Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 10 การพยาบาลเด็กทีมีปัญหาเซลล์เจริญผิดปกติ, อ้างอิง, นางสาวบุษชา…

- - - - มะเร็งของระบบโลหิต
        
        เกิดจากความผิดปกติของ เซลล์ต้นกำเนิด(Stem cell) ที่อยู่ในไขกระดูก (Bone Marrow)
        
        เกิดการแบ่งตัวที่ผิดปกติ
        
        ไม่สามารถ differentiate ไปเป็นเซลล์ตัวแก่ได้
        
        ส่งผลให้ จํานวนเม็ดเลือดขาวตัวอ่อนมีจํานวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
        
        การสร้างเม็ดเลือดแดงและเกร็ดเลือดลดลง
    - - ซีด เลือดออก และติดเชื้อได้ง่าย
  - - - พบได้ในทุกช่วงอายุ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
        
        พบบ่อยในเด็กอายุ 2-5 ปี
    - - พบได้ในผู้ใหญ่มากกว่าในเด็ก
      - พบในผู้ชายบ่อยกว่าผู้หญิง
    - - พบได้บ่อยในผู้ใหญ่
      - ความชุกของโรคมากขึ้นตามอายุ
    - - พบได้น้อย พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
      - มักพบในเด็กอายุมากกว่า 4 ปี
  - - - ครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิด ALL
      - ฝาแฝดที่เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิด ALL ประมาณ 25 %
      - เด็กที่เป็นดาวน์ซินโดรม
    - - การมีประวัติได้รับยาเคมีบําบัดในการรักษาโรคมะเร็งชนิดอื่นมาก่อน
      - การสัมผัสสารเคมีที่เป็นพิษบางชนิด
      - การมีประวัติได้รับสีไออนไนซ์ (Ionizing radiation)
      - จากควันบุหรี่และการสูบบุหรี่
  - - - เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซีด อ่อนเพลีย
    - - เช่น
        
        เลือดออกตามไรฟัน
        
        จ้ำเขียวขึ้นตามตัว
        
        ประจำเดือนมากผิดปกติ
- - - - ต่อมหมวกไต(adrenal gland) ในช่องท้อง
  - - - มีก้อนในท้อง ท้องโต ปวดท้อง
    - - ตาโปนมีรอยช้ำรอบตา(raccoon eyes) มีไข้ ปวดกระดูก พบก้อนที่ต่อมหมวกไต
- - - - ให้ยาเพื่อทําลายเซลล์ในเวลาอันสั้นให้มากที่สุด
      - มีอันตรายต่อเซลล์ปกติให้น้อยที่สุด
      - ระยะเวลาในการให้ยา 4 – 6 สัปดาห์
    - - ให้ยาหลายชนิดร่วมกัน
        
        เพื่อให้ยาทําลายเซลล์มะเร็งให้เหลือน้อยที่สุด
      - ระยะเวลา ประมาณ 4 สัปดาห์
    - - ป้องกันไม่ให้โรคลุกลามเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง
        
        โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีจํานวนเกล็ดเลือดต่ำ ตับม้ามโต
    - - ให้ยาเพื่อควบคุม และรักษาโรคอย่างถาวร
      - ยาที่นิยมใช้
        
        6 – MP ร่วมกับการให้ Metrotrexate
  - - - ให้เลือดเพื่อให้ระดับฮีโมโกลบินไม่น้อยกว่า 7-8 กรัม/ดล
      - ระยะแรกก่อนโรคสงบ
    - - กรณีผู้ป่วยมีเลือด,จำนวนเกร็ดเลือดต่ำ
      - ช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยได้สูง
  - - - ทางช่องไขสันหลัง intrathecal
    - - ระวังเลือดออก
    - - ระวังการรั่วของยาออกนอกหลอดเลือด
  - - - ผลข้างเคียง
        
        เกิด Hemorrhagic cystitis เลือดออกในกระเพาะปัสสาวะ
    - - รักษามะเร็ง Acute leukemia
        
        กดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
        
        ยับยั้งการสร้าง DNA และ RNA
      - ผลข้างเคียง
        
        เกิดอาการเคลื่นไส้ อาเจียน
        
        เยื่อบุช่องปากอักเสบ
        
        เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ตับ
        
        ติดตามค่า Liver function Test
        
        Acute renal failure(ARF)
    - - ยับยั้งการสร้างกรดนิวคลีอิกของ cell มะเร็ง
      - ยับยั้งการสร้าง Purine
    - - โอกาสแพ้ยาสูง
      - มีผลต่อตับอ่อนในการหลั่ง Insulin
        
        น้ำตาลในเลือดสูง
- - - - ชนิด
      - ความเข้มข้นของยาเคมีบำบัด
      - ปริมาณยาที่รั่ว
    - - ปวด แสบร้อน บวม
      - การทําลายเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆเส้นเลือด
    - - การประคบเย็น ครั้งละประมาณ 20 นาที
      - ทำซ้ำอย่างน้อยวันละ 4 ครั้ง ในช่วง 1-2 วันแรก
  - - - ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่ำ
- - - - ไม่มีอาการเจ็บปวด
      - พบ Reed-Sternberg cell
        
        ไม่มีในมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดอื่น
      - พบต่อมน้ำเหลืองโตมาเป็นปี
    - - อาการจะเร็วและรุนแรง
      - มีก้อนที่ช่องท้อง ช่องอกหรือในระบบประสาท
    - - ต้นกําเนิดมาจาก B-cell
      - ก้อนเนื้องอกที่โตเร็วมาก มักพบเฉพาะที่
        
        ช่องท้อง
        
        รอบกระดูกขากรรไกร
      - แทรกกระจายในเนื้อเยื่อ
  - - - คลําพบก้อนที่บริเวณต่าง ๆ เช่น คอ รักแร้ ขาหนีบ หรือเต้านม ไม่มีอาการเจ็บ
      - ปวดศีรษะ
        
        มะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระบบประสาท
      - ไอเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก ต่อมทอนซิลโต
      - เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลียไม่ทราบสาเหตุ
      - มีไข้ หนาว สั่น เหงื่อออกมากตอนกลางคืน คันทั่วร่างกาย
    - - มะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่เกิดขึ้นภายในช่องท้อง
        
        แน่นท้อง หรืออาหารไม่ย่อย ท้องโตขึ้น
      - ซีด มีเลือดออกง่าย เช่น จุดเลือดออกตามตัว จ้ำเลือด