Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลหญิงที่มีโรคร่วมกับการตั้งครรภ์ - Coggle Diagram
การพยาบาลหญิงที่มีโรคร่วมกับการตั้งครรภ์
การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ
ความหมาย
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ หมายถึง ภาวะที่มีแบคที่เรียในปัสสาวะซึ่งเกิดจากมีเชื้อโรคเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ และไต อย่างน้อย 10' แบคที่เรียต่อมิลลิลิตร ใบปัสสาวะใหม่ ส่วนการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะที่แสดงอาการ สามารถพบเชื้อแบคที่เรีย 10'แบคทีเรียต่อมิลลิลิตร การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะที่แสดงอาการนี้ มักเกิดร่วมกับการอักเสบและพบจำนวนเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะสูงมากกว่า 8 เซลล์ต่อมิลลิลิตร
ปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
ไตพิการ
มีประวัติติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
มีประวัติได้รับการสวนปัสสาวะ
เบาหวาน
โลหิตจาง
การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น คลามัยเดีย หนองใน เอช ไอ วี
ภาวะแทรกซ้อน
การคลอดก่อนกำหนด (premature labor)
กรวยไตอักเสบเรื้อรัง (chronic pyelonephritis)
การติดเชื้อในกระแสเลือด (septic shock)
ทารกน้ำหนักน้อย (low birth weight)
ความดันโลหิตสูง (hypertension
การแบ่งชนิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
โรคติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะสามารถแบ่งได้ 2 ชนิด คือ โรคติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะที่ไม่แสดงอาการ และโรคติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะที่มีอาการแสดง
โรคติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะที่ไม่แสดงอาการ
การวินิจจัย
โดยทั่วไปถือว่ามีการติดเชื้อ ถ้าเพาะเชื้อได้แบคที่เรียมากกว่า 100,000 โคโลนีต่อปัสสาวะ 1 มล. ถ้าน้อยกว่า 100,000 มักจะเกิดจากการปนเปื้อน แต่อาจแสดงว่ามีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่มีแบคที่รียกรัมลบอย่างเดียวมากกว่า 1,000 โคโลนี ปัสสาวะ 1 มล. หรือแบคที่เรียกรัมลบมากกว่า 10,000 โคโลนีขึ้นไปร่วมกับเชื้ออื่นด้วย ต่อปัสสาวะ 1 มล.การเพาะเชื้อที่มีการปนเปื้อน มักจะพบเชื้อกรัมลบ มากกว่า 1,000 โคโลนีต่อปัสสาวะ 1 มล. ร่วมกับแบคที่เรียชนิดอื่น ๆ อย่างน้อย 2 ชนิด ซึ่งมักเป็นกรัมบวก
การรักษาและการพยาบาล
หญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ครั้งแรก ให้เก็บปัสสาวะช่วงกลางของปัสสาวะ (mid stream urine) ส่งตรวจ ถ้าพบ bacteria ให้ยาปฏิชีวนะ ampicillin 500 mg. ทุก 6 ชั่วโมง เป็นต้น ให้ยานานอย่างน้อย 7-10 วัน ส่งตรวจเพาะเชื้อจากปัสสาวะ หลังให้ยาครบ
แนะนำการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์อย่างถูกวิธี โดยทำความสะอาดหลังจากปัสสาวะหรืออุจจาระทุกครั้ง ด้วยการเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง และแนะนำให้รักษาความสะอาดกางเกงชั้นใน
3.ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ2,000-3,000 มิลลิลิตร
รับประทาบอาหารให้มีความสมดุลระหว่างโปรตีบและคาร์โบไฮเดรต หาตุเหล็กหลีกเลี่ยงน้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เครื่องเทศ
รับประทานวิตามินซีทุกวัน
6.แนะนำการรับประทานยาให้ครบตามแผนการรักษา
ทำการเพาะเชื้อจากปัสสาวะหลังรับประทานขาครบตามแผนการรักษา
โรคติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะที่มีอาการแสดง (symtomatic bacteriuria)แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะส่วนส่าง ได้แก่ ท่อปัสสาวะ และกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
อาการและอาการแสดงของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ จะมีอาการปวดเวลาถ่ายปัสสาวะโดยเฉพาะเมื่อปัสสาวะใกล้จะสุด ปัสสาวะบ่อยและกลั้นไม่ได้ ปัสสาวะจะมีเม็ดเลือดขาว แบกทีเรีย เม็ดเลือดแดงร่วมด้วยได้ อาจมีการลุกลามขึ้นไปทำให้ใตอักเสบได้ มักพบกับหญิงตั้งครรภ์ในไตรมาสที่สอง
การวินิจฉัย
กระเพาะปัสสาวะอักเสบเฉียบพถัน (acute cystiis) วินิจฉัยได้โดยดู จำนวนเม็ดเลือดขาว bacteriaและเม็ดเลือดเลือดแดงในปัสสาวะ ผล การตรวจเพาะเชื้อมักพบ E.col เป็นส่วนใหญ่
การรักษาและการพยาบาล
แนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ วันละ 2,000 - 3,000 มิลลิลิตร
แนะนำการรับประทานอาหารครบทุกหมู่และได้สัดส่วน
แนะนำการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์อย่างถูกวิธี โดยเช็ดจากข้างหน้าไปข้างหลัง
แนะนำไม่ให้กลั้นปัสสาวะ
แนะนำไม่ให้สวมกางเกงในรัดรูปหรือกับเกินไป
ให้การรักษาโดยให้รับประทานยาปฏิชีวนะ ตามแผนการรักษา
การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะส่วนบน ได้แก่ กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน
กรวยใตอักเสบเฉียบพลัน (acute pyelonephritis)
การติดเชื้อแบคที่เรียของกรวยไต (pyeloncphritis) เกิดจากการติดเชื้อลุกลามมาจากทางเดินปัสสาวะส่วนล่างโดยเฉพาะในรายที่เป็น ABU มาก่อน ร้อยละ 75-90 เป็นเชื้อแบคที่เรีย E. coli พบร้อยละ 77 klebsiella พบร้อยละ 15 และ enterobacter/proteus ร้อยละ 4
อาการและอาการแสดง
อาการมักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน โดยมีไ ข้ หนาวสั่น และปวดบริเวณบั้นเอวข้างเดียว หรือสองข้าง อาจจะมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้และอาเจียนร่วมด้วย อุณหภูมิร่ างกายมักจะ สูง กดเจ็บบริเวณcostovertebral ang!es ในรายรุนแรงอาจมีอาการช็อกจากการติดเชื้อ
การวินิจฉัยแยกโรค
ผู้ที่มาด้วยอาการปวดท้องอาจต้องแยกจากการเจ็บครรภ์ ไส้ติ่งอักเสบ รกลอกตัวก่อนกำหนด การมีเนื้องอกมดลูก (myoma) ในระยะหลังคลอดต้องแยกจากการติดเชื้อหลังคลอดด้วย โดยทั่วไปแล้วแยกกันได้ไม่ยากนักจากการตรวจร่างกาย และตรวจปัสสาวะ
การรักษาและการพยาบาล
รับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล ส่งปัสสาวะเพื่อตรวจวิเคราะห์ (Urinalysis) เพาะเชื้อ (Culture andsensitivity) เจาะเลือดตรวจนับเม็ดเลือด ครีอะตินิน และ อีเลคโตร ไลท์
เริ่มให้ ampicilin 1-2 กรัม IV ทุก 6 ชั่วโมง ร่วมกับ gentamicin! มก./กก. ทุก 8 ชั่วโมง หรือcefriazone 1-2 กรัม IV ทุก 24 ชั่วโมง โดยให้ไปก่อนแล้วปรับตามผลการเพาะเชื้อว่าเป็นเชื้ออะไร
แนะนำให้นอนพักบนเตียงในท่ตะแคงช้าย เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงมดถูกและผ่านไปสู่ทารกได้มากขึ้น
แนะน่าให้ดื่มน้ำเพียงพอ ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ และบันทึกจำนวนน้ำเข้าออกเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ซึ่งทำให้เลือดมาเลี้ยงลดลง ถ้าจำเป็นแพทย์อาจให้คาสายสวนปัสสาวะ
อาจให้ได้รับยาแก้ปวด เพื่อความสุขสบาย
ตรวจวัดสัญญาณชีพของหญิงตั้งครรภ์ และฟังเสียงหัวใจทารก (Fetal heart sound) บ่อย ๆ