Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

โรคของระบบทางเดินปัสสาวะ - Coggle Diagram

- - - - พบ interstitial edema ร่วมกับ leukocytic infiltration และ tubular necrosis
    - - พบ interstitial fibrosis tubular atrophy เเละ mononuclear cell infiltration
- - - - Renal agenesis นั้นอาจเป็นได้ทั้ง สองข้าง หรือ ข้างเดียว
      - อาจเป็นร่วมกับ ปอดไม่เจริญ แขนขาผิดรูปร่าง และ มีรูปหน้าจำเพาะ
    - - ภาวะที่ไตมีมากกว่าสอง ส่วนใหญ่จะเป็นสามไต
    - - ภาวะที่ไตมีขนาดเล็กกว่าปกติ
    - - แขนขาผิดรูปร่าง คือ โก่ง และ บิด
      - เกิดจากการที่ทารกในครรภ์มีภาวะขาดน้ำคร่ำ
  - - - ภาวะที่ไตมี Renal pelvis และ Ureter อยู่ด้านหน้า
    - - มีการเชือมกันตรงกลางระหว่างเนื้อไตทะ้งสองข้าง
    - - ภาวะที่ไตอยูในตำแหน่งที่ผิดปกติ เช่น อยู่ในอุ้มเชิงกราน เป็นได้ทั้งข้างเดียวและ สองข้าง
- - - - Nephrotoxic type ได้รับสารพิษ
      - Ischemic type : shock
    - - ระยะที่ 2 Diuretic phase
        
        เกิดในช่วงกลาง มีการสร้างเซลล์ใหม่แต่สามารถดูดกลับน้ำได้เต็มที่จึงทำให้ปัสสาวะมาก
      - ระยะที่ 3 Recovery phase
        
        เกิดในช่วงหลัง เมื่อนานเข้า Tubular cell สามารถดูดน้ำกลับได้ปกติทำให้ปัสสาวะได้ปกติ
      - ระยะที่ 1 Oliguric phase
        
        เกิดในช่วงแรก เมื่อมีการตายของ renal tubule ทําให้ Renal cell หลุดออกมาอุดตันทําใหป้สสาวะน้อย
- - - - การกรองเพิ่มขึ้น (hyperfiltration)
        
        เนื่องจากกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดนำ เลือดเข้าโกลเมอรูลัส
        
        เลือดไหลเวียนไปกรองมากขึ้น
      - การเปลี่ยนแปลงของกลไกการทํางานของ Renin
        
        ทำให้เกิดภาวะ hyperkalemia ภาวะกรดเกิน
- - - - ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แบบ autosomal dominant
      - ผิวนอกตะปุ่มตะป่ำ
    - - ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แบบ autosomal recessive
      - ไตมีขนาดใหญ่ทั้งสองข้าง ผิวหนังนอกเรียบ
  - - - มีการขยายใหญ่เป็นถุงของ collecting tubule ของ medulla
    - - เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุกรรม มักมีอาการตั้งแต่เด็ก
      - พบมี cyst อยู่ Medulla
- - - - การมีระดับ เเคลเซียมในเลือดสูง
      - เกิดการตกตะกอนของเเคลเซียมในเนื้อไต
  - - - เกิดทันทีและรุนแรง
      - มีอาการไตบวมโตมีเลือดคั่ง
    - - เกิดจากการควบคุมสาเหตุของโรคไม่ได้
      - เป็นการอักเสบไม่รุนแรง เป็นๆหายๆ
- - - - การสะเทืิอนหรือหลังมีเพศสัมพันธ์
      - มีสิ่งแปลกปลอมในท่อทางเดินปัสสาวะ
      - ดื่มน้ำน้อย ดื่มแอลกอฮอล์มาก
      - การกลั้นปัสสาวะ
  - - - การบาดเจ็บจากภายนอก
      - มีความผิดปกติของ sphincter
      - การทําศัลยกรรมทางการแพทย์
      - ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
  - - - โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      - จากเชื้อที่ไม่ใช่หนองใน เช่น โรคเริม
  - - - นิ่วที่หลุดมาจากส่วนของไต
      - หลอดไตตีบ(stricture) อาจเป็นมาแต่กําเนิดหรือ เป็นผลจากการอักเสบ