Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหา ทางระบบประสาท, น.ส.พิชญาภา น้อยเงิน เลขที่ 58 …
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหา
ทางระบบประสาท
ชักจากไข้สูง (Febrile convulsion)
คือ อาการชักที่สัมพันธ์กับการมีไข้ที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อของระบบประสาท
ชนิด
simple febrile seizure
ชักทั้งตัว ไม่เกิน 15นาที ไม่ชักซ้ำ
complex febrile seizure
ชักเฉพาะที่ ชักซ้ำ
สาเหตุ
ภาวะชักจากไข้สูงเกิดจากการติดเชื้อในระบบต่างๆ เด็กจะมี
อาการชักเมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส
อาการ
ตัวร้อน หน้าแดง กระสับกระส่าย ร้องกวน
ลักษณะการชักจะตัวแข็งหรือตัวอ่อน ชักเกร็ง / กระตุก ไม่รู้สึกตัว
การรักษา
ระยะที่กำลังมีอาการชัก
กรณีที่มีการชักเกิน 5 นาที ต้องทำให้หยุดชักเร็วที่สุด โดยให้ยาระงับอาการชัก เช่น diazepam
2.ให้ยาลดไข้ ร่วมกับ เช่น ตัวลดไข้ (เน้นขณะชักห้ามให้ยาชนิดรับประทาน)
ระยะหลังชัก
ซักประวัติตรวจร่างกายโดยละเอียด ให้ยาป้องกันการชัก รับประทานทุกวันนาน 1-2 ปี เช่น Phenobarbital , Depakine
การพยาบาล
1.V/S q 4 hr.
2.tepid sponge & ให้ยาลดไข้
3.จัดท่านอนหงายหันศีรษะไปข้างใดข้างนึง และ Suction
4.ไม่ผูกยึด/จับ ขณะชัก เพราะอาจทำให้ข้อหลุด/กระดูกหัก
5.ไม่ใส่อะไรงัดภายในช่องปาก เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
6.ระวังอุบัติเหตุเกิดขึ้นขณะชัก เช่น ตกเตียง
7.สังเกตและบันทึกระยะเวลาของการชักลักษณะการซัก
โรคลมชัก
(Epilepsy)
คือ อาการชักซ้ำ 2 ครั้งup อาการชักเกิดจากคลื่นไฟฟ้าของสมองถูกปล่อยออกมาเป็นจำนวนมากอาการชักจะเกิดเพียง 2- 3 นาทีแล้วจะเป็นปกติ
ชนิดของการชัก
Generalized seizure
Tonic seizure
เกร็งแข็ง ล้มลงถ้ายืนอยู่
Clonic seizure
การกระตุกเป็นจังหวะที่ช้ากว่า myoclonic
Tonic clonic seizure (Grand mal)
เกร็งก่อนแล้วกระตุกตาม
Atonic seizure
สูญเสียความดึงตัวของกล้ามเนื้อ
Myoclonic seizure
กล้ามเนื้อหดตัวเป็นระยะสั้นๆ
Absence seizure (Petit mal)
ตากระพริบหรือตากระตุก
Infantile spam
ตั้งแต่ 3 months-2yrs
งอศีรษะ ลำตัว แขนขาเข้าหากันช่วงระยะสั้นๆ แล้วคลายออกคล้ายสะดุ้ง
Partial seizure
มีลักษณะการชักเฉพาะที่
2.1 Simple partial seizure
มีการกระตุกหรือชาของแขนขา หน้า คอประมาณ 5-10 วินาที
2.2 Complex partial seizure
การชักที่มีอาการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม
2.3 Partial seizure evolving to secondary generalize seizure
มีอาการของ simple partial seizure หรือ complex partial seizure แล้วมีอาการชักเกร็งและ/หรือกระตุกทั่วทั้งตัว
Unclassified epileptic seizure
เป็นชนิดที่ไม่สามารถจัดกลุ่มได้
สาเหตุ
เกิดจากการมีรอยโรคในเนื้อสมอง
การวินิจฉัย
การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (electroencephalography:EEG)
การรักษา
ให้ Diazepam 0.2-0.4 มก./กก./นาที ทางหลอดเลือดดำ ถ้ายังไม่หยุดชักใน 2-5 min ให้ซ้ำอีกครั้ง ถ้า 5 นาที ไม่หยุดชักอีก ให้ phenytoin 20 มก./กก.ผสม0.9% NSS ให้ทางหลอดเลือดดำด้วยความเร็วไม่เกิน 1 มก./กก./นาที โดย จับ pulse & BP หลังให้ยา 20-30 min
ยากันชัก
Benzodiazepine
ทำให้ง่วงหลับพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เดินเซ มีเสมหะจากหลอดลมมากกว่าปกติ
Phenobarbital
ทำให้ง่วงซึม เดินเซ
Phenytoin (dilantin)
เซ ง่วงซึม เห็นภาพซ้อน ตากระตุก คลื่นไส้ อาเจียน เหงือกหนา มีภาวะซีดจาก Folic acid ต่ำได้ มีผื่นขึ้นผมขนดก
Valproic acid
ง่วงซึม คลื่นไส้อาเจียน มือสั่น
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
2.เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากมีอาการชัก
3.บิดามารดามีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชักของผู้ป่วยเด็ก
1.เสี่ยงต่อภาวะพร่องออกซิเจน เนื่องจากการชักเป็นเวลานาน
4.บิดามารดาขาดความรู้ในการดูแลผู้ป่วยเด็กโรคลมชัก
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis)
สาเหตุ
เชื้อแบคทีเรีย
เชื้อไวรัส
พยาธิ
เชื้อรา
Cerebrospinal fluid test
Pressure
เด็กโต = 110-150 mmH2O
ทารก = 100 mmH2O
ไม่พบ Red cells & White cell count
Glucose 50-75 mg/dl
Protein 14-45 mg/dl
อาการและอาการแสดง
แสดงการติดเชื้อ คือ การมีไข้
ปวดศีรษะมาก ซึมลง กระหม่อมโป่งตึง อาเจียน ชัก
อาการแสดงของการระคายเคืองของเยื่อหุ้มสมอง
คอแข็ง (Stiffness of neck)
Kernig’s sign ได้ผลบวก
Brudzinski’s sign ได้ผลบวก
การรักษา
การรักษาเฉพาะ
ให้ยาปฏิชีวนะที่สอดคล้องกับผลการเพาะเชื้อน้ำไขสันหลังที่เป็นสาเหตุ
การรักษาตามอาการ
ให้ยาลดไข้ ให้ยานอนหลับ ให้ยากันชัก ให้ยาลดอาการบวมของสมอง
การป้องกัน
ควรฉีดวัคซีน เช่น Hib vaccine , JE vaccine,BCG
ไข้สมองอักเสบ (Encephalitis)
เนื้อสมองผิดปกติอาจเกิดจากการติดเชื้อไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส (Virus encephalitis)
ชนิด
Primary viral encephalitis
ไวรัสที่นำโดยแมลง โดยเฉพาะไข้สมองเจอี หรือ Japanese encephalitis virus ไวรัสเริม ไวรัสโรคพิษสุขนัขบ้า
Secondary viral encephalitis
เช่น ไวรัสหัด ไวรัสหัดเยอรมัน ไวรัสอีสุกอีใส ไวรัสคางทูม รวมทั้งวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า
อาการและอาการแสดง
เชื้อไวรัสทำให้เกิดการคั่งของ lymphocyte ในเนื้อสมองและเยื้อหุ้มสมองทำให้เกิดภาวะสมองบวม ทำให้สมองสูญเสียหน้าที่
อาการเริ่มแรกของโรคสมองอักเสบจากเชื้อไวรัสมักเกิดอย่างเฉียบพลันโดยเริ่มมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดบริเวณต้นคอมาก คอแข็ง อาเจียน หายใจไม่สม่ำเสมอ ซึมลง การเคลื่อนไหวผิดปกติ บางรายอาจมีอาการชัก
การวินิจฉัย
ตรวจน้ำไขสันหลังจะพบว่าน้ำไขสันหลังใส ไม่มีสี มีเม็ดเลือดขาว 10-1000 เซลล์/ลูกบาศก์มิลลิเมตรส่วนใหญ่เป็น lymphocyte
ความดันของน้ำไขสันหลังสูงมากกว่า 180 มิลลิเมตรน้ำเล็กน้อย โปรตีนในน้ำไขสันหลังมีปริมาณสูงขึ้นเล็กน้อยมีค่ามากกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตร น้ำตาลในน้ำไขสันหลังปกติ(50-75 มิลลิกรัม/เดซิลิตร)
การรักษา
ให้ยา
ยากันชัก Phenoberbital
ยาที่ลดอาการบวมของสมอง ได้แก่ ยาสเตียรอยด์ เช่น dexamethasoneยา acyclovir ทางหลอดเลือดดำ
ยาต้านจุลชีพหรือยาปฏิชีวนะ เพื่อรักษาภาวะติดเชื้อแทรกซ้อน
การป้องกัน
การฉีดวัคซีน การฉีดป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี
หลักเลี่ยงการสัมผัสกับเชื้อโรคหรือพาหะ เช่น ป้องกันไม่ให้ยุงกัด
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
1.อาจเกิดอันตรายต่อเซลล์สมองเนื่องจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ/สมองอักเสบ
2.อาจเกิดอันตรายต่อเซลล์สมองเนื่องจากภาวะความดันในสมองสูง
3.อาจเกิดอันตรายต่อเซลล์สมองเนื่องจากภาวะพร่องออกซิเจน
4.อาจเกิดภาวะขาดสมดุลของสารน้ำ อิเล็คโทรไลต์และสารอาหาร
อาจเกิดอันตรายจากการชักเนื่องจากไข้สูง
6.มีความไม่สุขสบายปวดศีรษะจากการมีการระคายเคืองที่เยื้อหุ้มสมอง
7.บิดามารดามีความกลัวและวิตกกังวลเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของบุตร
โรคสมองพิการ
(Cerebral Palsy)
ความบกพร่องของสมองส่วนที่ใช้ควบคุมกล้ามเนื้อทำให้เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับท่าทางการทรงตัวการเคลื่อนไหว
สาเหตุ
1.ระยะก่อนคลอด
การมีเลือดออกทางช่องคลอดของมารดาช่วงระหว่างการตั้งครรภ์เดือนที่6-9
มารดาขาดสารอาหาร ,มีภาวะชัก,ปัญญาอ่อน,ขณะตั้งครรภ์มีการใช้ยาบางชนิด,ได้รับอุบัติเหตุ,ติดเชื้อ
คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย
2.ระยะคลอด
เป็นสาเหตุของสมองพิการร้อยละ 30
สมองขาดออกซิเจน ได้รับอันตรายจากการคลอด คลอดยาก รกพันคอ คลอดท่าก้น การใช้คีมดึงเด็ก
3.ระยะหลังคลอด
สาเหตุของสมองพิการร้อยละ 5
การได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ตัวเหลืองเมื่อแรกเกิด เส้นเลือดที่สมองมีความผิดปกติ
การขาดออกซิเจนจากการจมน้ำ การติดเชื้อบริเวณสมอง การได้รับสารพิษ
อาการและอาการแสดง
กลุ่มเกร็ง (Spastic)
กล้ามเนื้อเกร็ง เคลื่อนไหวได้ช้า
กลุ่มเคลื่อนไหวผิดปกติ (Dystonia)
ไม่สามารถควบคุมให้อยู่นิ่งๆ
การรักษา
การให้ early stimulation เพื่อให้สมองส่วนต่างๆที่ไม่มีความเสียหายได้พัฒนา
การแก้ไขความผิดปกติของการรับรู้ที่สำคัญ
การทำกายภาพบำบัดของกล้ามเนื้อแขน ขา หรือลำตัว
การแก้ไขความผิดปกติของระบบประสาทส่วนอื่น
การให้ยาคลายกล้ามเนื้อ ได้แก่ diazepam,baclofen
การให้คำแนะนำผู้ปกครองในการดูแลเด็กในชีวิตประจำวัน
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
3.ได้รับสารอาหารน้อยกว่าความต้องการของร่างกายเนื่องจากปัญหาการให้อาหารและความบกพร่องทางร่างกาย
4.มีความบกพร่องในการสื่อสารด้วยวาจาเนื่องจากสูญเสียการได้ยิน/ระบบประสาทบกพร่อง
2.ขาดการดูแลตนเองเนื่องจากความบกพร่องทางด้านร่างกาย
5.เสี่ยงต่อพัฒนาการช้ากว่าวัย/มีพัฒนาการช้ากว่าวัยเนื่องจากความบกพร่องของระบบประสาท
1.การเคลื่อนไหวของร่างกายบกพร่องเนื่องจากมีความบกพร่องของระบบประสาท
Hydrocephalus ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง
ภาวะที่มีการคั่งของน้ำไขสันหลังในกะโหลกศีรษะบริเวณเวนติดเคิล ( ventricle) ของสมองและ subarachnoid space มากกว่าปกติ
น้ำไขสันหลังที่คั่งมากจะทำให้เกิดความดันภายในกระโหลกเพิ่มขึ้น
สาเหตุ
1.การสร้างหรือการผลิตน้ำไขสันหลังมากผิดปกติ
การอุดกั้นการไหลเวียนของน้ำหล่อสมองและไขสันหลัง
ความผิดปกติในการดูดซึมน้ำไขสันหลัง
อาการและอาการแสดง
ศรีษะโต/ หัวบาตร (cranium enlargement)
2.กระหม่อนหน้าโป่งตึงกว่าปกติปกติ (fontanelle bulging )
3.หนังศีรษะบางและมองเห็นหลอดเลือดดำที่บริเวณใบหน้าหรือศรีษะโป่งตึงเห็นชัดมากกว่าปกติ(enlargement&engorgement of scalp vein)
4.เสียงเคาะกะโหลกเหมือนหม้อแตก (macewensige
Cracked pot sound)
5.อาการแสดงของความดันในกะโหลกศีรษะสูง
6.ตาทั้ง 2 ข้างกรอกลงข้างล่าง
7.ตาพล่ามัว เห็นภาพซ้อน(diplopia)
8.รีเฟลกซ์ และ tone ของขา2 ข้าง ไวกว่าปกติ
9.พัฒนาการทั่วไปช้ากว่าปกติ
การวินิจฉัย
การตรวจด้วยการส่องไฟฉาย
( transillumination test)
Ventriculography
CT scan
Transillumination test
Ultrasound
Head Circumference
การรักษา
ผ่าตัดรักษาสาเหตุ
ผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินน้ำไขสันหลัง (Shunt)
Ventriculo-peritoneal Shunt (V-P Shunt)
การให้ยาลดการสร้างน้ำไขสันหลัง (Diamox)
การพยาบาล
ก่อนผ่าตัด
ปัญหาที่ 1 อาจเกิดความดันในกะโหลกศีรษะสูงจากการคั่งของน้ำไขสันหลัง
1.ประเมินอาการความดันในกระโหลกศีรษะสูง
2.วัดเส้นรอบวงศีรษะทุกวันเวลาเดียวกัน
3.จัดท่านอนศีรษะสูง 15-30 องศา
ปัญหาที่ 2 อาจเกิดแผลกดทับบริเวณศีรษะ
2.รักษาความสะอาดของผิวหนัง
3.จัดปูที่นอนให้เรียบตึง
1.จัดให้นอนบนที่นอนนุ่มๆ ใช้หมอนนุ่มรองศีรษะไหล่เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
4.ตรวจสอบประเมินการเกิดแผลกดทับสม่ำเสมอ
ปัญหาที่ 3 อาจเกิดภาวะขาดสารน้ำและอาหาร
เนื่องจากการสำรอกอาเจียนหรือดูดนมได้น้อย
1.ดูแลให้รับนมน้ำครั้งละน้อยๆโดยแบ่งให้บ่อยครั้ง
2.ขณะให้นมอุ้มท่าศีรษะสูงเสมอ
3.หลังให้นมจับเรอไล่ลม
ระยะหลังผ่าตัดทางเดินของท่อไขสันหลัง
2.สังเกตและบันทึก
อาการและอาการแสดงของภาวะแทรกซ้อนหลังทำผ่าตัด
อาการแสดงของภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูงจากการอุดตันท่อระบายน้ำไขสันหลัง
มีเลือดออกใต้ชั้นดูรา
การติดเชื้อของลิ้นท่อทางเดินน้ำไขสันหลัง
V/S
7.วัดเส้นรอบวงศีรษะทุกวัน เพื่อประเมินประสิทธิภาพการทำงานของท่อระบายน้ำไขสันหลัง
จัดท่านอนเพื่อป้องกันการกดทับลิ้นของท่อทางเดินน้ำไขสันหลัง
3.ดูแลรักษาความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัด ตามแผนการรักษา
4.พลิกตะแคงตัวและเปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะปอดอักเสบ
5.ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะอย่างถูกต้อง
6.วัดเส้นรอบท้อง หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมงแรก เพื่อประเมินประสิทธิภาพการดูดซึมน้ำไขสันหลังที่ระบายมาจากเวนตริเคล
สไปนา ไบฟิดา (Spina Bifida)
เป็นความผิดปกติของ
ท่อระบบประสาทที่เจริญไม่สมบูรณ์
ทำให้รอยต่อของกระดูกสันหลังไม่เชื่อมติดกัน
ชนิด
Spina bifida occulta
Meningocele
Myelomeningocele
สาเหตุ
อาจเกิดจากมารดามีการติดเชื้อไวรัสในขณะตั้งครรภ์ในระยะ 3 เดือนแรกภาวะทุพโภชนาการและมารดาที่อายุน้อยหรือมากเกินไป
การวินิจฉัย
มารดามีประวัติติดเชื้อขณะตั้งครรภ์การตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบ Alphafetoprotien ในน้ำคร่ำสูง
การตรวจร่างกายทารกพบความผิดปกติ
การรักษา
การผ่าตัดเย็บปิดถุงที่ยื่นออกมา
การพยาบาล
อาจเกิดการติดเชื้อ เนื่องจากถุงน้ำแตก
จัดท่านอนตะแคงหรือนอนคว่ำ
ไม่นุ่งผ้าอ้อม
ดูแลถุงน้ำให้ชุ่มชื่น ระวังไม่ให้เกิดแผล
หมั่นตรวจสอบการฉีกขาด รั่ว
ประเมินการติดเชื้อ
อาจมีการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะเนื่องจากการคั่งของน้ำปัสสาวะ
ทำ Crede’manuever ทุก 2-4 hr
2.ทำความสะอาดทุกครั้งหลังขับถ่าย
3.ให้ยา Antibiotic ตามแผนการรักษา
มีกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงจากการกดเบียดเส้นประสาทไขสันหลัง
ทำ Passive Exercise ให้ผู้ป่วย
สอนผู้ปกครองในการกระตุ้นการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย
สังเกตอาการอ่อนแรงของแขนขาการควบคุมการขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ
หลังการผ่าตัด
เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
1.วัดสัญญาณชีพ ทุก 2-4 hr
2.เฝ้าระวังและสังเกตภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ แผลติดเชื้อ และ Hydrocephalus
3.วัดเส้นรอบศีรษะทุกวันเพื่อประเมินภาวะHydrocephalus
บริหารแขนขา/ เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
มีโอกาสติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดได้ง่ายจากการปนเปื้อนอุจจาระ ปัสสาวะ
จัดท่านอนตะแคงหรือคว่ำไม่นุ่งผ้าอ้อม
ดูแลทำความสะอาดแผล
3.ดูแลให้ยา Antibiotic / check V/S
กลุ่มอาการดาวน์ (Down ’s syndrome)
เป็นความผิดปกติทางโครโมโซมคู่ที่ 21
อาการและอาการแสดง
กล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก (hypotonia)
หัวแบนกว้าง (brachiocephaly)
คอสั้นและผิวหนังด้านหลังของคอค่อนข้างมากและนิ่ม
หูติดอยู่ต่ำ
brush field spot
ปากอ้าและลิ้นมักจะยื่นออก และมีรอยแตกที่ลิ้น
มือกว้างและสั้น มักจะมี simian crease
นิ้วก้อยโค้งงอ(clinodactyly)
ร่องระหว่างนิ้วโป้งเท้าและนิ้วชี้กว้าง
เส้นลายนิ้วมือมักพบ ulnar loopมากกว่าปกติและพบ distal triradius ในฝ่ามือ
Hypothyroidism
ร่างกายเจริญเติบโตช้า
Polycythemia
การรักษา
การกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการให้เหมาะสมตามวัยตั้งแต่อายุยังน้อย(early stimulation)
การรักษาโรคทางกายอื่นๆที่มีร่วมด้วย คือ โรคหัวใจระบบทางเดินอาหารอุดกั้น ภาวะฮัยโปไทรอยด์และอื่นๆ
การให้คำปรึกษาแนะนำด้านพันธุกรรม
Guillain Barre ‘s Syndrome
กลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการบวม อักเสบของระบบประสาทส่วนปลายหลายๆเส้นอย่างเฉียบพลัน (Polyradiculoneuropathy) ที่เกิดขึ้น หลังจากมีการติดเชื้อในร่างกาย
อาการและอาการแสดง
2.motor
กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Flaccid motor paralysis) ทั้งสองข้างสมดุลกัน อาการอัมพาตใน GBS จะเริ่มต้นที่ขา เดินลำบาก และจะลุกลามขึ้นที่แขนและลำตัวด้านบน รวมไปถึงกล้ามเนื้อทรวงอก แขนทั้งสองข้าง
อาการของประสาทสมอง
ประสาทสมองคู่ที่ 7 (Facaial nerve)
1.Sensation
เริ่มมีอาการเหน็บชา เจ็บ และปวดโดยเฉพาะปลายแขนปลายขา ไหล่ สะโพก และโคนขา
อาการอาจเริ่มด้วยอาการคล้ายเป็นตะคริวที่ส่วนปลาย และอาจรุนแรงต้องให้ยาแก้ปวด แล้วจึงมีอาการอ่อนแรง
4.อาการลุกลามของประสาทอัตโนมัติ
ส่วน medulla oblongata ที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะสำคัญและเส้นประสาท vagus ร่วมด้วย
การรักษา
การรักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายพลาสมา (Plasma Exchange หรือ Plasmapheresis)
การรักษาด้วย Intravenous Immunglobulin (IVIG)
เป็นการรักษาที่สะดวกและง่ายกว่า และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการแลกเปลี่ยนพลาสม่า แต่กลับเป็นซ้ำได้
วินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารจากไม่สามารถช่วยตนเองจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างสมบูรณ์
เสี่ยงต่อการเกิดการหายใจไม่เพียงพอจากกล้ามเนื้อช่วยหายใจอ่อนแรงอย่างเฉียบพลัน
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการไม่เคลื่อนไหว จากกล้ามเนื้ออ่อนแรงทำให้สูญเสียความสามารถในการดูแลตนเอง
ขาดการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นๆจากไม่สามารถพูดได้
ผู้ป่วยและญาติกลัว วิตกกังวล ท้อแท้ กับอาการของโรคที่เป็นจากการขาดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและการปฏิบัติตัว
ทุกข์ทรมานจากอาการปวดกล้ามเนื้อ
การพยาบาล
ให้ออกซิเจน ถ้ามีภาวการณ์หายใจไม่พอจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจพร้อมเครื่องช่วยหายใจ
สังเกตอาการปวดตามกล้ามเนื้อ
Check vital sign โดยเฉพาะ RR ต้องมีการตรวจวัด vital capacity , tidal volume หรือ minute volume
ดูแลปัญหาการขาดสารอาหาร
ประคับประคองด้านจิตใจ
ติดตามประเมินการเคลื่อนไหว กำลังของกล้ามเนื้อ การรับรู้สัมผัส
น.ส.พิชญาภา น้อยเงิน เลขที่ 58 รหัส 62111301060