Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Preterm with Severe IUGR - Coggle Diagram

- - - - Symmetrical intrauterine growth restriction หรือ Low growth profile มีอัตราการเจริญเติบโตที่ช้าในทุกอวัยวะ ซึ่งความผิดปกติมักเกิดตั้งแต่ระยะเริ่มแรกของการตั้งครรภ์
        
        จากสารเคมี การติดเชื้อไวรัส ความผิดปกติทางพันธุกรรม
      - Asymmetrical intrauterine growth restriction หรือ Late flattening มีขนาดเล็กในทุกระบบอวัยวะ ยกเว้นขนาดศีรษะที่ปกติหรือมีผลกระทบน้อยกว่าส่วนอื่นๆ โดยสาเหตุในกลุ่มนี้มักเกิดในช่วงระยะท้ายของการตั้งครรภ์
        
        โรคของมารดาที่ทำให้การทำงานของรกไม่มีประสิทธิภาพ (placental insufficiency)
    - - ตัวทารก
        
        1 ทารกรูปพิการแต่กำเนิด (congenital malformation)
        
        การติดเชื้อของทารกในครรภ์พบการติดเชื้อจากไวรัสแบคทีเรียโปรโตซัวหรือ Spirochete
        
        3 ความผิดปกติของโครโมโซมหลอดเลือดใน tertiary stem villi ของรกในทารกที่เป็น autosomal trisomies จำนวนลดลงทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของรกลดลง
        
        4 การตั้งครรภ์แฝด
      - รกและสายสะดือ
        
        ความผิดปกติของรกทำให้เกิดการเจริญเติบโตช้าของทารกในครรภ์ได้เช่น circumvalate placenta, partial placental abruption, placenta accrete, placenta infarction
        
        marginal cord insertion, single umbilical artery
      - มารดา
        
        มารดาที่มีขนาดตัวเล็ก (cornstitutional Small)
        
        โรคของหลอดเลือดเช่นความดันโลหิตสูงเรื้อรังโดยเฉพาะกรณีที่มีภาวะ preclampsia แทรกซ้อน
        
        สารเสพติด การได้รับรังสี บุหรี่ เหล้า ยาบางชนิด
        
        น้ำหนักก่อนตั้งครรภ์, น้ำหนักที่ขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์, BMI, ปัญหาเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร,ภาวะโภชนาการ,
        
        ประวัติทางอดีต เช่น การแท้งเอง ทารกตายในครรภ์ มีประวัติการตลอดทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
        
        heart disease หรือโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของไต
    - - การซักประวัติและการตรวจร่างกาย
      - การตรวจร่างกายน้ำหนักก่อนตั้งครรภ์
      - การวัดระดับยอดมดลูก
      - การตรวจโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound)
        
        AC (Abdominal circumference) : ที่น้อยกว่า 1cm/2weeks บ่งชี้ถึงภาวะ IUGR
        
        HC/AC ratio : ในทารกที่เป็น asymmetrical IUGR จะพบค่า HC/AC ที่มากขึ้น
        
        FL/AC ratio : ในทารกที่อายุครรภ์ตั้งแต่ 20 สัปดาห์ขึ้นไป จะมีค่า FL/AC ที่คงที่ คือ 22±2% หากอัตราส่วนนี้มากกว่า 23.4 ให้สงสัยภาวะ IUGR
        
        Estimated fetal weight : โดยการวัด BPD, HC, AC และ FL หากวัด EFW ได้น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นไทล์ให้สงสัยภาวะ IUGR
        
        TDC/AC (Transcerebellar/abdominal circumference) :อัตราส่วนนี้มีค่าคงที่ตลอด 2 ไตรมาสหลัง คือ ประมาณ 13.68±0.96%
      - การเจาะน้ำคร่ำตรวจโครโมโซม
        (genetic amniocentesis)
      - การเจาะตรวจเลือดจากสายสะดือทารก (cordocentesis)
      - การตรวจหา Fetal structural anomalies
        
        การวัดปริมาณน้ำคร่ำ (Amniotic fluid volume) : มักพบ oligohydramnios ร่วมด้วย โดยเกณฑ์วินิจฉัย oligohydramnios คือ DVP < 2 cm หรือ AFI < 5 cm
        
        หากในทารกรายใดที่มี IUGR ร่วมกับภาวะน้ำคร่ำมากผิดปกติ อาจสงสัยในเรื่องโครโมโซมที่ผิดปกติร่วมด้วย
    - - คัดกรองหาปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะโตช้าในครรภ์ โดยการ review medical และ obstetrical history อย่างละเอียด ควรมีการตรวจวัด fundal height (FH) ทุกครั้งที่มาทำการฝากครรภ์ตั้งแต่อายุครรภ์ 24 สัปดาห์ขึ้นไป หากค่า FH น้อยกว่าอายุครรภ์นั้นๆ ตั้งแต่ 3 cm ขึ้นไป ให้สงสัยภาวะ IUGR โดยอาจใช้ร่วมกับการตรวจ ultrasound
      - การตรวจติดตาม ultrasonography เพื่อประเมินอัตราการเจริญเติบโตของทารก การดูปริมาณน้ำค่ำ การ surveillance ด้วย umbilical artery Doppler velocity และ antepartum testing อื่นๆ เช่น NST หรือ BPP
- - - - ดูแลให้ได้รับยา Dexamethasone 6mg. IM ทุก 12 hr. จนครบ 4 dose สังเกตผลข้างเคียงหลังได้รับยา เช่น ร้อนวูบวาบ ปวดศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง คลื่นไส้ อาเจียน ความดันโลหิตต่ำ
      - วัดและบันทึก BP, PR ทุก 1 ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการผิดปกติ Keep SBP <160, DBP <110
      - ฟังและบันทึก FHR ทุก 1 hr. เฝ้าระวังสุขภาพทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด Keep มากกว่าหรือเท่ากับ 110 bpm ถ้า < 110 bpm ให้รายงานแพทย์
      - จัดท่าให้แม่นอนตะแคงซ้าย
  - - - ประเมินและสังเกต FHR ทุก 1 hr.Keep มากกว่าหรือเท่ากับ 110 bpm ถ้า < 110 bpm ให้รายงานแพทย์
      - ดูแลให้มารดานอนพักบนเตียง (Bed rest) ให้มากที่สุดโดยให้นอนตะแคงข้างซ้าย
      - ให้ข้อมูลผู้ป่วยเกี่ยวกับการคลอดก่อนกำหนดและแผนการรักษาของเเพทย์
      - ประเมิน Urine Contraction ทุก 1ชั่วโมง เพื่อประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
      - ดูแลให้ได้รับยา Dexamethasone 6mg. IM ทุก 12 hr. จนครบ 4 dose สังเกตผลข้างเคียงหลังได้รับยา เช่น ร้อนวูบวาบ ปวดศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง คลื่นไส้ อาเจียน ความดันโลหิตต่ำ
  - - - วัดและบันทึก BP, PR ทุก 1 ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการผิดปกติ Keep SBP <160, DBP <110
      - สังเกตอาการและอาการแสดงของภาวะ ประเมินผลข้างเคียงของยากลุ่มกลุ่มกลูโคคอร์ติคอยด์ (Glucocorticoid) ที่อาจเกิดขึ้นกับผู้คลอด
      - ประเมินผลข้างเคียงของยากลุ่มกลุ่มกลูโคคอร์ติคอยด์ (Glucocorticoid) ที่อาจเกิดขึ้นกับผู้คลอด เช่น กดหรือยับยั้งการทำงานของต่อมหมวกไต ขาดฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต ประสิทธิภาพการต่อสู้กับโรคติดเชื้อของร่างกายลดลง ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
  - - - สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับหญิงตั้งครรภ์ แนะนำตนเองด้วยท่าทีที่เป็นมิตร เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์เกิดความไว้วางใจ
      - ประเมินความรู้สึก การแสดงออกของหญิงตั้งครรภ์ ทั้งคำพูดและพฤติกรรม
      - พูดคุยกับหญิงตั้งครรภ์ด้วยความนุ่มนวล อ่อนโยน และรับฟังหญิงตั้งครรภ์
      - อธิบายและให้ข้อมูลหญิงตั้งครรภ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของทารกในครรภ์ที่เกิดขึ้นและแนวทางการรักษาของแพทย์
      - ให้กำลังใจ ให้โอกาสหญิงตั้งครรภ์ระบายความรู้สึก แสดงท่าทีที่เห็นอกเห็นใจ
      - แสดงให้หญิงตั้งครรภ์เห็นว่าเต็มใจให้การดูแลโดยไม่มีคำพูดหรือท่าทางแสดงว่ารังเกียจ
      - บอกหญิงตั้งครรภ์ทุกครั้งก่อนทำหัตถการ