Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การใช้กระบวนการพยาบาลในการช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาทางจิตสังคม - Coggle…
การใช้กระบวนการพยาบาลในการช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาทางจิตสังคม
ผู้ที่มีพฤติกรรมไม่เป็นมิตร (Hostility)
ลักษณะผู้ที่มีพฤติกรรมไม่เป็นมิตร
ความไม่เป็นมิตรมีลักษณะคล้ายกับความโกรธมีพฤติกรรม
การทำลาย(Destructive)
บุคคล มีทัศนคติที่ถูกสะสมมาเรื่อย ๆ มีความคงทนเปลี่ยนไปได้ยากและเป็นปฏิกิริยาการ ตอบสนองที่รุนแรง ซับซ้อนโดยมีแต่ความเกลียดชงั อิจฉา ริษยา และมีความต้องการที่มักจับจ้องจะทำลาย สิ่งรอบข้าง
วิธีการบำบัดทางการพยาบาล
2.การจัดการกับสิ่งแวดล้อมและบุคคลรอบขา้งเพื่อป้องกันอันตรายพยาบาลสามารถทำ
ได้นี้
1.อาจจัดห้องแยกให้จำกัดพฤติกรรมในกรณีที่มีพฤติกรรมรุนแรง
2.เตรียมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างฉุกเฉิน
3.ทีมสุขภาพต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะความไม่เป็นมิตร
4.พยาบาลต้องอยู่ในอารมณ์ที่สงบสุขุมเยือกเย็น แต่ฉับไวให้การยอมรับพฤติกรรมของบุคคลนั้นลดสิ่งกระตุ้นยั่วยุอารมณ์ให้เกิดความไม่เป็นมิตร
3.เปิดโอกาสให้บุคคลนั้น ๆ ได้ระบายความรู้สึกคับข้องใจความไม่พอใจหรือความไม่เป็นมิตรสนับสนุนให้บุคคลดังกล่าวได้พิจารณาการกระทำของตนเองและการเรียนรู้การควบคุมตนเอง
1.พยาบาลต้องเร่งดำเนินการวิเคราะห์ว่าบุคคลมีภาวะความไม่เป็นมิตรหรือไม่เพื่อจะให้
การพยาบาลได้อย่างทันท่วงที
ผู้ที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว (Aggression)
ลักษณะของผู้ที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว
การกระทำหรือพฤติกรรมที่แสดงออกอย่างรุนแรงทั้งทางวาจาหรือทางกายซึ่งเกิดจากความคับข้องใจ / ไม่สมหวัง / ความโกรธหรือถูกระรานอาจแสดงออกกับบุคคลอื่นกับตนเองหรือสิ่งแวดล้อม
พฤติกรรมก้าวร้าวทางคำพูด: ใช้คำพูดตำหนิติเตียนวิพากษ์วิจารณ์พูดในแง่ร้ายเสียงดังขู่ตะคอกเอะอะอาละวาดวางอำนาจวาจาหยาบคาย
พฤติกรรมก้าวร้าวแสดงออกทางร่างกาย: มีสีหน้าทิ้งตึงแววตาไม่เป็นมิตรท่าทางไม่พอใจกระวนกระวายอยู่ไม่นิ่งไม่สนใจเรื่องการกินการนอนการขับถ่าย
วิธีการบำบัดทางการพยาบาล
1.สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัดให้ผู้ป่วยเกิดความรู้สึกไว้วางใจรู้สึกปลอดภัยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
ฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening) เปิดโอกาสให้ได้พูดระบายถึงความรู้สึกไม่พอใจออกมารับฟังโดยไม่ขัดจังหวะไม่ตำหนิไม่โต้แย้งหรือไม่แก้ตัวให้กับบุคคลใดขณะที่บุคคลนั้นพูดถึงสิ่งต่างๆในทางลบเมื่อความโกรธลดลงให้บุคคลนั้นสำรวจถึงสาเหตุที่ทำให้รู้สึกโกรธไม่พอใจเพื่อให้บุคคลดังกล่าวตระหนักถึงอารมณ์ที่เกิดขึ้น
จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการออกแรงเพื่อปลดปล่อยพลังงานส่วนเกินที่เกิดจากความกดดันความโกรธเช่นคนตรีออกกำลังกาย (การชกกระสอบทราย)
4.ให้คำแนะนำถึงวิธีการจัดการกับความโกรธในทางที่เหมาะสมจะสามารถแนะนำได้ในกรณีที่บุคคลนั้นมีภาวะอารมณ์ปกติสามารถรับรู้เข้าใจเหตุและผลได้
ผู้ที่มีพฤติกรรมรุนแรง (Violence)
วิธีการบำบัดทางการพยาบาล
ประเมินสภาพผู้ที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงโดยประเมินระดับความรุนแรงของพฤติกรรมประเมินอาการและการแสดงที่เป็นสัญญาณของพฤติกรรมเช่นการแสดงออกทางสีหน้านึ่งตึงแววตาไม่เป็นมิตรการเคลื่อนไหวกระวนกระวายอยู่นึ่งไม่ได้ประเมินการเปลี่ยนแปลงระดับความรู้สึกและอารมณ์อย่างเฉียบพลันและการศึกษาประวัติจากญาติเกี่ยวกับพฤติกรรมในอดีตมีหรือไม่อย่างไร 2. พยาบาลควรมีท่าทีที่เป็นมิตรสงบและให้เกียรติเพื่อให้เกิดความรู้สึกไว้วางใจสิ่งที่พยาบาลควรตระหนักเกี่ยวกับท่าทางในระหว่างให้การพยาบาลผู้ที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงเพราะทางทางของพยาบาลอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมรุนแรงของผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น
2.1 พยาบาลไม่ยืนเอามือเท้าเอวเพราะอาจดูเหมือนเป็นการวางอำนาจ
1.2 พยาบาลไม่ควรยืนเอามือไขว้ข้างหน้าเพราะอาจเป็นการแสดงออกถึงความกลัวหรือความวิตกกังวลของพยาบาล
1.3 ยืนเอามือไขว้หลังอาจจะเป็นการแสดงว่าพยาบาลซ่อนบางสิ่งเอาไว้ผู้ป่วยอาจมีความหวาดระแวงเพิ่มขึ้น 1.4 ควรยืนเอามือไว้ข้างๆตัวหรือาจยืนข้างๆเก้าอี้และเอามือจับเก้าอี้ไว้เพื่อให้เกิดความอุ่นใจซึ่งไม่ควรจะทำท่ายกเก้าอี้เพราะผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงอาจตีความหมายว่าพยาบาลท่าทายได้
ลักษณะของผู้ที่มีพฤติกรรมรุนแรง
เป็นความตั้งใจที่จะใช้กำลังทางกายเพื่อข่มขู่หรือกระทำอันตรายต่อตนเองผู้อื่นกลุ่มบุคคลหรือสังคมโดยจะส่งผลให้เกิดหรือมีความน่าจะเป็นสูงที่เกิดการบาดเจ็บเสียชีวิตการกระบทกระเทือนทางจิตใจพัฒนาการที่ผิดปกติหรือภาวะขาดแคลน
บทบาทพยาบาลในการจัดการกับพฤติกรรมก้าวร้าว
กลยุทธ์เพื่อการป้องกัน (preventive strategy) แนวทางที่สำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว ได้แก่ การตระหนักรู้ในตนเองของพยาบาล (self-awareness) การฝึกพฤติกรรมกล้าแสดงออก (assertive training) และการให้ความรู้กับผู้ป่วย (patient education) วิธีการที่จะช่วยให้สามารถควมคุมตัวเองได้ มีแนวทางดังนี้
1.ใหายใจเข้าออกยาว ๆ ลึก ๆ เพื่อให้สมองได้รับก๊าซออกซิเจน
อยู่ในท่าที่สบายและลงน้ำหนักเท้าอย่างสมดุล
การพูดกับตนเอง (self-talk) เพิ่มความรู้สึกมั่นใจในตนเองว่าความกลัวเป็นเรื่องปกติ แต่ฉันรู้สึกว่าควบคุมมันได้
กลยุทธ์ในระยะคาดว่าจะเกิดพฤติกรรม (anticipatory strategy) ได้แก่ การใช้เทคนิคในการติดต่อสื่อสาร (communication strategy)) การปรับสิ่งแวดล้อม (environmental change) การปรับพฤติกรรม (behavioral modifications) การรักษาด้วยยา (psychopharmacology)
1.การใช้เทคนิคในการสื่อสารพยาบาลเพื่อการป้องกันการเกิดพฤติกรรมก้าวร้าว
2.การปรับสิ่งแวดล้อม
3.การปรับพฤติกรรม เช่นการจำกัดพฤติกรรม
กลยุทธ์ในระยะเกิดพฤติกรรม (con tainment strategy) เมื่อใช้กลยุทธ์เพื่อการป้องกันและการใช้กลยุทธ์ในระยะคาดว่าจะเกิดพฤติกรรมไม่ประสบความสำเร็จกลยุทธ์สุดท้ายที่จะใช้คือการจัดการในภาวะวิฤต (crisis manage ment) โดยการใช้ห้องแยก (seclusion) และการผูกมัดผู้ป่วย
1.การใช้ทีมในการจัดพฤติกรรมก้าวร้าวของผู้ป่วย
2.การใช้ห้องแยก
3.การผูกมัดผู้ป่วย