Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคระบบทางเดินหายใจ - Coggle Diagram
โรคระบบทางเดินหายใจ
ระบบทางเดินหายใจ
Upper respiratory tract
-
Larynx
-
วัยเริ่มหนุ่มสาว หลอดเสียงเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ชาย เนื่องจากสายเสียง (Vocal cord) ซึ่งอยู่ภายในหลอดเสียงยาวและหนาอย่างรวดเร็ว ทาให้เสียงแตกพร่า การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากฮอร์โมนเพศชาย
-
-
Lower respiratory tract
-
Lungs
-
ช่องเปิดแคบประกอบด้วยซี่โครงบนของกระดูกสันอกและกระดูกสันหลัง ฐานของปอดแต่ละข้างจะใหญ่และวางแนบสนิทกับกระบังลม
-
ระหว่างปอด 2 ข้าง พบว่ามีหัวใจอยู่ ปอดข้างขวาจะโตกว่าปอดข้างซ้ายเล็กน้อย และมีอยู่ 3 กลีบ ส่วนข้างซ้ายมี 2 กลีบ
(Pleura)
-
เยื่อหุ้มปอดซึ่งมี 2ชั้น ระหว่าง 2ชั้นนี้มี ของเหลวอยู่เล็กน้อย เพื่อลดแรงเสียดสี ระหว่างเยื่อหุ้มมีโพรงว่าง เรียกว่า ช่องระหว่างเยื่อหุ้มปอด
Trachea
ลักษณะรูปร่างของหลอดลมเป็นหลอดกลมๆ ประกอบด้วย กระดูกอ่อนรูปวงแหวน หรือรูปตัว U มีอยู่ 20ชิ้น วางอยู่ทางด้านหลังของหลอดลม
-
-
ความผิดปกติของระบบหายใจ
จมูก
-
(Common cold)
ไข้หวัด
สาเหตุ
URI เกิดจากเชื้อไวรัสรวมเรียกว่า Coryzaviruses ประกอบด้วย Rhino-viruses เป็นสาคัญ เชื้อชนิดอื่นๆมี Adenoviruses, Respiratory syncytial virus
-
เมื่อเชื้อเข้าสู่จมูกและคอจะทาให้เยื่อจมูกบวม และแดง มีการหลั่งของเมือกออกมาแม้ว่าจะเป็นโรคที่หายเองใน 1สัปดาห์
-
-
-
(Sinusitis)
ไซนัสอักเสบ
Sinusหรือโพรงอากาศข้างจมูก เป็นกลุ่มของช่องอากาศในกะโหลกศีรษะและใบหน้าอยู่โดยรอบจมูก และมีทางติดต่อกับช่องจมูก
-
-
-
(Pharynx)
หลอดคอ
(Pharyngitis)
คออักเสบ
-
เชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ส่วนใหญ่ได้แก่ Beta Streptococcus group A เยื่อบุ pharynx จะอักเสบมากขึ้นและถูกคลุมด้วย exudate
-
-
-
-
(Lung) ปอด
-
-
(Emphysema)
ถุงลมโป่งพอง
-
-
สาเหตุ
สารไนโตรเจนไดออกไซด์ในควันบุหรี่จะทาลายเนื้อเยื่อในปอดและในถุงลมให้ฉีกขาดทีละน้อย และ รวมตัวกลายเป็นถุงลมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เกิดโรคถุงลมโป่งพอง
ทำให้พื้นที่ผิวเนื้อเยื่อภายในปอด ซึ่งเป็นที่รับออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายมีขนาดเล็กลง จึงต้องหายใจเร็วขึ้น เพื่อให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเพียงพอ
(Pneumonia)
ปอดอักเสบ
-
สาเหตุจากเชื้อไวรัสแบคทีเรีย เชื้อรา ปรสิต หรือสิ่งแปลกปลอมการสูดดมสารเคมี หรือการสาลักเศษอาหารหรือน้าย่อยจากกระเพาะอาหาร
-
-
สาเหตุ
1.เชื้อไวรัส
พบมากกว่าร้อยละ 42 เชื้อไวรัสที่ทาให้เกิดโรค ได้แก่ เรสไปราทอรี ซินไซเทียไวรัส (respiratory syncytial virus) พาราอินฟลูเอนซา(parainfluenza) อินฟลูเอนซา (influenza) และอะดีโนไวรัส (adenovirus) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรสไปราทอรี และซินไซเทียไวรัส มักเกิดมากในเด็กอายุต่ากว่า 1ปี สูงถึงร้อยละ 90
2.เชื้อแบคทีเรีย
สาเหตุของโรคปอมบวมมากที่สุด ร้อยละ 60โดยเฉพาะในเด็กอายุน้อยกว่า 3เดือน ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อ Streptococcus pneumoniae และเชื้อ enteric bacilli) ส่วนเด็กอายุ 3 เดือนถึง 5 ปี ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อStreptococcus pneumoniae และ เชื้อ Haemophilus influenza
-
4. ปอดบวมจากสาเหตุอื่น
ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยรังสีจนทาให้เกิดอาการปอดบวมจากรังสี (radiation pneumonia) และปอดบวมจากสารพิษ และสารเคมี (chemical pneumonia) เช่น ปอดบวมจากการสูดแอมโมเนียหรือไอกรด
-
(Trachea) หลอดลม
-
(Bronchial Asthma)
หอบหืด
ภาวะที่ทางเดินหายใจมีการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆมากเกินไป ทาให้มีการหดเกร็งของหลอดลม มีเสมหะเพิ่มขึ้น
มีอาการหายใจลาบากมาก ได้ยินเสียงวี๊ดเกิดขึ้น (Wheezing and severe dyspnea) อาการเหล่านี้อาจหายได้เอง หรือสามารถกลับเป็นปกติได้ หรือหายเมื่อได้รับยาขยายหลอดลม
สาเหตุ
1.Extrinsic asthma
-
antigen เหล่านี้ จะกระตุ้นให้มีการสร้าง IgE มาเกาะติดที่ Mast cell เมื่อ Mast cell แตกออก จะหลั่งสารเคมีออกมา ทาให้หลอดลมบวม หดเกร็ง และมีสารคัดหลั่ง (Secretion)
2.Intrinsic asthma
-
มักเกิดจากการติดเชื้อของทางเดินหายใจ หรือสาเหตุอื่นๆ เช่น การออกกาลังกาย การสูบบุหรี่ อากาศเย็น อากาศเป็นพิษ และการมีออกซิเจนในกระแสเลือดน้อย
-
-
-