Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

พยาธิสภาพของการคลอด, ชนิดของการลอกตัวของรก, image, image, image,…

- - - - -12.47 น.BP 114/73 mmHg PR 98 /min RR 22 /min
        -13.05 น.BP 116/64 mmHg PR 94 /min RR 20 /min
        -13.20 น.BP 116/70 mmHg PR 90 /min RR 20 /min
        -13.35 น.BP 124/78 mmHg PR 88 /min RR 20 /min
        -13.50 น.BP 115/94 mmHg PR 90 /min RR 20 /min
        -14.05 น.BP 104/64 mmHg PR 92 /min RR 20 /min
- - - - กรณีศึกษา :check:มีอาการปวดเจ็บครรภ์คลอด 6 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล
    - - กรณีศึกษา :check:39 wksผู้คลอดมีระดับยอดมดลูก 34 cms.
        แรกรับ 40 wks. ผู้คลอดมีระดับยอดมดลูกลดลงวัดได้ 33 cms.
    - - กรณีศึกษา :check: แรกรับ Cervical dilatation 1 cm.
        Effacement 50% Station -1
        วันที่ 16 มีนาคม 2564 Cervical fully dilatation Effacement 100% Station -2
    - - กรณีศึกษา :check: Membrane Intact (วันที่ 14 มีนาคม 2564) membrane rupture (วันที่ 16 มีนาคม 2564)
    - - กรณีศึกษา :check: แรกรับไม่พบมูก หรือมูกปนเลือด เมื่อใกล้คลอดมีมูกปนเลือด
  - - - กรณีศึกษา :check:แรกรับวันที่ 14 มีนาคม 2564 จากการซักประวัติมารดา G1 P0 , GA 40 สัปดาห์ by LMP ตรวจภายในแรกรับ พบ CX. dilate 1 cm. Eff 50% Station -1 Membrane Intact, vertex presentation Vital sign : BP : 105-120/56-82 mmHg PR : 64-90 ครั้ง/นาที
        R 20 ครั้ง/นาที , BT =36.4-37.6 oc แสดงให้เห็นว่าผู้คลอดรายนี้เข้าสู่ระยะที่ 1 ของการคลอดในระยะ Latent phase
        
        Uterine contraction
        22.00 น. I=10 นาที D= 40 วินาที S=+
        23.50 น. I=10 นาที D= 45 วินาที S=+
        01.00 I=10 นาที D= 45 วินาที S=+
        01.45 I=10 นาที D= 45 วินาที S=+
    - - กรณีศึกษา :check:105-120/56-82 mmHg PR : 64-90 ครั้ง/นาที
    - - กรณีศึกษา :check: 20 ครั้ง/นาที
    - - กรณีศึกษา :check: ตลอดการดูแลผู้คลอดระยะที่1 มีอาการท้องผูก ไม่ถ่าย
    - - กรณีศึกษา :check: ตรวจ Urine albumin และ Urine sugar : Negative
    - - กรณีศึกษา :check: ผู้คลอดมีอาการปวดหลัง
    - - 7.1 ความวิตกกังวล
        
        กรณีศึกษา :check: ผู้คลอดมีความวิตกกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการคลอดเนื่องจากเป็นการตั้งครรภ์แรก ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการคลอดทำให้ไม่ทราบการปฎิบัติตัวขณะคลอดและกังวลว่าลูกจะเป็นอันตรายมีความก้าวหน้าของการคลอดล่าช้า
      - 7.2 ความกลัว
      - 7.3 ความอ่อนล้า
        
        กรณีศึกษา :check:จากการสังเกตผู้คลอดมีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อยเวลาเจ็บครรภ์
  - - - 6.1 เทคนิคการหายใจ
      - 6.2 การประคบร้อน และเย็น (Application of heat or cold)
      - 6.3 การเคลื่อนไหว หรือท่าของผู้คลอด (maternal movement and positioning)
      - 6.4 การเกร็ง และคลายกล้ามเนื้อ
  - - - กรณีศึกษา :check:ผู้คลอดรายนี้มีอายุครรภ์ครบกำหนดทำให้มีการยืดขยายของมดลูกและมีการกระตุ้นให้มดลูกมีการหดรัดตัว
    - - กรณีศึกษา :check:ทารกในครรภ์มีส่วนนำเป็น Vertex presentation ตรวจภายในพบ station -1
    - - กรณีศึกษา :check: ผู้คลอดรายนี้มีอายุครรภ์ 40 wks เป็นผลให้ Hormone progesterone ลดลง ทำให้มดลูกมีการหดรัดตัวและมีอาการเจ็บครรภ์
    - - กรณีศึกษา :check:ผู้คลอดรายนี้อยู่ระยะสุดท้ายของการตั้งครรภ์ทำให้ oxytocin เพิ่มขึ้นทำให้กระตุ้เนมดลูกมีการหดรัดตัวเพิ่มขึ้น
    - - กรณีศึกษา :check:ผู้คลอดรายนี้อายุครรภ์ครบกำหนด ทารกมีการเจริญเติบโตเต็มที่ทำให้มีการหลั่งของ cortisol เพิ่มขึ้น มีผลทำให้กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวและเกิดอาการเจ็บครรภ์
    - - กรณีศึกษา :check:ทฤษฎีการหลั่งฮอร์โมน prostaglandin (prostaglandin cascade theory) การหดรัดตัวของมดลูกเกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างต่อมหมวกไตของทารกกับมดลูก สร้าง prostaglandin ออกมา ส่งผลให้มีการหดรัดตัวของมดลูกและมีอาการเจ็บครรภ์
  - - - 2.2 ช่องทางคลอดที่ยืดขยายได้ (Soft passage)
      - 2.1ช่องเชิงกราน (bony passage)
- - - - มีมูกเลือดออกเพิ่ม
      - ถุงน้ำทูนหัวแตก
      - ความรู้สึกอยากเบ่งลงก้น
      - ความเจ็บปวดถี่และรุนแรงขึ้น
      - มดลูกหดรัดตัว ทุกๆ2-3นาที นาน 40-60 วินาที
      - ฝีเย็บจะตุง
      - เห็นส่วนนำทองสาระมาตุง 2-3 ซมแล้วไม่ผลุบกลับ
      - ปากช่องคลอดขยาย
    - - พบส่วนนำของทารกจากการตรวจภายในคลำไม่พบขอบปากมดลูก
    - - วิธี Pawlik’s Grip (Third leopold’s handgrip )
        
        ในระยะแรกของการคลอดคลำได้ แต่เมื่อศีรษะเด็กเคลื่อนต่ำลงมาแล้วจะคลำไม่ได้
      - 2.วิธีBilateral Inquinal Grip (Fourth leopold’s handgrip )
      - ตำแหน่งของหัวใจทารกที่ฟังได้ชัดเจนที่สุด
      - การตรวจทางช่องคลอด
        
        การย้ายผู้คลอดเข้าห้องคลอด
        
        2.ครรภ์หลัง เมื่อปากมดลูกเปิดหมด 8 cm
        
        1.ครรภ์แรก เมื่อปากมดลูกเปิดหมด
        
        O:ย้ายเข้าห้องคลอดเมื่อผู้คลอดปากมดลูกเปิด 8 cm
        
        3.ผู้คลอดที่มีประวัติคลอดเร็ว เมื่อปากมดลูกเปิดประมาณ5-6 cm
  - - - 1.สังเกตอาการแสดงของมารดา
        
        ถุงน้ำคร่ำแตก
        
        รู้สึกอยากเบ่ง
        
        เจ็บครรภ์มาก กระสับกระส่าย
        
        เหงื่อออกมาก
        
        มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด
        
        แผลฝีเย็บตุง ช่องคลอดและทวารหนักเริ่มเปิด
      - 2ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
        
        Duration 60-90 วินาที
        
        Interval 2-3 นาที
        
        Intensity stong
      - 3 ประเมินความก้าวหน้าของการคลอดจากการตรวจภายใน
        
        ปากมดลูกบาง 100 % เปิดหมด10 cm
        
        ส่วนนำทารกอยู่ระกับ 0 ถึง+2
      - 4.ประเมินสภาพมารดาและทารก
        
        ความดันโลหิต
        
        ชีพจร
        
        อัตราการเต้นของหัวใจทารก
        
        FHS 124 ครั้ง
        
        ลักษณะ meconeum stained ในน้ำคร่ำ
  - - - 1.1 การหดรัดตัวของมดลูกที่แรงและถี่ขึ้น
        
        ผู้คลอดบอกว่ามีความรู้สึกอยากเบ่ง เหมือนเบ่งถ่ายอุจจาระ มีการหดรัดตัวของมดลูกถี่ขึ้นและแรง Duration 40-45 วินาที Interval 2-3 นาที ++
      - 1.2 การหดรัดตัวของกล้ามเนื้อหน้าท้องและกระบังลม
        
        ผู้ป่วยใช้เวลาเบ่ง 3 นาที
    - - ทารกคลอดเวลา เวลา 12.38 น. Apgar 10-10-10 ทารกเเข็งแรงดี น้ำหนัก 2670 กรัม
    - - ฝีเย็บโป่งตึง บางมัน มันวาวใส ปากมดลูกขยาย 10 cm บาง 100% ตัดฝีเย็บแบบ Right mediolateral episiotomy
- - - - Central insertion
      - Lateral insertion
      - Marginal inserion
      - Membranous insertion
    - - การกระจายเส้นเลือดจากสายสะดือ
      - วงสีขาวรอบขอบรก (Closing ring of Wrinkle-Waldeyer)
    - - ชั้น Chorion
      - ชั้น Amnion
    - - ความห่างของรอยแตกของเยื่อหุ้มทารกถึงขอบรก
      - ขนาดของถุงเยื่อหุ้มทารกว่ามีสัดส่วนสมดุลกับขนาดของตัวทารกหรือไม่
      - เยื่อหุ้มทารกทั้งสองชั้นออกมาครบและสมดุลกันหรือไม่
    - - วัดความยาวของสายสะดือ แล้วบวกกับที่ติดกับตัวทารก 2-3 cms.
      - วัดการเกาะของสายสะดือว่าห่างจากขอบรก
      - วัดความกว้างของรกด้าน Chorionic plate เอาส่วนที่กว้างที่สุด
      - ชั่งนํ้าหนักรกปกติจะหนักประมาณ 500 กรัม หรือหนัก ประมาณ 1 ใน 6 ของน้ำหนักทารก
    - - Placenta succenturiata
      - Placenta spurium
      - Placenta membranacea
      - Placenta circumvallata
      - Placenta velamentisa