Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่6 ภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับทารกในครรภ์ - Coggle Diagram
บทที่6 ภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับทารกในครรภ์
ภาวะทารกเติบโตช้าในครรภ์ (intrauterine growth retardation or restriction, IUGR)
ความหมาย
ทารกที่มีน้ำหนักต่ำกว่าน้ำหนักปกติเมื่อเทียบกับน้ำหนักทารกในอายุครรภ์นั้นโดยตามACOG ปี2013 ให้คำนิยามไว้ว่าหมายถึงน้ำหนักทารกในครรภ์ที่ประมาณน้ำหนัก < เปอร์เซนไตล์ที่ 10 เป็นเกณฑ์ในการวินิจฉัยภาวะทารกเติบโตช้าในครรภขณะที่ทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนัก< เปอร์เซนไตล์ที่ 10 เมื่อเทียบกับอายุครรภ์นั้นเรียกว่า Small for gestational age ,SGA
ชนิดของทารกเติบโตช้าในครรภ์
Symmetrical growth retardation (type I)
โตช้าแบบได้สัดส่วนกันทุกอวัยวะ สาเหตุมักเกิด
จากความผิดปกติของทารกเองเช่นจาก chromosome
Asymmetrical growth retardation (type II)
โตช้าแบบไม่ได้สัดส่วน ส่วนท้องจะช้ากว่าศีรษะจะเติบโตช้าในไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นระยะของ cellular hypertrophyทำให้มีผลต่อขนาดของเซลล์
มากกว่าจำนวน สาเหตุมักเกิดจากปัจจัยภายนอกตัวทารก เช่นโรคของมารดาทำให้เกิด utero placental insufficiency รกขาดเลือดไปเลี้ยง
สาเหตุ
1.สาเหตุจากหญิงตั้งครรภ์
โรคทางอายุรกรรม เช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูงฯ
ภาวะแทรกซ้อนทางสูติศาสตร์เช่น ครรภ์แฝด การใช้สารเสพติดต่างๆ
2.สาเหตุจากทารก
ภาวะพันธุกรรมหรือโครโมโซมผิดปกติ ความผิดปกติทางโครงสร้างแต่
กำเนิด การติดเชื้อของมารดาขณะตั้งครรภ์เช่น หัดเยอรมัน ซิฟิลิส มาเลเรีย
3.สาเหตุจากรก
ความผิดปกติของรกเช่นรกขาดเลือด รกเกาะต่ำ รกลอกตัวก่อนกำหนด
เรื้อรัง Placenta velamentosa
การวินิจฉัย
1.การซักประวัติด้วยการซักถามปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ประวัติการตั้งครรภ์และคลอดบุตรคนก่อน การซักประวัติการขาดประจำเดือนครั้งสุดท้ายเพื่อประเมินอายุครรภ์ที่ถูกตอ้ง
2.การตรวจร่างกาย มีการประเมินการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์อย่างสม่ำเสมอทั้งการตรวจครรภ์ประเมินขนาดทารกการัดความสูงของยอดมดลูกรวมทั้งการติดตามการเพิ่มน้ำหนักของหญิงตั้งครรภ์
3.การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษอื่น ได้แก่การใชัอัลตร้าซาวน์
ผลต่อมารดาและทารก
ผลต่อมารดา
เพิ่มอัตราการผ่าตัดคลอด และส่งผลกระทบต่อจิตใจ
ผลต่อทารก
มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน หลายอย่างในระยะแรกเกิดได้ง่าย เช่น
Hypoglycemia เพราะทารกมีการสะสมไกลโคเจนในตับและไขมันใต้ผิว
หนังน้อยกว่าปกติ polycythemia จากการขาดออกซิเจนเรื้อรังขณะอยู่ในครรภ์ทารกจึงต้องปรับตัวโดยการสร้าง RBC เพิ่มขึ้น hyperbilirubinemia จากการที่ RBC มีการแตกสลายเสี่ยงต่อภาวะ meconium aspirate syndrome เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพราะภูมิต้านทานต่ำและมีโอกาสตายปริกำนิดเพิ่มขึ้น
การรักษา
ตรวจหาควบคุมและลดความรุนแรงของสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยง
2.แนะนำการปฏิบัติตัว เช่นการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง นอนตะแคงซ้ายและนอนพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8 ชม. การมาฝากครรภ์ตามนัด
ตรวจการเจริญเติบโต และประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์เป็นระยะๆ
4.รับไว้ในโรงพยาบาลเมื่อหญิงตั้งครรภ์มีภาวะแทรกซ้อนหรือในกรณีที่ต้องทำให้การตั้งครรภ์สิ้นสุด
5.วิธีการคลอดขึ้นกับสุขภาพของทารก ความรุนแรงของภาวะทารกเติบโตช้าในครรภ์และโรคแทรกซ้อนของมารดา
6.การดูแลระยะคลอดงดน้ำและอาหารทางปากให้สารน้ำทางเส้นเลือดดำเจาะถุงน้ำคร่ำเพื่อดูปริมาณและสีน้ำคร่ำ
ทารกในครรภ์อยู่ในภาวะคับขัน (fetal distress)
ความหมาย
ภาวะที่ทารกในครรภ์ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย หากได้รับการช่วยเหลือไม่ทันอาจเกิดอันตรายถึงเสียชีวิตได้
สาเหตุ
ภาวะที่เลือดไหลเวียนไปรกไม่เพียงพอ (Uteroplacental insufficiency,UPI)
มดลูกหดรัดตัวมากเกินไป
ภาวะตกเลือดก่อนคลอด
การตั้งครรภ์เกินกำหนด
ภาวะผิดปกติของสายสะดือ
สายสะดือถูกกดทับในรายที่เกิดน้ำคร่ำน้อย
สายสะดือพลัดต่ำ
อาการและอาการแสดง
อัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ผิดปกติ ร่วมกับอาการผิดปกติอื่นๆ
ทารกจะมี recurrent late deceleration ,recurrent variable deceleration,sinusoidal pattern
ตรวจพบขี้เทาปนในน้ำคร่ำ (meconium stained)
2.1 น้ำคร่ำมีสีเหลือง มีขี้เทาจำนวนน้อยปนในน้ำคร่ำ (mild meconium staining)
2.2 น้ำคร่ำมีสีเขียวปนเหลือง มีขี้เทาจำนวนมากปนในน้ำคร่ำ (moderate meconium staining)
2.3 น้ำคร่ำมีสีเขียวคล้ำและเหนียวข้นมาก(thick meconium staining)
เลือดของทารกมีภาวะเป็นกรด
ทารกมีภาวะเลือดเป็นกรด
ผลต่อมารดาและทารก
ผลต่อมารดา
เป็นผลด้านจิตใจมากกว่าจากความกลัวและวิตกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพทารกในครรภ์ส่วนร่างกายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากยาการรักษาที่ได้รับและหัตถการในการช่วยคลอด
ผลต่อทารก
อาจทำให้เกิดขาดออกซิเจนแรกเกิด ภาวะทุพพลภาพอย่างถาวรหรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
การรักษา
1.จัดท่านอนตะแคงซ้าย
แกไ้ขผูัคลอดตามสถานการณ์ได้แก่กรณีมีภาวะมดลูกหดรัดตัวมากเกินไป เช่นหยุดการให้ยากระตุ้นมดลูก ให้สารน้ำเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
ให้ออกซิเจน 4 ลิตร/นาทีทางcannula หรือ8-10ลิตร/นาทีทาง face mask
ประเมิน FHS และบันทึกเสียงหัวใจทารกอย่างต่อเนื่องด้วย On electronic fetal monitoring
ระยะคลอดพิจารณาช่วยคลอดด้วยสูติศาสตร์หัตถการ เช่น ผ่าตัดคลอดฉุกเฉิน
6.รายงานกุมารแพทยท์ ราบและเตรียมอุปกรณ์ในการช่วยฟ้ืนคืนชีพ