Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 10 การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาเซลล์เจริญผิดปกติ, นางสาวนิรามัย สีลาคำ…
บทที่ 10 การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาเซลล์เจริญผิดปกติ
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน
ALL (Acute lymphoblastic leaukemia)
ความหมาย
Leukemia หมายถึง มะเร็งของระบบโลหิต เกิดจากความผิดปกติของเชลล์ต้นกำเนิด(Stem cell)
ที่อยู่ในไขกระดูก (Bone Manow) เกิดการแบ่งตัวที่ผิดปกติ ไม่สามารถ differentiate ไปเป็นเซลล์ตัวแก่ได้
ส่งผลให้จำนวนเม็ดเลือดขาวตัวอ่อนมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วร่างกายทำให้การสร้างเม็ดเลือดแดงและเกร็ดเลือดลดลง
ชนิดที่พบบ่อยที่สุดในเด็กคือมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน (Acute lymphoblastic leukemia ,ALL)
ผู้ป่วยจึงเกิดอาการซีด เลือดออก และติดเชื้อได้ง่าย
ผลของการที่มี cell เม็ดเลือดขาวตัวอ่อนจำนวนมากทำให้การสร้างเม็ดเลือดแดง เกร็ดเลือดลดลง ผู้ป่วยจึงมีอาการซีด
เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เลือดออกง่าย ติดเชื้อได้ง่าย
มี 2 ชนิด
T-cell lymphoblastic leukemia
B-cell lymphoblastic leukemia
การวินิจฉัย
เจาะเลือดตรวจหาเชลล์เม็ดเลือดตัวอ่อนของเม็ดเลือดขาว Blast cell ทำการยืนยันโดยการเจาะไขกระดูก Bone marrow Transplanted เพื่อดูให้ชัดเจนอีกครั้งว่ามีการแบ่งตัวที่ผิดปกติในไขกระดูกจริงหรือไม่
ชนิดของมะเร็งเม็ดเลือดขาว
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิด ALL (Acute lymphoblastic leukemia หรือ Acute lymphocytic
leukemia หรือ Acute lymphoid leukemia หรือเรียกย่อว่าAL L) เป็นชนิดที่พบได้ในทุกช่วงอายุ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่พบได้บ่อยที่สุดในเด็กอายุ 2-5 ปี
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉี่ยบพลันชนิด AML (Acutemyelogenous leukemia หรือ Acute myeloid leukemiaหรือเรียกย่อว่า AML โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดนี้จึงพบได้ใผู้ใหญ่มากกว่าในเด็ก และพบในผู้ชายบ่อยกว่าผู้หญิง
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิด CLL (Chronic lymphocyticleukemia หรือเรียกย่อว่า CLL) เป็นชนิดที่พบได้บ่อยในผู้ใหญ่ และมีความชุกของโรคมากขึ้นตามอายุ
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิด CML (Chronic myelogenousleukemia หรือ Chronic myeloid leukemia หรือ Chronicmyelocytic leukemia หรือเรียกย่อว่า CML) เป็นชนิดที่พบได้น้อย พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ในผู้ป่วยเด็กนั้นประมาณ 80% มักพบในเด็กอายุมากกว่า 4 ปี
สาเหตุของมะเร็งเม็ดเลือดขาว
ปัจจัยทางด้านพันธุกธธม
เด็กที่เป็นดาวน์ชินโดรม (Down's syndrome) ซึ่งเป็นโรคผิดปกติทางพันธุกรรม
ครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิด ALL
พบว่าจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้สูงกว่าคนทั่วไปประมาณ 2-4 เท่า
ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม
การมีประวัติได้รับสีไออนไนซ์ (lonizing radiation) ซึ่งเป็นรังสีที่ใช้ในการ
ตรวจและรักษาในปริมาณสูง
การมีประวัติได้รับยาเคมีบำบัดในการรักษาโรคมะเร็งชนิดอื่นมาก่อน
อาจเกิดจากการได้รับสารเคมีต่างๆ ที่เป็นพิษจากสิ่งแวดล้อมหรือจากควันบุหรี่และการสูบบุหรี่
อาการ
อาการแรกที่เป็น คือ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซีด อ่อนเพลียเลือดออกง่าย จากเกร็ดเลือดต่ำ เช่น ออกตามไรฟัน มีฉ่ำเขียวขึ้น
บนตามตัว หรือมีประจำเดือนมากผิดปกติ
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง(Lymphoma)
ระบบน้ำเหลือง (Lymphoma System) เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกัน
ตำแหน่งที่พบบ่อย คือต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ(Cervical Lympnode
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin Lymphoma) พบต่อมน้ำเหลืองจะโตมาเป็นปี ไม่มีอาการเจ็บปวดมีลักษณะเฉพาะ คือจะพบ Reed-Sternberg cell ซึ่งไม่มีในมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดอื่น
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน (Non-Hodgkin Lymphoma)อาการจะเร็วและรุนแรง มักจะมาโรงพยาบาลเมื่อมีการกระจายไปทั่วร่างกายแล้ว อาจมีก้อนที่ช่องท้อง ช่องอกหรือในระบบประสาท
O Burkitt Lymphoma มีลักษณะพิเศษคือ มีต้นกำเนิดมาจาก B-cell( B lymphocyte) มีการแทรกกระจายในเนื้อเยื่อ มีก้อนเนื้องอกที่โตเร็วมากมักพบเฉพาะที่ เช่น ในช่องท้อง รอบกระดูกขากรรไกร
ประกอบประด้วยอวัยวะ
ม้าม
ไขกระดูก
ต่อมทอนชิล
ต่อมไทมัส,
ภายในอวัยวะเหล่านี้ ประกอบไปด้วยน้ำเหลืองซึ่งมีหน้าที่นำสารอาหาร และเซลล์เม็ดเลือดขาว(Lymphocyte) ไปยังส่วนต่างๆทั่วร่างกายความผิดปกติของเม็ดเลือดขาวเหล่านี้ ทำให้เกิดเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองขึ้น การทำหน้าที่ก็จะผิดปกติ
การวินิจฉัยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
การตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยา (Biopsy)
การตรวจไขกระดูก เพื่อประเมินว่ามีการกระจายเข้าไปในไขกระดูกหรือไม่
เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)
เอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MR)
การตรวจกระดูก (Bone scan)
O การตรวจ PET scan
การตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์
O เพื่อหาเซลมะเร็ง
อาการเริ่มต้นที่พบบ่อย
คอ รักแร้ ขาหนีบ หรือเต้านม แต่จะไม่มีอาการเจ็บ ซึ่งต่างจากการติดเชื้อที่มักจะมี
มีไข้ หนาว สั่น เหงื่อออกมากตอนกลางคืน คันทั่วร่างกาย
เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลียไม่ทราบสาเหตุ
ไอเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก ต่อทอนซิลโต
ปวดศีรษะ (พบในมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระบบประสาท)
ทางการรักษาในปัจจุบัน
การใช้ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy)
การฉายรังสี (Radiation Therapy) คือการรักษาด้วยรังสีปริมาณสูง เพื่อทำลายเชลล์มะเร็ง
การรักษาด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นเนิด (Transplantation)
Neuroblastoma
นิวโรบลาสโตมา
เป็นเนื้องอกชนิดร้ายแรงที่พบได้บ่อยในเด็กอายน้อยกว่า 5 ปี
เป็นเนื้องอกที่มีต้นกำเนิดมาจากเซลล์ของระบบประสาท(Neural crest)สามารถเกิดบริเวณใดก็ได้ที่มีเนื้อเยื่อ Sympathetic neve ได้แก่ ต่อมหมวกไต(adrenal gland) ในช่องท้อง
อาการนำที่มาพบแพทย์
มีก้อนในท้อง ท้องโต ปวดท้อง อาการอื่นๆ
ได้แก่ ตาโปนมีรอยช้ำรอบตา(raccoon eyes) มีไข้ ปวดกระดูก ตำแหน่งที่พบก้อนครั้งแรกมากที่สุดคือต่อมหมวกไต
มะเร็งไต Wilm Tumor
มะเร็งไต หมายถึง ภาวะที่เนื้อไตชั้นพาเรนไคมา(Parenchyma) มีการเจริญผิดปกติจนกลายเป็นก้อนเนื้องอกภายในเนื้อไต ส่วนใหญ่จะมีขนาดใหญ่ และคลำได้ทางหน้าท้อง และมักจะเป็นที่ไตข้างใดข้างหนึ่งจะไม่ให้คลำบ่อย เพราะอาจทำให้ก้อนแตก หรืออาจเกิดการแพร่กระจายของมะเร็ง
การดูแลเด็กที่ได้รับยาเคมีบำบัดChemotherapy
ระยะการรักษาเคมีบำบัด
ระยะชักนำให้โรคสงบ (induction phase)
เป็นการให้ยาเพื่อทำลายเซลล์ในเวลาอันสั้นให้มากที่สุดและมีอันตรายต่อเซลล์ปกติให้น้อยที่สุด ทำให้ไขกระดูกสามารถสร้างเชลล์เม็ดเลือดขาวได้ตามปกติ ระยะนี้ใช้เวลา4 - 6 สัปดาห์
ยาที่ใช้ ได้แก่ Vincristine, Adriamycin, L - Asparaginase และ Glucocorticoid
ระยะให้ยาแบชเต็มที่ (intensive or consolidation phase)
เป็นการให้ยาหลายชนิดร่วมกันภายหลังที่ผู้ป่วยอยู่ในระยะโรคสงบแล้ว เพื่อให้ยาทำลายเซลล์มะเร็งให้เหลือน้อยที่สุด
ระยะนี้จะใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์
ยาที่ใช้ ได้แก่Metrotrexate, 6 - MP และ Cyclophosephamide
ระยะป้องกันโรคเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง (CNS prophylaxis phase)
เป็นการให้ยาเพื่อป้องกันไม่ให้โรคลุกลามเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง เพราะผู้ป่วยโดยทั่วไปหลังการให้ยา มักมีโอกาสกลับ
เป็นโรคอีกครั้ง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีจำนวนเกล็ดเลือดต่ำ ตับม้ามโต
ยาที่ใช้ ได้แก่ Metrotrexate, Hydrocortisoneและ ARA - C
ระยะควบคุมโรคสงu (maintenance phase or continuation therapy)
ยาที่นิยมใช้ คือ การให้ 6 - MP โดยการรับประทานทุกวันร่วมกับการให้ Metrotrexate
การรักษาประดับประคอง
การรักษาทดแทน (Replacement therapy) ด้วยการให้เลือดเพื่อให้ระดับฮีมโกลบินไม่น้อยกว่า 7-8 กรัม/ดล.ในระยะแรกก่อนโรคสงบ
การรักษาด้วยเกร็ดเลือด หากผู้ป่วยมีเลือดออกจากจำนวนเกร็ดเลือดต่ำ จำเป็นต้องให้เกร็ดเลือดก่อน ก่อนการให้
ยา ซึ่งวิธีนี้จะช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยได้สูง เพราะมีเกร็ดเลือดต่ำมากจะทำให้ผู้ป่วยถึงเสียชีวิตได้รวดเร็วไม่เกิน 24 ชั่วโมง
วิธีการให้ยาเคมีบำบัด IT IM IV
ทางช่องไขสันหลังintrathecal
ทางกล้ามเนื้อ หลังฉีดต้องระวังเลือดออก
ทางหลอดเลือดดำ Vein ต้องระวังการรั่วของยาออกนอกหลอดเลือด ที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ธุนแรง
นางสาวนิรามัย สีลาคำ เลขที่ 39 (62111301041)