Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาทางระบบประสาท - Coggle Diagram
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาทางระบบประสาท
Down's syndrome
กลุ่มอาการ
เป็นความผิดปกติทางโครโมโซมคู่ที่ 21
โอกาสเสี่ยงสูงถ้ามารดาอายุมากกว่า 30 ปี
บิดามารดาจะมีโครโมโซมปกติ
อาการและอาการแสดง
กล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก
หัวแบนกว้าง หูติดอยู่ต่ำ
คอสั้น ผิวหนังด้านหลังของคอค่อนข้างมากและนิ่ม
มือกว้างและสั้นมาก นิ้วก้อยโค้งงอ ร่องระหว่างนิ้วโป้งเท้าและนิ้วชี้กว้าง
brush field spot
เส้นลายนิ้วมือมักพบ ulnar loop มากกว่า
ทางเดินอาหารอุดตัน ร่างกายเจริญเติบโตช้า
Hypothyroidism
หัวใจพิการแต่กำเนิด
อวัยวะเพศเล็กกว่าปกติ
มีความผิดปกติเกี่ยวกับการมองเห็น และการได้ยิน
การรักษา
กระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการให้เมาะสมตามวัยตั้งแต่อายุยังน้อย
รักษาโรคทางกายอื่นๆร่วมด้วย คือ โรคหัวใจ ระบบทางเดินอาหารอุดกั้น และอื่นๆ
ให้คำปรึกษาแนะนำด้านพันธุกรรม
Guillain Barre's Syndrome
กลุ่มอาการของโรคเกิดจากการบวมอักเสบของระบบประสาทส่วนปลายๆเส้นอย่างเฉียบพลัน
อาการและอาการแสดง
Sensation เริ่มมีอาการเหน็บชา เจ็บ และปวด โดยเฉพาะปลายแขนปลายขา ไหล่ สะโพก และโคนขา
motor กล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการอัมพาตในGBSจะเริ่มต้นที่ขา ลุกลามไปที่แขนและลำตัวด้านบน
อาการของประสาทสมอง โดยเฉพาะใบหน้า จะปิดตาและปากไม่สนิท ความผิดปกติในการแสดงสีหน้า
อาการลุกลามของประสาทอัตโนมัติ อาจเกิดการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ ความดันโลหิตไม่คงที่ หน้าแดง เหงื่อออก ปัสสาวะคั่ง และท้องอืด
การรักษา
การรักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายพลาสมา
การรักษาด้วยIntravenous Immunglobulin
วินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่อการเกิดการหายใจไม่เพียงพอเนื่องจากกล้ามเนื้อช่วยหายใจอ่อนแรงอย่างเฉียบพลัน
เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารเนื่องจากม่สามารถช่วยตนเองจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างสมบูรณ์
ทุกข์ทรมานจากการปวดกล้ามเนื้อ
ขาดการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นเนื่องจากไม่สามารถพูดได้
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากไม่เคลื่อนไหว
หลักการพยาบาลในระยะเฉียบพลันและต่อเนื่อง
V/S โดยเฉพาะ RR ต้องมีการตรวจวัด vital capacity , Tidal volume
ให้ออกซิเจน
ติดตามประเมินการเคลื่อนไหว กำลังของกล้ามเนื้อ การรับรู้สัมผัส
ดูแลปัญหาเรื่องการขาดสารอาหาร เนื่องจากผู้ป่วยมีน้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว
สังเกตอาการปวดตามกล้ามเนื้อ
ประคับประคองด้านจิตใจ ส่งเสริมการมองโลกในแง่ดี
Spina bifida
สาเหตุ
ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงแต่อาจเกิดจากมารดาติดเชื้อไวรัสในขณะตั้งครรภ์ในระยะ 3เดือนแรก
ภาวะทุพโภชนาการและมารดาอายุน้อยหรือมากเกินไป
การวินิจฉัย
มารดามีประวัติติดเชื้อขณะตั้งครรภ์การตรวจทางห้องปฏิบัติการพบ Alphafetoprotien
การตรวจร่างกายทารกพบความผิดปกติ
การรักษา
การผ่าตัดเย็บปิดถุงที่ยื่นออกมา
การพยาบาล
อาจเกิดการติดเชื้อเนื่องจากถุงน้ำแตก
จัดท่านอนตะแคงหรือนอนคว่ำ
ไม่นุ่งผ้าอ้อม
ดูแลถุงน้ำให้ชุ่มชื้น ระวังไม่ให้เกิดแผล
หมั่นตรวจสอบการฉีกขาด การรั่ว
ประเมินการติดเชื้อ
อาจมีการติดเชื้อขงอระบบทางเดินปัสสาวะเนื่องจากการคั่งของน้ำปัสสาวะ
ทำ Crede'manuever ทุก 2-4 ชม
ทำความสะอาดทุกครั้งหลังขับถ่าย
ให้ยา Antibiotic ตามแผนการรักษา
มีกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงจากการกดเบียดเส้นประสาทไขสันหลัง
ทำ passive exercise ให้ผู้ป่วย
สอนผู้ปกครองในการกระตุ้นการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย
สังเกตุอาการอ่อนแรงของแขนขา
การพยาบาลหลังผ่าตัด
มีโอกาสติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดได้ง่ายจากการปนเปื้อนอุจจาระปัสสาวะ
จัดท่านอนตะแคงหรือนอนคว่ำไม่นุ่งผ้าอ้อม
ดูแลความสะอาดแผล
ดูแลให้ยาและเช็คV/S
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
วัดสัญญาณชีพทุก 2-4 ชม
เฝ้าระวังและสังเกตภาวะแทรกซ้อน
วัดเส้นรอบศีรษะทุกวันเพื่อประเมินภาวะ Hydrocephalus
บริหารแขนขา เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
ชักจากไข้สูง (Febrile convulsion)
ชนิดของการชักจากไข้สูง
simple febrile seizure
complex febrile seizure
สาเหตุ
ภาวะชักจากไข้สูงเกดิ จากการติด เชื้อในระบบต่างๆ เด็ก จะมี
อาการชักเมื่อ ร่างกายมีอุณณหภูมิสูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส
อาการและอาการแสดง
เด็กจะตัวร้อน หน้าแดง มึนงงสับสน กระสับกระส่าย ร้องกวน มีอาการชักลักษณะการชักอาจจะตัวแข็งหรือตัวอ่อน ชักเกร็ง หรือกระตุก ไม่รู้สึกตัว
การรักษา
ระยะที่กำลังมีอาการชัก
ถ้าชักเกิน 5 นาทีต้องทำให้หยุดชักโดยใช้ยาระงับการชัก
ให้ยาลดไข้
ระยะหลังชัก
ซักประวัติ ตรวจร่างกายให้ยากันชักรับประทานทุกวันนาน1-2 ปี
การพยาบาล
วัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
2.เช็ดตัวลดไข้ (tepid sponge)และให้ยาลดไข้
3.จัดท่านอนตะแคงศีรษะต่ำกว่าลำตัว ดูดเสมหะถ้ามีเสมหะ
ไม่ผูกยึดเด็กหรือจับเด็กขณะมีอาการชักเพราะอาจเกิดข้อไหล่หลุดหรือกระดูกหัก
ระมัดระวังอุบัติเหตุที่อาจเกิดขณะมีอาการชัก
สังเกตและบันทึกระยะเวลาของการชักลักษณะการซัก
5.ไม่ใส่ไม้กดลิ้นเข้าปากเด็กเพราะอาจทำให้ฟันหักและฟันที่หักอาจตกลงไปในลำคอเกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ
โรคลมชัก
(Epilepsy)
ชนิดของอาการชัก (Classification of seizure)
Generalized seizure
1.1 Tonic seizure เกร็งแข็ง ล้มลงถ้ายืนอยู่
1.2 Clonic seizure มีการกระตุกเป็นจังหวะที่ช้ากว่า myoclonic
1.3 Tonic clonic seizure (Grand mal มีการเกร็งก่อนแล้วมีการกระตุกตาม
1.4 Atonic seizure มีการสูญเสียความดึงตัวของกล้ามเนื้อ
1.5 Myoclonic seizure มีการหดตัวของกล้ามเนื้อเป็นระยะสั้นๆ
1.6 Absence seizure (Petit mal มีตากระพริบหรือตากระตุก
1.7 Infantile spam ในเด็กเล็กตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 2 ปี คือ งอศีรษะ ลำตัว แขนขา เข้าหากันช่วงระยะสั้นๆ แล้วคลายออกคล้ายสะดุ้ง
Partial seizure เกิดจากซีกหนึ่งซีกใดของสมอง
มีลักษณะการชัก เฉพาะที่ ขึ้นอยู่กับบริเวณสมองที่คลื่นไฟฟ้าสมอง
2.1 Simple partial seizure มีการกระตุกหรือชาของแขนขา หน้า คอ ประมาณ 5-10 วินาที
2.2 Complex partial seizure การชักที่มีอาการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม
2.3 Partial seizure evolving to secondary generalize seizure มีความ ผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าสมองเฉพาะที่แล้วกระจายทั่วสมองทั้ง 2 ข้างโดย มีอาการของ simple partial seizure หรือ complex partial seizure แล้ว มีอาการชักเกร็งและ/หรือกระตุกทั่วทั้งตัว
Unclassified epileptic seizure
เป็นชนิดที่ไม่สามารถจัดกลุ่มได้
สาเหตุการชักเกิดจากการมีรอยโรคในเนื้อสมอง การมีรอยโรคใน สมองทำให้เซลล์ประสาทหลั่งคลื่นไฟฟ้าสมองผดิปกติ ออกมาและไปมีผลต่ออวัยวะต่างที่สมองส่วนนั้น ควบคุมทำให้เกิดอาการชักตามมา
การรักษาการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองเพื่อวินิจฉัยแยกชนิดของลมชักและทราบตำแหน่งควมผิดปกติ
ยาที่ใช้
Benzodiazepine ได้แก่diazepam (valium) ทำให้ง่วงหลับ พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เดินเซ มีเสมหะจากหลอดลมมากกว่าปกติ
Phenobarbital ทำให้ง่วงซึม เดินเซ
Phenytoin (dilantin) เกิดอาการเซ ง่วงซึม เห็นภาพซ้อน ตากระตุก คลื่นไส้ อาเจียน เหงือกหนา มีภาวะซีดจาก Folic acid ต่ำได้ มีผื่นขึ้น ผมขนดก
Valproic acid ง่วงซึม คลื่นไส้อาเจียน มือสั่น
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่อภาวะพร่องออกซิเจน
พ่อแม่มีความกังวลเกี่ยวกับ อาการชักของเด็ก
เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
(Meningitis)
อาการและอาการแสดง
อาการที่แสดงว่ามีการติดเชื้อ เช่น มีไข้
ปวดศีรษะมาก ซึมลง กระหม่อมโป่งตึง อาเจียน ชัก
อาการแสดงของการระคายเคืองของเยื่อหุ้มสมอง คือ
คอแข็ง (Stiffness of neck)
Kernig's sign ได้ผลบวก
Brudzir
การรักษา
การรักษาเฉพาะ คือ ให้ยาปฏิชีวนะที่สอดคล้องกับผลการเพาะเชื้อน้ำ
ไขสันหลังที่เป็นสาเหตุ
การรักษาตามอาการ ให้ยาลดไข้ ให้ยานอนหลับ ให้ยากันชัก ให้ยาลดอาการบวมของสมอง ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำรักษาภาวะไม่สมดุลย์สารน้ำและอิเล็คโทรลัยท์อาจต้องเจาะคอหรือใช้เครื่องช่วยหายใจในรายที่มีปัญหาการหายใจหรือหมดสติ
การป้องกัน ควรฉีดวัคซีน เช่น Hib vaccine , JE vaccine,BCG
ไข้สมองอักเสบ(Encephalitis)
เนื้อสมองผิดปกติอาจเกิดจากการติดเชื้อไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส(Virus encephalitis)
Primary viral encephalitis ไวรัสที่นำโดยแมลง โดยเฉพาะไข้สมองเจ
อี หรือ Japanese encephalitis virus ไรัสเริม ไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า
Secondary viral encephalitis เช่น ไวรัสหัด ไวรัสหัดเยอรมัน ไว
รัสอีสุกอีใส ไวรัสคางทูม รวมทั้งวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า
อาการและการแสดงเชื้อไวรัสทำให้เกดิ การคั่งของ lymphocyte ในเนื้อ สมองและ เยื่อหุ้มสมองทำให้เกดิ ภาวะสมองบวม ทำให้สมองสูญ เสียหน้าที่อาการเริ่มแรกของโรคสมองอักเสบจากเชื้อไวรัสอย่างเฉียบพลันโดยเริ่มมีอีกอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวด บริเวณต้นคอมาก คอแข็ง อาเจียนหายใจไม่สม่ำเสมอ ซึมลง การเคลื่อนไหวผิดปกติ บางรายอาจมีอาการชัก
การรักษา
ให้ยากันชัก
ให้ยาต้านจุลชีพหรือยาปฏิชีวนะ
การป้องกัน
การฉีดวัคซีน
หลีกเลี่ยงสำผัสกับเชื้อโรคหรือพาหะ
โรคสมองพิการ (Cerebral Palsy)
การรักษา
การให้ยาคลายกล้ามเนื้อ ได้แก่ diazepam,baclofen
การทำกายภาพบำบัดของกล้ามเนื้อแขน ขา หรือลำตัว
การให้ early stimulation เพื่อให้สมองส่วนต่างๆที่ไม่มีความเสียหายได้พัฒนา
การแก้ไขความผิดปกติของการรับรู้ที่สำคัญ
การแก้ไขความผิดปกติของระบบประสาทส่วนอื่น
แนะนำผู้ปกครองในการดูแลเด็ก
อาการและการแสดง
กลุ่มเกร็ง (Spastic):
กลุ่มเคลื่อนไหวผิดปกติ (Dystonia)
สาเหตุ
1.ระยะก่อนคลอด ได้แก่ การมีเลือดออกทางช่องคลอดของมารดาช่วงมารดาขณะตั้งครรภัขาดสารอาหาร มารดามีภาวะชักหรือมีภาวะปัญญาอ่อน การเกิดก่อนกำหนด การเกิดน้ำหนักตัวน้อย มีการใช้ยาบางชนิดทำให้สมองเด็กมีพัฒนาการผิดปกติมารดาได้รับอุบัติเหตุหรือเกิดการติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
2.ระยะคลอด เป็นสาเหตุคือสมองขาด
ออกซิเจน ได้รับอันตรายจากการคลอด คลอดยาก รกพันคอ คลอดท่าก้น
3.ระยะหลังคลอด การได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ตัวเหลืองเมื่อแรกเกิด เส้นเลือดที่สมองมีความผิดปกติ การขาดออกซิเจนจากการจมน้ำ การติดเชื้อบริเวณสมอง การได้รับสารพิษ
Hydrocephalus
สาเหตุ
การสร้างหรือการผลิตน้ำไขสันหลังมากผิดปกติ
การอุดกั้นการไหลเวียนของน้ำหล่อสมองและไขสันหลัง
ความผิดปกติในการดูดซึมน้ำไขสันหลัง
อาการและอาการแสดง
ศรีษะโต/ หัวบาตร (cranium enlargement)
เด็กเล็กที่กระหม่อมยังไม่เปิดพบว่ากระหม่อมหน้าโป้งตึงกว่า
ปกติ(fontanelle bulging )
หนังศีรษะบางและมองเห็นหลอดเลือดดำที่บริเวณใบหน้า
เสียงเคาะกะโหลกเหมือนหม้อแตก (macewensige
Cracked pot sound)
อาการแสดงของความดันในกะโหลกศีรษะสูง signs of
increase intracranial pressure )
ตาทั้ง 2 ข้างกรอกลงข้างล่าง setting -sun sign
ตาพล่ามัว เห็นภาพซ้อน(diplopia)
รีเฟลกซ์ และ tone ของขา2 ข้างไวกว่าปกติ(hyperactive reflex)
พัฒนาการทั่วไปช้ากว่าปกติ(delay developement)
การวินิจฉัย
การตรวจด้วยการส่องไฟฉาย
( transillumination test)
Transillumination test
Ventriculography
CT scan
Ultrasound
Head Circumference
การรักษา
ผ่าตัดรักษาสาเหตุ
ผ่าตัดเปลี่ยนน้ำเดินไขสันหลัง
Ventriculo-peritoneal Shunt (V-P Shunt) การให้ยาลดการสร้างน้ำไขสันหลัง (Diamox)
การพยาบาล
ปัญหาที่ 1 อาจเกิดความดันในกะโหลกศีรษะสูงจากการคั่งของน้ำไขสันหลัง
ประเมินอาการความดันในกระโหลกศีรษะสูง
วัดเส้นรอบวงศีรษะทุกวันเวลาเดียวกัน
จัดท่านอนศีรษะสูง 15-30 องศา
ปัญหาที่ 2 อาจเกิดแผลกดทับบริเวณศีรษะ
การพยาบาล
จัดให้นอนบนที่นอนนุ่มๆใช้หมอนนุ่มรองศีรษะไหล่
เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
รักษาความสะอาดของผิวหนัง
จัดปูที่นอนให้เรียบตึง
ตรวจสอบประเมินการเกิดแผลกดทับสม่ำเสมอ
ปัญหาที่ 3 อาจเกิดภาวะขาดสารน้ำและอาหาร
เนื่องจากการสำรอกอาเจียนหรือดูดนมได้น้อย
ดูแลให้รับนมน้ำครั้งละน้อยๆโดยแบ่งให้บ่อยครั้ง
ขณะให้นมอุ้มท่าศีรษะสูงเสมอ
หลังให้นมจับเรอไล่ลม
การพยาบาลระยะหลังผ่าตัดทางเดินของท่อไขสันหลัง
จัดท่านอนเพื่อป้องกันการกดทับลิ้นของท่อทางเดินน้ำไขสันหลัง
สังเกตและบันทึกอาการและอาการแสดงของภาวะแทรกซ้อนหลังทำผ่าตัด
วัดและบันทึกสัญญาณชีพและประเมินอาการทางระบบประสาท
ดูแลรักษาความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัด ตามแผนการรักษา
พลิกตะแคงตัวและเปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะปอด
อักเสบ
ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะอย่างถูกต้อง
วัดเส้นรอบท้อง หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมงแรก เพื่อประเมินประสิทธิภาพ
วัดเส้นรอบวงศีรษะทุกวัน เพื่อประเมินประสิทธิภาพการทำงานของท่อ
ระบายน้ำไขสันหลัง