Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาทางระบบประสาท, นางสาวนันทิกานต์ สินพิทักษ์ เลขที่…
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาทางระบบประสาท
โรคสมองพิการ
(Cerebral Palsy)
ความบกพร่องของสมองส่วนที่ใช้ควบคุมกล้ามเนื้อทำให้
เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับ ท่าทางการทรงตัวการเคลื่อนไหว
สาเหตุ
ระยะก่อนคลอด
มารดาขณะตั้งครรภ์ขาดสารอาหาร
การมีเลือดออกทางช่องคลอดของมารดา
มารดามีภาวะชักหรือมีภาวะปัญญาอ่อน
การเกิดก่อนกำหนด
การใช้ยาบางชนิด
ระยะคลอด
สมองขาดออกซิเจน
ได้รับอันตรายจากการคลอด
คลอดยาก รกพันคอ คลอดท่าก้น
ระยะหลังคลอด
การได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ
ตัวเหลืองเมื่อแรกเกิด
เส้นเลือดที่สมองมีความผิดปกติ
การขาดออกซิเจนจากการจมน้ำ
การติดเชื้อบริเวณสมอง
อาการและอาการแสดง
กลุ่มเกร็ง (Spastic)
มีกล้ามเนื้อเกร็งเคลื่อนไหวได้ช้า
ขาอาจมีอาการมากกว่าแขน
หรือมีความผิดปกติครึ่งซีกหรือผิดปกติทั้งตัว
ทำให้ควบคุมกล้ามเนื้อ คอ ลำตัว และแขน ขาไม่ได้
กลุ่มเคลื่อนไหวผิดปกติ
(Dystonia)
ไม่สามารถควบคุมให้อยู่นิ่งๆ
จะมีการแสดงสีหน้า คอบิด แขนงอ หรือเหยียดเปะปะ
การรักษา
การให้ยาคลายกล้ามเนื้อ ได้แก่ diazepam,baclofen
การทำกายภาพบำบัดของกล้ามเนื้อแขน ขา หรือลำตัว
การให้ early stimulation เพื่อให้สมองส่วนต่างๆที่ไม่มีความเสียหายได้พัฒนา
การแก้ไขความผิดปกติของการรับรู้ที่สำคัญ
การแก้ไขความผิดปกติของระบบประสาทส่วนอื่น
การให้คำแนะนำผู้ปกครองในการดูแลเด็กในชีวิตประจำวัน
และส่งเสริมให้เด็กฝึกทักษะการใช้ส่วนต่างๆของร่างกาย
ข้อวินิฉัยการพยาบาล
การเคลื่อนไหวของร่างกายบกพร่องเนื่องจาก
มีความบกพร่องของระบบประสาท
ขาดการดูแลตนเองเนื่องจากความบกพร่องทางด้านร่างกาย
ได้รับสารอาหารน้อยกว่าความต้องการของร่างกายเนื่องจากปัญหาการให้อาหารและความบกพร่องทางร่างกาย
มีความบกพร่องในการสื่อสารด้วยวาจา
เนื่องจากสูญเสียการได้ยิน/ระบบประสาทบกพร่อง
เสี่ยงต่อพัฒนาการช้ากว่าวัย/มีพัฒนาการช้ากว่าวัยเนื่องจากความบกพร่องของระบบประสาท
สไปนา ไบฟิดา
(Spina Bifida)
คือ เป็นความผิดปกติของท่อระบบประสาทที่เจริญไม่สมบูรณ์ ทำให้รอยต่อของกระดูกสันหลังไม่เชื่อมติดกัน ความผิดปกติที่พบได้ที่แนวไขสันหลัง
สาเหตุ
สาเหตุที่แท้จริง ยังไม่ทราบแต่อาจเกิดจาก
มารดามีการติดเชื้อไวรัสในขณะตั้งครรภ์
การวินิจฉัย
มารดามีประวัติติดเชื้อขณะตั้งครรภ์การตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบ Alphafetoprotien ในน้ำคร่ำสูง
การตรวจร่างกายทารกพบความผิดปกติ
การรักษา
การผ่าตัดเย็บปิดถุงที่ยื่นออกมา
การพยาบาลหลังผ่าตัด
วินิจฉัยทางการพยาบาล
มีโอกาสติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดได้ง่าย
จากการปนเปื้อนอุจจาระปัสสาวะ
การพยาบาล
ดูแลทำความสะอาดแผล
3.ดูแลให้ยา Antibiotic / check V/S
จัดท่านอนตะแคงหรือคว่ำไม่นุ่งผ้าอ้อม
เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
การพยาบาล
เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
เฝ้าระวังและสังเกตภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ
แผลติดเชื้อ และ Hydrocephalus
วัดเส้นรอบศีรษะทุกวันเพื่อประเมินภาวะ Hydrocephalus
บริหารแขนขา/ เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
วินิจฉัยทางการพยาบาล
อาจเกิดการติดเชื้อ เนื่องจากถุงน้ำแตก
การพยาบาล
จัดท่านอนตะแคงหรือนอนคว่ำ
ไม่นุ่งผ้าอ้อม
ดูแลถุงน้ำให้ชุ่มชื่น ระวังไม่ให้เกิดแผล
หมั่นตรวจสอบการฉีกขาด รั่ว
ประเมินการติดเชื้อ
อาจมีการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ
เนื่องจากการคั่งของน้ำปัสสาวะ
การพยาบาล
ทำ Crede’manuever ทุก 2-4 ชั่วโมง
2.ทำความสะอาดทุกครั้งหลังขับถ่าย
3.ให้ยา Antibiotic ตามแผนการรักษา
มีกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง
จากการกดเบียดเส้นประสาทไขสันหลัง
การพยาบาล
ทำ Passive Exercise ให้ผู้ป่วย
สอนผู้ปกครองในการกระตุ้นการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย
สังเกตอาการอ่อนแรงของแขนขา
ภาวะน้ำคลั่งในโพรงสมอง
(Hydrocephalus)
ภาวะน้ำคลั่งในโพรงสมองหมายถึงภาวะที่มีการคั่งของน้ำไขสันหลังในกะโหลกศีรษะ
บริเวณเวนติดเคิล ( ventricle) ของสมองและ subarachnoid space มากกว่าปกติ
น้ำไขสันหลังที่คั่งในปริมาณมากจะทำให้เกิดความดันภายในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น
สาเหตุ
การสร้างหรือการผลิตน้ำไขสันหลังมากผิดปกติ
การอุดกั้นการไหลเวียนของน้ำหล่อสมองและไขสันหลัง
ความผิดปกติในการดูดซึมน้ำไขสันหลัง
การวินิจฉัย
การตรวจด้วยการส่องไฟฉาย
( transillumination test)
Ventriculography
CT scan
Ultrasound
Head Circumference
การรักษา
ผ่าตัดรักษาสาเหตุ
ผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินน้ำไขสันหลัง (Shunt)
Ventriculo-peritoneal Shunt (V-P Shunt)
การให้ยาลดการสร้างน้ำไขสันหลัง (Diamox)
การพยาบาลก่อนผ่าตัด
อาจเกิดความดันในกะโหลกศีรษะสูงจากการคั่งของน้ำไขสันหลัง
การพยาบาล
1.ประเมินอาการความดันในกระโหลกศีรษะสูง
2.วัดเส้นรอบวงศีรษะทุกวันเวลาเดียวกัน
3.จัดท่านอนศีรษะสูง 15-30 องศา
อาจเกิดแผลกดทับบริเวณศีรษะ
การพยาบาล
1.จัดให้นอนบนที่นอนนุ่มๆ ใช้หมอนนุ่มรองศีรษะไหล่
เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
2.รักษาความสะอาดของผิวหนัง
3.จัดปูที่นอนให้เรียบตึง
4.ตรวจสอบประเมินการเกิดแผลกดทับสม่ำเสมอ
อาจเกิดภาวะขาดสารน้ำและอาหาร
เนื่องจากการสำรอกอาเจียนหรือดูดนมได้น้อย
การพยาบาล
1.ดูแลให้รับนมน้ำครั้งละน้อยๆโดยแบ่งให้บ่อยครั้ง
2.ขณะให้นมอุ้มท่าศีรษะสูงเสมอ
3.หลังให้นมจับเรอไล่ลม
การพยาบาลระยะหลังผ่าตัดทางเดินของท่อไขสันหลัง
จัดท่านอนเพื่อป้องกันการกดทับลิ้น
ของท่อทางเดินน้ำไขสันหลัง
สังเกตและบันทึกอาการและอาการแสดง
ของภาวะแทรกซ้อนหลังทำผ่าตัด
วัดและบันทึกสัญญาณชีพและ
ประเมินอาการทางระบบประสาท
ดูแลรักษาความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัด
ตามแผนการรักษา
พลิกตะแคงตัวและเปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะอย่างถูกต้อง
วัดเส้นรอบท้อง หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมงแรก
วัดเส้นรอบวงศีรษะทุกวัน
อาการและอาการแสดง
ศรีษะโต/ หัวบาตร (cranium enlargement)
เด็กเล็กที่กระหม่อมยังไม่เปิดพบว่ากระหม่อมหน้าโป่งตึงกว่าปกติ(fontanelle bulging )
หนังศีรษะบางและมองเห็นหลอดเลือดดำที่บริเวณใบหน้าหรือศรีษะโป่งตึงเห็นชัดมากกว่าปกติ
เสียงเคาะกะโหลกเหมือนหม้อแตก
อาการแสดงของความดันในกะโหลกศีรษะสูง
ตาทั้ง 2 ข้างกรอกลงข้างล่าง setting -sun sign
ตาพล่ามัว เห็นภาพซ้อน(diplopia)
รีเฟลกซ์ และ tone ของขา2 ข้าง ไวกว่าปกติ
พัฒนาการทั่วไปช้ากว่าปกติ
กลุ่มอาการดาวน์
(Down ’s syndrome)
เป็นความผิดปกติทางโครโมโซมคู่ที่ 21 และเป็นสาเหตุ
ที่พบบ่อยที่สุดในกลุ่มโรคพันธุกรรมที่ทำให้เกิดปัญญาอ่อน
อาการและอาการแสดง
กล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก (hypotonia)
หัวแบนกว้าง (brachiocephaly)
คอสั้นและผิวหนังด้านหลังของคอค่อนข้างมากและนิ่ม
หูติดอยู่ต่ำ
brush field spot
ปากอ้าและลิ้นมักจะยื่นออก และมีรอยแตกที่ลิ้น
มือกว้างและสั้น มักจะมี simian crease
นิ้วก้อยโค้งงอ(clinodactyly)
ร่องระหว่างนิ้วโป้งเท้าและนิ้วชี้กว้าง
เส้นลายนิ้วมือมักพบ ulnar loopมากกว่าปกติและพบ distal triradius ในฝ่ามือ
ทางเดินอาหารอุดตัน ที่พบบ่อยคือ duodenum stenosis
ร่างกายเจริญเติบโตช้า
Polycythemia
ความผิดปกติเกี่ยวกับตา หู
หัวใจพิการแต่กำเนิด
การรักษา
การกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการให้เหมาะสมตามวัยตั้งแต่อายุยังน้อย(early stimulation)
การรักษาโรคทางกายอื่นๆที่มีร่วมด้วย คือ โรคหัวใจ
ระบบทางเดินอาหารอุดกั้น ภาวะฮัยโปไทรอยด์และอื่นๆ
การให้คำปรึกษาแนะนำด้านพันธุกรรม
ชักจากไข้สูง
(Febrile convulsion)
อาการชักที่สัมพันธ์กับการมีไข้ที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อของระบบประสาท
ชนิดของการชักจากไข้สูง
simple febrile seizure
อาการชักทั้งตัว เกิดในระยะเวลาสั้นๆ
ไม่เกิน 15 นาที ไม่มีการชักซ้ำ
complex febrile seizure
มีอาการชักเฉพาะที่ ชักซ้ำซ้อน
สาเหตุ
ภาวะชักจากไข้สูงเกิดจากการติดเชื้อในระบบต่างๆ เด็กจะมี
อาการชักเมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส
อาการและอาการแสดง
เด็กจะตัวร้อน หน้าแดง มึนงงสับสน กระสับกระส่าย ร้องกวน
มีอาการชักลักษณะการชักอาจจะตัวแข็งหรือตัวอ่อน ชักเกร็งหรือกระตุก ไม่รู้สึกตัว
การรักษา
ระยะที่กำลังมีอาการชัก
กรณีที่มีการชักเกิน 5 นาที ต้องทำให้หยุดชักเร็วที่สุด
โดยให้ยาระงับอาการชัก เช่น diazepam
ให้ยาลดไข้ ร่วมกับ เช่น ตัวลดไข้ โดยห้ามให้ยาขณะชัก
ระยะหลังชัก
ซักประวัติตรวจร่างกายโดยละเอียด ให้ยาป้องกันการชัก
การพยาบาล
วัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
เช็ดตัวลดไข้ (tepid sponge)และให้ยาลดไข้
จัดท่านอนตะแคงศีรษะต่ำกว่าลำตัว ดูดเสมหะถ้ามีเสมหะ
ไม่ผูกยึดเด็กหรือจับเด็กขณะมีอาการชัก
เพราะอาจเกิดข้อไหล่หลุดหรือกระดูกหัก
ไม่ใส่ไม้กดลิ้นเข้าปากเด็กเพราะอาจทำให้ฟันหักและฟันที่หัก
อาจตกลงไปในลำคอเกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ
ระมัดระวังอุบัติเหตุที่อาจเกิดขณะมีอาการชัก
สังเกตและบันทึกระยะเวลาของการชักลักษณะการชัก
โรคลมชัก
(Epilepsy)
อาการชักที่เกิดขึ้นซ้ำๆ อย่างน้อย 2 ครั้งขึ้นไป โดยไม่สัมพันธ์กับการ
มีไข้อาการชักเกิดจากคลื่นไฟฟ้าของสมองถูกปล่อยออกมาเป็นจำนวนมาก
ชนิดของอาการชัก
Generalized seizure
Tonic seizure เกร็งแข็ง ล้มลงถ้ายืนอยู่
Clonic seizure มีการกระตุกเป็นจังหวะที่ช้ากว่า myoclonic
Tonic clonic seizure (Grand mal)
มีการเกร็งก่อนแล้วมีการกระตุกตาม
Atonic seizure มีการสูญเสียความดึงตัวของกล้ามเนื้อ
Myoclonic seizure มีการหดตัวของกล้ามเนื้อเป็นระยะสั้นๆ
Absence seizure (Petit mal) มีตากระพริบหรือตากระตุก
Infantile spam ในเด็กเล็กตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 2 ปี คือ งอศีรษะ ลำตัว
แขนขาเข้าหากันช่วงระยะสั้นๆ แล้วคลายออกคล้ายสะดุ้ง
Partial seizure
Simple partial seizure มีการกระตุกหรือชาของแขนขา
หน้า คอประมาณ 5-10 วินาที
Complex partial seizure การชักที่มีอาการ
เปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม
Partial seizure evolving to secondary generalize seizure มีความ
ผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าสมองเฉพาะที่แล้วกระจายทั่วสมองทั้ง 2 ข้าง
Unclassified epileptic seizure เป็นชนิดที่ไม่สามารถจัดกลุ่มได้
สาเหตุการชัก
เกิดจากการมีรอยโรคในเนื้อสมอง การมีรอยโรคใน
สมองทำให้เซลล์ประสาทหลั่งคลื่นไฟฟ้าสมองผิดปกติ
การวินิจฉัย
การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง(electroencephalography : EEG)
ยากันชัก
Benzodiazepine ได้แก่diazepam (valium) ทำให้ง่วงหลับ
พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เดินเซ มีเสมหะจากหลอดลมมากกว่าปกติ
Phenobarbital ทำให้ง่วงซึม เดินเซ
Phenytoin (dilantin) เกิดอาการเซ ง่วงซึม เห็นภาพซ้อน
ตากระตุก คลื่นไส้ อาเจียน เหงือกหนา มีภาวะซีด
Valproic acid ง่วงซึม คลื่นไส้อาเจียน มือสั่น
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่อภาวะพร่องออกซิเจน เนื่องจากการชักเป็นเวลานาน
เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากมีอาการชัก
บิดามารดามีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชักของผู้ป่วยเด็ก
บิดามารดาขาดความรู้ในการดูแลผู้ป่วยเด็กโรคลมชัก
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
(Meningitis)
สาเหตุ
เชื้อแบคทีเรีย (Bacterial meningitis)
เชื้อไวรัส (Viral หรือ Asepitc meningitis)
พยาธิ (Eosinophilic meningitis)
เชื้อรา (Fungal memingitis)
Cerebrospinal fluid test
Pressure เด็กโต = 110-150 mmH2O ทารก 100 mmH2O
Red cells ไม่พบ
White cell count ไม่พบ
Glucose 50-75 mg/dl (ครึ่งหนึ่งของน้ำตาลในเลือด)
Protein 14-45 mg/dl
อาารและอาการแสดง
อาการที่แสดงว่ามีการติดเชื้อ เช่น มีไข้
ปวดศีรษะมาก ซึมลง กระหม่อมโป่งตึง อาเจียน ชัก
อาการแสดงของการระคายเคืองของเยื่อหุ้มสมอง
คอแข็ง (Stiffness of neck)
Kernig’s sign ได้ผลบวก
Brudzinski’s
การรักษา
การรักษาเฉพาะ คือ ให้ยาปฏิชีวนะที่สอดคล้องกับ
ผลการเพาะเชื้อน้ำไขสันหลังที่เป็นสาเหตุ
การรักษาตามอาการ ให้ยาลดไข้ ให้ยานอนหลับ ให้ยากันชัก
ให้ยาลดอาการบวมของสมอง ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
การป้องกัน ควรฉีดวัคซีน เช่น Hib vaccine , JE vaccine,BCG
ไข้สมองอักเสบ
(Encephalitis)
เกิดจากเนื้อสมองผิดปกติอาจเกิดจากการติดเชื้อ
ไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส (Virus encephalitis)
Primary viral encephalitis ไวรัสที่นำโดยแมลง โดยเฉพาะไข้สมองเจ
อี หรือ Japanese encephalitis virus ไวรัสเริม ไวรัสโรคพิษสุขนัขบ้า
Secondary viral encephalitis เช่น ไวรัสหัด ไวรัสหัดเยอรมัน
ไวรัสอีสุกอีใส ไวรัสคางทูม รวมทั้งวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า
อาการและอาการแสดง
ภาวะสมองบวม
ทำให้สมองสูญเสียหน้าที่
อาการเริ่มแรกของโรคสมองอักเสบจากเชื้อไวรัสมักเกิดอย่างเฉียบพลันโดยเริ่มมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดบริเวณต้นคอมาก คอแข็ง อาเจียน
หายใจไม่สม่ำเสมอ ซึมลงการเคลื่อนไหวผิดปกติ บางรายอาจมีอาการชัก
การวินิจฉัย
การตรวจน้ำไขสันหลัง
การรักษา
การให้ยาดังนี้ ยากันชัก เช่น Phenoberbital ยาที่ลดอาการบวมของสมอง ได้แก่ ยาสเตียรอยด์ เช่น dexamethasoneยา acyclovir ทางหลอดเลือดดำในผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัย
โรคไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัสเริม (herpes simplex virus) ให้ทางหลอดเลือดดำ
ยาต้านจุลชีพหรือยาปฏิชีวนะ เพื่อรักษาภาวะติดเชื้อแทรกซ้อน
การป้องกัน
การฉีดวัคซีน การฉีดป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี
หลักเลี่ยงการสัมผัสกับเชื้อโรคหรือพาหะ เช่น ป้องกันไม่ให้ยุงกัด
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
อาจเกิดอันตรายต่อเซลล์สมองเนื่องจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ/สมองอักเสบ
อาจเกิดอันตรายต่อเซลล์สมองเนื่องจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ/สมองอักเสบ
อาจเกิดอันตรายต่อเซลล์สมองเนื่องจากภาวะพร่องออกซิเจน
อาจเกิดภาวะขาดสมดุลของสารน้ำ อิเล็คโทรลัยท์และสารอาหาร
อาจเกิดอันตรายจากการชักเนื่องจากไข้สูง
มีความไม่สุขสบายปวดศีรษะจากการมีการระคายเคืองที่เยื้อหุ้มสมอง
บิดามารดามีความกลัวและวิตกกังวลเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของบุตร
Guillain Barre ‘s Syndrome
กลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการบวมอักเสบของระบบประสาทส่วนปลายหลายๆเส้นอย่างเฉียบพลัน ที่เกิดขึ้นหลังจากมีการติดเชื้อในร่างกาย
อาการและอาการแสดง
Sensation
เริ่มมีอาการเหน็บชา เจ็บ และปวดโดยเฉพาะปลายแขนปลายขา ไหล่ สะโพกและโคนขา อาการอาจเริ่มด้วยอาการคล้ายเป็นตะคริวที่ส่วนปลาย
ต้องให้ยาแก้ปวด แล้วจึงมีอาการอ่อนแรง ชา สูญเสีย reflex
motor
กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Flaccid motor paralysis) ทั้งสองข้างสมดุลกัน อาการอัมพาตใน GBS จะเริ่มต้นที่ขา เดินลำบาก และจะลุกลามขึ้นที่แขนและลำตัวด้านบน
อาการของประสาทสมอง
อัมพาตของหน้า ปิดตา และปากไม่สนิท ความผิดปกติของการแสดงสีหน้า
มีอาการกลืน พูด และหายใจลำบาก
อาการลุกลามของประสาทอัตโนมัติ
ส่วน medulla oblongata ที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะสำคัญและเส้นประสาท vagus เกิดความ
ผิดปกติร่วมด้วยจะเกิดอาการผิดปกติในระบบประสาทอัตโนมัติซึ่งถือเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้ป่วย GBS
การรักษา
การรักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายพลาสมา (Plasma Exchange หรือ Plasmapheresis)
การรักษาด้วย Intravenous Immunglobulin (IVIG)
วินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่อการเกิดการหายใจไม่เพียงพอ
จากกล้ามเนื้อช่วยหายใจอ่อนแรงอย่างเฉียบพลัน
เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารจากไม่สามารถช่วยตนเองจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างสมบูรณ์
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการไม่เคลื่อนไหว จากกล้ามเนื้ออ่อนแรง
ทำให้สูญเสียความสามารถในการดูแลตนเอง
ทุกข์ทรมานจากอาการปวดกล้ามเนื้อ
ขาดการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นๆจากไม่สามารถพูดได้
ผู้ป่วยและญาติกลัว วิตกกังวล ท้อแท้ กับอาการ
ของโรคที่เป็นจากการขาดความรู้และความเข้าใจ
หลักการพยาบาลในระยะเฉียบพลันและต่อเนื่อง
Check vital sign โดยเฉพาะ RR ต้องมีการตรวจวัด vital capacity ,
tidal volume หรือ minute volume
ให้ออกซิเจน ถ้ามีภาวการณ์หายใจไม่พอจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจพร้อมเครื่องช่วยหายใจ
ติดตามประเมินการเคลื่อนไหว กำลังของกล้ามเนื้อ การรับรู้สัมผัส สภาวะของ motorsensory และ
cranial nerve ช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพ Observe อาการแทรกซ้อนจากการจำกัดการเคลื่อนไหว
ดูแลปัญหาการขาดสารอาหาร เนื่องจากผู้ป่วยจะมีน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
ต้องการพลังงานในการหย่าเครื่องช่วยหายใจ ทำให้ได้รับอาหารไม่เพียงพอ
สังเกตอาการปวดตามกล้ามเนื้อ
ประคับประคองด้านจิตใจ ส่งเสริมการมองโลกในแง่ดีสำหรับผู้ป่วย
นางสาวนันทิกานต์ สินพิทักษ์
เลขที่ 36 (62111301038)