Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เมแทบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต - Coggle Diagram
เมแทบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต
การควบคุมเมแทบอลิซึม
ของคาร์โบไฮเดรต
ควบคุมโดยสารตัวกลาง
สารตัวกลางที(ควบคุมเมตาบอลิสมของกลูโคสคือ ฟรุกโทส-2,6-บิสฟอสเฟส (Fructose-2,6-biphosphate) ซึ่งจะเร่งวิถีไกลโคไลซิสโดยไปกระตุ้นการทํางานของเอนไซม์ฟอสโฟฟรุกโทไคเนส
การควบคุมโดยฮอร์โมน
ฮอร์โมนอนิ ซูลิน จะกระตุ้นการสร้างไกลโคเจนในเซลล์ตับ กล้ามเนื้อ
และในเนื้อเยื่อ ไขมัน ฮอร์โมนอะดีรนาลิน
ควบคุมด้วย
ระดับพลังงาน
สามารถควบคุมอัตราเร็วของวิถีต่าง ๆ ได้เมื่อมีADP และ AMPเกิดขึ้นมาก สารทั้งสองนี้จะเร่ง การสลายกลูโคสโดยวิถีไกลโคไลซิส
กระบวนการเมแทบอลิซึม
ของคาร์โบไฮเดรต
วิถีไกลโคไลซิส
ปฏิกิริยาการเปลี่ยนรูปไพรูเวท ไพรูเวทเป็นผลิตผลสุดท้ายในวิถีไกลโคไลซิสที่ได้จากการย่อยสลายกลูโคสเป็นสารตัวกลางที่สําคัญในแคแทบอลิซึมของคารโบไฮเดรตสามารถเปลี่ยนต่อไปเป็นสารประกอบที่มีคาร์บอน 2 หรือ 3 อะตอม
ปฏิกิริยาในวิถีไกลโคลิซิส วิถีไกลโคลิซิสแบ่งได้เป็น 2 ระยะโดยระยะแรก เป็นการลงทุน ในขั้นตอนของปฏิกิริยาที่ 1-5 ซึ่งกลูโคสจะสลายไปเป็นกลีเซอราลดีไฮด์-3-ฟอสเฟต
วัฏจักรเครบส์
ปฏิกิริยาในวัฏจักรเครบส์วัฏจักรเครบส์เกิดขึ้นในไมโทคอนเดรียประกอบด้วยปฏิกิริยาทัังหมด 8 ขั้น ตอนโดยอาศัยการเร่ง ของเอนไซม์ทัังหมด 8 ชนิดซึ่งมีภาพรวมของตัวกลางและพลังงานที่เกิดขึ้น
สรุป 1 รอบของวัฏ จักรเครบส์หมู่อะเซทิล (C2)จะเข้ารวมกับออซาโลอะซิเทต (C4) ได้เป็นซิเทรต (C6)จากนั้นจะมีการสูญเสีย C จากวัฏ จักรเครบส์ไปในรูปของ CO2 จํานวน 2 โมเลกุล และท้ายที่สุดจะได้ออกซาโลอะซิเทต (C4) กลับคืนมาอก
วิถีเพนโตสฟอสเฟต
วิถีการสังเคราะห์กลูโคส
ปฏิกิริยาการเปลี่ยนกลูโคส-6-ฟอสเฟสเป็นกลูโคส
ปฏิกิริยาการเปลี่ยนไพรูเวทให้เป็นฟอสโฟอีนอลเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นใน ไมโทคอนเดรียไพรูเวทผ่านเข้าไปในไมโทคอนเดรีย
ปฏิกิริยาเปลี่ยนฟรุกโทส-1,6-บิสฟอสเฟต เป็นฟรุกโทส-6-ฟอสเฟตใช้เอนไซม์ฟรุกโทสไดฟอสฟาเทส
การย่อยและการดูด
ซึมคาร์โบไฮเดรต
การดูดซึมคาร์โบไฮเดรต
การดูดซึมน้ำตาลทั้งสองชนิดนี้ต้องอาศัยตัวพาคือโซเดียมและพลังงานจาก ATP
การย่อยคาร์โบไฮเดรตชนิดอื่น ๆ
ซูโครสแลคโตสถูกย่อยสลายได้เป็นโมโนแซ็กคาไรด์ซึ่งซูโครสถูกย่อยโดยเอนไซม์ซูเครสหรือมีอีกชื่อหนึ่งว่าเอนไซม์อินเวอร์เทส
การย่อยเซลลูโลส
แต่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนตัวของกล้ามเนื้อในทางเดินอาหาร
เอนไซม์อะไมเลสจึงไม่สามารถย่อยได้
จึงไม่ใหคุณค่าทางอาหารสําหรับมนุษย์
การย่อยแป้ง
การย่อยแป้งใช้เอนไซม์อะไมเลสจากต่อมน้ำลายเเละตับอ่อน