Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

:red_flag:การพยาบาลเด็กและวัยรุ่นที่มีปัญหาระบบประสาท กล้ามเนื้อ และกระดูก…

- - - - อาการคอแข็ง
        (Stiffness of Neck) : Positive
      - Kernig’s Sign : Positive
      - Brudzinski’s Sign : Positive
      - ไข้สูง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อาเจียนท้องเสีย
  - - - ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง
      - ดูแลให้ออกซิเจนตามความเหมาะสม
      - จัดท่านอนให้หายใจได้สะดวก
  - - - โปรตีน
        (20-45 mg/dl)
        แบคทีเรีย > 50
        ไวรัส ปกติ หรือ สูงกว่าเล็กน้อย
        วัณโรค สูง >300
      - น้ำตาล
        (40-100 mg/dl)
        แบคทีเรีย ต่ำกว่าครึ่ง
        ไวรัส ปกติ
        วัณโรค สูง >300
- - - - การติดเชื้อ >>>ทอนซิลอักเสบ ไข้หวัด หูชั้นกลางอักเสบ
      - หลังฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก
    - - ภาวะไข้ ทำให้เซลล์ประสาทไวต่อการที่จะเกิดอาการชักได้มากขึ้น ขึ้นอยู่กับอายุและความเจริญของสมอง อายุที่มากขึ้นก็มีโอกาสเกิดไข้ได้น้อยลงทำให้เกิดอาการชักได้น้อยลง
    - - อาการชักจากไข้ชนิดไม่ซับซ้อน
        (Simple febrile convulsion)
        
        มีอาการชักจะเกิดอาการชักระยะสั้นๆ ส่วนใหญ่ประมาณ 2ถึง 3 นาทีไม่เกิน 15 นาทีและลักษณะการชักเป็นแบบชักทั้งตัว
      - อาการชักจากไข้ชนิดซับซ้อน
        (Complex febrile convulsion)
        
        มีอาการชัก จะชักนานกว่า 10 ถึง 15 นาทีหรือมีอาการชักเกิดขึ้นซ้ำภายใน 24 ชั่วโมงและลักษณะอาการชักเป็นแบบเฉพาะที่หรือทั้งตัว
    - - การซักประวัติ
        พบว่ามีประวัติไข้สูงตัวร้อน มีอาการติดเชื้อที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกาย มีอาการเจ็บคอ กลืนไม่ได้ในเด็กที่มีการติดเชื้อที่ต่อมทอนซิล ถ่ายอุจจาระเหลวหลายครั้ง มีไข้ ไอ หายใจไม่สะดวก
      - 2.การตรวจร่างกาย จะพบว่าเด็กมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติ หน้าแดงตัวร้อน พบอาการหรืออาการแสดงของการติดเชื้อในระบบใดระบบหนึ่งของร่างกาย เช่นต่อมทอนซิลบวมแดง มีเสมหะสีเหลือง คลำพบต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ
      - การตรวจทางห้องปฎิบัติการตรวจนับเม็ดเลือดแดง (Complete blood count ) การเพาะเชื้อหรือการตรวจปัสสาวะเพื่อค้นหาการติดเชื้อในระบบต่างๆ และทำการวินิจฉัยแยกโรคจากโรคติดเชื้อทางระบบประสาท
      - การตรวจพิเศษ Lumbar puncture เพื่อตรวจดูน้ำไขสันหลังใช้ในการวินิจฉัยแยกโรคระหว่างการติดเชื้อในระบบอื่นๆของร่างกายกับการติดเชื้อทางระบบประสาท
    - - ระยะที่มีกำลังมีอาการชัก ให้
        ยา diazepam ขนาด 0.1-0.5 mg/kg เข้เข้าทางหลอดเลือดดำ
        ซ้ำได้ทุก 15 นาที
        
        ถ้ายังไม่หยุดชัด แพทย์อาจให้ diazepam สวนเหน็บทางทวารหนัก
      - ระยะหลังจากหยุดอาการชัก
        
        ให้ยาลด paracetamol 10-15 mg/kg ทุก 4-6 ชั่วโมง ร่วมกับเช็ดตัวลดไข้
        
        ให้ดื่มน้ำมากๆ เพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำ และความร้อนจะถูกขับออก
    - - เสี่ยงต่อภาวะเซลล์สมองถูกทำลายจากการนาน
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        :red_flag: ดูแลเช็ดตัวลดไข้
        :red_flag: ขณะชักจัดให้ผู้ป่วยนอนตะแคงหน้า
        :red_flag: ดูแลให้ได้รับยาและออกซิเจนตามแผนการรักษา
- - - - กระหม่อมหน้าโป่งตึง ไม่มี Pulsation คลำได้รอยแยกของกระดูกศีรษะ หน้าผากกว้างเคาะศีรษะอาจได้ยินเสียงเหมือนภาชนะร้าว
        ( Macewen’sign)
      - ศีรษะโต เส้นรอบศีรษะเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ
      - มี Reflexและ Toneของขา 2 ข้างไว
      - อาจมีอาการแสดงของความผิดปกติทางระบบประสาทเช่น ซึม เกร็ง ชัก ตัวแอ่นไวต่อสิ่งกระตุ้น อาเจียน การเจริญเติบโตและพัฒนาการช้า
    - - Acute hydrocephalus
        ความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
        เด็กจะมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
        หมดสติและเสียชีวิตได้
  - - - Transillumination test
        
        ตรวจโดยใช้ไฟฉายส่องหัวในเด็กเล็กพบกะโหลกบาง
      - Skull x -ray
        
        พบมีก้อนเนื้องอก ทำให้มีการอุดกั้นของน้ำไขสันหลัง
      - Ultrasound of brain
        
        พบก้อนเลือดมีการอุดกั้นของน้ำไขสันหลัง
      - subdural tap.
        
        การเจาะกระหม่อม
        
        เพื่อนำน้ำ CSFไปตรวจหาเชื้อพบ CNS infection
      - Ventriculography
        
        พบว่าโพรงสมองโตหรืออุดตันในตำแหน่งโพรงสมองจากก้อนเนื้องอก
      - Compaterized tomography
        
        พบเนื้องอกที่ choroids plexus
  - - - revise shunt
        
        Elective shunt revision
        
        จะพิจารณาผ่าตัดเปลี่ยนหรือต่อสายcatheter ในเด็กที่เจริญเติบโต ทุก 2-4ปี
        
        Emergency shunt revision
        
        ในเด็กที่มีอาการแสดงของความดันในกะโหลกศีรษะสูง และหมดสติต้องรีบดำเนินการแก้ไข shunt ที่ไม่ทำงานทันที
      - ผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินของน้ำไขสันหลัง
- - - - ประเมิน reflex
        
        Moro (สะดุ้ง,ผวา)
        
        Grasp (วางของ,จับสิ่งของ)
        
        Babinski sign (ตรวจฝ่าเท้า)
    - - ตรวจแรงต้าน
        
        ตรวจความตึงตัวของกล้ามเนื้อ
        
        ความตึงตัวลดลง
        
        กล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก
        
        กล้ามเนื้ออ่อนแรง
        
        ความตึงตัวมากเกินไป
        
        กล้ามเนื้อเกิดการแข็งเกร็ง (rigidity)
        
        กล้ามเนื้อหดเกร็ง
        (spasticity)
        
        ตรวจกำลังกล้ามเนื้อ
  - - - การทดสอบให้ผลบวก (Positive test)
    - - การทดสอบให้ผลบวก (Positive test)
    - - การทดสอบให้ผลบวก (Positive test)
- - - - อาการและอาการแสดง มีไข้ ปวดศรีษะ อาเจียนพุ่ง
      - การตรวจร่างกาย พบอาการคอแข็ง
    - - ตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า(MRI)
      - ตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) ตรวจเพื่อยืนยันเชื้อ
      - CBC พบ WBC สูง
      - ตรวจน้าไขสันหลัง น้ำไขสันเหลืองจะใสไม่มีสี
  - - - ควบคุมอาการชัก
      - ดูแลให้สมองได้รับออกซิเจนและอาหาร
  - - - :star:ป้องกันและลดการเพิ่มความดัน
        ในกระโหลกศีรษะ
        :star:จัดท่านอนศีรษะสูง 30 องศา
        :star:ดูแลให้ยาลดความดันในกะโหลกศีรษะตามแผนการรักษา
    - - 1.ประเมินสภาพการหายใจจากลักษณะการหายใจอัตราการหายใจเสียงปอดสีผิวระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด
      - 2.จัดให้เด็กอยู่ในท่าถึงตะแคงกึ่งคว่ำ
        ป้องกันการตกของลิ้นปิดทางเดินหายใจ
- - - - ได้รับอุบัติเหตุขณะตั้งครรภ์ทำให้เด็กในครรภ์ขาดออกซิเจน
  - - - 1.Spastic cerebral palsy มีอาการกล้ามเนื้อเกร็งไม่สามารถหดตัวได้เหมือนกล้ามเนื้อปกติ ความผิดปกติครึ่งซีก
      - 2.Ataxic CP กล้ามเนื้อจะยืดหดอย่างไม่เป็นระบบระเบียบ
      - 3.Athetoid CP หรือ Dyskinetic CP มีอาการกล้ามเนื้อไม่ประสานกัน
      - 4.Mixed CP เป็นการผสมผสานทั้ง 3 คือเด็กคนเดียวอาจมีลักษณะโดย 1 ใน 4
  - - - ปรับและควบคุมความตึงเครียด
    - - ประเมินความสามารถด้านภาษาการพูด
  - - - ทำกายภาพบำบัด กระตุ้นพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อ
    - - ส่งเสริมพัฒนาการตามความสามารถของเด็กด้านการใช้กล้ามเนื้อ
- - - - ชักแบบ Jacksonian Seizure เป็นการกระตุกเฉพาะที่
      - อาจแสดงอาการก้าวร้าว เหม่อลอย มีอาการเจ็บหน้าอก หายใจลำบาก ชีพจรเร็ว ท้องอืด
    - - เด็กจะเคลื่อนไหวแบบไร้จุดหมาย
        พูดคำซ้ำๆ ถูมือไปมา การเคี้ยวปาก
  - - - ระยะแรก มีความผิดปกติทางจิต เช่น
        การได้กลิ่นแปลก มองเห็นภาพแหว่งเว้า มึนงง
      - ระยะที่สอง จะหมดสติทันทีแล้วมีอาการเกร็ง(Tonic phase)
        30 วินาที ถึง 1 นาที
        ระยะชัก (Clonic phase) กล้ามเนื้อแขนขากระตุกเป็นจังหวะ
        ใช้เวลา 2-5 นาที
      - ระยะหลังชัก ผู้ป่วยจะเหนื่อย และไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นใดๆ
    - - อาจมีเพียงหน้าซีด หมดสติไปชั่วขณะ
        5-30 วินาที
  - - - การได้รับสารพิษ
      - การชักในเด็กที่มีไข้สูง