Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
8.ผลแห่งคำพิพากษา และคำสั่ง - Coggle Diagram
8.ผลแห่งคำพิพากษา
และคำสั่ง
8.1
การดำเนิน
กระบวนพิจารณาซ้ำ
8.1.1
หลักเกณฑ์
144 การดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ
...
...
ซ้ำทั้งคดี
ซ้ำในประเด็นแห่งคดี
ในข้อนั้น
148 ฟ้องซ้ำ
ต้องมีคำพิพากษา
หรือคำสั่งถึงที่สุดแล้ว
ห้ามศาลเป็นหลัก
และคู่ความโดยปริยาย
ผูกพันนับแต่วันที่ได้พิพากษา
1 (7) กระบวนพิจารณา
ฎ. 646/2556
ขอให้เพิกถอนสัญญาขายสินทรัพย์ที่เคยมีคำพิพากษาให้ชำระหนี้ไปแล้วโดยอ้างว่าสัญญาเป็นโมฆะ เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ
หลักเกณฑ์
...ซ้ำในอีกคดีหนึ่ง
1.2 ทั้งสองคดีมีคู่ความเดียวกัน
คู่ความเดียวกัน
ตัวอย่าง
กรณีที่เป็นคู่ความเดียวกัน
ฎ. 7268/2537
คดีฟ้องเรียกอสังหาริมทรัพย์กับคดีฟ้องขอให้ขับไล่ถือเป็นคดีเดียวกันตาม ป.วิ.พ. 142 (1)
ฎ. 208/2540
ฟ้องกันเรื่องค่ามัดจำระหว่างผู้ให้เช่ากับผู้เช่า
ฎ. 5094/2557 ?
กรณีที่ไม่เป็นคู่ความเดียวกัน
ฎ. 2879/2545
โจทก์จำเลยยังไม่เคยฟ้องร้องกัน
ฎ.3748/2554
ฟ้องในคดีแรกในฐานะผู้ค้ำประกัน ส่วนในคดีที่ 2 ฟ้องในฐานะผู้กู้ยืมเงิน อีกทั้งยังเป็นคนละมูลหนี้กันด้วย ไม่เป็นดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ 144
ผู้สิบสิทธิของคู่ความก็ถือเป็นคู่ความคนเดียวกัน
ผู้สืบสิทธิ
การสืบสิทธิโดยนิติกรรม เป็นผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์พิพาท
ผู้รับโอนกรรมสิทธิทรัพย์พิพาท
หรือทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกทรัพย์พิพาทจากคู่ความในคดีก่อน
ทายาท
ตัวอย่าง
3 more items...
บริษัทในเครือเดียวกันต่างเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากกัน ไม่ถือว่าเป็นคู่ความเดียวกัน
บริษัทในเครือเดียวกัน
กรมในสังกัดกระทรวงเดียวกันไม่ถือว่าเป็นคู่ความเดียวกัน
แต่กระทรวงต้นสังกัดจะเป็นคู่ความในเรื่องเดียวกันเป็นคดีใหม่ไม่ได้
ผู้แทน...
ไม่ถือเป็นคู่ความเดียวกัน
นิติบุคคล
หรือผู้เยาว์
เจ้าของรวมต่างมีสิทธิในทรัพย์อันเดียวกัน
เจ้าของรวม
1.2 ทั้งสองคดีมีประเด็นแห่งคดีเป็นอย่างเดียวกัน
ประเด็นเดียวกัน
พิจารณาจาก...
สภาพแห่งข้อหา
สภาพแห่งข้อหาต่างกันเช่น
5 more items...
และข้ออ้างอันเป็นหลักแห่งข้อหาในคำฟ้อง
มิได้พิจารณาจากคำขอบังคับท้ายฟ้อง
ต้องละเมิดอันเดียวกัน
ฎ. 1295/2524 ?
สัญญาเดียวกัน
แต่มีข้ออ้างต่างกัน
ก็คือไม่ใช่ประเด็นแห่งคดีเดียวกัน
ไม่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ
ฎ. 3190/2530 ?
ฎ. 7695/2550 ?
ฎ. 5568/2555 ?
ทรัพย์ที่พิพาทเป็นคนละสิ่งกัน
ไม่เป็นการดำเนินกระบววนพิจารณาซ้ำ
ฎ. 1130/2551 ?
ฎ. 5215/2554 ?
มูลหนี้คนละมูลหนี้
ฎ. 633/2534 ?
ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา
กรณีที่ถือว่าทั้งสองคดีมีประเด็นแห่งคดีเป็นอย่างเดียวกัน
ฎ. 633/2534
วินิจฉัยเรื่องสิทธิครอบครองซ้ำกันทั้งสองคดี
:pencil2:ข้อสังเกต
ถ้าเป็นเรื่องทางภาระจำยอมกับทางจำเป็นไม่เป็นประเด็นซ้ำกัน
ฎ. 354/2540 ?
ฎ. 441-442/2559 ?
ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา
กรณีที่ไม่ถือว่าทั้งสองคดีมีประเด็นแห่งคดีเป็นอย่างเดียวกัน
การดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในคดีไม่มีข้อพิพาท
1.3 ศาลได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดคดีหนึ่งแล้ว
หมายถึง ต้องเป็นกรณีที่ศาลได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดคดีหนึ่งแล้วโดยทำเป็นรูปคำพิพากษาหรือคำสั่ง ซึ่งอาจเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดคดีหรือในประเด็นข้อใดแห่งคดี
วินิจฉัยชี้ขาดแล้ว
เท่ากับศาลชั้นต้นยังไม่ได้วินิจฉัยในเนื้อหาของประเด็นแห่งคดี
ยังไม่ได้วินิจฉัย
คดีแรกศาลยกฟ้องเพราะยังไม่มีข้อโต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่
ไม่มีข้อโต้แย้ง
หรือศาลยกฟ้องเพราะคดีไม่อยู่ในอำนาจ
ไม่อยู่ในอำนาจ
หรือคดีแรกโจทก์ยื่นฟ้องหรือคำร้องขอแล้วถอนฟ้องหรือคำร้องขอนั้นเสีย
ถอนฟ้อง
หรือคดีแรกศาลยกฟ้องในคดีที่ฟ้องบังคับจำนองเพราะยังไม่ได้บอกกล่าวบังคับจำนองโดยชอบ
ยังไม่ได้บอกกล่าวบังคับจำนองโดยชอบ
1.4 คดีที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดคดีแล้วยังไม่ถึงที่สุด
ถ้าถึงที่สุดจะเป็นฟ้องซ้ำ 148
1.5 มีการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในอีกคดีหนึ่ง
...ซ้ำในคดีเดิม
เป็นกรณีห้ามทั้งศาลและห้ามทั้งคู่ความ
โดยมิได้ฟ้องเป็นคดีใหม่
8.1.2
ข้อยกเว้น
ที่ไม่เป็นการดำเนิน
กระบวนพิจารณาซ้ำ
144 วรรคหนึ่ง ตอนท้าย และวรรคสอง
การแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อย
หรือผิดหลงเล็กน้อยอื่นๆ
ตามมาตรา 143
ผิดหลงเล็กน้อย
การพิจารณาใหม่แห่งคดีซึ่งได้พิจารณาและชี้ขาดตัดสินไปฝ่ายเดียว
ตามมาตรา 209
และคดีที่เอกสารได้สูญหายหรือบุบสลายตามมาตรา 53
ตัดสินฝ่ายเดียว
และเอกสารสูญหาย
การยื่น การยอมรับ หรือไม่ยอมรับ ซึ่งอุทธรณ์หรือฎีกาตามมาตรา 229 และ 247
และการดำเนินวิธีบังคับชั่วคราวในระหว่างการยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาตามมาตรา 254 วรรคสุดท้าย
ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา
การที่ศาลฎีกาหรือศาลอุทธรณ์ส่งคดีคืนไปยังศาลล่างที่ได้พิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีนั้นเพื่อให้พิพากษาใหม่ หรือพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามมาตรา 243
คืนคดีศาลล่าง
4.1 ให้พิพากษาหรือมีคำสั่งใหม่
4.2 ให้พิจารณาคดีใหม่ทั้งหมดหรือบางส่วน และพิพากษาหรือมีคำสั่งใหม่
4.3 ให้พิจารณาคดีใหม่หรือทั้งหมดหรือบางส่วน
การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งตามมาตรา 271
บังคับคดี
144 (5)
บัญญัติให้การดำเนินการบังคับของศาลไม่ถือว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ
ทั้งนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิในอันที่จะบังคับตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 16 และ มาตรา 240
ว่าด้วยการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยศาลอื่นแต่งตั้ง
16 เป็นกรณีถ้าจะต้องซักถาม
หรือตรวจ
หรือดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ...
240
แบ่งเป็น 2 กรณี
240 (2)
เป็นกรณีอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
240 (3)
เป็นกรณีที่คู่ความอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย
8.2
ผลผูกพัน
ของคำพิพากษา
หรือคำสั่ง
8.2.1 ...ผูกพัน
คู่ความ
145 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาหรือคำสั่งผูกพันคู่ความในกระบวนพิจารณาของศาลที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่ง
ไม่มีผลผูกพันบุคคลภายนอก
คู่ความ
โจทก์
จำเลย
หรือผู้ร้องสอด (ถ้ามี)
ผู้ร้อง
หรือผู้คัดค้าน
แต่ไม่หมายรวมถึง
ผู้มีสิทธิกระทำการแทนตัวความ
หรือทนายความ
ไม่ผูกพันผู้แทนนิติบุคคล
หรือทนายความส่วนตัว
รวมทั้งผู้แทนโดยชอบธรรม
1.1 คำพิพากษาตามยอมมาตรา 138 ก็ผูกพันคู่ความตามมาตรา 145
1.2 คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลผูกพันคู่ความแม้จะเป็นคู่ความฝ่ายเดียวกันก็ตาม
1.3 คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลผูกพันผู้สืบสิทธิของคู่ความด้วย
ผู้สืบสิทธิ
เช่น
ผูกพันผู้รับโอนที่ดินมาจากคู่ความในคดีก่อน
ผู้รับโอน
เจ้าของรวม 1359
1.4 การผูกพันอาจเป็นการผูกพันในคดีเดิมหรือในคดีอื่นก็ได้
คดีเดิม
ขัดขืนไม่ปฏิบัติตาม
คดีอื่น
ฟ้องซ้ำ 148
1.5 คำพิพากษาหรือคำสั่งที่จะผูกพันคู่ความต้องเป็นการวินิจฉัยในประเด็นข้อพิพาทโดยตรง หากศาลในคดีแรกฟังข้อเท็จจริงนอกฟ้อง นอกประเด็น ย่อมไม่ผูกพันคู่ความในคดีหลัง
ฎ. 3405/2537
ผู้ร้องขอครอบครองปรปักษ์ แต่มีผู้คัดค้านว่าเป็นมรดก
ตัดสินให้ไม่ได้ครอบครองปรปักษ์...ไม่มีผลผูกพันผู้คัดค้าน
1.6 คำพิพากษาหรือคำสั่งมีผลผูกพันคู่ความในคดีที่อัยการฟ้องแทนตัวความด้วย เช่น
ฟ้องบุพการี 1562
ฎ. 733/2538
ฟ้องบุพการี
ผูกพันคู่ความตาม 145 วรรคหนึ่งด้วย
1.7 มาตรา 145 วรรคหนึ่ง นำไปใช้กับคดีอาญาด้วย
ผูกพันนั้งตั้งแต่วันที่ได้พิพากษาหรือมีคำสั่งจนถึงวันที่คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไข กลับ หรืองดเสีย
วันที่ได้พิพากษาหรือมีคำสั่ง
คือ วันที่ศาลอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 140 วรรคท้าย
คำพิพากษาหรือคำสั่งที่ถูกเปลี่ยนแปลง
ป.พ.พ. มาตรา 1598/39 วรรคสอง
ค่าอุปการะเลี้ยงดู
การถูกแก้ไข
ป.พ.พ. มาตรา 1598/39 วรรคหนึ่ง
ผู้มีส่วนได้เสีย
เรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดู
ป.วิ.พ. มาตรา 242 (3)
ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น
การถูกงดเสีย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดการบังคับคดี
146 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาขัดกัน
มาตรา 145 วรรคหนึ่ง อยู่ภายใต้บังคับบทบัญญัติว่าด้วยอุทธรณ์ฎีกาและการพิจารณาใหม่
ขึ้นกับศาลบน
8.2.2 ...ผูกพัน
บุคคลภายนอก
145 วรรคสอง
คำพิพากษาหรือคำสั่งไม่ผูกพันบุคคลภายนอก
แม้ศาลจะพิพากษาหรือมีคำสั่งให้ใช้คำพิพากษาหรือคำสั่งบังคับแก่บุคคลภายนอกที่มิได้เป็นคู่ความในกระบวนพิจารณาของศาล
ไม่ผูกพันบุคคลภายนอก
คดีที่ฟ้องขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลตาม ป.พ.พ. มาตรา 237
โจทก์ต้องฟ้องลูกหนี้และผู้รับโอนทรัพย์สินเป็นจำเลย
กรณีที่โจทก์ฟ้องจำเลยหลายคน และถอนฟ้องจำเลยบางคน
จำเลยคนดังกล่าวถือเป็นบุคคลภายนอก
หากทำสัญญาประนีประนอมยอมความย่อมไม่ผูกพัน
ข้อยกเว้นที่คำพิพากษาหรือคำสั่งมีผลผูกพันบุคคลภายนอก
2.1 142 (1) ขับไล่
2.2 245 หนี้ที่ไม่อาจแบ่งแยก
มีผลผูกพันถึงคู่ความที่ไม่ได้อุทธรณ์
ผู้กู้กับผู้ค้ำ
ถ้าผู้กู้อุทธรณ์แล้วได้ยกฟ้อง ผู้คำ้ก็ได้ด้วย
2.3 366 ผู้ประกันในศาล
บังคับผู้ประกันได้โดยไม่ต้องฟ้องเป็นคดีใหม่
2.4 คำพิพากษาเกี่ยวด้วยฐานนะหรือความสามารถของบุคคล
หรือคำพิพากษาสั่งให้เลิกนิติบุคคลหรือคำสั่งเรื่องล้มละลาย
บุคคลภายนอกจะยกขึ้นอ้างอิงหรือจะใช้ยันแต่บุคคลภายนอกก็ได้
คำพิพากษาเกี่ยวด้วยฐานนะของบุคคล
ฐานะของบุคคลธรรมดา
ป.พ.พ. บรรพ 1 ลักษณะ 2 หมวด 1 เรื่อง
สภาพบุคคล
ความสามารถ
ภูมิลำเนา
สาบสูญ
บรรพ 5 ลักษณะครอบครัว เรื่อง
ฐานะของคู่สมรส
หรือบิดามารดากับบุตร
รวมทั้งเรื่องสัญชาติ
ป.พ.พ. มาตรา 1713
การตั้งผู้จัดการมรดก
ฎ. 80/2511
ฎีกาเดิมวินิฉัยว่าใช้ยันบุคคลภายนอกไม่ได้
ฎ. 695/2558
ฎีกาใหม่วินิฉัยว่าใช้ยันบุคคลภายนอกได้
คำพิพากษาเกี่ยวด้วยความสามารถของบุคคล
ป.พ.พ. บรรพ 1 ลักษณะ 2 หมวด 1 ส่วนที่ 2 ความสามารถของบุคคลธรรมดา
คนไร้ความสามารถ
หรือเสมือนไร้ความสามารถ
เลิกนิติบุคคล
คำสั่งเรื่องล้มละลาย
คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
คำพิพากษาให้ล้มละลาย
คำสั่งยกเลิกการล้มละลาย
2.5 คำพิพากษาที่วินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินใดๆ
เป็นคุณแก่คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
อาจใช้ยันแก่บุคคลภายนอกได้
เว้นแต่บุคคลภายนอกนั้นจะพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่า
กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาที่เพิกถอนการให้
เพราะเหตุประพฤติเนรคุณ
ไม่มีประเด็นวินิจฉัยเรื่องกรรมสิทธิ์
รวมถึงคำสั่งของศาล...
ว่ามีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
โดยการครอบครองปรปักษ์
ตาม ป.พ.พ. 1382
ครอบครองปรปักษ์
8.2.3 คำพิพากษาหรือคำสั่งอันเป็นที่สุด
147 เป็นที่สุด
1.หลักเกณฑ์
140 วรรคท้าย
สุดตั้งแต่วันอ่าน
สุดตั้งแต่พ้นกำหนดเวลา
สุดตั้งแต่วันที่จำหน่ายคดี
สุดตั้งแต่วันที่อ่านคำพิพากษา
ศาลฎีกา
ฎ. 45/2550
ขาดนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา
ถือว่าคดีถึงที่สุดในวันที่
ถือว่าได้อ่านคำพิพากษาใหค้คู่ความฟังแล้ว
...ขัดกัน
2.1 ศาลต่างชั้น
146 วรรคหนึ่ง
เป็นที่สุด
สองศาล
ต่างชั้น
กล่าวถึงการปฏิบัติการชำระหนี้
อันแบ่งแยกจากกันไม่ได้
หนี้แบ่งแยกไม่ได้
ขัดกัน
ศาลสูง
2.2 ศาลลำดับเดียวกัน
146 วรรคสอง
คู่ความในกระบวนพิจารณาแห่งคดี...
ศาลชั้นต้นศาลเดียว
ศาลชั้นต้นสองศาล
ศาลอุทธรณ์
ขอให้ศาลสูงมีคำสั่งกำหนด
3.คำสั่งของศาลสูงเป็นที่สุด
3.การออกใบสำคัญ
แสดงว่าคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุด
147 วรรคสาม ใบสำคัญ
1.คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
2.ขอ
3.ให้ออกใบสำคัญ
8.3
การฟ้องซ้ำ
8.3.1
หลักเกณฑ์
การฟ้องซ้ำ
148
เป็นผลมาจาก
ถึงที่สึด 145
คดีก่อนถึงที่สุดแล้ว
ถ้าคดีก่อนอยู่ระหว่างพิจารณา
เป็นฟ้องซ้อน 173 วรรคสอง (1)
หากจำเลยคดีก่อนกลับเป็นโจทก์
โจทก์คดีก่อนกลับเป็นจำเลย
เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ 144
อุทธรณ์.เป็นที่สุด
147 & 244/1
ถึงที่สุดเมื่อไม่อนุญาตให้ฎีกา
249 วรรคสี่
ระหว่างการพิจารณา
ถือว่าคดียังไม่ถึงที่สุด
ยังไม่อ่าน.ยังไม่สุด
140 วรรคท้าย
ฎ.5240/2541
คำพิพากษา
หรือคำสั่ง
ที่อุทธรณ์ฎีกา
หรือมีคำขอให้พิจารณาคดีใหม่...
ไม่ได้
ถือว่าถึงที่สุดนับแต่วันอ่านคำพิพากษา
หรือคำสั่งดังกล่าว
อ่าน
ได้
ถือว่าถึงที่สุด
ตั้งแต่ระยะเวลาเช่นว่านั้นสิ้นสุดลง
เวลาสิ้นสุด
ฟ้องซ้ำหรืไม่
คดีก่อนถึงที่สุดแล้วหรือไม่
แม้ต่อมาคดีก่อนถึงที่สุด
ก็ไม่ทำให้คดีหลังกลับเป็นฟ้องซ้ำ
รวมถึง
คำพิพากษาตามยอม
อันถึงที่สุด
138
ห้ามคู่ความเดียวกัน
คู่ความ
1(11)
บุคคลผู้ยื่นคำฟ้อง
หรือถูกฟ้องต่อศาล...
คู่ความเดิมสลับกัน
59 คู่ความร่วม
ฝ่ายเดียวกันฟ้องกัน
ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ
ฎ.7046/2545
โจทก์เคยถูกคนอื่นฟ้องเป็นจำเลยด้วยกัน
มาฟ้องจำเลยไม่เป็นฟ้องซ้ำ.
เพิกถอนการโอนหุ้น
ผู้แทนโดยชอบธรรมฟ้องแทนผู้ไร้ความสามารถ
ไม่เป็นฟ้องซ้ำกับกรณีฟ้องในนามส่วนตัว
ทายาทคนหนึ่งฟ้องเรียกทรัพย์มรดกเพื่อประโยชน์ของทายาททุกคน
ผู้จัดการมรดกฟ้องแทนทายาท
คดีร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก
ทายาทแต่ละคนไม่ใช่คู่ความเดียวกัน
ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ผู้สืบสิทธิ
ถือเป็นคู่ความเดียวกัน
ผู้สืบสิทธิตามกฎหมาย
ผู้รับโอนกรรมสิทธิทรัพย์พิพาท
หรือรับโอนสิทธิเรียกร้อง
ไม่ว่าจะรับโอนมาก่อนหรือหลังคดีแรกถึงที่สุดก็ถือว่าเป็นคู่ความเดียวกับคู่ความในคดีแรก
ผู้รับจำนองฟ้องบังคับจำนองจากผู้จำนองไม่ได้
สามารถฟ้องผู้รับโอนเป็นคดีใหม่ได้
เจ้าของรวม
ลูกหนี้ร่วม
กรณีเจ้าหนี้ฟ้องแยกแต่ละคนเป็นรายคดี
นิติบุคคลในเครือเดียวกัน
ไม่ใช่คู่ความเดียวกัน
เว้นแต่
หน่วยราชการตามสายการบังคับบัญชา
กรมควบคุมโรคติดต่อกับ
กระทรวงสาธารณะสุข
เป็นจำเลยเดียวกัน
ถ้าโจทก์เดียวกันเป็นฟ้องซ้ำ
ตำแหน่งหน้าที่ราชการ
คดีที่มีโจทก์หลายคนหรือ
จำเลยหลายคน
ซึ่งเป็นคู่ความร่วม
59
ต้องพิจารณาเป็นรายคนไป
คู่ความร่วม 59
พิจารณาเป็นรายไป
ฎ. 558/2526
ฟ้องซ้ำ
ขับรถชนสามีตาย
ศาลยกฟ้องจำเลยที่ 2 แล้ว
โจทก์ไม่อุทธรณ์คัดค้าน
ภายหลังจะมาฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่ได้
เป็นฟ้องซ้ำ
3.คดีหลังมีประเด็นที่ศาลต้องวินิจฉัย
โดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกับประเด็นที่ศาลได้เคยวินิจฉัยไว้ในคดีก่อน
เหตุอย่างเดียวกับประเด็นที่เคยวินิจฉัยมาก่อน
8.3.2
ข้อยกเว้น
ที่ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ