Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ชายไทยอายุ 32 ปี mc ชน mc - Coggle Diagram

- - - - เกิดอะไรขึ้น อาการที่เกิดภายหลังกระดูกหัก เมื่อใด ที่ไหน รักษามาอย่างไร
    - - 1.การดู(Inspection)
        
        สังเกตบาดแผล รอยช้ำ อาการบวม
      - 2.การคลำ (palpation)
        
        การคลำปุ่มกระดูก
        
        การเคลื่อนของแขนและขา
      - 3.การวัด(measurement)
        
        การวัดเส้นรอบวงเพื่อดูอาการบวม
      - 4.การตรวจกำลังของกล้ามเนื้อ (motor power) 6 เกรด
      - การฟัง (auscultation)
        
        ฟังว่ามีการเคลื่อนไหวหรือกระดูกหลุดหรือไม่
    - - 4.ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
      - ค่า CBC
      - ค่า Urinalysis
  - - - ระยะอักเสบ (inflammatory stage) หรือ hematoma formation กล่วคือ จะมีเสือดออก เกิดก้อนเลือด ร่วมกับการฉีกขาดของเยื่อหุ้มกระดูก ทำให้เกิดการคั่งของเลือด กระบวนการนี้เกิดภายใน 24 ชั่วโมง
      - ระยะการสร้างแคลลัสเริ่มต้น (fibrocartlaginous callus formation stage) โดยจะเริ่ม ตั้งแต่ 16 ชั่วโมง หลังกระดูกหักมีการสร้างหลอด เลือดใหม่เซลล์กระดูกอ่อน (cartilage cell) เชลล์พังผืด (fibroblastic cell) เชลล์กระดูก (osteoblast) บริเวณเยื่อหุ้มกระดูก ของกระดูกที่บาดเจ็บ ในวันที่ 2-4 หลังกระดูกหัก
      - ระยะสร้างแคลลัสที่แข็งแรง (bony callus formation stage) มีการสร้างสารกระดูก (osteoid) ทำให้เกิดการสร้างกระดูกใหม่ (new bone formation) เรียกว่าแคลลัส(callus) ห่อหุ้ม พบใน 2-6 สัปดาห์
      - ระยะการปรับแต่งของกระดูก (remodeling stage) ระยะปรับแต่งจะเกิดขึ้นร่วมกับระยะ ซ่อมแชม คือมีการสร้างเซลล์กระดูกใหม่ และการทำลายกระดูกส่วนที่เกิน ให้กระดูกมีรูปร่างคงเดิม ใช้เวลา 6สัปดาห์ - 1 ปี
  - - - กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ประเมินภาวะปวดโดยใช้ pain scale ทุกเวร
        
        2.ตรวจวัดสัญญาณชีพของผู้ป่วยทุกๆ4 ชั่วโมง
        
        3.ให้การพยาบาลผู้ป่วยอย่างนุ่มนวล ขออนุญาตผู้ป่วย/ให้เหตุผลก่อนให้การพยาบาล
        
        4.บันทึกลักษณะ อาการ ปวด ความรุนแรง และความถี่ของการปวด
        
        5.จัดท่านอนหงายศีรษะสูง/ท่านอนให้อยู่ในท่าที่สุขสบาย
        
        6.รายงานแพทย์ กรณีอาการปวดของผู้ป่วยไม่ลดลง หรือปวดรุนเเรงขึ้น
        
        7.ดูเเลให้ผู้ป่วยได้รับยาตามเเผนการรักษาของแพทย์
        
        8.ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีการผ่อนคลาย ลดสิ่งเร้าทางอารมณ์ ดูเเล
        ให้สิ่งเเวดล้อมสะอาด เงียบสงบ
        
        9.ดูเเลให้การพยาบาลผู้ป่วยไม่ให้รบกวนต่อการนอนหลับ/พักผ่อนของผู้ป่วย
- - - - ตับกลีบขวาได้รับการบาดเจ็บระดับ 5 พบรอยฉีกขาดของตับมากกว่าร้อยละ 75 หรือ มากกว่า 3 กลีบ
        ภายในตับข้างเดียวกันหรือพบการ บาดเจ็บของเส้นเลือดดำบริเวณรอบตับ retrohepatic venacava หรือ
        central majorhepaticvein
      - ไตข้างขวาได้รับการบาดเจ็บระดับ 5 พบรอยฉีกขาดของเนื้อไตเป็นแฉกๆ
        หรือการ ฉีกขาดบริเวณ ureteropelvic junction พบการ บาดเจ็บชนิดมีการฉีกขาด
        ของเส้นเลือดที่มาเลี้ยง ไตหรือมีการอุดตันของเส้นเลือด main renal artery และ vein
        หรือพบว่าไม่มีเลือดไปเลี้ยงไต
      - ต่อมหมวกไตได้รับการบาดเจ็บระดับ 5 พบมีรอยฉีกขาดแบบเปื่อยยุ่ย
      - ม้ามได้รับการบาดเจ็บระดับ 5 พบรอยฉีกขาดของม้ามแบบเปื่อยยุ่ยหรือขาดของเส้นเลือดไปเลี้ยงม้าม
    - - การบาดเจ็บเกิดได้ตั้งแต่ผนังหน้าท้อง เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ไขมัน กล้ามเนื้อ และเยื่อบุภายใน การบาดเจ็บมีตั้งแต่เล็กน้อย ฟกช้ำทั่วไปจนรุนแรง เช่น อุบัติเหตุรถยนต์ ผู้ขับรถถูกพวงมาลัยอัดอย่างแรง ถูกทับร่างกาย ส่วนใหญ่มักบาดเจ็บที่ตับ ม้าม เพราะอวัยวะที่มีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้าช่องท้อง หรืออาจมีการบาดเจ็บของระบบทางเดินหายใจร่วมด้วย การตกจากที่สูงทำให้ร่างกายกระแทกกับวัตถุที่อยู่นิ่งอย่างรุนแรงทำให้อวัยวะในช่องท้องแตกหรือฉีกขาดเนื่องจากมีความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมักมีอวัยวะส่วนอื่นของร่างกายบาดเจ็บร่วมด้วย การบาดเจ็บในลักษณะนี้อวัยวะในช่องท้องจะได้รับอันตรายอย่างรุนแรงมักเป็นอันตรายต่อชีวิตเนื่องจากวินิจฉัยได้ยาก
  - - - Splenectomy
      - right hepatectomy
      - right nephrectomy
      - adrenalectomy
  - - - 1 การประเมินสภาพเบื้องต้น(Primary assessment)
      - การประเมินอวัยวะหรือระบบต่างๆของร่างกายโดยโดยไปยังบาดเจ็บควรตรวจซ้ำเป็นระยะระยะและทำอย่างต่อเนื่อง
    - - CT scan
- - - - ชนิดระบายแบบขวดเดียว
        
        ข้อดี
        
        ประกอบง่าย เหมาะสำหรับการระบายสารเหลวหรือลมปริมาณไม่มาก เคลื่อนย้ายสะดวกเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เริ่ม ambulate
        
        ข้อเสีย
        
        ในกรณีที่ปริมาณของสารเหลวเพิ่มมากขึ้น จะระบายออกได้ยากขึ้น