Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ปัญหาที่พบบ่อยในทารกคลอดก่อนกําหนด, ดาวน์โหลด, rds, ปอดเรื้องรัง,…
ปัญหาที่พบบ่อยในทารกคลอดก่อนกําหนด
การพยาบาลทารกที่มีกลุ่มอาการหายใจลำบาก
ภาวะสำลักขี้เทา(Meconium aspiration syndrome: MAS)
การสําลักเอาขี้เทาที่อยู่ในนํ้าครํ่าเข้าปอดในทารกแรกเกิด
อาการและอาการแสดง
รุนแรงน้อย
รุนแรงปานกลาง
ทารกจะมีอาการของการกดการหายใจ อาจหายไดภ้ายใน 4-7 วนัหากไมม่ีอาการแทรก ซอ้น
รุนแรงมาก
ทารกจะมีการหายใจลม้เหลวทนัทีหลงัคลอดหรอื 2-3 ช่วัโมง หลงัคลอด
การรักษา
หากวินิจฉัยัได้ว่ามีความเส่ียงต่อการสำลักขี้เทาใหใ้ช้ลูกยางแดง ดูดทางปากและจมูก
ปัญหาทางการพยาบาล
เนื้อเยื่อพร่องออกซิเจนเนื่องจากการสูดสําลักขี้เทา
มีโอกาสได้รับน้ําและสารอาหารไม่เพียงพอเนื่องจากภาวะหายใจลําบาก
ภาวะหายใจลำบาก หรือ อาร์ดีเอส
(Respiratory Distress Syndrome : RDS)
เป็นกลุ่มอาการหายใจลำบากจากการขยายของปอดไม่ด่ีจากการขาดสารลดแรงตงึผิวในถงุลมปอด
สาเหตุ
ขาดสารลดแรงตึงผิว (surfactant)
การวินิจฉัย
การซักประวัติ การตรวจรา่งกาย การตรวจทางชีวเคมี การถ่ายภาพรังสีปอด
อาการและอาการแสดง
หายใจลำบาก
อาการเขียว
ความดันโลหิตต่ำทั่วร่างกาย
เสียงหายใจผิดปกติมักได้ย้ินเสียงเครป(fine crepitation)
การรักษา
การรกัษาแบบประคับประคอง
การรกัษาด้วยออกซิเจน
การรักษาด้วยสารลดแรงตึงผิว
การใช ้ECMO
การเพ่ิมปริมาณเลือดไปปอด ด้วยการให้ยาคลายกล้ามเนื้อ
การรักษาด้วย liquid ventilation
ปัญหาทางการพยาบาล
มีภาวะเนื้อเยื้อได้รับออกซิเจนไมเ่พียงพอเน่ื่องจากถุงลมปอดทำหน้าที่ไดไ้ม่สมบูรณ์จากการคลอดก่อนกำหนด
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับออกซเิจนความดันบบวกและ การรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจเป็นเวลานาน
โรคปอดเรื้อรัง(Broncho Pulmonary Dysplasia; BPD)
ภาวะโรคปอดเรอื้รงัท่ีเกิดจากเนือ้เย่ือปอดถกูทาํลายจาก ออกซเิจนและแรงดนับวกสงูๆ เป็นระยะเวลานาน
อาการและอาการแสดง
มีอาการ หายใจเร็ว หายใจแรงขึ้น มีการดึงรั้งของกล้ามเนื้อระหวา่งช่องซี่โครง
การรักษา
การรักษาเน้นการให้สารอาหาร ให้ออกซิเจน และให้ยา
ปัญหาทางการพยาบาล
ทารกมีภาวะเนื้อเย่ื่อได้รับออกซิเจนไมเ่พียงพอเน่ืองจากถุงลมปอดทำหน้าท่ีได้ไ้ม่สมบรูณ์
.การพยาบาลทารกที่มีภาวะอุณหภูมิกายต่ำ (Hypothermia)
เป็นภาวะทujอุณหภูมิของร่างกาย เมื่อวัดทางทวารหนัก หรือรักแร้ ต่ำกว่า36.5องศาเซลเซียส หรอืวัดท่ีผิวหนังบรเิวณหน้าท้องต่ำกว่า36.0 องศาเซลเซียสซึ่งทารกจะสูญเสียความร้อนออกจากร่างกาย 4 ทางคือ
การนำความร้อน (conduction)
การพาความร้อน(convection)
การระเหยของน้ำ(evaporation)
การแผ่รังสี(radiation)
อาการและอาการแสดง
เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
ภาวะกรดคลั่งในเลือด
ออกซเิจนในเลือดต่ำ
เกิดภาวะหยุดหายใจในที่สุด
การรักษา
การเพิ่มอณุหภมูิของร่างกายอย่างช้าๆ โดยนำทารกอยู่ในตู้อบและ ปรับอุณหภูมิของตู้อบ
การเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายอย่างเร็ว โดยวางทารกใต้เครื่องให้ความ
อบอุ่นแผ่รังสี
การรักษา
การเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายอย่างช้าๆ โดยนําทารกอยู่ในตู้อบและ
ปรับอุณหภูมิของตู้อบ
การเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายอย่างเร็ว โดยวางทารกใต้เครื่องให้ความ
อบอุ่นแผ่รังสี
การพยาบาลทารกที่มีภาวะนํ้าตาลในเลือดตํ่า
(Hypoglycemia)
อาการและอาการแสดง
ไม่มีอาการเฉพาะ อาการมักเกิดจากทารกกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเธติคส์ คือหัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออก มือเท้าสั่น กินนมไม่ได
การวินิจฉัย
ตรวจระดับนํ้าตาลในเลือด
การรักษา
ไม่แสดงอาการให้ 5% dextrose in water (5% D/W) หรือ 10% D/W
แสดงอาการทุกรายให้ 5% D/W 2 มก./กก.ทางหลอดเลือดดําโดยเร็วภายใน 1 นาที
ปัญหาทางการพยาบาล
มีโอกาสเกิดภาวะชักเนื่องจากนํ้าตาลในเลือดตํ่า
.การพยาบาลทารกที่มีภาวะตัวเหลือง
(Jaundice)
ภาวะที่ร่างกายทารกมีสารกลุ่มบิลิรูบิน (bilirubin) สูงขึ้น
มากกว่า5 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
Pathological Jaundices
ภาวะตัวเหลืองที่ผิดปกติ
สาเหตุ
มีการสร้างบิลิรูบินเพิ่มขึ้นกว่าปกติ
ตับสามารถกําจัดบิลิรูบินได้น้อยลงเนื่องจากภาวะต่างๆ
มีการดูดซึมของบิลิรูบินจากลําไส้เพิ่มขึ้นจากภาวะต่างๆ
ภาวะติดเชื้อในครรภ
ภาวะทารกคลอดก่อนกําหนด
Breast milk jaundice
เกิดจากการที่ทารกยังดูดนมได้ไม่ดีและปริมาณ
นํ้านม แม่ยังมีน้อย ทําให้ทารกขาดนํ้าและพลังงาน
อาการและอาการแสดง
อาการตัวเหลืองมักเห็นบริเวณใบหน้าก่อนเห็นชัดมากขึ้นที่ลําตัวและแขนขาเมื่อระดับบิลิรูบินสูงขึ้น
มีรอยจํ้าเลือดตามตัว
ตับหรือม้ามโตพบในทารก
ที่ติดเชื้อในครรภ์
การรักษา
การส่องไฟ (Phototherapy)
การรักษาด้วยยา เช่น ยา Phenobabital
การเปลี่ยนถ่ายเลือด (Blood exchange)
Physiological (normal) jaundice
ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิดปกติพบมากกว่าร้อยละ 50 ของทารกแรกเกิดทั้งหมด
สาเหตุ
เกิดจากความไม่สมบูรณ์ในการทํางานของตับทําให้การขับบิริลูบินออกยังทําได้ช้า พบในช่วงวันที่ 2–4 และจะหายไปเองใน 1–2 สัปดาห์
การพยาบาลทารกที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด(Sepsis)
ทารกแรกเกิดที่มีการติดเชื้อในกระแสเลือดที่มีอาการและอาการ
แสดงให้เห็น และเพาะเชื้อในเลือดขึ้น
อาการและอาการแสดง
ระยะหลัง (late onset sepsis)
ระยะเริ่มต้น (early onset sepsis)
มีตั้งแต่ไข้สูง ตัวเย็น เซื่องซึม เบื่ออาหาร หอบเหนื่อย และอาเจียน
การวินิจฉัย
ซักประวัติ ตรวจร่างกายอย่างละเอียด และการตรวจทางห้องปฏิบัติการโดยรวจหาเชื้อโรคในกระแสเลือด
สาเหตุ
เชื้อกรัมบวกรูปกลมและกรัมบวกรูปแท่ง
การรักษา
รักษาแบบเฉพาะ คือให้ยาปฏิชีวนะทันทีหลังจากการตรวจทาง
รักษาภาวะแทรกซ้อน
รักษาแบบประคับประคองและตามอาการ
การพยาบาลทารกที่มีภาวะลําไส้เน่า(Necrotizing Entero Colitis : NEC)
มักพบในทารกคลอดก่อนกําหนดถึงร้อยละ 90 และพบร้อยละ 10 ในทารก
แรกเกิดนํ้าหนักน้อยกว่า 1,500 กรัม
สาเหตุ
การขาดออกซิเจน
การติดเชื้อแบคทีเรียในลําไส้ (infection) และจากการติดเชื้อกรัม
ลบรูปแท่ง
การได้รับนม โดยเฉพาะทารกคลอดก่อนกําหนดไม่สามารถย่อยนมได้
ดี
อาการและอาการแสดง
ซึม อาจหยุดหายใจ ความดันโลหิตตํ่าท้องอืด อาเจียนปนนํ้าดี หรือ มีนมเหลือค้างในกระเพาะอาหาร และถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด
การวินิจฉัย
การซักประวัติ การสังเกตอาการ การตรวจร่างกายการถ่ายภาพรังสี ตรวจอุจจาระ เพื่อดูเลือด และตรวจเลือด
การรักษา
งดอาหารและนํ้าทางปากเป็นเวลาประมาณ 10-14 วัน
ให้ยาปฏิชีวนะ
ให้ออกซิเจน หรือเครื่องช่วยหายใจ
ใส่สายสวนกระเพาะอาหาร ดูด content ออกเป็นระยะ
แก้ไขความผิดปกติของดุลเกลือแร่ การแข็งตัวของเลือด และภาวะซีด
ให้สารนํ้าและสารอาหารทางหลอดเลือดดําให้เพียงพอ
การให้อาหารทางลําไส้ ควรเริ่มต้นด้วยสารนํ้าเกลือแร่ นมเจือจาง
การพยาบาลทารกที่มีภาวะพิษออกซิเจนต่อตาในทารกคลอดก่อนกําหนด(Retinopathy of Prematurity: ROP)
เป็นโรคจอประสาทตา (retina) ในทารกคลอดก่อนกําหนด
สาเหตุ
จํานวนชั่วโมงและปริมาณความเข้มข้นของออกซิเจนที่ทารกได้รับ
มารดาที่เลือดออกระหว่างตั้งครรภ
ทารกที่ภาวะหยุดหายใจที่ต้องรักษาด้วยการช่วยหายใจ
ทารกที่ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด
ทารกได้รับอาหารทางหลอดเลือดดํานานๆ และได้รับเลือดหลายครั้ง
ทารกมีภาวะขาดออกซิเจน
การรักษา
พบว่าอาร์โอพีระยะ 1 และ 2 มักจะรักษาหายเป็นปกติ ส่วนระยะ3 รักษาโดยใช้วิธีจี้ด้วยความเย็น
การพยาบาลทารกแรกเกิดที่มีความพิการแต่กำเนิด
ปากแหว่ง เพดานโหว่
Cleft Lip: CL and Cleft Palate: CP
สาเหตุ
ยังไม่ทราบแน่นนอน
ปากแหว่ง(cleft lip)
ปากแหวงตลอดริมฝี ปากและเหงือก
ปากแหว่งบางส่วนจะมีรอยแหว่งบริเวณริมฝี ปากหรือไม่มีก็ได้
ปากแหว่งสองข้างชนิดมีรอยแหวงบางส่วนหรือมีรอยแหว่งตลอด
เพดานโหว่ (cleft palate)
เพดานโหวบางส ่ ่วนและเพดานโหวชนิด ่ submucous
เพดานโหวตลอด ่ (complete palate)
การรักษา
ผ่าตัดตกแต่งปิดรอยแหว่งหรือรอยโหว่
Tracheoesophageal Fistula
(T-E fistula)
การมีรูติดต่อระหว่างหลอดลมและหลอดอาหาร ในขณะที่ยังเป็นตัวอ่อน
อาการและอาการแสดง
มีนํ้าลายมาก ไอ
สําลักง่ายเมื่อให้ดูดนํ้า
ท้องอืด หายใจลําบาก เขียว และอาจหยุดหายใจได้
มักมีปอดอักเสบร่วมด้วยเสมอ
การรักษา
ผ่าตัดปิดรูติดต่อนั้นและต่อหลอดอาหาร
การวินิจฉัย
ใส่ N-G tube ลงไปได้ไม่ตลอด
X - ray พบลมในกระเพาะอาหาร
อาการทางคลินิก และมักพบในทารกที่เกิดจากมารดาที่มีpolyhydramnios
ปัญหาการพยาบาล
ระยะก่อนผ่าตัด ปัญหาทางการพยาบาล
มีโอกาสเกิดการสําลักนํ้าลายหรือนํ้าย่อย จากกระเพาะอาหารไหลย้อนเข้าไปในหลอดลมคอ
ระยะหลังการผ่าตัด
1.มีโอกาสเกิดภาวะพร่องออกซิเจนจากการมีเสมหะอุดกั้นทางเดินหายใจ
2.มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะแรกหลังการผ่าตัด คือมีรูรั่ว หรือการตีบแคบของรอยต่อ
3.มีโอกาสเกิดภาวะขาดสารนํ้า สารอาหาร และอิเล็กโตรไลต์เนื่องจากการงดนํ้าและอาหารทางปาก
การพยาบาล
ในระยะก่อนผ่าตัด
ดูแลให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
ให้อยู่ในตู้อบ มีความชื้นเพียงพอ
จัดท่านอน ป้องกันการสูดสำลัก หรือป้องกันของเหลวในกระเพาะอาหารไหลย้อนเข้าไปในหลอดลม
ดูดเสมหะ , น้ำลายบ่อยๆ
ดูแลให้ได้รับสารน้ำและสารอาหารอย่างเพียงพอทางหลอดเลือดดำ
ประคับประคองด้านจิตใจ อารมณ์เด็กป่วยและบิดามารดา
ในระยะหลังการผ่าตัด
ดูแลให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
ให้อยู่ในตู้อบ ให้ออกซิเจนที่มีความชื้นสูง ประเมินอาการขาดออกซิเจน
ดูดน้ำลายและเสมหะให้บ่อยๆ อย่างนุ่มนวล
ป้องกันการแยกของแผลที่เย็บปิดรูติดต่อ หรือแผลที่ต่อหลอดอาหาร
ดูแลให้ได้รับสารน้ำและสารอาหารอย่างเพียงพอ
ป้องกันการติดเชื้อของแผลผ่าตัดที่ทรวงอก
ประคับประคองจิตใจของเด็กป่วย
การมีรูติดต่อระหว่างหลอดลมและหลอดอาหาร
ทวารหนักไม่มีช่องเปิด
(Imperforated anus
เป็นความผิดปกติการอุดตันของระบบทางเดินอาหารเนื่องจากไม่มีรูทวารหนักมาตั้งแต่เกิด
อาการและอาการแสดง
ผู้ป่วยจะมีอาการ ไม่ถ่ายขี้เทา ท้องอืด อาเจียน
หายใจลําบาก dehydration ใน 2-3 วันต่อมา
การวินิจฉัย
ตรวจพบไม่มีรูทวารหนัก
ไม่สามารถสอดนิ้ว หรือปรอทเข้าไปในรูทวารหนักได้
ไม่พบ meconium stool ตั้งแต่เกิด
ผล X-ray โดยใช้วิธีของ Wanggensteen-Rice จับหัวเด็กห้อยลง ลมที่อยู่ในลําไส้ใหญ่จะลอยขึ้นไปอยู่ที่กระพุ้งทวารหนัก
การรักษา
ขึ้นอยู่กับชนิดของความพิการ
การพยาบาล
ระยะก่อนผ่าตัด
แก้ไขปัญหาการขาดสมดุลของนํ้า และอิเล็คโตรลัยท์
บรรเทาอาการท้องอืด โดยให้ทารกนอนศีรษะสูง หรือใส่สายสวนคากระเพาะอาหาร
ระยะหลังผ่าตัด
กรณีตกแต่งทวารหนักตั้งแต่เกิดทําความสะอาดแผลหลังการขับถ่าย
ทุกครั้ง เพื่อไม่ให้แผลติดเชื้อเมื่อแผลหายดีแพทย์จะเริ่มถ่าง
ขยายรูทวารหนัก
กรณีที่ต้องทํา Colostomy และทําการตกแต่งรูทวารหนักใน
ภายหลังในความผิดรูประดับกลางและสูงต้องอธิบายให้บิดามารดาทราบ
ก่อนว่าบุตรของตนมีความผิดรูปลักษณะใดทําไมต้องทํา Colostomy
แนะนําแนวทางการรักษาต่อเนื่องอย่างไร
ความบกพร่องของกระดูกไขสันหลังSpina bifida
สาเหตุ
อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ การขาด
ออกซิเจน การได้รับสารเคมี หรือรังสีต่างๆ
การวินิจฉัยโรค
ตรวจความรู้สึกเจ็บ และการเคลื่อนไหวของแขนขา แล้วสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองของทารกขณะกระตุ้นทารกจะไม่มีปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงที่ใบหน้า และแขนขา
การรักษา
การผ่าตัดมักจะคํานึงถึงโอกาสรอดจากความพิการของเด็ก
ปัญหาทางการพยาบาล
ระยะก่อนผ่าตัด
อาจเกิดถุงแตก หรือติดเชื้อบริเวณรอยโรค
มีโอกาสติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ หรือมีการอักเสบบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์
ระยะหลังผ่าตัด
มีโอกาสติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดได้ง่าย จากการปนเปื้อนอุจจาระหรือปัสสาวะ
มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
กลุ่มอาการดาวน์(Down syndrome)
สาเหตุ
การมีโครโมโซมเกินมา 1 แท่ง คือ
โครโมโซมคู่ที่ 21 มี 3 แท่ง
ุอาการและอาการแสดง
ผิดปกติทั้งทางร่างกายและ
สติปัญญาเห็นชัดเจนตั้งแต่แรกเกิด
การวินิจฉัยโรค
การตรวจวิเคราะห์โครโมโซมของทารก
ประวัติครอบครัว
จากอาการและอาการแสดง
การรักษา
ให้การบําบัดโรคที่เกิดร่วมกัน และให้ผู้ป่ วยเหล่านี้
สามารถช่วยตนเองได้ในชีวิตประจําวันสิ่งสําคัญประการแรกคือ การยอมรับจากครอบครัวของผู้ป่วย
การพยาบาล
บิดามารดามีความเครียด และไม่ยอมรับสภาพของบุตรที่มีภาวะปัญญา
อ่อน
บิดามารดาขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลเด็กกลุ่มอาการดาวน์