Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 10 การพยาบาลเด็กที่มีปัญหา เซลล์เจริญผิดปกติ, น.ส.สุทธิกมล…
บทที่ 10 การพยาบาลเด็กที่มีปัญหา
เซลล์เจริญผิดปกติ
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)
เป็๋นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกัน
ประกอบด้วยอวัยวะ
ได้แก่
ม้าม
ไขกระดูก
ต่อมทอนซิล
ต่อมไทมัส
ตำแหน่งที่พบบ่อย
บริเวณคอ(Cervical Lympnode)
แบ่งเป็น
1.ชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin Lymphoma)
พบต่อมน้ำเหลืองจะโตมาเป็นปี
ไม่มีอาการเจ็บปวด
พบ Reed-Sternberg cell
2.ชนิดนอนฮอดจ์กิน (Non-Hodgkin Lymphoma)
อาการจะเร็วและรุนแรง
อาจมีก้อนที่ช่องท้อง ช่องอกหรือในระบบประสาท
Burkitt Lymphoma
มีต้นกำเนิดมาจาก B-cell
มีการแทรกกระจายในเนื้อเยื่อ
มีก้อนเนื้องอกที่โตเร็วมาก
มักพบเฉพาะที่
เช่น
ในช่องท้อง
รอบกระดูกขากรรไกร
การวินิจฉัย
การตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยา (Biopsy)
การตรวจไขกระดูก
CT scan
MRI
Bone scan
การตรวจ PET scan
การตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์
อาการ
เริ่มต้นที่พบบ่อย
มีไข้ หนาว สั่น เหงื่อออกมากตอนกลางคืน คันทั่วร่างกาย
เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลียไม่ทราบสาเหตุ
ไอเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก ต่อมทอนซิลโต
ระยะลุกลาม
ซีด มีเลือดออกง่าย
แน่นท้อง หรืออาหารไม่ย่อย ท้องโตขึ้น
แนวทางการรักษาในปัจจุบัน
การใช้ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy)
การฉายรังสี (Radiation Therapy)
การปลูกถ่ายเซลล์ต้นเนิด (Transplantation)
มะเร็งไต (Wilm Tumor)
หมายถึง
เนื้อไตชั้นพาเรนไคมา(Parenchyma) มีการ
เจริญผิดปกติจนกลายเป็นก้อนเนื้องอกภายในเนื้อไต
มีขนาดใหญ่ และคลำได้ทางหน้าท้อง
และมักจะเป็นที่ไตข้างใดข้างหนึ่ง
จะไม่ให้คลำบ่อย เพราะอาจทำให้ก้อนแตก
หรืออาจเกิดการแพร่กระจายของมะเร็ง
Neuroblastoma
เป็นเนื้องอกชนิดร้ายแรง
พบได้บ่อยในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี
มีต้นกำเนิดมาจากเซลล์ของระบบประสาท
เกิดบริเวณใดก็ได้ที่มีเนื้อเยื่อ Sympathetic nerve
อาการ
มีก้อนในท้อง
ท้องโต
ปวดท้อง
อาการอื่นๆ
ตาโปนมีรอยช้ำรอบตา(raccoon eyes)
มีไข้
ปวดกระดูก
ตำแหน่งที่พบก้อนครั้งแรกมากที่สุดคือต่อมหมวกไต
การตอบสนองต่อการรักษาจะไม่ดี
มีอัตราการตายสูง
การดูแลเด็กที่ได้รับยาเคมีบําบัด
ระยะการรักษา
ระยะชักนำให้โรคสงบ (induction phase)
เป็นการให้ยาเพื่อทำลายเซลล์ในเวลาอันสั้นให้มากที่สุด และมีอันตรายต่อเซลล์ปกติให้น้อยที่สุด
ใช้เวลา 4 – 6 สัปดาห์
ยาที่ใช้
Vincristine
Adriamycin
L – Asparaginase
Glucocorticoid
ระยะให้ยาแบบเต็มที่
(intensive or consolidation phase)
ให้ยาหลายชนิดร่วมกันภายหลังที่ผู้ป่วยอยู่ในระยะโรคสงบแล้ว
ใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์
ยาที่ใช้
Metrotrexate
6 – MP
Cyclophosephamide
ระยะป้องกันโรคเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง (CNS prophylaxis phase)
ให้ยาเพื่อป้องกันไม่ให้โรคลุกลามเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง
ยาที่ใช้
Metrotrexate,
Hydrocortisone
ARA – C
ระยะควบคุมโรคสงบ
(maintenance phase or continuation therapy)
ให้ยาเพื่อควบคุม และรักษาโรคอย่างถาวร
ยาที่นิยมใช้
6 – MP
ทานทุกวันร่วมกับ
การให้ Metrotrexate
การรักษาประคับประคอง
การรักษาทดแทน (Replacement therapy)
ให้เลือดเพื่อให.ระดับฮีโมโกลบินไม่น้อยกว่า 7-8 กรัม/ดล. ในระยะแรกก้อนโรคสงบ
การรักษาด้วยเกร็ดเลือด
วิธีนี้จะช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยได้สูง
วิธีการให้ยาเคมีบำบัด IT IV IM
ทางช่องไขสันหลัง
intrathecal
ทางกล้ามเนื้อ
หลังฉีดต้องระวังเลือดออก
ทางหลอดเลือดดํา vein
ต้องระวังการรั้วของยาออกนอกหลอดเลือด
ตัวอย่าง ยาเคมีบำบัดที่ใช้บ่อย
Cyclophosphamide และ Ifosfamide
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว
ออกฤทธิ์จับหรือรวมตัวกับดีเอ็นเอของเซลล์มะเร็ง
ส่งผลทำให้เพิ่มจำนวนไม่ได้
ผลข้างเคียง
การตกค้างของยาในกระเพาะปัสสาวะ
ทำให้เกิด Hemorrhagic cystitis
หลังให้ยาจะมีแผนการรักษาให้ตรวจ U/A
เพื่อดู RBC ในปัสสาวะ
แผนการรักษา
ให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำที่มากพอ Hydration
ให้ยา Mesnaเพื่อป้องกันการเกิดเลือดออกในกระเพาะปัสสาวะ
Methotrexate
รักษามะเร็ง Acute leukemia
โดยยับยั้งการสร้าง DNA
และ RNA และมีฤทธิ์กดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
มักจะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ตับ
ติดตามค่า Liver function Test และ
ภาวะแทรกซ้อนที่ไต Acute renal failure(ARF)
ติดตามการทำงานของไต BUN Cr.
เกิดอาการเคลื่นไส้ Nausea อาเจียน
Vomiting และ เยื่อบุช่องปากอักเสบ Stomatitis
Mercaptopurine(6-MP)
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน
โดยยับยั้งการสร้าง Purine
ยับยั้งการสร้างกรดนิวคลีอิกของ cell มะเร็ง
ยาตัวนี้ ผู้ป่วยจะได้รับกลับไปทานต่อที่บ้าน
L-asparaginase
กษาโรคมะเร็ง ALL ที่มีโอกาสเกิดการแพ้ยาสูง
มาก Anaphylaxis
ต้อง Test dose ก่อนให้ยา
มีผลต่อตับ
อ่อนในการรั่ง Insulin
มีผลให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
ต้องตรวจดูน้ำตาลในปîสสาวะ
การดูแลเด็กที่ได้รับยาเคมีบำบัดที่สำคัญคือ
การเกิดการรั่วซึมของยาเคมีบำบัดออกนอกหลอดเลือด (Extravasation of Cytotoxic agent )
จะมีอาการ
ปวด แสบร้อน บวม
มีการทำลายเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆเส้นเลือด
การดูแล
ปะคบเย็น ครั้งละประมาณ 20 นาที
ทำซ้ำอย่างน้อยวันละ 4 ครั้ง ในช่วง 1-2 วันแรก หรือตามแผนการรักษาของแพทย
Ondasetron(onsia)
ป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียน
ในผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด
Bactrim
ป้องกันการติดเชื้อฉวยโอกาส เนื่องจาก
ผู้ป่วยมีภูมิต้านทานต่ำ
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน แบ่งเป็น
1.มะเร็งเม็ดเลือดขาว ALL
(Acute lymphoblastic leaukemia)
พบบ่อยที่สุดในเด็ก
(ช่วงอายุ 2-5 ปี)
ความหมาย Leukemia
เกิดจากความผิดปกติของ Stem cell ที่อยู่ในไขกระดูก
cell ที่ผิดปกติถูกปล่อยออกมาในกระแสเลือด
ในรูปของ Blast cell ซึ่งเป็นเซลเม็ดเลือดขาวตัวอ่อน
การแบ่งตัวที่ผิดปกติ ไม่สามารถ differentiate
ไปเป็นเซลล์ตัวแก่ได้
จำนวนเม็ดเลือดขาวตัวอ่อนมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั่วร่างกายทำให้การสร้างเม็ดเลือดแดงและเกร็ดเลือดลดลง
อาการ
ซีด
เลือดออกง่าย
เช่น
ออกตามไรฟัน
มีจ้ำขึ้นบนตามตัว
มีประจำเดือนมากผิดปกติ
ติดเชื้อง่าย
มีก้อนขึ้นที่ขาหนีบ
แบ่งเป็น 2 ชนิด
T-cell lymphoblastic leukemia
B-cell lymphoblastic leukemia
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด AML
(Acute myelogenous leukemia
หรือ Acute myeloid leukemia
พบได้ใน
ผู้ใหญ่มากกว่าในเด็ก
พบในผู้ชายบ่อยกว่าผู้หญิง
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิด CLL
(Chronic lymphocytic leukemia)
พบได้บ่อยในผู้ใหญ่
มีความชุกของโรคมากขึ้นตามอายุ
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิด CML
(Chronic myelogenous leukemia)
พบได้น้อย
พบในเด็กและผู้ใหญ่
พบในเด็กอายุ
มากกว่า 4 ปี
สาเหตุ
1.ปัจจัยทางด้านพันธุกรรม
2.ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม
ได้รับสี ไออนไนซ์
ได้รับยาเคมีบำบัดในการรักษาโรคมะเร็งชนิดอื่นมาก่อน
ได้รับสารเคมีต่างๆ เช่นควันบุหรี่ การสูบบุหรี่
การวินิจฉัย
เจาะเลือดตรวจหาเซลล์เม็ดเลือดตัวอ่อนของเม็ดเลือดขาว Blast cell
ทำการยืนยันโดยการเจาะไขกระดูก Bone marrow Transplanted เพื่อ
ดูให้ชัดเจนอีกครั้งว่ามีการแบ่งตัวที่ผิดปกติในไขกระดูกจริงหรือไม่
น.ส.สุทธิกมล หนองเหล็ก เลขที่ 91 ปี 2 รุ่น 37
รหัสนักศึกษา 62111301094