Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กโรคหัวใจและหลอดเลือด, นางสาวกนกวรรณ โภคา เลขที่่2…
การพยาบาลเด็กโรคหัวใจและหลอดเลือด
แต่กำเนิด
ชนิดไม่เขียว
กลุ่มที่มีการไหลลัดของเลือดจากหัวใจซีกซ้ายไปขวา (left to right shunt)
VSD
มีรูรั่วที่ห้องข้างล่าง ทำให้ซ้ายขวาเชื่อมกัน แต่เลือดจะไหลจากซ้ายไปขวา เพราะมีแรงดันเยอะกว่า
อาการ : โดยเฉพาะตอนดูดนม พัฒนาการล่าช้า ติดเชื้อในระบบหายใจบ่อย
ASD
มีรูรั่วี่ห้องข้างล่าง เนื่องจากมีการสร้างผนังกั้นเอเตรียมที่ไม่สมบูรณ์
อาการ : มักไม่มีอาการ แต่บางรายติดเชื้อทางเดินหายใจ โตช้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายเวลาออกเเรง
PDA
มีเลือดไปปอดมาก คือ Ductus arteriosus ยังเปิด ทำให้เลือดแดงที่พัลโมนารีและเอออต้า ทำให้ไหลกลับเข้าไปฟอกที่ปอดอีก
สาเหตุ : เกิดก่อนกำหนด ออกซิเจนในเลือดต่ำ ติดเชื้อช่วงการตั้งครรภ์
อาการ : หัวใจซีกซ้ายวาย หายใจเร็ว เหนื่อยหอบ เหงื่อออกมาตอนดูดนม น้ำหนักขึ้นช้า
กลุ่มที่มีการอุดกั้นการไหลของเลือด
(obstructive lesion)
AS
มีการตีบของลิ้นเอออติก หรืออุดกั้นของทางออกเวนติเคิลซ้าย ทำให้บีบตัวได้น้อยหรือตีบ
อาการ : อ่อนเพลียง่าย เวลาเล่นเจ็บหน้าอก
PS
มีการตีบของลิ้นพัลโมนารี หรืออุดกั้นของทางออกเวนตริเคิลขวา ทำให้บีบตัวส่งเลือดไปปอดไม่สะดวกหรือน้อยลง
อาการ : หัวใจวาย เขียวเล็กน้อย เหนื่อยง่าย แน่นอกและเป็นมากเวลาออกกำลังกาย หรือบางคนเป็นลม
CoA
คอดหรือตีบของเอออต้าที่เชื่อมกับ ductus arteriosus ทำให้เลือดไปเลี้ยงทั้งส่วนบนและล่างไม่สะดวก ความดันที่แขนสูงกว่าขา
อาการ : หายใจเร็วแรง หอบ เหงื่อออกมาก โตช้า ชีพจรที่ขาเบา
การพยาบาล
1.ซักประวัติ
ดูดนมแล้วเหนื่อย หายใจแรง เหงื่อออกมาก กระสับกระส่าย เขียวปลายมือ ปลายเท้า โตช้า น้ำหนักน้อย ติดเชื้อระบบหายใจบ่อย มีประวัติเป็นลมหรือหน้ามือ
2.ตรวจร่างกาย
เขียวหรือผิวคล้ำ
หายใจเร็ว
เกิดจากความยืดหยุ่นของปอดน้อยลง ต้องใช้ความดีนสูงจึงจะขยายตัวออกได้ และมักเกิดปอดบวมน้ำ
หายใจลำบาก
เหนื่อยขณะหายใจ อกบุ๋ม มีการหดรั้งของกล้ามเนื้ออื่นๆ
หัวใจเต้นเร็ว เจ็บอก บวม
เจ็บขา ในผู้ป่วย CoA เพราะเลือดไปเลี้ยงส่วนล่างไม่พอ
3.ประเมินจิตสังคม
บิดามารดา หรือผู้ป่วยโรคหัวใจที่เป็นเด็กมักจะกังวลเกี่ยวกับความเจ็บป่วย
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
เนื้อเยื่อได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เนื่องจากประสิทธิภาพการทำงานหัวใจลดลง
กิจกรรมการพยาบาล
จำกัดกิจกรรมและให้พักผ่อนอย่างเต็มที่
จัดให้นอนศรีษะสูง
ให้ออกซิเจน
กินรสจืด
แนะนำมารดาในการปรุงอาหารว่าเลี่ยงเครื่องปุงเค็ม ผงชูรสในอาหาร
ให้ได้รับยาพวกดิติตาลิสมาแผน
บันทึกสัญญาณชีพทุก4ชม.
ประเมินการสะสมน้ำในร่างกาย
ข้อวินิจฉัยพยาบาล
ผู้ป่วยอาจเป็นลม เนื่องจากสมองได้รับออกซิเจนไม่พอ จากการมีเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
กิจกรรมการพยาบาล
สังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
จำกัดกิจกรรมการออกแรง
หากเป็นลม
จัดให้นอนราบ ยกปลายเท้าสูง
ปลดเสื้อผ้าให้หลวมเพื่อให้ปอดขยายตัว
สังเกตและบันทึกชีพรจและความดัน
ข้อวินิจฉัยพยาบาล
ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ปอด เนื่องจากมีเลือดไปปอดมาก
กิจกรรมการพยาบาล
รักษาความสะอาดของช่องปาก
ดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล
ดูแลสิ่งแวดล้อมให้สะอาด
ดูแลให้ยาปฏิชีวนะตามแผน
ข้อวินิจฉัยพยาบาล
ผู้ป่วยมีโอกาสติดเชื้อเยื่อบุหัวใจ เนื่องจากมีความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือด ที่ทำให้มีการไหลลัดของเลือด
กิจกรรมพยาบาล
ดูแลช่องปาก
ให้ยาปฏิชีวนะก่อนทำฟัน ขูดินปูน ถอนฟัน
สังเกตและติดตามภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
ไข้ต่ำหลายวัน อ่อนเพลีย น้ำหนักลด
ข้อวินิจฉัยพยาบาล
ผู้ป่วยเสี่ยงต่อโตไม่สมวัย หรือต่ำกว่าเกณฑ์ เนื่องจากดูดนม/กินได้น้อย
การพยาบาล
ดูแลให้พักผ่อนช่วงสั้นๆ ก่อนกิน เพื่อสะสมพลังงานใช้ในการกิน
กินอาหารครบ5หมู่และแคลสูง
ดูแลให้กินอาหาร3มื้อ
ให้นมทีละน้อยๆแต่ให้บ่อย
คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ให้แจ้งแพทย์
ติดตามชั่งน้ำหนัก และกระตุ้นให้ช่วยเหลือตนเองในการกิน
ข้อวินิจฉัย
ผู้ป่วยเกิดการพัฒนาช้า เนื่องจากผู้ป่วยเหนื่อยง่ายทำกิจกรรมได้น้อย หรือบางรายอาจหายใจลำบาก
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินพัฒนาการ
วางแผนจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมพัฒนาการ
ให้ข้อมูลพ่อแม่เกี่ยวกับพัฒนาการของลูก
ชนิดเขียว
มีเลือดไปปอดน้อย
อาจมีภาวะสมองขาดออกซิเจนอย่างเฉียบพลัน
TOF , PA ลิ้นพัลโมนารี , TA ลิ้นไตรคัสปิด
ตีบของลิ้นพัลโมนารี,ผนังระหว่างเวนตรีเคิลมีรูรั่วขนาดใหญ่,ตำแหน่งลิ้นเอออติคเคลื่นอไปขวา,เวนติเคิลขวาหนา
อาการ : เขียวทั่วร่างกาย นั่งยองเหนื่อย หอบลึก หัวใจวายเลือดลัดจากหัวใจซีกซ้ายไปขวามากขึ้นทำให้เลือดไปปอดมากขึ้น
มีเลือดไปปอดมาก
อาการเขียว หัวใจวาย
TGA
พบบ่อยสุด มีการสลับที่กันของหลอดเลือดแดงที่ออกจากหัวใจ ได้แก่ เอออต้าและพัลโมนารี โดยเอออต้าออกจากเวนติเคิลขวา และพัลโมนารีออกจากเวนติเคิลซ้าย
อาการ : เขียวตั้งแต่เกิด หอบเหนื่อย มีอาการของหัวใจวาย เพราะ foramen ovale และ PDA ซึ่งเป็นทางติดต่อของการไหลเวียนเลือดระหว่าง2วงจร ได้ปิดตัวลง ส่วนในรายที่มี VSD ร่วมด้วยมีอาการเหนื่อย อาการของหัวใจวาย
การพยาบาล
ประเมินสุขภาพ
1.ซักประวัติ
เขียวเป็นพักๆ หายใจหอบลึก เหนื่อยจนเป็นลมหมดสติ
มีประวัตินั่งยองเวลาเหนื่อย
ปวดหัวเนื่องจากภาวะ cerebral hypoxemia
2.ตรวจร่างกาย
เขียวทั่วร่างกาย
เลือดข้น ความเข้มออกซิเจนลด
นิ้วปุ้ม
ตาขาวแดง
ท่านั่งยองๆ
ภาวะสมองขาดออกซิเจนอย่างเฉียบพลัน
ฝีในสมอง
3.ประเมินจิตสังคม
ประเมินความกังวล ของผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับการเกิดภาวะสมองขาดออกซิเจน ร่วมกับตัวเขียวของเด็ก
ข้อวินิจฉัย
ผู้ป่วยมีภาวะสมองขาดออกซิเจนอย่างเฉียบพลัน เนื่องจากสมองขาดเลือดไปเลี้ยงอย่างเฉียบพลัน
กิจกรรมพยาบาล
ดูแลให้สงบเร็วที่สุด
ให้ออกซเจน จัดท่านอนเข่าชิดอก
ดูแลให้ยาตามแผน
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผน
ข้อวินิจฉัย
ผู้ป่วยเสี่ยงต่อเกิดภาวะสมองขาดออกซิเจนได้ง่าย
กิจกรรม
สังเกตอาการสมองขาดออกซิเจน
ควบคุมการทำกิจกรรม
ดูแลไม่ให้ท้องผูก
ส่งเสริมดื่มน้ำและบันทกปริมาณน้ำดื่ม
ติดตามผลเจาะเลือดฮีมาโตคิต
ดูแลให้ยาตามแผน
ข้อวินิจฉัย
ผู้ป่วยมีโอกาสเกิดการอุดตันของหลอดเลือดฝอยในร่างกายได้
กิจกรรม
เปลี่ยนท่าทุก2ชม
ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
บันทึกสัญญานชีพทุก4ชม
บันทึกสารน้ำเข้าออกร่างกาย
ติดตามการฟังเสียงปอดเป็นระยะ
สังเกตอาการผิดปกติเช่น แขนขาเย็น
ข้อวินิจฉัย
อาจเกิดฝีในสมอง เนื่องจากหัวใจและหลอดเลือดมีความผิดปกติทำให้เลือดบางส่วนไม่ไปฟอกที่ปอด
กิจกรรม
สังเกตอาการไข้ต่ำไม่ทราบสาเหตุ อ่อนเพลีย
บันทึกสัญญาณชีพทุก4ชม
ประเมินอาการทางประสาท
ติดตามผลทางห้องปฏิบัติการ
ให้ยาตามแผน
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัดเอาหนองจากฝีออก
ให้คำแนะนำผู้ดูแลให้ป้องกันการติดเชื้อที่ผิวหนัง
เกิดภายหลัง
IE ติดเชื้อที่เยื่อบุหัวใจ
เกิดการติดเชืิ้อที่เยื่อบุหหัวใจชั้นในสุด หรือในหัวใจ หรือลิ้นหัวใจ หรือเนื้อเยื่อข้างเคียง หรือหลอดเลือดแดงของหัวใจ อาจพบในลิ้นหัวใจเทียม ผนังหัวใจผิดปกติ
สาเหตุ
เชื้อที่เป็นสาเหตุ ได้แก่ เชื้อรา(ริคเกทเซีย) แบบทีเรีย ไวรัส แต่มักมาจากแบคทีเรีย (S.viridans S.aureus)
ระบาดวิทยา
1.กลุ่มโรคหัวใหใจแต่เกิดที่เขียวและไม่เขียว โดยมักพบเชื้อที่หัวใจทางขวามากกว่าซ้าย
2.กลุ่มโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง เช่น รูมาติค มีพยาธิสภาพที่ำลายลิ้นหัวใจ และยื่นของลิ้นหัวใจ
3.กลุ่มเด็กที่ได้รับการผ่าตัดในโรคหัวใจ
4.กลุ่มปัจจัยเสี่ยง เช่น ทำฟัน ใส่สายสวน เจาะเลือด ใส่สายในหลอดเลือดดำใหญ่
อาการ
ไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย
ฟังเสียงฟู่หัวใจ Murmur
มีการตายของสมอง
ซีด ม้ามโตกดไม่เจ็บ และอาจตับโต
การรักษา
ให้ยาปฏิชีวนะขนานสูงทางหลอดเลือดดำ
ติดตามผลลเจาะเลือดส่งเพาะเชื้อเป็นระยะ
ตรวจสอบแหล่งที่มาของโรค
การป้องกัน
ให้ยาก่อนและหลังทำหัตถการที่มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือด
การพยาบาล
การประเมินภาวะสุขภาพ
ซักประวัติ เกี่ยวกับแหล่งติดเชื้อ อาการ
ตรวจร่างกาย พบเสียงฟู่ของหัวใจ
ประเมินภาวะจิตสังคม
ผลตรวจร ESR สูง เม็ดเลือดขาวสูง ปัสสาวะปนเลือด
ข้อวินิจฉัย
ติดเชื้อที่เยื่อบุหัวใจ เช่น ลิ้นหัวใจ
การพยาบาล
ให้ยาตามแผน
ให้พักผ่อนเพียงพอ เพื่อลดการทำงานหัวใจ
กินอาหารที่มีประโยชน์
สังเกตอาการค้างเคียงของยาและโรค
จัดกิจกรรมต่างๆ
บันทึกสัญญาณชีพทุก 4 ชม
ติดตามผลตรวจ
RHD โรคหัวใจรูมาติค
เป็นโรคที่เกิดตามไข้รูมาติค ซึ่งติดเชื้อ ทำให้อักเสบของหัวใจ ทำให้หัวใจวาย ลิ้นหัวใจรั่วหรือตีบ สมอง ข้อ
อาการ
major criteria
carditis
polyarthitis
chorea
subcutaneous nodules
erythema marginatum
minor criteria
มีไข้ต่ำๆ
ปวดข้อโดยไม่ได้อักเสบ
เลือดกำเดาไหล
ปวดท้อง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหงื่อออกมาก เจ็บอก ซีด น้ำหนักลด มีประวัติเป็นไข้รูมาติค
ผลตรวจ
เพาะเชื้อจากคอ
AOS ในเลือดสูง เพราะมีการสร้างแอนติบอดีต่อเชื้อมาก่อน ปกติอยู่ระหว่าง 0-120 todd unit
การวินิจฉัยโรค
Jone's criteria
2 major criteria
1 major criteria และ 2 minor ceiteria
การรักษา
ให้ยาเพื่อฆ่าเชื้อS.coccus A
ให้ยาเพื่อต้านการอักเสบของหัวใจและข้อ
salicylate
ผู้ป่วยที่มี arthritis carditis ที่ไม่มีหัวใจโต
steroid
ผู้ป่วยที่มี carditis ที่หัวใจโตหรือหัวใจวาย
ให้นอนพัก โดยในคนที่หัวใจวายพักจนคุมอาการได้ แล้วค่อยเพิ่มการเคลื่อนไหวมากขึ้นในเวลา3เดือน
ในผู้ป่วยหัวใจวาย ให้ยา digitalis
การพยาบาล
ประเมินสุขภาพ
ซักประวัติการติดเชื้อในระบบหายใจ เช่น เป็นหวัด เจ็บคอ
ตรวจร่างกาย
มีไข้ carditis , polyarthritis , chorea , erythema marginatum , subcutaneous nodule
ประเมินจิตสังคม ความกังวลเกี่ยวกับการปวดข้อ หรือหัวใจเต้นเร็ว
ผลตรวจ
throat swab culture เป็นบวก
ASO unit
ESR สูง
ภาพถ่ายทรวงอกเจอหัวใจโต คั่งเลือดในปอด พบน้ำในข้อ
ตรวจด้วยเสียงสะท้อนหัวใจความถี่สูงมีน้ำในเยื่อหุ้มหัวใจ
ข้อวินิจฉัย
อาจอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ
การพยาบาล
ให้ยาตามแผน
ให้พักผ่อน เพื่อลดการทำงานหัวใจ
ให้อาหารอ่อน และบันทึกสัญญาณชีพทุก4ชม และชีพจรตอนนอน
ติดตามเสียงฟู่ของหัวใจ
ติดตามผลตรวจ
อาจมีการอักเสบของข้อเนื่องจากติดเชื้อ
การพยาบาล
ให้ยาตามแผน
ดูแลให้ลดใช้ข้อ
ช่วยผู้ป่วยทำกิจกรรมต่างๆ
ระวังอุบัติเหตุ สังเกตุ และบันทึกการอักเสบของข้อ
หัวใจวาย
เป็นภาวะที่หัวใจฉีดเลือดไม่ได้ ทำให้อวัยวะและเนื่อเยื่อขาดออกซิเจน
สาเหตุ
ทำให้ทำงานมากขึ้น จากปริมาณเลือดในหัวใจเเพิ่มขึ้นมาก ทำให้เกิดรั่ว ทำให้เลือดในเวนติเคิลมาก
กลุ่มเลือดไหลลัดจากหัวใจซีกขวา
กลุ่มรั่วของลิ้นหัวใจ
กลุ่มเลือดไปปอดมาก
หัวใจทำงานมากขึ้น จากมีความคันในเวินติเคิลสูงกว่าปกติ จากการอุดกั้นของทางออกจากเวนติเคิล
กล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพทำงานน้อยลง
จังหวะหัวใจเต้นผิดปกติ เลือดเลยไหลออกหัวใจน้อยลง
อาการ
หัวใจซ้าายวาย หายใจเร็ว ปีกจมูกบาน อกบุ๋ม ได้ยินเสียง Cerpitation เนื่องจาก pulmonary cogestion
หัวใจขวาวาย หลอดเลือดดำที่คอโป่ง หน้าบวม ตับโต ม้ามโต คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ปวดท้อง เเขนขาเย็น,บวม
การรักษา Ianoxin
เพิ่มแรงบีบตัวกล้ามเนื้อและทำให้เต้นช้าลง ของหัวใจ ทำให้ cardiac output เพิ่มขึ้น เลือดไปเลี้ยงร่างกายมากขึ้น และไปลดคั่งเลือดฝอยที่ปอด
เพิ่มการขับปัสสาวะ ทำให้แรงต้านเส้นเลือดส่วนปลายลด หัววใจจึงบีบเลือดไปได้ง่ายขึ้น
การพยาบาล
การประเมินสุขภาพ
ซักประวัติติดเชื้อบ่อย เช่น ปอดอักเสบ
เหนื่อยง่าย โดยเฉพาะตอนดูดนม จึงทำให้โตช้า
เหงื่อออกมาก กระสับกระส่าย ปัสสาวะน้อย
ชีพจรเบา เร็ว BPสูง ฟังได้ยินเสียงฟู่
ซีด เขียว มือเท้าเย็น
ข้อวินิจฉัย
เลือดไปเลี้ยงร่างกายต่อนาทีน้อยลง เป็นผลจากความผิดปกติของหัใจหรือหลอดเลือด
จัดกิจกรรม
ให้นอนหัวสูง
ให้ออกซิเจน และยาพวกดิจิตาลิสตามแผน
ให้กินจืด
สังเกต ประเมินหายใจ สีผิว สัญญานชีพทุก4ชม และบันทึกดื่มน้ำและปัสสาวะรอบ24ชม
น้ำเกิน เนื่องจากคั่งเลือดหรือน้ำในร่างกายเพิ่ม ทำให้หัวใจทำงานหนัก
ให้ได้ยาขับปัสสาวะ และกินอาหารแคลสูง
ติดตามกินน้ำและปัสสาวะใน24ชม
ชั่งน้ำหนักทุกวัน และประเมินอาการบวม
เสี่ยงต่อได้รับสารอาหารไมม่พอ เนื่องจากเผาผลาญสูงกว่าปกติ
ให้กินอาหารแคล 100-120kal/kg/day
แนะนำบิดามารดาให้นมหรืออาหารแก่เด็ก
สังเกตและบันทึกปริมาณนมหรืออาหารที่ได้รับ
ชั่งน้ำหนักทุกวัน และประเมิณการเปลี่ยนแปลง
คาวาซากิ
สาเหตุ
จากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ริกเก็จเจีย และอื่นๆทำให้เด็กตอบสนองทางอิมมูนผิดปกติ
พยาธิ
อักเสบผนังหลอดเลือดแดงโคโรนารี่และหลอดเลือดแดงขนาดกลางอื่นๆ มี platelet thrombi อุดหลอดเลือดแดง
อาการ
ไข้สูงเป็นพัก ตาแดงไม่มีขี้ตาและไม่เจ็บ ปากแดงแตกแต่ไม่มีแผลและลิ้นเป็นstrawberry tongue มือเท้าบวมเป็นผื่นและลอก ต่อมน้ำเหลืองโต
การพยาบาล
ประเมินการทำงานหัวใจ ปอด และหลอดเลือด อักเสบหรือจังหวะการเต้นหัวใจ เจ็บอก หายใจขัด
ประเมินการไหลเวียนเลือด
วัดชีพจร โดยเฉพาะขนะให้ gamma globulin สังเกตการแพ้ กระตุ้นดื่มน้ำ ใส่ผ้าหนาๆไม่ห่มผ้า เช็ดตัวให้ไข้ลด วัดtempทุก4ชม
ตวงและบันทึกน้ำดื่ม ปัสสาวะ ระวังขาดน้ำ
ให้ได้รับอาหารที่เพียงพอ และชั่งน้ำหนักทุกวัน
ดูแลช่องปาก
ระวังติดเชื้อทางผิวหนัง ไม่ใส่ผ้าอับชื้น ร้อน
ให้ได้รับการพักผ่อน ลดความกังวล
นางสาวกนกวรรณ โภคา เลขที่่2 (62111301003)