรภ์ ได้แก่โรคทางอายุรกรรม เช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูงฯภาวะแทรกซ้อนทางสูติศาสตร์เช่น ครรภ์แฝด การใช้สารเสพติดต่างๆ การ ได้รับยาที่เป็น teratogen เช่นขากันชัก warfarin ' ภาวะทุพโภชนาการ น้ำหนักก่อนและระหว่างตั้งครรภ์ ความผิดปกติของมดลูก
2.สาเหตุจากทารก ได้แก่ ภาวะพันธุกรรมหรือโคร โมโซมผิดปกติ ความผิดปกติทางโครงสร้างแต่กำเนิด การติดเชื้อของมารดาขณะตั้งครรภ์เช่น หัดเยอรมัน ซิฟิลิส มาเลเรีย เป็นต้น
3.สาเหตุจากรก ได้แก่ ความผิดปกติของรก เช่นรกขาดเลือด รกเกาะต่ำ รกลอกตัวก่อนกำหนดเรื้อรัง Placenta velamentosa
ผลต่อมารดาและทารก ส่งผลต่อทารกมากกว่ามารดาดังนี้
ผลต่อมารดา
เพิ่มอัตราการผ่าตัดกลอด และส่งผลกระทบต่อจิตใจ
ผลต่อทารก
มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหลายอย่างในระยะแรกเกิดได้ง่าย เช่นHypoglycemia เพราะทารกมีการสะสมไกลโคเจนในตับและ ไขมันใต้ผิวหนังน้อยกว่าปกติpolycyheniaจากการขาดออกซิเจนเรื้อรังขณะอยุ่ในครรภ์ทารกจึงต้องปรับตัวโดยการสร้าง RBCเพิ่มขึ้น hyperbilirubincnia จากการที่ RBC มีการแตกสลาย เสี่ยงต่อภาวะ meconium aspiratc syndromeเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพราะภูมิต้านทานต่ำ และมีโอกาสตายปริกำเนิดเพิ่มขึ้น
การรักษา
ตรวจหาควบคุมและลดความรุนแรงของสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยง
แนะนำการปฏิบัติตัว เช่นการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง นอนตะแคงซ้ายและนอนพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8 ชม. การมาฝากครรภ์ตามนัด
ตรวจการเจริญเติบโต และประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์เป็นระยะ ๆ
รับไว้ในโรงพยาบาลเมื่อหญิงตั้งครรภ์มีภาวะแทรกซ้อนหรือในกรณีที่ต้องทำให้การตั้งครรภ์สิ้นสุด
วิธีการคลอดขึ้นกับสุขภาพของทารก ความรุนแรงของภาวะทารกเติบโตช้ในครรภ์ และโรคแทรกซ้อนของมารดา สภาพปากมดลูก เชิงกรานตลอดจนความพร้อมในการดูแลมารดาและทารกในครรภ์
การดูแลระระคลอดงดน้ำและอาหารทางปาก ให้สารน้ำทางเส้นเลือดคำ เจาะถุงน้ำคร่ำ เพื่อดูปริมาณและสีน้ำคร่ำ ให้ขาระงับปวดด้วยความระมัดระวัง ติดตามสุขภาพทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด และใช้สูติศาสตร์หัตถการที่เหมาะสม
ทารกในครรภ์อยู่ในภาวะคับขัน (fetal distress)
ความหมาย
ทารกในครรภ์อยู่ในภาวะกับขัน หมายถึงภาวะที่ทารกในครรภ์ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย หากได้รับการช่วยเหลือไม่ทันอาจเกิดอันตรายถึงเสียชีวิตได้
สาเหตุ
ภาวะที่เลือดไหลเวียนไปรกไม่เพียงพอ (Uteroplacental insufficiency,UPI ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุเช่น มดลูกหดรัดตัวมากเกินไป ภาวะตกเลือดก่อนคลอด การตั้งครรภ์เกินกำหนด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯ
ภาวะผิดปกติของสายสะดือ เช่น สายสะดือถูกกดทับในรายที่เกิดน้ำคร่ำน้อย สาขสะดือพลัดต่ำฯ
อาการและอาการแสดง
อัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ผิดปกติ ร่วมกับอาการผิดปกติอื่นๆ เช่นทารกจะมี
recurrent late deceleration ,recurrent variable deceleration,sinusoidal pattern หรือจัดอยู่ในกลุ่มCategory III
ตรวจพบขี้เทาปนในน้ำคร่ำ (meconium stained) กรณีที่ทารกมีส่วนนำเป็นศีรษะ ซึ่งแสดงถึง
ระดับการขาดออกซิเจนของทารกในครรภ์ มี 3 ลักษณะ
2.เน้ำคร่ำมีสีเหลือง มีขี้เทาจำนวนน้อยปนในน้ำคร่ำ (mild meconium staining)
2.2น้ำคร่ำมีสีเขียวปนเหลือง มีขี้เทาจำนวนมากปนในน้ำคร่ำ (moderate meconium staining)
2.3น้ำคร่ำมีสีเขียวคล้ำ และเหนียวข้นมาก ((hick meconium staining)
เลือดของทารกมีภาวะเป็นกรด
ทารกมีภาวะเลือดเป็นกรด
ผลต่อมารดาและทารก
ผลต่อมารดา เป็นผลด้านจิตใจมากกว่าจากความกลัวและวิตกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพทารกในครรภ์ ส่วนร่างกาขอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากขา การรักษาที่ได้รับและหัตถการ ในการช่วยคลอดผลต่อทารก อาจทำให้เกิดขาดออกซิเจนแรกเกิด ภาวะทุพพลภาพอย่างถาวรหรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
การรักษา
การรักษาที่ดีที่สุด คือการทำให้ทารกคลอดโดขเร็วที่สุด แต่ต้องให้การช่วยเหลือในกรณีที่มีabnormal FHR pattem ตามสถานการณ์ด้วย เพื่อช่วยส่งเสริมการ ไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงรกและทารก ดังนี้
จัดท่านอนตะแคงซ้าย
แก้ไขผู้คลอดตามสถานการณ์ได้แก่ กรณีมีภาวะมดลูกหดรัดตัวมากเกินไป เช่น หยุดการให้ขากระตุ้นมดลูกให้สารน้ำเพิ่มการไหลเวียนของเลือด เป็นต้น
ให้ออกซิเจน 4 ลิตร/นาทีทางcannula หรือ8-10ลิตร/นาทีทาง face mask
ประเมิน FHS และบันทึกเสียงหัวใจทารกอย่างต่อเนื่อง ด้วย On electronic fetal monitoring