Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาทางระบบประสาท - Coggle Diagram
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาทางระบบประสาท
ชักจากไข้สูง (Febile convulsion)
อาการชักที่สัมพันธ์กับการมีไข้ที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อของระบบประสาท
ชนิดของการชักจากไข้สูง
simple febrile seizure
complex febrile seizure
สาเหตุ
เกิดจากการติดเชื้อในระบบต่างๆ เด็กจะมีอาการชัก เมื่ออุณหภูมิในร่างกายสูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส
อาการและอาการแสดง
เด็กจะตัวร้อน หน้ามืด มึนงง สับสน ร้องกวน
ลักษณะการชักจะตัวแข็งหรือตัวอ่อน ชักเกร็ง กระตุก ไม่รู้สึกตัว
การรักษา
ระยะที่กำลังมีอาการชัก
ชักเกิน 5 นาที ต้องทำให้หยุดชักเร็วที่สุด ให้ยาระงับการชัก เช่น diazepam
ให้ยาลดไข้ ร่วมกับ เช็ดตัวลดไข้ (ขณะชักห้ามให้ยาชนิดรับประทาน)
ระยะหลังชัก
ซักประวัติตรวจร่างกายโดยละเอียด ให้ยาป้องกันการชักรับประทานทุกวันนาน 1-2 ปี เช่น Phenobarbital,Depakine
การพยาบาล
วัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
เช็ดตัวลดไข้และให้ยาลดไข้
จัดท่านอนตะแคงศีรษะต่ำกว่าลำตัว ดูดเสมหะถ้ามีเสมหะ
ไม่ผูกยึดเด็กหรือจับเด็กขณะชักเพราะอาจเกิดข้อไหล่หลุดหรือกระดูกหัก
ไม่ใส่ไม้กดลิ้นเข้าไปในปากเด็กเพราะอาจทำให้ฟันหัก ฟันที่หักอาจตกไปในคอเด็กเกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ
ระวังอุบัติเหตุที่อาจเกิดระหว่างชัก
สังเกตและบันทึกระยะเวลาของการชักลักษณะการชัก
โรคลมชัก (Epilepsy)
อาการที่เกิด2ครั้งขึ้นไป ไม่สัมพันธ์กับการมีไข้ เกิดจากคลื่นไฟฟ้าของสมองถูกปล่อยมาเป็นจำนวนมาก อาการชักขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดสมอง เกิดเพียง 2-3 นาที ถ้าชักเกิน 10 นาที และไม่ได้รับการรักษามักกลายเป็นภาวะชักต่อเนื่อง (status epilepticus)
ชนิดของอาการชัก (Classification of seizure)
Generalized seizure
Atonic seizure สูญเสียความดึงตัวของกล้ามเนื้อ
Myoclonic seizure มีการหดตัวของกล้ามเนื้อเป็นระยะสั้น
Tonic clonic seizure (Grand mal) มีการเกร็งก่อนกระตุกตาม
Absence seizure (Petit mal)ตากระพริบหรือตากระตุก
Clonic seizure กระตุกเป็นจังหวะ
Infantile spam ในเด็ก 3 เดือน ถึง 2 ปี คือ งอศีรษะ ลำตัว แขนขา เข้าหากันแล้วคลายออกคล้ายสะดุ้ง
tonic seizure เกร็งแข็ง ล้มถ้ายืนอยู่
Partial seizure
complex partial seizure
Partial seizure evolving to secondary generalize seizure
simple partial seizure
Unclassified epileptic seizure เป็นชนิดที่ไม่สามารถจัดกลุ่มได้
สาเหตุการชัก
เกิดจากมีรอยโรคในสมอง ทำให้เซลล์ประสาทหลั่งคลื่นไฟฟ้าสมองผิดปกติและมีผลไปยังอวัยวะที่สมองควบคุมทำให้เกิดอาการชักตามมา
การวินิจฉัย
การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (electroencephalography : EEG) ทำให้ทราบตำแหน่งของสมองที่มีความผิดปกติ
การรักษา
ให้ Diazepam ทางหลอดเลือดดำ ถ้าผู้ป่วยเด็กยังไม่หยุดชักภายใน 2-5 นาที ให้ diazepam ซ้ำอีกครั้งทางหลอดเลือดดำ ถ้า 5 นาที ยังไม่หยุดชักให้ phenytoin ให้ทางหลอดเลือดดำ โดยจับชีพจรและวัดความดันโลหิต ภายหลังให้ยาแล้ว 20-30 นาที
ยากันชัก
ฺBenzodiazepine
Phenobarbital
phenytoin
Valproic acid
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากมีอาการชัก
บิดามารดามีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชักของผู้ป่วยเด็ก
เสี่ยงต่อภาวะพร่องออกซิเจน เนื่องจากการชักเป็นเวลานาน
บิดามารดาขาดความรู้ในการดูแลผู้ป่วยเด็กโรคลมชัก
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis)
สาเหตุ
พยาธิ (Eosinophilic meningitis)
เชื้อไวรัส (Viral)
เชื้อแบคทีเรีย (Bacterial meningitis)
เชื้อรา (Fungal meningitis)
การรักษา
การรักษาตามอาการ ให้ยาลดไข้ ให้ยานอนหลับ ให้ยากันชัก ให้ยาลดอาการบวมของสมอง ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำรักษาาวะไม่สมดุลย์สารน้ำและอิเล็คโทลัยท์
การป้องกัน ควรฉีดวัคซีน
การรักษาเฉพาะคือให้ยาปฎิชีวนะ ที่สอดคล้องกับผลการเพาะเชื้อน้ำไขสันหลังที่เป็นสาเหตุ
อาการและอาการแสดง
ปวดศีรษะมาก ซึมลง กระหม่อมโป่งตึง อาเจียน ชัก
อาการแสดงของการระคายเคืองเยื่อหุ้มสมอง
Kernig' sign ได้ผลบวก
Brudzir
คอแข็ง (Stiffness of neck)
อาการที่มีการแสดงว่าติดเชื้อ เช่น มีไข้
ไข้สมองอักเสบ (Encephalitis)
การรักษา
การให้ยา เช่น ยากันชัก ยาที่ลดอาการบวมของสมอง
ยาต้านจุลชีพหรือยาปฎิชีวนะ เพื่อรักษาภาวะติดเชื้อแทรกซ้อน
การป้องกัน
การฉีดวัคซีน การฉีดป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี
หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเชื้อโรคหรือพาหะ
การวินิจฉัย
การตรวจน้ำไขสันหลัง จะพบว่าน้ำไขสันหลังใส ไม่มีสี ความดันน้ำไขสันหลังสูง ปริมาณโปรตีนในน้ำไขสันหลังสูงขึ้นเล็กน้อย
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
อาจเกิดอันตรายต่อเซลล์สมองเนื่องจากภาวะพร่องออกซิเจน
อาจเกิดภาวะขาดสมดุลของสารน้ำ อิเล็คโทรลัยท์ และสารอาหาร
อาจเกิดอันตรายต่อเซลล์สมองเนื่องจากภาวะความดันในสมองสูง
อาจเกิดอันตรายจากการชักเนื่องจากไข้สูง
มีความไม่สุขสบาย ปวดศีรษะจากการมีการระคายเคืองที่เยื่อหุ้มสมอง
บิดามารดามีความกลัวและวิตกกังวลเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของบุตร
อาจเกิดอันตรายต่อเซลล์สมองเนื่องจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ/สมองอักเสบ
อาการและอาการแสดง
เชื้อไวรัสทำให้เกิดการคั่งของ lymphocyte ในเนื้อสมองและเยื่อหุ้มสมองทำให้เกิดภาวะสมองบวม สมองสูญเสียหน้าที่ อาการเริ่มแรกจากเชื้อไวรัสมักเกิดอย่างเฉียบพลัน เริ่มจากมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดบริเวณต้นคอมาก คอแข็ง อาเจียน เคลื่อนไหวผิดปกติ บางรายมีอาการชัก
Spina bifida
การวินิจฉัย
มารดามีประวัติติดเชื้อขณะตั้งครรภ์ การตรวจทางห้องปฎิบัติการพบ Alphafetoprotein ในน้ำคร่ำสูง
การตรวจร่างกายทารกพบความผิดปกติ
การรักษา
ผ่าตัดเย็บปิดถุงที่ยื่นออกมา
สาเหตุ
สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบแต่อาจเกิดจากมารดามีการติดเชื้อไวรัสขณะตั้งครรภ์ ในระยะ 3 เดือนแรก ภาวะทุพโภชนาการและมารดาที่อายุน้อย หรือมากเกินไป
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
อาจมีการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ เนื่องจากมีการคั่งของน้ำปัสสาวะ
ทำความสะอาดทุกครั้งหลังขับถ่าย
ให้ยา Antibiotic ตามแผนการรักษา
ทำ Crede'manuver ทุก 2-4 ชม.
อาจเกิดการติดเชื้อ เนื่องจากถุงน้ำแตก
ดูแลถุงน้ำให้ชุ่มชื้น ระวังไม่ให้เกิดแผล
หมั่นตรวจสอบการฉีกขาด รั่ว
ไม่นุ่งผ้าอ้อม
ประเมินการติดเชื้อ
จัดท่านอนตะแคงหรือนอนคว่ำ
มีกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงจากการกดเบียดเส้นประสาทไขสันหลัง
สอนผู้ปกครองในการกระตุ้นการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย
สังเกตอาการอ่อนแรงของแขนขา การควบคุมการขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ
ทำ Passive Exercise ให้ผู้ป่วย
เป็นความผิดปกติของท่อระบบประสาทที่เจริญไม่สมบูรณ์ทำให้รอยต่อของกระดูกสันหลังไม่เชื่อมติดกัน ความผิดปกติที่พบได้ในแนวไขสันหลัง
การพยาบาลหลังการผ่าตัด
มีโอกาสติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดได้ง่ายจากการปนเปื้อนอุจจาระ ปัสสาวะ
ดูแลทำความสะอาดแผล
จัดท่านอนตะแคงหรือคว่ำ ไม่นุ่งผ้าอ้อม
ดูแลให้ยา Antibioyic/Check vital sign
เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
เฝ้าระวังและสังเกตภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ แผลติดเชื้อ และ Hydrocephalus
วัดเส้ยรอบศีรษะทุกวันเพื่อประเมินภาวะ Hydrocephalus
วัดสัญญาณชีพทุก 2-4 ชั่วโมง
บริหารแขนขา/เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
Down's syndrome
อาการและอาการแสดง
ร่องระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้กว้าง
นิ้วก้อยโค้งงอ
มือสั้น กว้าง มักมี simian crease
เส้นลายนิ้วมือมักพบ ulnar loop มากกว่า
ปากอ้า ลิ้นมักยื่นออก ลิ้นมีรอยแตก
ทางเดินอาหารอุดตัน ที่พบบ่อยคือ duodenum stenosis
brush field spot
Hypothyroidism
หูติดอยู่ต่ำ
ร่างกายเติบโตช้า
คอสั้น ผิวหนังหลังคอนิ่ม
Polycythemia
หัวแบนกว้าง (Brachiocephaly)
มีความผิดปกติเกี่ยวกับตา เช่น ต้อหิน ต้อกระจก
กล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก (Hypotonia)
ช่องรูหูเล็ก มีปัญหาการได้ยิน
อวัยวะเพศผู้ชายเล็กกว่าปกติ พัฒนาการทางเพศช้า
หัวใจพิการแต่กำเนิด
การติดเชื้อ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ
การรักษา
การรักษาโรคทางกายอื่นๆที่มีร่วมด้วย
การให้คำปรึกษาแนะนำด้านพันธุกรรม
กระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการให้เหมาะสมตามวัยตั้งแตาอายุยังน้อย
คือ
อุบัติการณ์ประมาณ 1:1000
โอกาสเสี่ยงสูงถ้ามารดาอายุมากกว่า 30 ปี สูงขึ้นชัดเจนถ้าอายุมากกว่า 35 ปี
ความผิดปกติทางโครโมโซมคู่ที่ 21 พบบ่อยที่สุด
บิดามารดาของผู้ป่วยมีโครโมโซมปกติ
Hydrocephalus
การวินิจฉัย
Transillumination test
Ventriculography
การตรวจด้วยการส่องไฟฉาย (transillumination test)
CT scan
Ultrasound
Head Circumference
การรักษา
ผ่าตัดรักษาสาเหตุ
ผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินน้ำไขสันหลัง (Shunt)
Ventriculo-peritoneal Shunt (V-P Shunt)
การให้ยาลดการสร้างน้ำไขสันหลัง
ความยาวเส้นรอบวงศีรษะปกติ
2 เดือน 35+4 เซนติเมตร
4 เดือน 39+3 เซนติเมตร
แรกเกิด 35 เซนติเมตร
6 เดือน 42+2 เซนติเมตร
8 เดือน 44+1 เซนติเมตร
10 เดือน 45+1 เซนติเมตร
1 ปี 45 เซนติเมตร
2 ปี 47 เซนติเมตร
อาการและอาการแสดง
เด็กเล็กที่กระหม่อมยังไม่เปิดกระหม่อมหน้าโป่งตึงกว่าปกติ
หนังศีรษะบางและมองเห็นหลอดเลือดดำที่บริเวณใบหน้าหรือศีรษะโป่งตึงเห็นชัดกว่าปกติ
เสียงเคาะกะโหลกเหมือนหม้อแตก
ศีรษะโต/หัวบาตร (cranium enlargement)
ตาทั้ง 2 ข้าง กรอกลงข้างล่าง
ตาพล่ามัว เห็นภาพซ้อน
รีเฟลกซ์ และ tone ของขา 2 ข้างไวกว่าปกติ
พัฒนาการทั่วไปช้ากว่าปกติ
การพยาบาลระยะหลังผ่าตัดทางเดินของท่อไขสันหลัง
ดูแลทำความสะอาดแผลผ่าตัดตามแผนการรักษา
พลิกตะแคงตัวและเปลี่ยนท่านอนบ่อย ป้องกันการเกิดภาวะปอดอักเสบ
วัดและบันทักสัญญาณชีพและประเมินอาการทางระบบประสาท
ดูแลให้ได้รับยาปฎิชีวนะอย่างถูกต้อง
วัดเส้นรอบท้องหลังผ่าตัด 24 ชั่วโมงแรก เพื่อประเมินประสิทธิภาพการดูดซึมของน้ำไขสันหลังที่ระบายจากเวนตริเคิล
สังเกตและบันทึกอาการ อาการแสดงของภาวะอทรกซ้อนหลังผ่าตัด
จัดท่านอนเพื่อป้องกันการกดทับลิ้นของท่อทางเดินน้ำไขสันหลัง
วัดเส้นรอบวงศรีษะทุกวัน
สาเหตุ
การสร้างหรือการผลิตน้ำไขสันหลังมากผิดปกติ
การอุดกั้นการไหลเวียนของน้ำหล่อสมองและไขสันหลัง
มีการผิดปกติในการดูดซึมน้ำไขสันหลัง
การพยาบาลก่อนผ่าตัด
ปัญหาที่ 1 อาจเกิดความดันในกะโหลกศีรษะสูงจากการคั่งของน้ำไขสันหลัง
การพยาบาล
วัดเส้นรอบวงศีรษะเวลาเดียวกันทุกวัน
จัดท่านอนศีรษะสูง 15-30 องศา
ประเมินอาการความดันในกระโหลกศีรษะสูง
ปัญหาที่ 2 อาจเกิดแผลกดทับบริเวณศีรษะ
การพยาบาล
รักษาความสะอาดของผิวหนัง
จัดปูที่นอนให้เรียบตึง
จัดให้นอนบนที่นอนนุ่มๆ ใช้หมอนนุ่มรองศีรษะ ไหล่ เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
ตรวจสอบประเมินการเกิดแผลกดทับเสมอ
ปัญหาที่ 3 อาจเกิดภาวะขาดสารน้ำและอาหารเนื่องจากการสำรอกอาเจียนหรือดูดนมได้น้อย
การพยาบาล
ดูแลให้รับนมครั้งละน้อยๆ โดยแบ่งให้บ่อยครั้ง
ขณะให้นมอุ้มท่าศีรษะสูงเสมอ
หลังให้นมจับเรอไล่นม
ภาวะที่มีการคั่งของน้ำไขสันหลังในกะโหลกศีรษะบริเวณ ventricle ของสมองและ Subarachnoid space มากกว่าปกติน้ำไขสันหลังที่คั่งปริมาณมาก จะทำให้ความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น
โรคสมองพิการ (Cerebral Palsy)
อาการและอาการแสดง
กลุ่มเกร็ง (Spastic) กล้ามเนื้อเกร็ง เคลื่อนไหวช้า ขาอาจมีอาการมากกว่าแขน ผิดปกติครึ่งซีก หรือทั้งตัว ทำให้ควบคุมกล้ามเนื้อไม่ได้
กลุ่มเคลื่อนไหวผิดปกติ (Dystonia) ไม่สามารควบคุมให้อยู่นิ่งๆ มีการแสดงสีหน้า คอบิด แขนงอ พูดลำบาก กลืนลำบาก
สาเหตุ
ระยะหลังคลอด
การได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ตัวเหลืองเมื่อแรกเกิด
ระยะคลอด
สมองขาดออกิเจน ได้รับอันตรายจากการคลอด รกพันคอ การใช้คีมดึงเด็ก
ระยะก่อนคลอด
กรณีเลือดออกทางช่องคลอดของมารดาช่วงตั้งครรภ์เดือนที่ 6-9 มารดาตั้งครรภ์ขาดสารอาการ มารดามีภาวะชักหรือปัญญาอ่อน การคลอดก่อนกำหนด
การรักษา
การให้ early stimulation เพื่อให้สมองส่วนที่ไม่เสียหายพัฒนา
การแก้ไขความผิดปกติของการรับรู้ที่สำคัญ
การทำกายภาพบำบัดของกล้ามเนื้อ แขน ขน และลำตัว
การแก้ไขความผิดปกติของรับบประสาทส่วนอื่น
การให้ยาคลายกล้ามเนื้อ
การให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองในการดูแลเด็กในแต่ละวัน
ความบกพร่องของสมองส่วนที่ใช้ควบคุมกล้ามเนื้อทำให้เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว การทรงตัว (motor disorders)
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
ได้รับสารอาหารน้อยกว่าความต้องการของร่างกายเนื่องจากปัญหาการให้อาหารและความบกพร่องของร่างกาย
มีการบกพร่องในการสื่อสารด้วยวาจาเนื่องจากสูญเสียการได้ยิน
ขาดการดูแลตนเองเนื่องจากความบกพร่องของร่างกาย
เสี่ยงต่อพัฒนาการช้ากว่าวัย
การเคลื่อนไหวของร่างกายบกพร่อง เนื่องจาก มีความบกพร่องของระบบประสาท
Guillain Barre's Syndrome
การรักษา
การรักษาโดยการเปลี่ยนถ่ายพลาสมา (Plasma Exchange หรือ Plasmapherasis)
การรักษาด้วย Intravenous Immungrobulin (IVIG) มีความเสี่ยงน้อยกว่าการแลกเปลี่ยนพลาสมา ข้อเสียคือราคาแพง
การรักษาแต่เนิ่นๆ ภายใน 2-4 สัปดาห์หลังมีอาการครั้งแรกจะช่วยชีวิตได้เร็วขึ้น
วินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารจากไม่สามารถช่วยตนเองจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างสมบูรณ์
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการไม่เคลื่อนไหว จากกล้ามเนื้ออ่อนแรงทำให้สูญเสียความสามารถในการดูแลตนเอง
เสี่ยงต่อการเกิดการหายใจไม่เพียงพอจากกล้ามเนื้อช่วยหายใจอ่อนแรงเฉียบพลัน
ทุกข์ทรมานจากอาการปวดกล้ามเนื้อ
ขาดการติดต่อกับผู้อื่นเนื่องจากไม่สามารถพูดได้
ผู้ป่วยและญาติวิตกกังวลกับอาการ
อาการและอาการแสดง
Motor กล้ามเนื้ออ่อนแรง เริ่มที่ขา เดินลำบาก ลุกลามขึ้นที่แขนและลำตัวด้านบน
อาการของประสาทสมอง โดยเฉพาะ ใบหน้า ประสาทสมองคู่ที่ 7 พบความผิดปกติบ่อยที่สุด
Sensation อาจเริ่มด้วยอาการคล้ายเป็นตะคริวที่ส่วนปลาย อาจรุนแรงจนต้องให้ยาแก้ปวด แล้วจึงมีอาการอ่อนแรง สูญเสีย Reflex
อาการลุกลามของประสาทอัตโนมัติ ปัญหาที่พบบ่อย ได้แก่ การเต้นของหัวใจผิดจังหวะ
หลักการพยาบาลในระยะเฉียบพลันและต่อเนื่อง
ติดตามประเมินการเคลื่อนไหว กำลังของกล้ามเนื้อ การรับรู้สัมผัส
ดูแลปัญหาการขาดสารอาหาร
ให้ออกซิเจน ถ้ามีภาวการณ์หายใจไม่พอจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจพร้อมเครื่องช่วยหายใจ
สังเกตอาการปวดตามกล้ามเนื้อ
Chek V/S โดยเฉพาะ RR
ประคับประคองด้านจิตใจ
คือ
กลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการบวมอักเสบของระบบประสาทส่วนปลายหลายๆเส้นอย่างเฉียบพลัน (Polyradiculoneuropathy) ที่เกิดขึ้นหลังจากที่มีการติดเชื้อในร่างกาย