Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

High risk : Hx Asthma Notify : Teenage Pregnancy Preterm 👩🏻 นศพต.อรยา…

- - - - Hb : 10.9
        Hct : 33.1
        VDRL : Neg
        HIV Ab : Neg
        HBsAg : Neg
        HBsAg : -
        ABO gr : A Rh positive
        Ab screening : Neg
      - Hb typing
        ภรรยา
        MCV 83.6 fl
        Hb E screen Positive
        
        นัดสามีมาตรวจเลือดวันที่ 23/11/63
    - - Hb typing
        สามี
        MCV 82.6 fl
        ผลการตรวจชนิดของ Hb คือ A2A
        การวัดปริมาณของ Hb A2 คือ 2.3%
        Interphete : Normal or non clinically significant thalassemia
- - - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        มารดาเป็น teenage pregnancy
        
        มารดามีโรคประจำตัว คือ โรคหอบหืด (Asthma)
        
        วัตถุประสงค์
        หญิงตั้งครรภ์ไม่คลอดก่อนกำหนด
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        หญิงตั้งครรภ์บอกว่า ไม่เจ็บครรภ์ไม่มีอาการท้องแข็งหรืออาการตึงบริเวณท้อง ไม่มีการหดรัดตัวของมดลูกหรือมีการหดรัด ตัวของมดลูกไม่สม่ำเสมอมากกว่า 10 นาที ต่อครั้ง ไม่มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด ไม่มีน้ำเดิน
        
        หญิงตั้งครรภ์ไม่มีข้อบ่งชี้ในการคลอดก่อนกำหนด ผล ultrasound screening ปกติ
        
        FHS อยู่ในช่วง 110-160 ครั้ง/นาที
        
        ขนาดยอดมดลูกสัมพันธ์กับอายุครรภ์
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ตรวจครรภ์ทุกครั้งที่มาฝากครรภ์ 4 ท่า ดังนี้
        fundal grip เพื่อวัดขนาดยอดมดลูกและหาส่วนนำ
        umbilical grip เพื่อหา large part and small part และเพื่อจะฟัง FHS
        pawlik grip เพื่อหาส่วนนำ และbilateral inguinalgrip เพื่อดูการเคลื่อนลงต่ำของศีรษะ และวัดขนาดยอดมดลูกด้วยสายวัด
        2.แนะนำมารดาเกี่ยวกับการป้องกันภาวะเจ็บครรภ์ก่อนกำหนด ได้แก่
        
        การพักผ่อนให้เพียงพอ กลางคืนนอน 8-10 ชั่วโมง กลางวันนอน 1-2 ชั่วโมง
        
        รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
        
        แนะนำให้รับประทานแคลเซียม ขนาด 1 กรัม/วัน
        
        ดูแลไม่ให้ท้องผูก
        
        ไม่ออกกำลังกายหักโหม
        
        ไม่ทำงานหนัก ยกของหนัก เดินนานๆ ยืนนานๆ
        
        งดการมีเพศสัมพันธ์ หรือมีในท่าที่ปลอดภัย
        
        ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีควันบุหรี่
        
        แนะนำการออกกำลังเกี่ยวกับการยืดเหยียด ไม่ออกกำลังกายที่หนักเกินไป
        
        อาการผิดปกติที่ต้องรีบมาโรงพยาบาล ได้แก่ มีเลือดออก ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว จุกแน่นลิ้นปี่ คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะแสบขัด
        
        การประเมินผล
        
        หญิงตั้งครรภ์บอกว่า ไม่เจ็บครรภ์ไม่มีอาการท้องแข็งหรืออาการตึงบริเวณท้อง ไม่มีการหดรัดตัวของมดลูกหรือมีการหดรัด ตัวของมดลูกไม่สม่ำเสมอมากกว่า 10 นาที ต่อครั้ง ไม่มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด ไม่มีน้ำเดิน
        
        หญิงตั้งครรภ์ไม่มีข้อบ่งชี้ในการคลอดก่อนกำหนด ผล ultrasound screening ปกติ
        
        FHS อยู่ในช่วง 110-160 ครั้ง/นาที
        
        ขนาดยอดมดลูกสัมพันธ์กับอายุครรภ์
  - - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        หญิงตั้งครรภ์มีโรคประจำตัว คือ โรคหอบหืด (Asthma)
        
        อายุครรภ์ 29+3 wks มดลูกขนาดใหญ่ขึ้นและมีการยกตัวสูงขึ้นของกระบังลม
        
        หญิงตั้งครรภ์และสามี มีอาชีพขายเสื้อผ้า
        
        สามีของหญิงตั้งครรภ์สูบบุหรี่
        
        วัตถุประสงค์
        ไม่มีการกำเริบของโรคหอบหืด
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        หญิงตั้งครรภ์ไม่มีอาการของโรคหอบหืด เช่น หายใจลำบาก ไอ หายใจเร็ว ชีพจรเร็ว
        
        หญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ไม่เกิดอันตรายจากอาการของโรคหอบหืด
        
        หญิงตั้งครรภ์มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการกำเริบของโรคหอบหืดและปฏิบัติตามคำแนะนำ
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        แนะนำให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีตัวกระตุ้นอาการหอบหืด เช่น บริเวณที่มีเศษจากผ้า บริเวณที่มีฝุ่น หรือผงละอองขนาดเล็ก อากาศร้อนหรือเย็นเกินไป สถานที่แออัด
        และควันบุหรี่
        
        แนะนำให้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
        
        รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ นม ไข่ และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2,500 - 3,000 ml. และรับประทานอาหารที่มีไอโอดีน เช่น ปลาทะเล
        
        ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ปอดและร่างกายแข็งแรง โดย บริหารการหายใจ (breathing exercise) บริหารร่างกาย เช่น เดินช้าๆ บริหารแขนขา
        
        สังเกตและบันทึกการดิ้นของทารกในครรภ์ แนะนำหญิงตั้งครรภ์สังเกตและนับการดิ้นของทารกในครรภ์ โดยนับหลังรับประทานอาหารแต่ละมื้อ วันละ 3 ครั้ง รวมกันต้องมากกว่า 10 ครั้ง/วัน ถ้าน้อยกว่า 10 ครั้ง/วัน หรือดิ้นน้อยลงหรือไม่ดิ้นให้รีบมาพบแพทย์
        
        แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์สังเกตอาการกำเริบของโรคหอบหืด เช่น อาการหายใจลำบากและไอ หายใจเร็ว ชีพจรเร็ว ให้มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลและห้ามซื้อยาเอง
        
        แนะนำเกี่ยวกับอาการที่ต้องมาโรงพยาบาลทันที
        
        มีเลือดหรือมูกออก หรือมีน้ำเดิน -มีอาการเจ็บครรภ์จริง คือ เจ็บถี่ทุก 5-10 นาที ร้าวจากหลังไปท้องและหน้าขา เปลี่ยนท่าไม่หาย
        
        เน้นการมาตรวจตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
        
        การประเมินผล
        
        หญิงตั้งครรภ์ไม่มีอาการของโรคหอบหืด เช่น หายใจลำบาก ไอ หายใจเร็ว ชีพจรเร็ว
        
        หญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ไม่เกิดอันตรายจากอาการของโรคหอบหืด
        
        หญิงตั้งครรภ์มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการกำเริบของโรคหอบหืดและปฏิบัติตามคำแนะนำ
  - - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        ผลการตรวจ Hb typing ผู้ป่วย
        MCV 83.6 fL
        Hb E screening (DCIP) : Positive
        
        วัตถุประสงค์
        เพื่อประเมินความเสี่ยงของทารกในการเป็นธาลัสซีเมีย
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        ผลการตรวจเลือดสามีของหญิงตั้งครรภ์
        MCV (Hb typing) อยู่ในช่วง 79.9 - 97.6 fL
        ผลการตรวจชนิดของ Hb ไม่เป็น EE ไม่มีเบต้าแฝง
        การวัดปริมาณของ Hb A2 น้อยกว่า 4.0%
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        1.ซักประวัติเพื่อหาปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดธาลัสซีเมียของทารกในครรภ์ เช่น โรคประจำตัว
        
        ให้หญิงตั้งครรภ์พาสามีมาตรวจคัดกรอง Thalassemia
        
        อธิบายถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรองธาลัสซีเมีย เพื่อหาแนวหาทางการดูแลและรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
        
        การประเมินผล
        
        ผลการตรวจเลือดสามีของหญิงตั้งครรภ์ MCV 82.6 fL
        ผลการตรวจชนิดของ Hb คือ A2A
        การวัดปริมาณของ Hb A2 คือ 2.3%
        Interphete : Normal or non clinically significant thalassemia
        Non-thalassemia couple risk
    - - ข้อมูลสนับสนุน
        -หญิงตั้งครรภ์อายุ 18 ปี เป็น Teenage Pregnancy
        -สามีของหญิงตั้งครรภ์สูบบุหรี่
        -หญิงตั้งครรภ์อยู่ในไตรมาสแรก
        
        วัตถุประสงค์
        หญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        หญิงตั้งครรภ์ไม่เกิดการแท้ง ไม่มีเลือดออกพร้อมกับมีชิ้นเนื้อ ทางช่องคลอดและไม่ปวดท้องน้อย
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร ให้เน้นโปรตีนเนื้อนมไข่ รับประทานครั้งละน้อยๆแต่บ่อยครั้ง หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ของหมักดอง ลดอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสจัด
        
        ให้คำแนะนำให้หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ อธิบายถึงโทษของควันบุหรี่มือสองให้หญิงตั้งครรภ์รับทราบ ว่าอาจจะทำให้ทารกได้รับอันตราย และพิการแต่กำเนิดได้
        
        บอกให้หญิงตั้งครรภ์หลีกเลี่ยงการกระทบกระแทกบริเวณหน้าท้อง การวิ่งหรือการกระโดดสูงและระวังอุบัติเหตุต่างๆ ออกกำลังกายด้วย
        การยืดเหยียดแขนขาเบาๆ
        
        บอกให้หญิงตั้งครรภ์หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีต่างๆ เช่น ยาฆ่าแมลง การยืด ดัด ย้อมผม
        
        หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์แบบรุนแรง โดยเฉพาะช่วงตั้งครรภ์อ่อนๆ
        
        แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด และปล่อยวาง
        
        แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ควบคุมโรคประจำตัวคือ Asthma ปฏิบัติตัวตามแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
        ไม่ไปอยู่ในที่ที่มีฝุ่นละอองขนาดเล็ก และที่สำคัญไม่ควรซื้อยารับประทานเองเด็ดขาด
        
        เน้นย้ำเรื่องการมาฝากครรภ์ตามนัด และบอกประโยชน์ของการฝากครรภ์ ว่ามีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ รวมถึงเป็นการคัดกรองความผิดปกติต่างๆและการได้รับคำแนะนำในการดูแลตนเองในแต่ละไตรมาส
        
        การประเมินผล
        
        หญิงตั้งครรภ์ไม่เกิดการแท้ง ไม่มีเลือดออกพร้อมกับมีชิ้นเนื้อ ทางช่องคลอดและไม่ปวดท้องน้อย
    - - ข้อมูลสนับสนุน
        -หญิงตั้งครรภ์ 18 ปี เป็น Teenage Pregnancy
        -ผลการตรวจ CBC
        Hb = 10.9 g/dL
        
        วัตถุประสงค์
        เพื่อป้องกันภาวะซีดจากPhysiologic anemia
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        หญิงตั้งครรภ์ไม่มีอาการซีด เช่น Conjunctiva ไม่ซีด เยื่อบุช่องปากไม่ซีด สีเล็บไม่ซีด
        
        ผลการตรวจ CBC
        Hb อยู่ในช่วง 11-15.5 g/dL
        Hct อยู่ในช่วง 33 - 46.6%
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        แนะนำวิธีการดูแลตนเอง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีธาตุเหล็กและกรดโฟลิก เช่น ไข่ ผักโขม อาโวคาโด ถั่วแดง และเน้นอาหารประเภทเนื้อ นม ไข่
        
        ให้คำแนะนำหญิงตั้งครรภ์ ให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ กลางคืนนอน 8-10 ชั่วโมง กลางวันนอน 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รับออกซิเจนเพียงพอและไม่อ่อนเพลีย
        
        ให้คำแนะนำหญิงตั้งครรภ์ สังเกตอาการภาวะซีดของตนเอง เช่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย มึนงง ใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน
        
        ดูแลให้รับประทานยาตามแผนการรักษา คือ Ferrous fumarate 1x2, Nataral 1x1, Calcium 1x1 เพื่อบำรุงโลหิตและร่างกาย
        
        การประเมินผล
        
        หญิงตั้งครรภ์ไม่มีอาการซีด เช่น Conjunctiva ไม่ซีด เยื่อบุช่องปากไม่ซีด สีเล็บไม่ซีด
        
        ไม่มีผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม
- - - - การตั้งครรภ์ในสตรีวัยรุ่น (Teenage or adolescent pregnancy) หมายถึง การตั้งครรภ์ในสตรีที่มีอายุระหว่าง 10-19 ปี
        
        หญิงตั้งครรภ์อายุ 18 ปี
    - - 1.ปัจจัยด้านสตรีวัยรุ่น
        
        การเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจ
        
        การจัดการเรียนการสอนเพศศึกษาที่ไม่จริงจัง
        
        หญิงตั้งครรภ์มีบุตรคนแรกตอนอายุ 14 ปี ไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่ได้รับการเรียนการสอนเพศศึกษาอย่างจริงจัง
        
        การดื่มสุรา/การใช้สารเสพติดต่างๆ
      - 2.ปัจจัยด้านครอบครัว
        
        สัมพันธภาพในครอบครัวไม่ดี
        
        การถูกข่มขืนโดยบุคคลในครอบครัว
        
        พ่อแม่ที่ต้องทำงานจนไม่มีเวลาให้กับลูก
      - 3.ปัจจัยด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
        
        การเปลี่ยนแปลงของสังคม วัฒนธรรม ค่านิยม
        
        ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
    - - ผลต่อสตรีตั้งครรภ์วัยรุ่น
        
        ด้านร่างกาย
        
        การเจริญเติบโตของร่างกายหยุดชะงัก/พัฒนาการทางร่างกายไม่สมบูรณ์
        
        ภาวะแทรกซ้อนต่างๆตามมา เช่น คลอดก่อนกำหนด
        
        หากเป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่วางแผน อาจส่งผลให้สตรีวัยรุ่นเกิดภาวะทุพโภชนาการ โลหิตจาง
        
        ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ Hct = 10.9%
        
        การเจริญเติบโตของระบบต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์
        
        ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
        
        ทุพโภชนาการ โลหิตจางจากขาดธาตุเหล็ก
        
        ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
        
        การติดเชื้อระหว่างการตั้งครรภ์
        
        CPD ระยะคลอดยาวนาน
        
        อัตราการตายของมารดาสูงขึ้น
        
        การตกเลือดระยะหลังคลอด
        
        ด้านจิตสังคม
        
        มีปัญหาเรื่องการปรับตัว เนื่องจากวุฒิภาวะทางอารมณ์ยังเจริญไม่เต็มที่
        
        อาจเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของตนเอง
        
        เกิดความรู้สึกสูญเสียคุณค่าในตนเอง
        
        การปรับตัวต่อบทบาทการเป็นมารดาล่าช้า
      - ผลต่อทารก
        
        ทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อย คลอดก่อนกำหนด ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
        
        ทารกได้รับการดูแลไม่เหมาะสมทั้งร่างกายและจิตใจ
      - ผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม
        
        ทำให้เสียโอกาสในการพัฒนาตนเอง
        
        เกิดปัญหาทางสังคมจากการละทิ้งทารก
    - - ระยะตั้งครรภ์
        
        1.แสดงความสนใจ เอาใจใส่ ให้ความเห็นใจ เข้าใจปัญหา แนะนำแนวทางแก้ไขปัญหาและดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างเหมาะสม
        
        2.ให้คำปรึกษาและแนะนำทางเลือกในการตั้งครรภ์
        
        3.ให้ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จิตใจ พัฒนาการและการเจริญเติบโตของทารก
      - ระยะคลอด
        
        3.แนะนำมารดาหลังคลอดให้งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 6 สัปดาห์
        
        5.ส่งเสริมการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา
        
        2.สังเกตอาการผิดปกติที่ควรมาโรงพยาบาล
        
        6.ส่งเสริมการปรับตัวเข้าสู่บทบาทการเป็นมารดา
        
        1.เฝ้าระวังไม่ให้เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด
        
        4.แนะนำก่อนกลับบ้านเน้นการวางแผนการเลี้ยงดูบุตร การวางแผนครอบครัว การคุมกำเนิด เว้นระยะห่างการมีบุตรอย่างน้อย 2-3 ปี
        
        ยาฝังคุมกำเนิด อยู่ได้ 3-5 ปี
        
        ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว
        
        ยาฉีดคุมกำเนิด
        
        ห่วงอนามัย
        
        การใช้ถุงยางอนามัย
  - - - ทารกที่เกิดมามีอายุครรภ์ น้อยกว่า 37 สัปดาห์
    - - เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
        
        มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 28-น้อยกว่า 37 สัปหาด์ ทารกมีน้ำหนักมากกว่า 1000 กรัม แต่น้อยกว่า 2500 กรัม
      - เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดคุกคาม
        
        การเจ็บครรภ์ และคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์
        โดยมีการหดรัดตัวของมดลูกอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 1 ครั้ง ทุก 10 นาที
      - การเจ็บครรภ์เตือน
        
        การเจ็บครรภ์ และคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์
        มีการหดรัดตัวของมดลูกไม่สม่ำเสมอ
      - Indicated preterm labor
        
        การคลอดก่อนกำหนดโดยข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ เช่น รกเกาะต่ำ
    - - 1.ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
        
        มารดาฟันผุ
        
        การเสพโคเคน บุหรี่
        
        สามีของหญิงตั้งครรภ์สูบบุหรี่
        
        ครรภ์แฝด แฝดน้ำ
        
        น้ำเดิน
        
        ครรภ์เป็นพิษ
        
        รกลอกตัวก่อนกำหนด รกเกาะต่ำ
        
        การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
        
        การติดเชื้ออวัยวะสำคัญ
        
        การติดเชื้อที่ถุงน้ำคร่ำ
        
        มารดาเป็นความดันโลหิตสูง
        
        มีความผิดปกติของมดลูก/ปากมดลูก
      - 2.ทารก
        
        ขาดออกซิเจน ทารกโตช้า ทารกตายในครรภ์
        
        ทารกพิการตั้งแต่กำเนิด
      - 3.ความผิดปกติที่โพรงมดลูก
        ตัวมดลูกผิดปกติ ปากมดลูกหลวม
      - 4.การใช้ชีวิตของสตรีตั้งครรภ์ ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เครียด วิตกกังวล
      - อายุน้อย อายุน้อยกว่า 20 ปี มากกว่า 35 ปี ตัวเตี้ย ส่วนสูงน้อยกว่า 145 cm. เศรษฐานะไม่ดี เครียด
        
        หญิงตั้งครรภ์อายุ 18 ปี
    - - 1.อายุครรภ์เท่ากับ/มากกว่า 28 สัปดาห์ ไม่เกิน 37สัปดาห์
        มีการหดรัดตัวของมดลูกสม่ำเสมอ อย่างน้อย 4 ครั้ง
        ใน 20 นาที นานอย่างน้อย 30 วินาที
      - 2.ตรวจปากมดลูก
      - 3.ปากมดลูกขยายมากกว่า 1 cm.
      - 4.คอมดลูกเป็นทรงกระบอกยาว ประมาณ 2.5-3 cm.
  - - - เป้าหมายของการรักษาโรคหอบหืดขณะตั้งครรภ์ คือ เพื่อคงรักษาระดับของออกซิเจนให้อยู่ในระดับปกติ โดยป้องกันภาวะขาดออกซิเจนของมารดา เป้าหมายรองลงมาคือ ลดการกำเริบและอาการแสดง
    - - หอบหืด เป็นภาวะที่มีการอักเสบเรื้อรังของทางเดินหายใจ และมีการอุดตันของทางเดินหายใจแบบที่มีการกลับคืนมาบางส่วนหรือทั้งหมด โดยมีปัจจัยทางพันธุกรรมส่งเสริม พบว่ายีนบนโครโมโซม เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของการตอบสนองของระบบทางเดินหายใจ, การอักเสบของทางเดินหายใจ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม ได้แก่ เชื้อไข้หวัดใหญ่, ควันบุหรี่ ก็มีผลกระตุ้นอาการหอบหืด
        
        ปัจจัยกระตุ้นของหญิงตั้งครรภ์คือ เศษฝุ่นจากผ้าเพราะตอนเด็กๆ ที่บ้านมีอาชีพรับเย็บผ้า และอีกสิ่งกระตุ้นคือฝุ่น
    - - ผลต่อมารดา
        
        ได้แก่ แท้ง การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด อัตราการตายสูงขึ้น (30-60%) ในรายที่มี status athmaticus คือ อาการรุนแรงจนไม่มีการตอบสนองต่อการรักษา เสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูงร่วมกับการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น pneumothorax และ cardiac arrhymias และมีการหยุดหายใจจากกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนล้า
        
        ในรายที่มีอาการรุนแรงเสี่ยงต่อ ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ (preeclampsia), ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด (placenta abruption), รกเกาะต่ำ(placenta previa) ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gastational Diabetes) เนื่องจากความดันโลหิตสูงและความผิดปกติของหลอดเลือด
        
        ความดันโลหิตสูง (hypertension)
        
        สูญเสียเลือดจากการทำหน้าที่ของมดลูก (Uterine hemorrhage)
        
        มารดาเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการจับหืด
        (asthmatic attack)
      - ผลต่อทารก
        
        ทารกคลอดก่อนกำหนด
        
        เสียชีวิตในครรภ์
        
        แรกคลอดน้ำหนักตัวน้อย (low birth weight)
        
        เจริญเติบโตช้าในครรภ์ (intrauterine growth restriction)
        
        อาจเกิดภาวะพร่องออกซิเจน
        
        มีโอกาสเป็นโรคหอบหืด จากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
    - - ไอ เกิดจากหลอดลมเกร็งตัว เยื่อบุทางเดินหายใจบวมและมีเสมหะขังอยู่ เสมหะอุดกั้นทางเดินหายใจ
      - ขณะหายใจลำบากจะต้องใช้กล้ามเนื้ออื่นๆช่วย เช่น กล้ามเนื้อที่คอและไหล่
      - หายใจลำบาก มีเสียงหวีด(wheezing) แน่นหน้าอก
      - หายใจเร็ว ชีพจรเร็ว เหงื่อออกมาก ทำให้ผู้ป่วยมีความกลัวและอ่อนเพลียจนไม่สามารถพูดคุย รับประทานอาหารได้
    - - จากการซักประวัติอาการและอาการแสดง และสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการ
      - มีอาการไอเรื้อรัง โดยเฉพาะไอหลังเป็นไข้หวัด
      - ประวัติโรคภูมิแพ้ ประวัติการเจ็บป่วยของสมาชิกในครอบครัวที่เป็นโรคหอบหืด
      - ตรวจร่างกายจะได้ยิน wheezing หรือ rhonchi ที่ปอดทั้ง 2 ข้าง
      - ตรวจเสมหะ ย้อมเชื้อ ตรวจเอกซ์เรย์ทรวงอก
      - ตรวจครรภ์อาจพบความสูงของยอดมดลูกไม่สัมพันธ์กับอายุครรภ์
    - - การดำเนินของโรคมักแปรปรวน ไม่สามารถทำนายได้ระหว่างการตั้งครรภ์ จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าประมาณ 1/3 ดีขึ้น, 1/3 ไม่เปลี่ยนแปลง และ 1/3 แย่ลง ในมารดาที่เป็น mild , moderate และ severe persistent พบอัตราการกำเริบ (Acute exacerbation) 12.6%, 25.7% และ 51.9% ตามลำดับ พบว่ามารดาที่มีภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์หรือน้ำหนักขึ้นมากกว่าปกติในไตรมาสแรกเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดการกำเริบของโรคระหว่างตั้งครรภ์ และการกำเริบพบได้บ่อยในไตรมาสที่สองหรือช่วงอายุครรภ์ 17-24 สัปดาห์ สำหรับในระยะคลอด มีรายงานว่าในกลุ่ม mild/moderate persistent มีโอกาสกำเริบได้ถึง 20 %และพบมากขึ้น 18 เท่าในรายที่ผ่าตัดคลอดเทียบกับคลอดทางช่องคลอด
        
        หญิงตั้งครรภ์ มีโรคประจำตัวคือ หอบหืด (Asthma) เป็นมาตั้งแต่เด็ก อาการคือ หายใจลำบาก และมีอาการไอ เคยรักษาโดยการใช้ยาพ่น ไม่มีอาการมา 2 ปีแล้ว ตอนคลอดบุตรคนแรกไม่มีอาการของโรคหอบหืด ปัจจุบันไม่มีอาการของโรคหอบหืดและไม่ได้ใช้ยารักษา และดูแลตัวเองคือ หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ไม่สัมผัสสิ่งกระตุ้น คือ เศษผ้า
    - - หลักการของการใช้ยาขณะตั้งครรภ์ไม่แตกต่างจากขณะไม่ตั้งครรภ์ เพื่อให้คุมอาการของโรคได้ ตามถึงแม้ว่าอาจยังเป็นที่กังวลถึงการใช้ยาขณะตั้งครรภ์เนื่องจากข้อมูลด้านความปลอดภัยยังไม่มีการยืนยันชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยยาทั้งกลุ่มบรรเทาและควบคุมอาการนั้นพบว่ามีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงอย่างชัดเจน