Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่6 ภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับมดลูก - Coggle Diagram
บทที่6 ภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับมดลูก
ภาวะมดลูกแตก(uterine rupture)
ความหมาย
การฉีกขาด ทะลุหรือมีรอยปริของผนังมดลูก หลังจากที่
ทารกในครรภ์โตพอจะมีชีวิตอยู่ได้หรือหลังอายุครรภ์ 28 สัปดาห์
แบ่งการแตกออกเป็น 2 ชนิด
มดลูกแตกชนิดสมบูรณ์(complete rupture)
การฉีกขาดของมดลูกที่ทะลุเข้าช่องท้อง โดยมีการฉีกขาดของเยื่อบุมดลูกกล้ามเนื้อมดลูกเยื่อบุช่องท้องที่คลุมมดลูกหรือติดกับมดลูก ทารกมักจะหลุดจากโพรงมดลูกเข้าไปอยู่ในช่องท้อง
มดลูกแตกชนิดไม่สมบูรณ์(Incomplete rupture)
การฉีกขาดของผนังมดลูกชั้นเยื่อบุมดลูกและกล้ามเนื้อมดลูก endometrium และ myometrium ยกเว้นเยื่อบุช่องท้องที่ยังไม่ฉีกขาด ทารกยังอยู่ในโพรงมดลูกและคลอดทางช่องคลอด และอาจไม่มีอาการแสดงของมดลูกแตก
สาเหตุ
ได้รับการกระทบกระเทือน ( traumatic rupture)
1.1 การกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงที่บริเวณมดลูกทางตรงหรือทางอ้อม เช่น หกล้ม ได้รับอุบัติเหตุ
1.2 การใช้เครื่องมือหรือวิธีทางสูติศาสตร์ เช่น การล้วงรก การขูดมดลูก การให้ oxytocin หรือprostaglandin ไม่ถูกต้อง การหมุนกลับท่าทารก การใช้คีมช่วยคลอด
การแตกเอง (spontaneous rupture)
มดลูกมีพยาธิสภาพ เช่น มีแผลเป็นที่มดลูกผ่านการคลอดหลายครั้งทำให้กล้ามเนื้อมดลูกผิดปกติการคลอดติดขัดหรือมดลูกผิดปกติแต่กำเนิด
อาการและอาการแสดง
อาการที่เตือนให้รู้ล่วงหน้าว่ามดลูกใกล้จะแตกแล้ว
ปวดท้องมากเนื่องจากมดลูกหดรัดตัวอย่างรุนแรงอาจมีอาการกระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว หายใจไม่สม่ำเสมอ หรือ คลื่นไส้ อาเจียน
ตรวจหน้าท้องพบมดลูกหดรัดตัวถี่ (tetanic contraction) หรื อแข็งตึงตลอดเวลา (tonic contraction)
แตะต้องบริเวณส่วนล่างของมดลูกไม่ได้ เนื่องจากมดลูกส่วนบนพยายามดึงรั้งมดลูกส่วนล่างให้บางลงทุกที
ตรวจพบ Bandl's ring
อาจคลำพบ round ligament เนื่องจากยอดมดลูกอยู่สูง
อัตราการเต้นของหัวใจทารกผิดปกติหรือฟังเสียงหัวใจทารกไม่ได้ เนื่องจากมดลูกแข็งตัวตลอดเวลา (พบ late or variable deceleration)
ตรวจทางช่องคลอด พบว่าการคลอดไม่ก้าวหน้าปากมดลูกบวมและอยู่สูงเนื่องจากถูกดึงร้ัง ส่วนนำไม่เคลื่อนต่ำลงมา พบว่ามี molding และ caput succedaneum มาก
อาจมีเลือดสดออกทางช่องคลอดหรือไม่มีก็ได้ ปริมาณเลือดที่ออกไม่สัมพันธ์กับอาการและอาการแสดงของการเสียเลือด
ถ้ามดลูกแตกแล้วจะมีอาการและอาการแสดงออก
มดลูกหยุดการหดรัดตัวทันทีจากการหดรัดตัวอย่างรุนแรงและอาการเจ็บครรภ์จะหายไปทันที
ต่อมาจะมีอาการท้องโป่งตึงและปวดท้องอย่างรุนแรง เนื่องจากเลือดน้ำหล่อทารกและตัวทารกไปทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุในช่องท้อง
อาการหายใจลำบาก เจ็บหน้าอกร้าวไปที่ไหปลาร้าขณะหายใจเข้า ปวดไหล่เนื่องจากเลือดในช่องท้องไปดันกระบังลม จึงปวดร้าวไปตามเส้นประสาท
ผู้คลอดจะรู้สึกหน้ามืด เป็นลม ซีด ตัวเย็น เหงื่อออกมาก ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตต่ำและไม่รู้สึกตัวเกิดภาวะช็อก
คลำส่วนของทารกได้ง่ายทางหน้าท้อง ถ้าเป็นการแตกอย่างสมบูรณ์ (complete rupture)
ผลต่อมารดาและทารก
ผลต่อมารดา
ทำให้เกิดภาวะตกเลือด ช็อก ภาวะอักเสบของเยื่อบุช่องท้องและถ้าให้การช่วยเหลือไม่ทัน จะทำให้เสียชีวิตทางด้านจิตใจ อาจเครียด วิตกกังวลเกี่ยวกับบุตรและมีประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกบัการต้งัครรภแ์ละการคลอด
ผลต่อทารก
ทารกจะมีภาวะขาดออกซิเจนอย่างรุนแรง พบว่าหัวใจทารกเต้นช้าลงจนกระทั่งเสียงหัวใจทารกหยุดลง ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพียง 2-3 นาทีเท่าน้ันหรือได้รับอีนตรายจากการช่วยคลอดด้วยสูติศาสตร์หัตถการอย่างเร่งด่วน
การรักษา
แก้ไขภาวะช็อกโดยให้เลือด สารน้ำ Ringer’s lactate และให้ออกซิเจนอย่างเพียงพอตามแผนการรักษา
ในรายที่มดลูกใกล้จะแตก จะผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ถ้ามดลูกแตกแล้วจะเปิดหน้าท้องเอาทารกออกและตัดมดลูกทิ้งและให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อภายในช่องทอ้ง
ในรายที่ต้องการมีบุตรอีก แพทย์จะพิจารณาลักษณะการฉีกขาดของผนังมดลูกการติดเชื้ออและภาวะของผู้คลอด
ภาวะมดลูกปลิ้น (uterine inversion)
ความหมาย
มดลูกตลบกลับเอาผนังด้านใน คือเยื่อบุมดลูกปลิ้นกลับเป็นด้านนอก
เกิดขึ้นภายหลังจากทารกคลอด อาจเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันในระยะที่ 3 ของการคลอดหรือทันทีหลังรกคลอด
จำแนกออกเป็น 2 ชนิด
Complete inversion
ภาวะที่ผนังมดลูกดา้นเยื่อบุมดลูกปลิ้นกลบั เป็นดา้นนอกและโผล่
พ้นปากมดลูกออกมา ในบางรายอาจโผล่พ้นปากช่องคลอด
Incomplete or partial inversion
ภาวะที่ผนังมดลูกด้านเยื่อบุมดลูกปลิ้นกลับด้านนอก
แต่ยังไม่พ้นปากมดลูก
สาเหตุ
การทำคลอดรกผิดวิธีโดยดึงสายสะดืออย่างแรง (cord traction) ในรายที่รกยังไม่ลอกตัวและมดลูกหย่อนตัว
อาจเกิดขึ้นเองเนื่องจากผนังมดลูกหย่อนตัวมากเมื่อมีความดันในช่องท้อง เช่น การไอ จาม พบได้ในหญิงที่ผ่านการคลอดมาหลายคร้ัง
มีแรงดันที่ยอดมดลูกระหว่างการคลอด
การทำคลอดทารกที่มีสายสะดือสั้น รกเกาะแน่น
การคลอดเฉียบพลัน การล้วงรก
มีพยาธิสภาพที่ผนังมดลูก เช่น มดลูกอ่อนแรงแต่กำเนิด ผนังมดลูกบางและยืด
อาการและอาการแสดง
เลือดออกมากหลังจากรกคลอดทันทีี
เจ็บปวดมากจะเป็นลม มีอาการปวดที่บริเวณท้องน้อยอย่างรุนแรง
ช็อก เนื่องจากรังไข่ ปีกมดลูก และ broad ligament ถูกดึงรั้งถูกกด และเสียดสีและเสียเลือดมาก จะตรวจพบชีพจรเร็ว ความดันโลหิตต่ำ ผู้ป่ วยซีด
คลำหน้าท้องไม่พบยอดมดลูก แต่จะพบร่องบุ๋มแทน
ตรวจทางช่องคลอด ในรายที่มดลูกปลิ้นทั้งหมด จะพบผนังมดลูกด้านเยื่อบุมดลูกด้านในโผล่พ้นปากมดลูกออกมาอยู่ในช่องคลอด
การวินิจฉัย
1.การซักประวัติ เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอดครั้งก่อน
2.การตรวจร่างกายจากอาการและอาการแสดงที่กล่าวข้างต้น
3.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เจาะเลือดตรวจภาวะซีด
กาารักษา
การป้องกัน การทำคลอดรกต้องทำอย่างถูกวิธีควรรอให้รกลอกตัวก่อนแล้วจึงคลึงมดลูกให้แข็งตัว ก่อนให้การช่วยเหลือการคลอดรกโดยวิธี modified crede' หรือกดไล่รกที่บริเวณหัวหน่าวเวลาทำคลอดโดยวิธี Brandt-Andrews หรือเลี่ยงการทำคลอดรกโดยวิธีดึงสายสะดือ
ในกรณีที่เกิดขึ้นแล้วให้เตรียมการแก้ไขภาวะนี้ทันที เพื่อป้องกันอาการช็อก และการเสียเลือดโดยให้สารน้ำ
ดัวมดลูกที่ปลิ้นให้กลับเข้าที่โดยวิธีการของ Johnson ต้องกระทำร่วมไปกับการวางยาสลบ แล้วจึงฉีดยากระตุ้นให้มดลูกหดรัดตัว ให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังคลอด
ในรายที่ไม่สามารถดันมดลูกกลับได้สำเร็จ หรือในรายที่มดลูกปลิ้นชนิดเรื้อรังหรือปากมดลูกหดรัดตัวเป็นวงแหวน จะต้องช่วยผ่าตัดเพื่อดึงมดลูกกลับเข้าที่เดิม
ในรายที่เลือดออกมากควบคุมไม่ได้จำเป็นต้องตัดมดลูกทิ้ง
ผลต่อมารดา
ช็อกจากการปวดมาก (Neurogenic shock)และตกเลือด (Hypovolemic shock) ติดเชื้อภาวะโลหิตจาง บางรายอาจต้องตัดมดลูกทิ้งทำให้รู้สึกต่อภาพลกัษณ์และคุณค่าของตนเองในทางลบ