Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาทางระบบประสาท, วิริยาภรณ์ สุวัฒนสวัสดิ์.(2564)…

- - - - ภาวะชักจากไข้แบบธรรมดา
    - - ภาวะชักจากไข้แบบซับซ้อน
  - - - 1.กรณีที่มีการชักเกิน 5 นาที ต้องทำให้หยุดชักเร็วที่สุด โดยให้ยาระงับอาการชัก เช่น diazepam
      - 2.ให้ยาลดไข้ ร่วมกับ เช่น ตัวลดไข้ (เน้นขณะชักห้ามให้ยาชนิดรับประทาน)
    - - ซักประวัติตรวจร่างกายโดยละเอียด
      - ให้ยาป้องกันการชัก เช่น Phenobarbital , Depakine รับประทานทุกวันนาน 1-2 ปี
  - - - อาจเกิดข้อไหล่หลุดหรือกระดูกหัก
    - - อาจทำให้ฟันหักและตกลงไปในลำคอเกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ
- - - - เกิดจากคลื่นไฟฟ้าของสมองถูกปล่อยออกมาเป็นจำนวนมาก
        
        ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของสมอง
      - ไม่สัมพันธ์กับการมีไข้
    - - ภาวะชักต่อเนื่อง (Status epilepticus)
  - - - ทำให้เซลล์ประสาทหลั่งคลื่นไฟฟ้าสมองผิดปกติ
      - มีผลต่ออวัยวะต่างๆที่สมองส่วนนั้น ควบคุมทำให้เกิดการชักตามมา
  - - - Tonic seizure
      - Clonic seizure
      - Tonic clonic seizure (Grand mal)
      - Atonic seizure
      - Myoclonic seizure
      - Absence seizure (Petit mal)
      - Infantile spam
    - - Simple partial seizure
      - Complex partial seizure
      - Partial seizure evolving to secondary generalize seizure
  - - - ใช้เพื่อการวินิจฉัยที่สำคัญในการจำแนกชนิดของโรคลมชัก
      - ทำให้ทราบตำแหน่งของสมองที่มีความผิดปกติ
  - - - ทำให้ง่วงหลับ พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เดินเซ มีเสมหะจากหลอดลมมากกว่าปกติ
    - - ทำให้ง่วงซึม เดินเซ
    - - เกิดอาการเซ ง่วงซึม เห็นภาพซ้อน ตากระตุก
    - - ง่วงซึม คลื่นไส้อาเจียน มือสั่น
- - - - ไวรัสที่นำโดยแมลง
        
        ไข้สมองเจอี หรือ Japanese encephalitis virus ไวรัสเริม ไวรัสโรคพิษสุขนัขบ้า
    - - ไวรัสหัด ไวรัสหัดเยอรมัน ไวรัสอีสุกอีใส ไวรัสคางทูม รวมทั้งวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า
  - - - เกิดภาวะสมองบวม
  - - - ยากันชัก เช่น Phenoberbital
      - ยาที่ลดอาการบวมของสมอง ได้แก่ ยาสเตียรอยด์
        
        dexamethasone
    - - เพื่อรักษาภาวะติดเชื้อแทรกซ้อน
  - - - ป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี
    - - เช่น ป้องกันไม่ให้ยุงกัด
- - - - การมีเลือดออกทางช่องคลอดของมารดาช่วงระหว่างการตั้งครรภ์เดือนที่6-9
      - มารดาขณะตั้งครรภ์ขาดสารอาหาร
      - มารดามีภาวะชักหรือมีภาวะปัญญาอ่อน การเกิดก่อนกำหนด
    - - เป็นสาเหตุของสมองพิการร้อยละ 30
        
        ได้แก่ สมองขาดออกซิเจน ได้รับอันตรายจากการคลอด คลอดยาก รกพันคอ คลอดท่าก้น การใช้คีมดึงเด็ก
    - - เป็นสาเหตุของสมองพิการร้อยละ 5
        
        ได้แก่ การได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ตัวเหลืองเมื่อแรกเกิด การติดเชื้อบริเวณสมอง
  - - - มีกล้ามเนื้อเกร็ง เคลื่อนไหวได้ช้า ขาอาจมีอาการมากกว่าแขน
    - - ไม่สามารถควบคุมให้อยู่นิ่งๆ จะมีการแสดง สีหน้า คอบิด แขนงอ หรือเหยียดเปะปะ พูดและกลืนลำบาก
- - - - โรคหัวใจ ระบบทางเดินอาหารอุดกั้น ภาวะฮัยโปไทรอยด์และ อื่นๆ
- - - - เริ่มมีอาการเหน็บชา เจ็บ และปวด โดยเฉพาะปลายแขนปลายขา ไหล่ สะโพก และโคนขา
    - - กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Flaccid motor paralysis) ทั้งสองข้างสมดุลกัน อาการอัมพาต ใน GBS จะเริ่มต้นที่ขา
    - - โดยเฉพาะส่วนใบหน้า ประสาทสมองคู่ที่ 7 (Facaial nerve) พบความผิดปกติบ่อยที่สุด
    - - ส่วน medulla oblongata ที่ ควบคุมการทำงานของอวัยวะสำคัญและเส้นประสาท vagus เกิด ความผิดปกติร่วมด้วย
      - การเต้นหัวใจผิดจังหวะ ความดันโลหิตไม่คงที่
  - - - สะดวกและง่ายกว่า เสี่ยงน้อยกว่า
- - - - Ventriculo-peritoneal Shunt (V-P Shunt)
  - - - ป้องกันภาวะปอดอักเสบ
    - - เพื่อประเมินประสิทธิภาพการดูดซึมน้ำไขสันหลังที่ระบายมาจากเวนตริเคล
- - - - ระยะ 3 เดือนแรก
  - - - การตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบ Alphafetoprotien ในน้ำคร่ำสูง
  - - - จัดท่านอนตะแคงหรือนอนคว่ำ
      - ดูแลถุงน้ำให้ชุ่มชื่น ระวังไม่ให้เกิดแผล
      - ไม่นุ่งผ้าอ้อม
      - ประเมินการติดเชื้อ
      - หมั่นตรวจสอบการฉีกขาด
    - - ทำ Crede’manuever ทุก 2-4 hr
      - 2.ทำความสะอาดทุกครั้งหลังขับถ่าย
      - 3.ให้ยา Antibiotic ตามแผนการรักษา
    - - ทำ Passive Exercise ให้ผู้ป่วย
      - สังเกตอาการอ่อนแรงของแขนขาการควบคุมการขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ
      - สอนผู้ปกครองในการกระตุ้นการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย
    - - 1.วัดสัญญาณชีพ ทุก 2-4 ชั่วโมง
      - 2.เฝ้าระวังและสังเกตภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ แผลติดเชื้อ และ Hydrocephalus
      - 3.วัดเส้นรอบศีรษะทุกวันเพื่อประเมินภาวะHydrocephalus
      - บริหารแขนขา/ เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ